ตอนที่แล้วบทที่ 23: ชมรม (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25: ชมรม (4)

บทที่ 24: ชมรม (3)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 24: ชมรม (3)

สามวันต่อมา

วันพฤหัสบดี 16.30 น.

คาบเรียนทั้งหมดได้จบลงแล้ว

วันนี้เป็นการประชุมปกติของชมรมแห่งที่สองของฉัน ชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศ

ไอช่าเหลือบมองมาที่ฉันแล้วเดินออกไปก่อน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นเราจากไปด้วยกัน

ตามคำสั่งของเธอ ฉันรอประมาณห้านาทีก่อนเดินตามออกไป สำหรับคนนอกอาจดูเหมือนเป็นความโรแมนติกที่ต้องซ่อนเร้น

ฉันเก็บกระเป๋าขณะคุยกับน็อคตาร์

"นายยังรักษาตัวเองอยู่หรือเปล่า ธีโอ? ถึงแม้ว่านายจะไม่ได้ฝึกซ้อมก็ตาม แต่อย่าลืมทานยาฟื้นพูเป็นประจำล่ะ จะดีที่สุดถ้านายทานมันก่อนนอนหนึ่งชั่วโมง"

“ใช่ ฉันทานทุกคืนก่อนนอน แต่ฉันไม่สังเกตเห็นผลใดๆ เลย และรสชาติก็ไม่อร่อยด้วย ฉันจะเห็นผลได้เมื่อไหร่กันนะ?”

“อืม สำหรับมนุษย์อย่างนายนะ ธีโอ น่าจะเห็นผลภายในหนึ่งเดือน บรรพบุรุษของเราที่ไปอยู่เคียงข้างเทพเจ้าสงครามได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วว่าได้ผล”

“ก็ได้ ฉันจะจำเรื่องนั้นไว้”

“เยี่ยมมาก เข้มแข็งไว้ ฉันจะไปก่อน เจอกันพรุ่งนี้”

หลังจากสิ้นคำพูดนั้น น็อคตาร์และพวกออร์คก็ออกจากห้องเรียนwx

ขณะที่ฉันกำลังจะออกไป

"เฮ้นาย"

ปิเอลเข้ามาหาฉัน

"ว่าไง?"

“ทำไมช่วงนี้นายไม่มาที่สนามฝึกซ้อมเลยล่ะ?”

จากนั้น ปิเอลก็กระแอมอย่างเคอะเขิน

ฉันนึกถึงคำพูดของฉันกับปิลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้เธอเอาชนะความยากลำบากและไม่นึกถึงความสิ้นหวัง

เมื่อพิจารณาว่าเธอมาคุยกับฉันอีกครั้ง เธอคงจะยอมรับมันได้แล้วสินะ

ฉันตัดสินใจไม่พูดถึงสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ของฉัน

“ช่วงนี้ฉันยุ่งอยู่กับกิจกรรมชมรม”

“จริงเหรอ? ชมรมอะไร?”

ปิเอลเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ

“ชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศน่ะ วันนี้ฉันมีประชุม ฉันกำลังจะไปที่นั่น”

จากนั้นฉันก็ออกจากห้องเรียน

"!"

ไอช่าซึ่งแอบมองจากระยะไกลรีบหลบสายตาของเธอ

เมื่อเข้าไปใกล้เธอแล้ว ฉันเลยเอ่ยถามเธอออกไป

"นั่นเธอกำลังทำอะไร?"

“เอาล่ะ เพราะนายใช้เวลานานมากไม่ออกมาสักที ฉันคิดว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น”

"จริงหรือ?"

“แน่นอน! ก็นายใช้เวลานานมากกว่าจะออกมา! แม้ว่าฉันจะเป็นประธานชมรมคนต่อไปก็ตาม! พวกเราจะต้องสายแน่… โชคดีที่ฉันจองห้องไว้เผื่อเวลาไว้!”

ไอช่า ดูหงุดหงิดผิดปกติ ฉันรู้สึกอยากแกล้งเธอเล่น แต่นั่นจะทำให้เธออารมณ์เสียกว่าเดิมเท่านั้น

ฉันขยับฝีเท้าให้ก้าวเท้าไปให้ทันไอช่า แล้วพูดว่า

“ฉันก็มีเหตุผลของฉัน ยังไงก็ตาม ฉันมีคำถาม”

"อะไรล่ะ?"

“ทำไมเธอถึงจัดให้มีประชุมชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศ ทุกวันพฤหัสบดี วันศุกร์จะดีกว่าไหม?”

แน่นอนว่าสมาชิกชมรมทุกคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทำไมไม่เป็นวันศุกร์ล่ะ?

จะดีกว่าไหมถ้าได้เพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ เพื่อเป็นการสรุปเรื่องต่างๆในช่วงสุดสัปดาห์

ไอช่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"เป็นวันศุกร์ไม่ได้อย่างแน่นอน วันศุกร์จะมีผู้คนหนาแน่นอยู่ทุกที่ จุดประสงค์ของชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศคืออะไร? ก็เพื่อลิ้มรสอาหารดีๆ ในร้านอาหารชั้นเลิศ ฉันไม่ชอบรับประทานอาหารในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง"

"อ่า ฉันเห็นด้วย."

ไอช่าเป็นตัวละครที่ชื่นชอบทานอาหารกลางวันรสเริศและรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชั้นยอด

เธอถือได้ว่าเป็นนักชิมอาหาร แต่เธอไม่ใช่นักปรุงอาหารอย่างแท้จริงเหมือนเอมี่

เอมี่เพลิดเพลินกับอาหารที่อร่อย ในขณะที่ไอช่ามักจะทานอาหารเพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจในตนเอง

แต่มันแปลกนิดหน่อย

แต่ฉันพบเธอทุกวันในโรงอาหารที่มีเสียงดัง

ไอช่าก็คงเปลี่ยนไปเหมือนกัน เช่นเดียวกับที่แอนดรูว์ทำ

ขณะที่ฉันพยักหน้าเห็นด้วย ไอช่าก็จ้องมองมาที่ฉันอย่างอดสงสัยไม่ได้

“ว่าแต่ นายคุยอะไรกับปิเอลบ้างล่ะ?”

“เธอถามว่าทำไมฉันไม่ไปที่สนามฝึกซ้อมเลย”

“…เข้าใจแล้ว ยังไงก็เถอะ รีบหน่อย ฉันไม่อยากพลาดรถม้าเที่ยวนี้”

"เข้าใจแล้ว"

ณ ร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ด้านหลังห้องเวทมนตร์ ฉันกับไอช่ามาถึงพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆในชมรม

รวมไอช่ากับฉันด้วย ก็มีทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วยนักเรียนปีสองสองคน และนักเรียนปีแรกห้าคน

อย่างไรก็ตาม มีใบหน้าที่คุ้นเคย

“ยินดีต้อนรับ ไอช่า ธีโอ”

นั่นคือแอนดรูว์

“ช่วงนี้เราเจอกันบ่อยนะแอนดรูว์ นายเป็นสมาชิกของชมรมนักสำรวจอาหารรสเริศด้วยเหรอ?”

“แน่นอนว่าความสุขจากการได้กิน คือความสุขที่แท้จริงไม่ใช่หรือ?”

แอนดรูว์เอนหลังบนเก้าอี้แล้วยิ้ม

ฉันอดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับเขา

ก่อนที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในร่างของธีโอ ความสุขในชีวิตของฉันมีเพียงแค่การเล่นเกม 'ไคเรน เซน่า' และการได้ลิ้มรสอาหารอร่อยๆเท่านั้น

นั่นคือความสุขทั้งหมดของฉันจริงๆ

ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้ฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก

ตั้งแต่มาถึงโลกนี้ ฉันแทบไม่มีโอกาสได้ทานอาหารในร้านอาหารหรูๆ เลย เพราะฉันต้องหมกมุ่นอยู่กับการเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน

“ถูกต้อง อาหารอร่อยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต”

ไอช่าหัวเราะและเห็นด้วย

“ถ้าอย่างนั้น ธีโอ ก่อนที่เราจะนั่งลง มาแนะนำตัวกันก่อน ทุกคน นี่คือสมาชิกใหม่ของเรา ธีโอ พวกนายรู้จักเขาใช่ไหม?”

สมาชิกชมรมพยักหน้าอย่างพร้อมเพียง ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งเข้ามาในใจฉัน

“…ก่อนหน้านั้นแอนดรูว์นายเริ่มทำกิจกรรมชมรมเมื่อไหร่?”

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอย่างไอช่าจะอยู่ในชมรมถึง 3 ชมรม เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะอยู่เพียง 1 หรือ 2 ชมรมเท่านั้น โดยปกติแล้วการเข้ามร่วมหลายชมรมนั้นหาได้ยาก

ยิ่งไปกว่านั้นในเนื้อเรื่องดั้งเดิม แอนดรูว์ไม่เคยเข้าร่วมชมรมใดๆ เลย แม้ว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนไป แต่ก็ยังน่าแปลกอยู่

ไอช่าตอบแทนเขา

“แอนดรูว์พึ่งเข้าร่วมมาในสัปดาห์นี้ เหมือนกับนายนั้นแหละ ธีโอ แถมเขายังเข้าร่วมชมรมยุทธวิธีและกลยุทธ์ด้วย”

...ในระหว่างการประชุมชมรมยุทธวิธีและกลยุทธ์ แอนดรูว์ไม่เคยเอ่ยถึงเลยว่าเขาเป็นสมาชิกใหม่

เขามีส่วนร่วมในการประชุมอย่างแข็งขัน ฉันจึงถือว่าเขาเป็นสมาชิกอยู่แล้ว

จู่ๆ ฉันก็รู้สึกผิด

ฉันแนะนำตัวเองกับคนอื่นๆอย่างสุภาพ

“แอนดรูว์ ทำไมนายไม่แนะนำตัวเองระหว่างการประชุมของชมรมยุทธวิธีและกลยุทธ์ล่ะ?”

“ธีโอ ฉันทำก่อนที่นายจะมาถึง คราวก่อนนายมาสาย และคราวนี้ก็ด้วย”

แอนดรูว์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

มันเป็นเรื่องจริง แต่ฉันไม่ชอบที่เขาตอบคำถามของฉันแบบไม่ได้ตั้งใจราวกับว่าเขาเป็นสมาชิกที่อยู่มานานแล้ว

ฉันเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง

“เราควรแนะนำตัวเองด้วยกันนะ แอนดรูว์ ฉันไม่รู้ว่างานอดิเรกของนายคืออะไรหรือทำไมนายถึงเข้าร่วมชมรมนี้ ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนายเลย”

"ฉันไม่ทำ"

แอนดรูว์ปฏิเสธข้อเสนอของฉันทันที ฉันหันหน้าไปมองที่ไอช่า

“ทำอย่างนั้นได้เหรอไอช่า?”

"เอ่อ เอ่อ ก็······"

ไอช่าพูดอย่างตะกุกตะกักหลังจากได้ยินคำถามของฉัน

“แอนดรูว์... แนะนำตัวเองกับธีโอหน่อยสิ? เขากับฉันก็ยังไม่รู้รายละเอียดว่าทำไมนายถึงเข้าร่วมชมรมนี้”

"..."

แอนดรูว์ยังเงียบต่อไป ไอช่าเลยพูดต่อ

“พวกเราอยากรู้ว่านายเป็นใคร แอนดรูว์ พวกเราไม่ได้มาฟังการแนะนำของนายเมื่อวันศุกร์ที่แล้วน่ะ”

เธอยิ้มไปพูดไป

ในที่สุดแอนดรูว์ก็ลุกขึ้นยืนและแนะนำตัวเองอย่างไม่เต็มใจ

“ก็ได้ ฉันชื่อแอนดรูว์ แจ็คสัน งานอดิเรกของฉันคือการวิจัยเวทมนตร์และกลยุทธ์ และเหตุผลที่ฉันเข้าร่วมชมรมนี้คือ─”

หลังจากที่แอนดรูว์แนะนำตัวเสร็จ ฉันก็ยิ้มอย่างจริงใจ

'เจ้าสารเลวนั่น ควรมีความสุภาพมากกว่านี้'

หลังจากแนะนำตัวแล้ว พวกเราก็เพลิดเพลินกับมื้ออาหารของเราในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

เนื่องจากเป็นคอร์สอาหารที่ถูกเสิร์ฟเป็นลำดับจึงใช้เวลาในการรับประทานนานกว่าปกติ

เมื่อเราออกไปข้างนอกก็เป็นเวลาเย็นแล้ว

เรากล่าวคำอำลากับสมาชิกชมรมคนอื่นๆและมุ่งหน้าไปยังป้ายรถม้า

"ฟู่─"

ฉันรู้สึกดีจริงๆหลังจากได้ทานอาหารอย่างอิ่มเอมใจเป็นครั้งแรกหลังจากมาอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งแล้ว

ท้องฟ้ายามเย็นก็ดูสวยงาม

ขณะที่ฉันกำลังชื่นชมทิวทัศน์ ไอช่าก็พูดกับฉัน

"พรุ่งนี้เป็นวันที่ฉันรอคอยมานาน~ ชมรมตกปลา! ในฐานะทายาทสายตรงนายก็รู้ใช่ไหม? ฮีโร่ส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์หลายคนชอบตกปลา พรุ่งนี้เราจะมาพบกันหลังการเรียนเสร็จนะ โอเคไหม?"

"เข้าใจแล้ว"

"...เป็นแบบนี้อีกแล้ว นายดูเหมือนตาแก่หัวโบราณจริงๆ พูดดีๆ กว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ? เอาล่ะ พรุ่งนี้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วยล่ะ นายอาจต้องใช้ชุดสำรอง"

"เอาล่ะ เข้าใจแล้ว"

"······ดี."

หลังจากแยกทางกับไอช่าแล้ว ฉันก็ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าสู่หอพัก

'ตกปลาสินะ'

ฉันเกลียดการตกปลา

มันเป็นเพราะลุงของฉัน

ด้วยอุบัติเหตุอันน่าสลดใจ ฉันสูญเสียพ่อแม่และต้องอาศัยอยู่กับญาติหลายคน

ฉันอยู่บ้านลุงนานที่สุด

ลุงของฉันหมกมุ่นอยู่กับการตกปลา

มันเป็นมากกว่างานอดิเรก เขาเป็นชาวประมงที่แท้จริง

สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อคิดถึงเขาคือกลิ่นเค็มของน้ำทะเล เขามักจะมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่คงอยู่ซึ่งไม่สามารถชะล้างออกไปได้

ความทรงจำดีๆ อย่างเดียวที่ฉันมีเกี่ยวกับเขาคือตอนที่เขาจับปลาทรายแดงและเตรียมเป็นซาซิมิ

[มันไม่เกี่ยวกับการจับปลา มันเกี่ยวกับการจับชีวิต]

ทุกสุดสัปดาห์ลุงของฉันจะไปที่ทะเลอย่างไม่รีรอ

[อะไรนะ คุณคิดว่าฉันโกหกเหรอ? มันเป็นความจริง. หากคุณเป็นชาวประมงที่มีประสบการณ์ คุณสามารถที่จะอ่านใจปลาได้]

แต่เขาไม่สามารถอ่านใจที่พังทลายของภรรยาของเขาได้

อาชีพหลักของเขาคือการตกปลาทะเล ซึ่งมีทั้งค่าขนส่ง ค่าเหยื่อ และค่าเช่าเรือ

มันเป็นภาระหนักสำหรับลุงของฉันที่ไม่ได้มีฐานะดีแต่เขาก็ไม่สามารถเลิกตกปลาได้

─ทำไมคนที่ไร้ประโยชน์อย่างคุณถึงหมกมุ่นอยู่กับการตกปลาขนาดนี้? แทนที่จะเวลาออกไปหารายได้แทน!

─ทั้งหมดนี้~ ฉันก็ทำเพื่อครอบครัวนะ ผู้หญิงโง่ๆอย่างคุณ กล้าดียังไงมาต่อว่าฉันแบบนี้!

─เอ่อ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ชาติที่แล้วฉันทำอะไรให้ถึงต้องมาเจอกับสามีแบบนี้... ลำพังเลี้ยงลูกเราก็ลำบากอยู่แล้ว ฉันยังต้องมาเลี้ยงลูกที่ไม่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดคนนี้ด้วยอีก...

เมื่อฉันอายุได้ยี่สิบปี ฉันก็ออกจากบ้านหลังนั้น แม้ฉันไม่มีที่อื่นที่จะไป

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานมากแล้ว แต่เสียงการโต้เถียงของลุงกับป้าของฉันก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูของฉันอย่างชัดเจน

"เฮ้อ."

การถอนหายใจอันเหนื่อยล้าของฉันดังสะท้อนก้องไปทั่วรถม้าที่ว่างเปล่า

***

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด