ตอนที่ 5 คาถากิเลนระดับสูงสุด
ตอนที่ 5 คาถากิเลนระดับสูงสุด
"ดูเหมือนชินหยูจะมั่นใจมากเกินไปรึเปล่า? ความยากในการเรียนรู้คาถาระดับ A นั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย แม้แต่อุซึกิเองก็ยังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะทำได้สำเร็จภายในสามวันได้ยังไงกัน?" อินุโฮะอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
"ก็นะ พวกคนหนุ่มสาวก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น" อุซึกิ คังหวู่ ตบไหล่ของอินุโฮะและพูดว่า "ฉันหวังว่าชินหยูจะเข้าใจว่ามีบางอย่างที่เขาไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ง่ายๆนะ"
ภายนอกถ้ำในแอ่งที่ห่างไกลออกไป
หลังจากที่ชินหยูเปิดคัมภีร์วิชานินจาแล้ว เขาก็ใช้เนตรวงแหวนของเขาทันที
เนตรวงแหวนที่ตกอยู่ในการครอบครองของคาคาชินั้นได้สร้างชื่อเสียงของก็อปปี้นินจาคาคาชิขึ้นมา
สําหรับวิชานินจานั้นมีจุดที่สําคัญที่สุดสองจุดในการเรียนรู้มัน
อย่างแรกคือการเข้าสู่ระดับเริ่มต้น และอย่างที่สองคือการเรียนรู้
เนื่องจากในตอนนี้ชินหยู มีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาและเขาสามารถเชี่ยวชาญคาถาต่างๆได้ทันทีเมื่อเขาเข้าสู่ระดับเริ่มต้น เพราะเขาสามารถทำให้มันไปถึงระดับสูงสุดได้ด้วยการเพิ่มเพียงครั้งเดียวจากระบบ
ชินหยูในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่เข้าใจวิชานินจาทุกอย่าง ซึ่งเขาสามารถใช้ความสามารถนี้เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขาได้
นี่แหละคือสวรรค์ที่แท้จริงของเขา!
"ติ๊ง! ตรวจพบความเร็วการประสานอิน ท่านต้องการเพิ่มเป็นระดับสูงสุดเลยหรือไม่?"
'เพิ่มเป็นระดับสูงสุดทันที'
มือของชินหยูนั้นประสานกันอย่างรวดเร็ว รวมถึงจักระในร่างกายของเขาเองก็กําลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่แม่นยํา
"วิชาสายฟ้า - สายฟ้าฟาด!"
ทันทีที่เขาพูดจบสายฟ้าก็ฟาดลงมาอย่างรุนแรง
สายฟ้าทั้งเก้าสายที่เป็นเหมือนมังกรปรากฎขึ้นมาจากท้องฟ้า พวกมันทำลายพื้นที่ตรงหน้าให้กลายเป็นหลุมลึกได้อย่างรวดเร็ว
บู้มมมม!
หินก้อนใหญ่ตรงหน้าชินหยูระเบิดออกด้วยเสียงดัง
ภายใต้พลังของสายฟ้ายา เศษก้อนหินกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่พร้อมกับหลุมขนาดใหญ่ที่กว้างกว่าสิบเมตรก็ปรากฎขึ้น
ภายใต้ควันที่ปกคลุมนั้น ภาพที่ปรากฎตรหน้านั้นน่าตกใจมาก
เมื่อมองไปที่ฉากนี้ ชินหยูเองก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
ตามคําอธิบายของคาถาสายฟ้าระดับ A - วิชาสายฟ้าฟาดนั้น เมื่อเขาเชี่ยวชาญคาถานี้ เขาจะสามารถใช้พลังของสายฟ้าแล้วควบคุมมันให้ฟาดลงมาอย่างรุนแรงได้
แต่ถึงอย่างนั้นฉากตรงหน้าเขามันก็น่าตกใจเกินไป
"อาจเป็นเพราะระบบที่ทำให้คาถานี้อยู่ในระดับสูงสุดหรือเปล่า?" ชินหยูเลิกคิ้วของเขาขึ้น
เขาจําได้ว่ามาดาระเองได้บอกเอาไว้ว่าไม่มีคาถาไหนที่อ่อนแอที่สุด มีเพียงคนที่อ่อนแอที่สุดเท่านั้นในโลกนินจา
คาถาไฟ – บอลเพลิงยักษ์เองก็สามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมได้
ซึ่งมีเพียงมาดาระเท่านั้นที่ทําแบบนั้นได้
ตอนนี้ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าของชินหยู อาจเป็นเพราะวิชานินจาที่เขาใช้อยู่ในระดับสูงสุด
แต่การโจมตีที่ปรากฎเมื่อครู่นั้นได้ใช้จักระถึงหนึ่งในสิบในร่างกายของชินหยูด้วยเหมือนกัน
"ดิ๊ง จักระสายฟ้าของท่านอยู่ในระดับสูงสุด"
"ดิ๊งคาถาสายฟ้า – สายฟ้าฟาดอยู่ในระดับสูงสุด"
"ดิ๊ง การดึงพลังของสายฟ้าจากธรรมชาติของท่านอยู่ในระดับสูงสุด"
เสียงของระบบนั้นดังอยู่ในใจของชินหยูอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่หลุมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยสายฟ้าที่ฟาดลงมาซึ่งอยู่ไม่ไกล จู่ๆเขาก็นึกถึงวิชาสายฟ้าที่ทรงพลังของซาสึเกะได้
วิชาสายฟ้าระดับ S - กิเลน!
แต่ว่าถ้าวิชานินจานี้ไม่ได้พลังของสายฟ้าจากธรรมชาติ คนทั่วไปก็แทบจะไม่สามารถใช้ได้
เพราะขึ้นพลังทําลายล้างของมันนั้นสามารถเทียบได้กับกระสุนวงจักรดาวกระจายวงจักรของนารูโตะได้เลย
น่าเสียดายที่ในผลงานต้นฉบับ แม้ว่าพลังของคาถากิเลนจะทรงพลังมาก แต่ซาสึเกะก็ไม่เคยใช้มันอีกเลย
ไม่เคยใช้เลยเป็นครั้งที่สองด้วยซ้ำ!
นี่ถือได้ว่าเป็นความเสียใจของแฟนๆหลายคนที่ติดตามนารูโตะมาเลยทีเดียว
คุโมะงาคุเระมีคนที่บุกมาโจมตีมากกว่าหนึ่งร้อยคน และพวกเขาก็มีแฝด A B อยู่ด้วย ซึ่งมันถูกกําหนดให้เป็นการต่อสู้ที่ยากลําบากมากในครั้งนี้
เมื่อคนๆหนึ่งต้องตกอยู่ในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ ด้วยระดับจักระในตอนนี้ของชินหยู แม้ว่าเขาจะมีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา แต่เขาก็คงต้องสู้จนหมดแรงตาย
ดังนั้นวิชากิเลนจึงอาจเป็นกุญแจสําคัญในการพลิกสถานการณ์ในครั้งนี้ของชินหยูได้
ความสามารถในการยืมพลังของสายฟ้าจากธรรมชาติเพื่อลดการใช้จักระนั้นดีอย่างมาก เพราะสายฟ้าที่มีความเร็วสูงนั้น สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง
ยิ่งไปกว่านั้น ชินหยูเองก็ยังมีระบบอยู่ในร่างกายด้วย
มีโอกาสสูงที่เขาสามารถจําลองคาถากิเลนและใช้มันเป็นท่าไม้ตายของเขาได้ในการต่อสู้ครั้งนี้
...
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปสามวันอย่างรวดเร็ว
"ติ๊ง คาถาสายฟ้า - กิเลน อยู่ในระดับสูงสุด"
เมื่อได้ยินเสียงการแจ้งเตือนที่คุ้นเคยนี้ ชินหยูก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขาตัดการเชื่อมต่อของสายฟ้ากับท้องฟ้าที่มือของเขาทันที
เมฆสายฟ้าบนท้องฟ้าเองก็กระจายไปอย่างรวดเร็ว แรงกดดันมหาศาลที่มองเห็นได้นั้นเลือนลางหายไปราวกับกลีบดอกไม้ที่ถูกลมพัดไป
"ดีจริงๆที่ฉันมีระบบแบบนี้ และแม้แต่การตรวจจับพลังธรรมชาติที่มีคุณสมบัติด้านสายฟ้าของฉันก็อยู่ในระดับสูงสุด ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สามารถใช้คาถากิเลนได้อย่างง่ายดายขนาดนี้" ชินหยูควบคุมจักระในร่างกายของเขา
หลังจากทที่ฝึกฝนไปได้สักพัก ในที่สุดเขาก็เข้าใจจุดอ่อนของตระกูลอุจิวะ นั่นคือจักระในร่างกายที่น้อยเกินไป
ไม่น่าแปลกใจที่เนตรและร่างกายของพวกเขานั้นจะถูกใช้จนจักระหมดร่างทุกครั้งหลังจากที่พวกเขาต่อสู้เป็นเวลานาน
แม้แต่มาดาระเองก็ยังพยายามปลูกถ่ายและกลืนกินเซลล์ของฮาชิรามะเข้าไปเพื่อยืดชีวิตตัวเอง
ดูเหมือนว่าชินหยูเองก็ยังต้องหาวิธีที่จะได้รับร่างกายที่เป็นอมตะหลังจากที่ทุกอย่างที่นี่ได้รับการแก้ไขแล้ว
เมื่อชินหยูเดินออกมาจากบ่อน้ำอันเงียบสงบ นินจาโคโนฮะยี่สิบเจ็ดคนก็มารวมตัวกันแล้ว
ใบหน้าของทุกคนต่างเคร่งขรึม พวกเขาทั้งหมดพร้อมที่จะต่อสู้และมีความมุ่งมั่นอยู่ในสายตาของพวกเขาด้วย
ในสายตาของพวกเขา การต่อสู้ครั้งนี้ไม่สามารถล่าถอยได้ เมื่อเผชิญหน้ากับพวกคุโมะงาคุเระกว่าร้อยคนและฝาแฝด A B
แต่ถ้าหากพวกเขาทั้งหมดตาย แคว้นไฟก็จะถูกทำลายเช่นกัน
เมื่อสถานที่แห่งนี้ล่มสลาย ไม่ต้องพูดถึงโคโนฮะงาคุเระ แม้แต่ครอบครัวของพวกเขาก็จะตายทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถล่าถอยได้
"ชินหยู ถ้านายยังไม่เชี่ยวชาญวิชาระดับ A นั่นก็อย่าได้ท้อแท้ไป เพราะขนาดอุซึกิก็ยังใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนเพื่อเชี่ยวชาญมัน" อินุโฮะอดไม่ได้ที่จะปลอบชินหยู
"ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ในเมฆที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้นก้อนนั้น พวกเรารู้สึกว่าพวกคุโมะงาคุเระมาที่นี่เพื่อดักซุ่มโจมตีพวกเราแล้ว"
"อินุโฮะ นายช่วยหยุดพูดสักแปปนึงไม่ได้เลยงั้นเหรอ?" อุซึกิจ้องไปที่อินุโฮะแล้วถาม
"อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปน่า" อินุโฮะตอบกลับ "ถ้านายทนไม่ไหวก็หนีไปซะเถอะ"
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของชินหยู การแสดงออกของหลายๆคนก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เพราะหลังจากที่ได้เห็นวิชาลวงตาอันทรงพลังของชินหยูด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาก็รู้สึกถึงความไว้วางใจที่อธิบายไม่ได้ต่อชายหนุ่มคนนี้ขึ้นมา