ตอนที่ 4 ฉันน่ะเรียนรู้ไวนะ
ตอนที่ 4 ฉันน่ะเรียนรู้ไวนะ
"ไปเตรียมตัวให้พร้อมได้แล้ว!" ชินหยูจ้องมองไปที่คนเหล่านั้นและออกคำสั่ง
ในโลกใบนี้โลกที่ผู้แข็งแกร่งจะอยู่เหนือกว่าผู้ที่อ่อนแอ ซึ่งความแข็งแกร่งที่ชินหยูแสดงออกมาก็มากเพียงพอที่จะข่มขู่พวกเขาได้แล้ว
"ไม่ต้องห่วงนะชินหยู..." เสียงของกลุ่มนินจาดังสะท้อนออกมาทีละคนๆก่อนที่จะเริ่มตั้งการป้องกัน
"ดีมาก" ชินหยูกล่าว “ว่าแต่พวกนายคนไหนมีคัมภีร์วิชานินจาติดตัวอยู่บ้าง” จู่ๆชินหยูก็นึกเรื่องบางอย่างที่สำคัญได้
ตอนนี้เขามีระบบที่สามารถเพิ่มระดับวิชานินจาทุกชนิดให้ไปถึงระดับสูงสุดได้
ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสามวัน ซึ่งเขาจะไม่สามารถปล่อยโอกาสที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองไปอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ แฝดA B ของคุโมะงาคุเระนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ
"คัมภีร์วิชานินจางั้นเหรอ?"
เหล่านินจาทั้ง 20 คนในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
"ไม่มีเลยงั้นเหรอ?" ชินหยูเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเช่นกัน
เพราะใครบ้างที่จะพกคัมภีร์วิชานินจาติดตัวมาด้วยในขณะที่มาทำสงคราม?
นอกจากนี้ หมู่บ้านนินจายังมีห้องเก็บคัมภีร์วิชานินจาที่ส่วนใหญ่จะถูกส่งต่อกันมาโดยอาจารย์ของพวกเขาหรือได้รับคําแนะนําจากนินจาระดับสูง
ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่จะพกคัมภีร์วิชานินจาติดตัวไปต่อไหนด้วยได้
หากพวกเขาพ่ายแพ้ในการรบ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะตายเท่านั้น แม้แต่คัมภีร์วิชานินจาก็จะถูกผู้อื่นชิงไป
อุซึกิยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนและพูดว่า "ชินหยู ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทําไมนายถึงต้องการคัมภีร์วิชานินจาน่ะ แต่นี่คือวิชานินจาระดับ A ที่ฉันเตรียมไว้ให้ลูกสาวของฉัน วิชาสายฟ้า : สายฟ้าฟาด ซึ่งฉันคิดจะให้มันเป็นของขวัญแก่เธอหลังจากที่เธอเรียกจบน่ะ"
"แทนที่จะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกคุโมะงาคุเระ ฉันให้นายเก็บไว้น่าจะดีกว่า"
“ลูกสาวของนายงั้นเหรอ?” ชินหยูเลิกคิ้วและนึกถึงใบหน้าของนินจาหญิงที่คุ้นเคยอย่างคลุมเครือ "ลูกสาวของนายคือ อุซึกิ ยูกาโอะงั้นเหรอ?"
"ฮ่าๆๆ อุซึกิ? ลูกสาวของนายนี่โดดเด่นจริงๆ แม้แต่ชินหยูก็ยังสนใจเธอเลยนะ" ชายร่างใหญ่คนหนึ่งหัวเราะออกมาเสียงดัง
อุซึกิจ้องมองเขาและพูดว่า "หุบปากน่านายเองก็มีลูกชายด้วยไม่ใช่รึไง?"
"เฮอะ ลูกชายของฉันน่ะกำลังจะได้กลายเป็นนินจาเต็มตัวในอีกไม่ช้าแล้วล่ะนะ" อินุโฮะพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
"นี่อุซึกิ? นายคิดยังไงกับชินหยูน่ะ? ความแข็งแกร่งของเขาสามารถทำความเข้าใจวิชานินจาของนายได้อย่างแน่นอน และตอนนี้เขาเองก็ใช้วิชาลวงตาได้แข็งแกร่งมากๆด้วย"
จู่ๆเสียงคนๆหนึ่งก็ดังขึ้นจากกลุ่มอย่างกะทันหัน
สีหน้าของชิซุเนะแข็งทื่อและเธอก็พูดอย่างตั้งใจว่า "ยังไงก็ส่งคัมภีร์วิชานินจาให้ชินหยูก่อน บางทีเขาอาจจะใช้มันเป็นประโยชน์ก็ได้"
"นี่ชิซุเนะน้อย ทําไมเธอถึงหน้าแดงล่ะ? อย่าบอกนะว่าเธอชอบชินหยูน่ะ?"
เมื่อเสียงหัวเราะดังขึ้น บรรยากาศที่กดดันภายในถ้ำก็ผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย
อุซึกิเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับตบไหล่ของชินหยูแล้วพูดว่า "นี่ วิชาลวงตาอันทรงพลังของนายน่ะ สามารถทำให้ไปถึงขีดจํากัดสูงสุดได้แล้ว ดังนั้นฉันจะมอบคัมภีร์วิชานินจานี้ให้กับนาย"
"ถ้าหากนายรอดกลับมาได้ ฉันจะฝากจดหมายไว้ให้นายด้วยและฉันหวังว่านายจะสามารถส่งต่อมันให้กับลูกสาวของฉันได้"
"ชินหยู ฉันเองก็มีบางอย่างที่จะฝากให้ลูกชายของฉันด้วยเหมือนกัน"
"ฉันด้วย"
"ฉันก็ด้วย!"
เมื่อมองไปที่กลุ่มนินจาที่กำลังหยิบจดหมายและของใช้ส่วนตัวออกมาทีละชิ้นนั้น…
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชินหยูจะเป็นคนที่มีโอกาสรอดมากที่สุดที่จะได้กลับไปที่โคโนฮะได้ที่
"ชินหยู นายช่วยเอาคุไนเล่มนี้ไปคืนให้กับท่านซึนาเดะได้ไหม?" ชิซุเนะไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป "นี่คือของขวัญที่ท่านมอบให้ฉันในฐานะอาจารย์ของฉันน่ะ..."
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง รอยยิ้มของทุกคนก็แสดงออกมาเพื่อปกปิดความขมขื่นเอาไว้
"พวกนายทุกคนคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องตายอย่างเดียวงั้นหรือ?" ชินหยูพูดอย่างเย็นชา "ทําไมพวกถึงไม่เห็นด้วยฟูและคนอื่นๆตั้งแต่ตอนนั้นล่ะถ้าพวกนายอยากมีชีวิตรอดไปน่ะ?"
เมื่อได้ยินแบบนี้ทุกคนก็ตกใจมาก
ในสายตาของพวกเขา ความแข็งแกร่งของชินหยูนั้นอาจเพียงพอที่จะทำให้พวกเขารอดไปได้ก็จริง
แต่ถึงอย่างนั้นพวกคุโมะงาคุเระก็มีคนมากกว่าร้อยคนและแฝด A B นั้นก็ยากที่จะต้านทานพวกเขาได้
อุซึกิ พูดอย่างรวดเร็วว่า "ชินหยู อย่าเข้าใจผิดไป พวกเราไม่ใช่คนขี้ขลาด เมื่อพวกเราได้กลายเป็นนินจาและยอมรับภารกิจ นั่นก็หมายความว่าพวกเราพร้อมที่จะตายในหน้าที่แล้ว"
"ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นทางเดียวที่จะได้กลับสู่โคโนฮะ หากพวกคุโมะงาคุเระผ่านที่นี่ โคโนฮะจะถูกโจมตีจากทั้งสองกองกำลัง และครอบครัวกับลูกๆของพวกเราก็จะตายตามพวกเราไปด้วยแน่ๆ"
"ดังนั้น พวกเราจึงยอมตายมากกว่าที่จะหนีเอาชีวิตรอดไปอย่างเปล่าประโยชน์!"
อินุโฮะพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "ชินหยู พวกเราประเมินนายต่ำไปมาโดยตลอด พวกเราไม่ได้คิดว่านายจะใช้วิชาลวงตาได้ทรงพลังมากขนาดนี้ พวกเราน่ะตั้งใจที่จะตายอยู่ที่นี่อยู่แล้ว พวกเราแค่หวังว่านายจะช่วยเรานําบางอย่างกลับไปให้ลูกหลานของพวกเราก็เท่านั้น"
"ชินหยู นายไม่ได้กำลังช่วยพวกเขาหรอกนะ" ชิซุเนะอดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมเขา "แต่นั่นก็เท่ากับเป็นการช่วยฉันด้วย"
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทุกคนก็มองชินหยูด้วยความหวัง
"ขอโทษนะ แต่ฉันจะไม่ช่วยพวกนาย" ชินหยูพูดต่อเบาๆว่า "เอาของพวกนี้คืนไปเถอะ พวกนายจะต้องเป็นคนมอบมันด้วยตัวพวกนายเอง"
"รวมถึงการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย!!"
เมื่อเสียงได้แผ่กระจายออกไปทั่วถ้ำ มันได้เขย่าจิตวิญญาณของทุกคนไปพร้อมๆกันอย่างรุนแรง
อุซึกิ อดไม่ได้ที่จะกําหมัดแน่น ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อยขณะที่เขาพูดว่า "ได้ เขาพูดถูกแล้ว พวกเราจะต้องกลับไปที่โคโนฮะด้วยกันถึงจะถูกต้อง"
"เมื่อพวกเรากลับไป ฉันจะแนะนําลูกสาวของฉันให้นายรู้จักแน่นอน"
"ฮ่าๆๆ อุซึกิ? นายนี่ไม่เคารพผู้อาวุโสของนายเลยจริงๆนะ"
"ฮึ ฉันเห็นแล้วว่าพวกนายทุกคนตั้งตารอที่จะพาลูกสาวมาแนะนําให้รู้จักกับชินหยูน่ะ" อุซึกิจ้องมองเขาและพูดว่า "ชินหยู นายจะเอาคัมภีร์วิชานินจาไปทำไมฉันไม่รู้หรอกนะ แต่นี่คือวิชาสายฟ้าระดับA สายฟ้าฟาด"
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชินหยูด้วยความสงสัย
เมื่อเผชิญกับการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย วิชานินจาระดับ A นี้แม้ว่าจะมีพลังมากแต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมีประโยชน์มากสักเท่าไหร่นัก
"ก็เปล่าหรอก ฉันแค่ต้องการเรียนรู้วิชานินจาอีกสองสามอย่างน่ะ" ชินหยูรีบคว้าคัมภีร์วิชานินจานั้นมาอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขามีพลังของระบบอยู่ ดังนั้นยิ่งมีวิชานินจามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีสำหรับเขามากเท่านั้น
"ฉันคิดว่าตอนนี้นายไม่น่าจะสามารถเรียนรู้คาถานั้นได้" อุซึกิหยุดครู่หนึ่งและพูดต่อว่า "ขนาดฉันยังต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนเพื่อที่จะเชี่ยวชาญคาถานี้ และตอนนี้มีเวลาแค่สามวัน ฉันก็เลยคิดว่า…"
"ไม่ต้องห่วง ขอเวลาแค่แปปเดียวเท่านั้น" ชินหยูตอบกลับ
เขาไม่สามารถบอกพวกเขาได้ว่าเขามีระบบอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งมันทำให้เขาสามารถเพิ่มความสามารถของคาถาให้ไปถึงระดับสูงสุดได้ด้วยการพัฒนาเพียงครั้งเดียว
เขากลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาทำได้!!
"นี่!" อุซึกิตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "เอาล่ะ ถ้านายยืนกรานว่าจะฝึกมันฉันก็จะช่วยนายเอง"
"ไม่เป็นไรหรอกอุซึกิ แค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว" ชินหยูส่ายหัวและปฏิเสธก่อนที่เขาจะหยิบคัมภีร์วิชานินจาแล้วเดินจาก
เมื่อมองไปที่หลังของชินหยูที่ค่อยๆหายไปในระยะไกล นินจาหลายคนต่างก็พากันถอนหายใจ