ตอนที่ 12 โหมดจักระสายฟ้า
ตอนที่ 12 โหมดจักระสายฟ้า
หลังจากที่ชินหยูไปพักผ่อน ความตื่นเต้นก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
"อุซึกิ เนตรคู่นั้นทําให้ฉันมองไปตรงๆไม่ได้จริงๆ" อินุโฮะอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ๆอุซึกิมากขึ้น
"โหมดสายฟ้าอันทรงพลังกับคาถาลวงตางั้นเหรอ ถ้าสองอย่างนั้นผสานพลังเข้ากันได้จริงๆคงจะสุดยอดน่าดู"
"แม้แต่ผู้สืบทอดของไรคาเงะอย่าง A ยังพูดเองว่าชินหยูมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นโฮคาเงะในอนาคตเหมือนกับคุณมินาโตะเลยด้วยซ้ำ"
คําพูดเหล่านี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
การแสดงออกของอุซึกินั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ทุกคนที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนที่พวกนายคิด" ฟูกับโทรุเนะได้หนีกลับไปยังโคโนฮะและไปอยู่ในการคุ้มครองของดันโซแล้ว"
"ถ้าดันโซรู้ว่าพวกเรายังไม่ตาย เขาอาจจะฆ่าพวกเราก็ได้"
รอยยิ้มบนใบหน้าของอินุโฮะและคนอื่นๆค่อยๆหายไปทันที
"อุซึกิ? นายไม่คิดว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเลวร้ายเกินไปหน่อยเหรอ? แล้วพวกเราควรทํายังไงดี? แล้วพวกเราจําเป็นต้องไปเตือนชินหยูด้วยไหม? " อินุโฮะถามอย่างกังวล
อุซึกิส่ายหัว "อินุโฮะ เธอคิดว่าคนอย่างชินหยูจะไม่รู้เรื่องนี้เลยงั้นเหรอ?"
"ฉันคิดว่าชินหยูน่าจะมีแผนอยู่แล้ว" อุซึกิบอก
ทุกคนในตอนนี้ต่างเงียบ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน
เมื่อนึกถึงการต่อสู้เมื่อครู่นี้ มันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของพวกเขา
ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาจึงต้องปิดบังตัวเองอยู่ในโคโนฮะมาเป็นเวลานาน
นั่นหมายความว่าเขากำลังวางแผนทำอะไรที่ยิ่งใหญ่อยู่แน่ๆ!
“ถ้าหากเราสามารถเอาชนะพวกคุโมะงาคุเระได้ในครั้งนี้ ชินหยูจะเป็นคนที่มีส่วนร่วมมากที่สุด และเมื่อข่าวนี้ไปถึงเบื้องบนของโคโนฮะ พวกเขาจะต้องไม่อยู่เฉยแน่นอน”
"ชินหยูเองก็น่าทึ่งเช่นกัน นอกจากจะเอาชนะแฝด A B ได้แล้ว เขายังสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์และได้รับโหมดสายฟ้าของ A มาด้วย"
"ถ้าเรามอบโหมดสายฟ้าให้กับโคโนฮะ มันจะเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราด้วยเช่นกัน"
ทุกคนเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้น่าตกใจเกินไป
"พวกนายทุกคนคิดว่าชินหยูที่ใช้คาถาสายฟ้าได้อย่างเชี่ยวชาญจะใช้โหมดสายฟ้าได้ไหม?"
จู่ๆอินุโฮะก็ถามขึ้น
ทุกคนเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำถามนี้ การแสดงออกของอุซึกิก็เปลี่ยนไปเช่นกัน "บางทีเขาอาจจะทำมันได้ก็ได้"
"แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะใช้วิชาสายฟ้าฟาดได้ภายในสามวัน และพัฒนาให้มันกลายเป็นคาถากิเลนที่อยู่ในระดับ S ได้แบบนั้น"
"อุซึกิ? นายพูดแบบนี้เพราะนายรู้สึกอิจฉาใช่มั้ย?" อินุโฮะแกล้งพูดขึ้น "ถ้าอย่างนั้น ทําไมเราไม่มาพนันกันล่ะ?"
"ถ้าหากชินหยูทําได้จริงๆ ฉันให้ลูกสาวของฉันกับชินหยูเป็นแฟนกันเลย" อุซึกิทุบหน้าอกของเขาเบาๆแล้วพูดขึ้น
"เฮอะๆ อุซึกิ? นายเรียกแบบนี้ว่าการพนันงั้นเรอะ? นายแค่กําลังมองหาข้ออ้างที่จะส่งลูกสาวของนายไปอยู่ในการดูแลของชินหยูเท่านั้นเอง"
"ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าชินหยูทำได้จริงๆ ฉันจะยกลูกสาวสองคนให้เขาไปเลย"
"เฮอะ นายนี่เพ้อเจ้อจริงๆ ลูกสาวของนายคนนึงอายุปาเข้าไปสามสิบปีแล้วแถมยังอ้วนมากๆอีกเนี่ยนะ?ถ้าชินหยูเลือกเธอจริงๆ แสดงว่าเขาน่าจะมีปัญญากับสายตาของเขาแล้วล่ะ”
"เฮ้ยๆ นี่นายกําลังพูดบ้าอะไรของนายน่ะ? อย่ามาพูดจาแบบนี้นะโว้ย"
ภายในถ้ำนั้น ชินหยูไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังจะมีพ่อตาเพิ่มขึ้นถึงหลายสิบคน
ขณะที่เขากำลังเดินไปพักผ่อนนั้น เขาจ้องไปที่ม้วนกระดาษที่บันทึกโหมดจักระสายฟ้าเอาไว้
"ชินหยู นายไม่บาดเจ็บจริงๆใช่มั้ย?" ชิซุนถามอีกครั้งด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ
ชินหยูกลอกตาและพูดว่า "เธอถามคําถามนี้มาสิบรอบแล้วนะ"
"ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ทําไมไม่ถอดเสื้อผ้าของฉันออกแล้วตรวจดูเองเลยล่ะ?"
ขณะที่เขาพูดนั้น ชินหยูแกล้งทําเป็นปลดกระดุมเสื้อของเขา
"ชินหยู นายอย่ามาพูดบ้าๆนะ!" ใบหน้าของชิซุเนะเปลี่ยนเป็นสีแดงมากยิ่งขึ้น หลังจากจ้องมาที่เขา เธอก็หันกลับมาและจากไป
หลังจากที่ชิซุเนะจากไป ชินหยูก็เป็นอิสระทันที
ในตอนนี้เขาใช้จักระและพลังเนตรไปมากพอสมควร หรือก็คือร่างกายของเขาตอนนี้แทบจะไม่ไหวแล้ว
เขาไม่มีแรงและพลังมากพอที่จะทําอะไรแบบนั้นกับชิซุเนะเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้น เขาได้พบมุมๆหนึ่งในถ้ำ ก่อนที่เขาจะนั่งไขว่ห้างและเริ่มพยายามฝึกฝนโหมดจักระสายฟ้า
จากการต่อสู้เมื่อกี้นี้ ชินหยูได้ใช้เนตรวงแหวนเพื่อแอบดูการเปลี่ยนแปลงของจักระในร่างของ A
หลังจากที่มาเทียบกับคําอธิบายที่บันทึกไว้บนม้วนกระดาษ ปรากฎว่ามันตรงกันทุกอย่าง
ดูเหมือนว่า A จะไม่ได้มอบม้วนกระดาษปลอมให้เขา
ชินหยูไม่ได้ทําอะไรกับม้วนกระดาษมากนัก
หลังจากที่อ่านซ้ำหลายๆรอบ ชินหยูวางม้วนกระดาษลงและนั่งสมาธิเพื่อฟื้นฟูจักระในร่างกายของเขาเล็กน้อย
ผ่านไปครึ่งวัน ชินหยูก็ลืมตาขึ้นโดยที่ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดลง
หลังจากการต่อสู้ในวันนั้น เหล่านินจาโคโนฮะก็ได้ทําหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน
บางคนได้รับมอบหมายให้ปกป้องเอกสารลับต่างๆ
ดังนั้นในถ้ำขนาดใหญ่นี้จึงเหลือเพียงชินหยูแค่คนเดียว
"จักระในร่างกายของฉันเริ่มกลับมาปกติแล้ว ในที่สุดฉันก็เริ่มเข้าใจความเจ็บปวดจากการที่จักระในร่างใกล้จะหมดแล้ว" ชินหยูถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาใช้จักระไปกับสามวิชาหลักมากถึง 90 % ถ้าหากเขาต้องต่อสู้อย่างยืดเยื้อ เขาจะต้องตายเพราะจักระหมดตัวอย่างแน่นอน
"เอาเถอะช่างมัน ยังไงซะฉันก็ต้องเพิ่มปริมาณจักระในอนาคตอยู่แล้ว ตอนนี้ฉันต้องเรียนรู้โหมดจักระสายฟ้านี่ให้ได้ก่อน" ชินหยูไม่ได้คิดอะไรมากอีกต่อไป
เขาหลับตาลงอย่างช้าๆและคําอธิบายทั้งหมดบนม้วนกระดาษก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
หลังจากที่ผ่านไปสามหรือสี่วินาที ชินหยูก็ลืมตาขึ้นทันที มือของเขาขยับอย่างรวดเร็วและเริ่มประสานอิน
จักระในร่างกายของเขาพุ่งออกมาโดยที่ส่วนโค้งของสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวร่างกายของเขา
ในช่วงเวลาต่อมา ข้อมูลทั้งหมดที่ชินหยูคัดลอกมาจาก A ได้ปรากฎขึ้นบนผ่านความคิดของชินหยู
จักระซึ่งแต่เดิมนั้นมั่นคงราวกับผิวน้ำ จู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ราวกับว่าม้าหนึ่งหมื่นตัวกําลังควบและส่งเสียงดังก้องอยู่ในร่างของชินหยู
สายฟ้าสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างของชินหยูจนทําให้ถ้ำนั้นสว่างขึ้นครู่หนึ่ง
แต่ทันทีที่สายฟ้าปรากฏขึ้น มันก็สลายไปทันที
จักระที่เปลี่ยนแปลงอยู่ในร่างกายของเขากระจายออกและกลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เขาพูดกับตัวเองว่า "โชคดีที่ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงของจักระได้ทันเวลา มิฉะนั้นร่างกายของฉันจะต้องระเบิดและตายในพริบตาแน่ๆ"
"ไม่แปลกใจเลยที่ A มอบม้วนวิชานี้ให้ฉันง่ายๆแบบนี้"
"ดิ๊ง ระบบได้ค้นพบว่าท่านได้เรียนรู้โหมดจักระสายฟ้า ท่านต้องการเพิ่มให้เป็นระดับสูงสุดในครั้งเดียวเลยหรือไม่?"
"เพิ่มเป็นระดับสูงสุดทันที"
หลังจากที่ลองฝึกดูแล้ว ชินหยูก็ทันทีเพราะมันไม่ต่างอะไรกับการทรมานตัวเอง
"ขอแสดงความยินดี โหมดจักระสายฟ้าของท่านอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว"
เมื่อการแจ้งเตือนของระบบเงียบลง ชินหยูก็หายใจเข้าลึกๆพร้อมกับจักระในร่างกายที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
จู่ๆสายฟ้าก็พุ่งออกมาจากร่างของชินหยูอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตานั้น ชินหยูรู้สึกว่าเซลล์และร่างกายของเขากำลังถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง