ตอนที่แล้วบทที่ 87: โม่หรูซวงชี้ชวนหลินเป่ยฟานให้แก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 89: มันคืออะไรถ้าไม่ใช่การแย่งชิงบัลลังก์?

บทที่ 88: น่าฉงนยิ่ง เหตุอันใดข้าถึงเอาแต่คิดเรื่องท่านหลินกัน?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 88: น่าฉงนยิ่ง เหตุอันใดข้าถึงเอาแต่คิดเรื่องท่านหลินกัน?

ในแง่ของความสามารถ คุณชายได้รับคำแนะนำจากปรมาจารย์เลื่องชื่อตั้งแต่ยังเยาว์ จนถือเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียงในมณฑลเหอเป่ยตอนเหนือ การสอบจักรพรรดิย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย

ทว่าเมื่อเทียบกับหลินเป่ยฟานแล้ว เขาก็คล้ายถูกลดขั้นเป็นเศษสวะในทันที

คนผู้นี้ได้รับคะแนนสูงสุดในการสอบจักรพรรดิ ซึ่งเป็นผู้ทำคะแนนสูงสุดสามสูงสุดภายในสามปีติดต่อกัน จะมีกี่คนที่สามารถบรรลุความสำเร็จเช่นนี้ได้ตลอดในหน้าประวัติศาสตร์? ในระหว่างการพูดคุยกัน โม่หรูซวงก็ได้ค้นพบว่าหลินเป่ยฟานเป็นคนเก่งและรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยรู้ สิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่เขาพานพบมา หาใช่แต่มาจากในตำรา

ในแง่ของความสามารถ คุณชายสามารถจัดการด้านบริหารบ้านเมืองและทำงานได้เก่งกาจ

แต่เมื่อเทียบกับหลินเป่ยฟาน เขาก็เป็นเพียงอากาศธาตุ

หลินเป่ยฟานเกี่ยวข้องโดยตรงกับราชสำนัก ต้องพบปะกับขุนนางพลเรือนและทหาร ต้องใช้สติปัญหาและไหวพริบตลอดเวลา ขุนนางพวกนี้ล้วนเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่เต็มไปด้วยอุบาย เจ้าเล่ห์และมากแผนการ แต่ทุกครั้งหลินเป่ยฟานก็ได้รับชัยชนะเหนือพวกเขาอยู่ตลอด

ในแง่ของความสำเร็จ คุณชายยิ่งด้อยกว่ามาก เขาไม่เคยทำสำเร็จอะไรสักอย่าง เมื่อเทียบกับหลินเป่ยฟาน

ภายในหนึ่งเดือน หลินเป่ยฟานได้ก้าวกระโดดตำแหน่งขึ้นสองอันดับและกลายเป็นขุนนางระดับห้าด้วยความพยายามของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ล้มล้างข้อตกลงสินทดแทนระหว่างสองอาณาจักร หลีกเลี่ยงสงครามและช่วยชีวิตผู้คนนับล้าน ความสำเร็จของเขายิ่งใหญ่นัก

ดูเหมือนว่านอกจากภูมิหลังของตระกูลแล้ว คุณชายก็ไม่มีอะไรที่จะเทียบได้กับหลินเป่ยฟานเลย

หากพวกเขาสับเปลี่ยนตำแหน่งกัน อนาคตของหลินเป่ยฟานจะเป็นเช่นไรนะ?

โม่หรูซวงได้แต่ส่ายศีรษะของตนที่จินตนาการเพ้อฝันไปไกล

สตรีงามย่อมหลงรักวีรบุรุษผู้มากความสามารถอยู่แล้ว! หัวใจของนางเอนเอียงไปทางหลินเป่ยฟานมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว สายตาของนางที่จ้องไปที่คุณชายใหญ่ยิ่งดูจืดชืดมากยิ่งขึ้น

ทันใดนั้น ความคิดของนางก็เปลี่ยนไป ถ้าคุณชายใหญ่ไม่ดีเท่าหลินเป่ยฟาน แล้วท่านอ๋องผู้ที่คำนึงถึงโลกและราษฎรในใจอยู่เสมอล่ะ?

ก็ดูเหมือนจะเทียบกับเขาไม่ได้อยู่ดี

.

ทุกคนต่างถูกหลินเป่ยฟานบดขยี้ในทุกด้าน!

“หรูซวง! หรูซวง เจ้าเป็นอะไรไป?” เสียงเรียกเบาๆ สองครั้งได้ทำให้โม่หรูซวงกลับออกมาจากห้วงภวังค์

"เอ่อ? ข้าขอโทษด้วย เมื่อครู่ข้ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ข้าจึงไม่ได้สติ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยคุณชาย!” โม่หรูซวงกล่าวขอโทษ

“ไม่เป็นไรหรอก ทำไมข้าต้องโทษเจ้าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ด้วย?” คุณชายใหญ่ส่ายศีรษะและถามด้วยความสงสัย “หรูซวง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่หรือ? เจ้าบอกข้าหน่อยได้ไหม?”

โม่หรูซวงประสานมือของนางและกล่าวไปว่า “ข้าขออภัยด้วยคุณชาย! ข้าค่อนข้างเหนื่อยล้าจากการเดินทางในช่วงหลายวันมานี้ ดังนั้นข้าและศิษย์น้องขอตัวไปพักผ่อนก่อน ไว้คุยกันวันอื่นเถิด!”

จากนั้นนางก็พยักหน้าให้กัวเส้าส้วย และทั้งคู่ก็เดินจากไปด้วยกัน

“หรูซวง พักผ่อนให้เพียงพอเถอะ!” คุณชายใหญ่มองดูร่างที่จากไปของสตรีงามด้วยความไม่เต็มใจนัก

ในยามนั้นเอง ท่านอ๋องก็พ่นลมหายใจออกมาและกล่าวว่า “เจ้าลูกชาย สภาพเจ้าตอนนี้เหมือนคุณชายตรงไหนกัน? เพียงสตรีผู้เดียวก็ทำให้เจ้าหลงเสน่ห์มากถึงเพียงนี้ หากเรื่องนี้หลุดรอดออกไป ไม่คิดว่ามันจะเป็นที่น่าหัวเราะหรือ?”

“ท่านพ่อ แต่ข้า…ข้าชอบหรูซวง” คุณชายใหญ่ที่หน้าแดงก็ก้มศีรษะลง

“เหลวไหล!” ท่านอ๋องดูโกรธมาก “เจ้าลูกชาย เจ้าควรเข้าใจฐานะของตนเองบ้าง เจ้าเป็นคุณชายที่มีฐานะสูงส่ง ส่วนอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้สตรีในเจียงหู กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นเพียงพลเรือน นางจะคู่ควรกับเจ้าได้ยังไง? มีเพียงสตรีชั้นสูงเท่านั้นที่คู่ควรกับฐานะของเจ้า! ในอนาคตเจ้าสามารถรับนางเป็นนางสนมได้ แต่เจ้าไม่สามารถแต่งงานกับนางเป็นภรรยาหลวงของเจ้าได้!”

“ท่านพ่อ ข้า…”

ท่านอ๋องโบกมืออย่างไม่อดทนอีกต่อไป “อย่าพูดอะไรกับข้ามากไปกว่านี้ แค่เห็นเจ้าก็ทำให้ข้าโกรธแล้ว! กลับไปที่ห้องของเจ้าและทบทวนความผิดพลาดที่ก่อ จงอย่าออกมาจนกว่าเจ้าจะคิดออก!”

“ข-ขอรับท่านพ่อ!” คุณชายใหญ่กลับไปที่ห้องของเขาด้วยความหดหู่

เขาโบกมือและทันใดนั้น ชายวัยกลางคนที่ดูเคร่งขรึมก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง “นายท่าน ทรงรับสั่งอะไรหรือขอรับ?”

“จงไปหาข้อมูลโดยละเอียดของขุนนางระดับสูงหลินเป่ยฟาน ข้าต้องการรู้ทุกอย่าง!”

“ขอรับนายท่าน!”

ชายคนนั้นโค้งคำนับและหายตัวไป

หลังจากที่คุณชายใหญ่อู๋หยิงเจี๋ยกลับไปที่ห้อง เขาก็ลอบออกมาจากห้องของตนเอง

เพื่อที่จะได้พบโม่หรูซวง เขาได้เชิญวีรบุรุษผู้มีวิชายุทธ์อันล้ำเลิศทั้งหมดมายังวังหลวง เพื่อใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง

โม่หรูซวงปฏิเสธไม่ได้ นางเข้าร่วมงานเลี้ยงกับศิษย์น้องของนาง

ในงานเลี้ยง คุณชายใหญ่ที่นั่งอยู่ที่นั่งหลักได้ถือถ้วยเหล้าด้วยใบหน้าแดงก่ำ “หายากนักที่จะมีวีรบุรุษทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ ข้ามีความสุขมาก! สหาย เชิญเลย! อย่าออกไปจนกว่าพวกท่านจะเมา!”

“ขอรับคุณชายใหญ่!” ทุกคนยกถ้วยเหล้าขึ้นและดื่มลงไป

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการกันแล้ว คุณชายใหญ่ก็หันไปหาโม่หรูซวงซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไปด้วยความกระตือรือร้น พร้อมกับกล่าวออกไปอย่างยินดีว่า “หรูซวง นี่คือไก่เหลืองของโปรดเจ้า ข้าสั่งให้คนทำเป็นพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลย รสชาติเป็นเช่นไรบ้าง? อร่อยไหม?”

โม่หรูซวงได้ลิ้มรสเล็กน้อยและยิ้มตอบอย่างสุภาพ “รสชาติดีมาก!”

แต่แล้ว นางก็วางตะเกียบลง

จริงๆ แล้วนางชอบกินไก่เหลืองมาก โดยเฉพาะไก่จากวังหลวง

แต่ยามนี้ นางกลับรู้สึกว่าไก่เหลืองนี้กลับขาดรสชาติไปนิดหน่อย

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงไก่เหลืองที่นางได้ลิ้มรสที่คฤหาสน์หลินในระหว่างที่นางได้รับบาดเจ็บ มันอร่อยและเลิศรสมาก เป็นไก่เหลืองที่ดีที่สุดที่นางเคยลิ้มรสมาในชีวิตนี้

ในยามนั้น หลินเป่ยฟานอยู่เคียงข้างนาง ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นว่านางชอบ เขาจึงมักเอาไก่เหลืองมาให้โดยตลอด

คุณชายใหญ่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจมาก

“หรูซวง ถ้าเจ้าชอบก็กินให้มากขึ้นเถอะ! แล้วไวน์ผลไม้นี้รสชาติเป็นเช่นไรบ้าง? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าชอบดื่ม ดังนั้นข้าจึงให้คนไปหาให้เจ้า!”

โม่หรูซวงหยิบถ้วนขึ้นมาและจิบพร้อมกับยิ้มออกมา “ไวน์รสหวานและหอมยิ่ง!”

จากนั้นนางก็วางมันลงและไม่ดื่มต่อ

เพราะนางรู้สึกว่ารสชาติของไวน์ผลไม้นั้นธรรมดาเกินไปจนยากที่จะกลืนลง

นางพลันนึกถึงไวน์ชั้นเลิศที่นางดื่มที่คฤหาสน์หลินในช่วงที่นางได้รับบาดเจ็บโดยไม่รู้ตัว

มีไวน์มากกว่าสิบถัง แต่ละถังล้วนเป็นไวน์หายากหลายสิบชนิดที่เลิศรสที่สุดในโลก นางไม่เคยลิ้มรสพวกมันมาก่อนสักอย่างเดียว

ในทั้งสิบอัน สิ่งที่นางชอบที่สุดคือไวน์ร้อยบุปผา

มันมีทั้งกลิ่นหอมของดอกไม้และรสชาติที่กลมกล่อม จนมีรสติดอยู่ที่ริมฝีปาก

ว่ากันว่าเป็นไวน์ที่ดีที่สุดในพระราชวัง หมักเป็นพิเศษเพื่อจักรพรรดิ ทำให้มันหาได้ยากยิ่ง แม้ว่าผู้อื่นจะอยากดื่ม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหามันได้ แต่เรือนของเขากลับมีมันมากกว่าสิบถัง

นางรู้ว่าไวน์นี้มีราคาแพง อีกทั้งนางก็ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นนางจึงไม่กล้าที่จะดื่มมากเกินไป เพียงวันละสองถ้วยต่อครั้งเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตเห็นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงนำไวน์ร้อยบุปผาให้นางแทบทุกวัน

.

ในยามนั้น หลินเป่ยฟานอยู่เคียงข้างนาง

.

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คุณชายใหญ่ก็รู้สึกยินดียิ่ง “หรูซวง ถ้าเจ้าชอบดื่มก็ดื่มอีกหน่อยเถอะ! ข้ามีอีกสองถัง เก็บไว้ทั้งหมดเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลย!”

โม่หรูซวงที่ตกใจก็กล่าวไปว่า “คุณชาย มันมีค่ามากเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้..”

“หรูซวง ไม่ต้องเกรงใจข้าเลย! หากเจ้ายังคงเกรงใจเช่นนี้ เดี๋ยวข้าจะโกรธเอานะ!” คุณชายแสร้งทำเป็นรำคาญ

โม่หรูซวงได้แต่ถอนหายใจและทำได้เพียงแค่ยอมรับมันมา

เมื่อเห็นยอดรักของเขารับของขวัญไป คุณชายก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นจนกล่าวออกมา “ไม่มีบทกวีในงานเลี้ยงได้เช่นไรกัน? งั้นข้าจะท่องบทกวีให้แก่เหล่าวีรบุรุษทั้งหมดเอง ว่าไงล่ะ?”

"ดีมากเลยขอรับ! เชิญเลยคุณชาย!” ทุกคนต่างตะโกนขึ้นมา

“ข้าคงต้องแสดงทักษะอันต่ำต้อยเสียแล้วสิ!” คุณชายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะท่องบทกวีที่เขาเตรียมไว้แล้ว

“บุรุษควรยืนหยัดในยุคของตน และดื่มอย่างวีรชน…”

หลังจากที่เขากล่าวจบ ทั้งห้องก็ปรบมือ

คุณชายยิ้มออกมาและถามด้วยความภูมิใจ “หรูซวง บทกวีของข้าเป็นเช่นไรบ้าง? เจ้ารู้สึกว่ามันดีหรือเปล่า?”

โม่หรูซวงพยักหน้าและยิ้มออกมา “มันดีมากเลยเจ้าค่ะ สมกับที่คุณชายมีชื่อเสียงในเหอเป่ยทางเหนือ!”

อีกครั้งที่จิตใจของนางพลันนึกถึงหลินเป่ยฟานในเมืองหลวงขึ้นมา

เขาเองก็ได้เขียนบทกวีของวีรบุรุษและไวน์

“ภายใต้สรวงสวรรค์ วีรบุรุษพลันปรากฏ เวลาล้วนโบยบินผ่านไปเพียงพริบตา! ถกเถียงแต่เรื่องวิสัยทัศน์และอำนาจด้วยรอยยิ้ม ไม่อาจตัดขาดจากความมัวเมาในชีวิตไปได้!”

ช่างเป็นคำพูดที่กล้าหาญและทรงพลังอะไรเช่นนี้!

เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์อันมากมาย!

มีเพียงแต่วีรบุรุษผู้มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นที่สามารถเขียนบทกวีเช่นนี้ได้!

ถ้าเราเปรียบเทียบบทกวีของคุณชายกับบทกวีของหลินเป่ยฟาน...

ไม่จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบเลย มันแทบไม่มีค่าให้เทียบกันด้วยซ้ำ!

ว่าแต่ทำไมวันนี้นางถึงเอาแต่คิดถึงเรื่องของหลินเป่ยฟานกัน?

นางเพิ่งออกมาจากเขามาเพียงไม่กี่วันเองนะ!

โม่หรูซวงถอนหายใจอย่างเงียบๆ ในใจ “อา โม่หรูซวง เจ้านี้มันช่างใช้การไม่ได้เลย!'

เมื่อนางคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้น นางก็ไม่สามารถกินหรือดื่มได้อีกต่อไป

กัวเส้าส้วย ศิษย์น้องของนางก็ไม่สามารถกินหรือดื่มได้เช่นกัน

เขามองไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส ทว่ากลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา “อาหารในงานเลี้ยงของวังหลวงกลับไม่สามารถเทียบได้กับอาหารเน่าเสียจากไอ้สารเลวบัดซบนั่น! เมื่อใดกันที่ข้าจะได้กินมันอีก เมื่อใดกัน!!”

หลังจากดื่มไวน์ไปสองสามแก้วแล้ว โม่หรูซวงก็จากไป

กัวเส้าส้วยก็เช่นกัน

หลังจากที่ทั้งสองออกไป งานเลี้ยงก็ดูสูญเสียความมีชีวิตชีวาไป เพราะคุณชายดูจะจมอยู่ในความคิดของตน

ชายชราคนหนึ่งจากเจียงหูกล่าวติดตลกว่า “คุณชาย หลังจากหรูซวงจากไป หัวใจของท่านคงจะตามนางไปสินะ ท่านไม่แม้แต่จะรับการทักทายจากชายตัวเหม็นอย่างพวกเราเลย ฮ่าๆ!”

“ข้าขอโทษด้วยทุกท่าน ขอโทษด้วย!” คุณชายกล่าวขอโทษ

ชายร่างใหญ่ใบหน้าแดงก่ำได้หัวเราะและยิ้มออกมา “คุณชาย พวกเราทุกคนล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ ย่อมสามารถเข้าใจคุณชายได้อย่างถ่องแท้! คุณชาย ในเมื่อท่านชอบแม่นางหรูซวง ก็จงตามนางไปอย่างกล้าหาญ! ด้วยเสน่ห์ของท่าน สตรีนางใดจะสามารถต้านทานท่านได้? พวกเจ้าเห็นด้วยหรือไม่?”

"ถูกต้อง! การคู่กันระหว่างคุณชายและแม่หญิงหรูซวงคงเป็นลิขิตจากสวรรค์แน่แท้!"

“ถ้าข้าเป็นสตรี ข้าคงจะแต่งงานกับคุณชาย!”

“เจ้ากำลังฝันไปแล้ว! ด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะจ่ายเงินให้ข้าแต่งงานกับเจ้าด้วย ข้าก็ยังไม่ต้องการเจ้า!”

“ข้าแค่ล้อเล่นน่า!”

…พวกเขาทุกคนต่างให้กำลังใจเขา

คุณชายยิ้มอย่างประหม่า “ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากพวกท่าน ข้าเองก็อยากจะไปเช่นกัน! น่าเสียดายที่ราชามีเจตจำนง ทว่าเทพธิดาไร้ความเมตตา! ข้าจะพยายาม ข้าเชื่อว่าความซื่อตรงของข้าจะทำให้หรูซวงได้สัมผัสถึงใจจริงของข้า!”

“เจ้าช่างคิดในแง่ดีนัก! เพราะข้าเกรงว่าแม่เทพธิดาของเจ้าจะมีคนรักเสียแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแค่ไหน มันก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”

ทันใดนั้นคุณชายก็ถึงกับตกตะลึง “อะไรนะ? หรูซวงมีคนรักแล้วงั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง? ข้ารู้ว่านางมีปฏิสัมพันธ์กับใครและข้ารู้เรื่องนางทุกอย่าง นางจะมีความรักได้ยังไงกัน? ผู้อาวุโสซุน ท่านล้อข้าเล่นหรือเปล่า?”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด