ตอนที่แล้วบทที่ 158 ฝึกทรังคซ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 160 พลังบริสุทธิ์ของเทพปิศาจ

บทที่ 159 สัมผัสพลังพระเจ้า


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 159 สัมผัสพลังพระเจ้า

ในตอนแรกที่เขาได้รับการ์ดประสบการณ์พลังพระเจ้า ระบบได้เตือนหลินเฉิน

เมื่อเปิดใช้งานการ์ดประสบการณ์นี้ มันจะให้พลังเหมือนเทพเจ้าแก่หลินเฉินในช่วงเวลาสั้นๆ ทว่าเนื่องจากพลังพระเจ้าจะแผ่พลังมากเกินไป ตัวตนที่ที่แข็งแกร่งกว่าจึงอาจจะรู้สึกถึงตัวตนของเขา

นี่หมายความว่าหากหลินเฉินใช้มันในจักรวาลดั้งเดิมของเขา ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะปลุกเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างก่อนเวลาอันควร ดึงดูดความสนใจของไคโอชินและสิ่งที่คล้ายกัน

สำหรับเขาที่มีพละกำลังยังไม่เพียงพอ นี่ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

แต่ที่นี่แตกต่างออกไป

ประการแรก ห้องกาลเวลาถูกแยกออกจากโลกแห่งความเป็นจริง เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งอย่างสมบูรณ์

ประการที่สอง แม้ว่ามันจะแผ่พลังออกมามากมายมหาศาลจนห้องกาลเวลาไม่สามารถปิดได้ แต่นี่ก็เป็นจักรวาลคู่ขนาน ดังนั้นหากเลวร้ายที่สุด หลินเฉินก็สามารถหนีออกไปได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ใดๆ

ทว่าก่อนหน้านั้น เขาจำเป็นต้องแนะนำทรังคซ์อย่างถูกต้องเสียก่อน

"ทรังคซ์"

เมื่อได้ยินหลินเฉินเรียกเขา ทรังค์ก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าระมัดระวัง

ตอนนี้ทรังค์ได้ทำตามคำสั่งของหลินเฉินและเสร็จสิ้นการฝึกไปแล้ว แต่เมื่อมองไปที่สีหน้าที่เคร่งเครียดของหลินเฉิน เขาก็คิดว่าหลินเฉินกำลังไม่พอใจอยู่

“คุณหลินเฉิน ท่านมีเรื่องอะไรจะแนะนำข้าอีกหรือ?”

“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้น ก่อนที่จะสอนเจ้า ข้าต้องปลดพลังแฝงของเจ้าเสียก่อน”

หลินเฉินพูดจบก็วางมือบนหัวของทรังคซ์

"เอ่อ? คุณหลินเฉิน ท่านจะปลดพลังแฝงของข้าได้ยังไงกันเหรอ?”

“อยู่นิ่งๆ ไว้”

หลินเฉินหลับตาลงและเริ่มใช้วิชาปลดพลังแฝงของดาวเคราะห์นาเม็ก

“มันสามารถปลดพลังแฝงของข้าได้จริงหรือ? ข้าคิดมาตลอดว่าพลังของข้ามาถึงจุดสูงสุดแล้วเสียอีก…” ทรังคซ์กล่าวขึ้นมา

แต่ในขณะนั้นเอง เขารู้สึกถึงกระแสน้ำอุ่นที่พวยพุ่งออกมาจากภายในร่างกายของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน ทรังคซ์ก็ตระหนักว่าพลังของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วราวกับภูเขาไฟระเบิด

"แข็งแกร่งมาก! ช่างเป็นความแข็งแกร่งที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”

ในขณะที่ทรังคซ์เต็มไปด้วยความสุข หลินเฉินก็หรี่ตาลงและมองไปที่เด็กน้อยเบื้องหน้าเขา

เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นลูกผสมของชาวไซย่าและชาวโลกหรือเปล่า เพราะเขาพบว่าศักยภาพของทรังคซ์ดูเหมือนจะไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลย

ตอนนี้หลินเฉินเข้าใจความรู้สึกของผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กที่ปลดพลังแฝงให้โกฮังในงานต้นฉบับแล้ว

การใช้วิชาปลดพลังแฝงของดาวเคราะห์นาเม็ก สามารถปลดพลังแฝงของทรังคซ์ได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

ทว่าเมื่อหลินเฉินปล่อยมือของเขา ระดับพลังของทรังคซ์ก็กระโดดจาก 600,000 ไป 1.5 ล้านทันที!

การเพิ่มระดับพลังขนาดนี้ หลินเฉินแทบจะคาดไม่ถึงเลย

ถ้าหากเบจิต้าจากจักรวาลเขาได้มาเห็นพลังลูกของเขาในจักรวาลนี้ เขาจะอึ้งหรืออายไหมนะ

ขณะที่คอดเช่นนี้ หลินเฉินก็โยนผลต้นไม้แห่งชีวิตให้ทรังคซ์เพื่อเพิ่มระดับพลังของเขาอีก 100,000

หลังจากทำทุกอย่างที่ต้องทำเสร็จแล้ว หลินเฉินก็เริ่มฝึกทรังคซ์โดยค่อยๆ แก้ไขและขัดเกลาวิชาการต่อสู้ที่หยาบกร้าน

กระบวนการฝึกนั้นเข้มงวดมาก แต่พรสวรรค์ของทรังค์นั้นน่าทึ่งจนถึงกับทำให้หลินเฉินประทับใจ

เมื่อหลินเฉินชี้ให้เห็นว่ามีระดับที่สูงกว่าซูเปอร์ไซย่า ทรังคซ์ก็รู้ทันทีว่ามันคือซูเปอร์ไซย่าร่าง 1 ขั้นสอง

ในจักรวาลเดิมของหลินเฉิน กว่าฮานาเซียและบาร์ดัคจะเข้าใจจากคำพูดของหลินเฉิน มันก็ต้องใช้เวลานานมากพอสมควรเลย

“ดีมาก แต่ปัญหาของเจ้าตอนนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนร่าง แต่เป็นรากฐาน พยายามรักษาลมหายใจของเจ้าในขณะที่อยู่ในร่างซูเปอร์ไซย่า!”

"เจ้าโง่! ใช้พลังของเจ้าเพื่อรับรู้ ไม่ใช่แค่ดวงตาของเจ้า!”

หลังจากการฝึกพื้นฐานของทรังคซ์เป็นไปตามเป้าหมาย หลินเฉินก็เตรียมที่จะเริ่มการฝึกฝนของเขาเอง

พื้นที่ภายในห้องกาลเวลาเกือบจะใหญ่พอๆ กับโลก

หลังจากกล่าวเตือนทรังคซ์ไปนิดหน่อย หลินเฉินก็ใช้เคลื่อนย้ายพริบตามาไกลมากๆ

“ระบบใช้การ์ดประสบการณ์พลังพระเจ้า!”

ทันทีที่เสียงของเขาเงียบไป พลังที่น่าทึ่งก็ห่อหุ้มร่างกายของหลินเฉิน

และในเวลาต่อมา เขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าพลังออร่าของเขาหายไป!

"เกิดอะไรขึ้นกัน?"

ก่อนที่หลินเฉินจะคิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น เวลารอบตัวเขาดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

ทันใดนั้นพลังขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังหลินเฉิน

ภายใต้พลังนั้น ดวงตาของหลินเฉินได้เบิกกว้างขึ้น หลายสิ่งหลายอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา

“นี่มัน...”

หลินเฉินยกมือขวาขึ้น พลังงานสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากไหนไม่รู้กลืนพื้นที่ตรงหน้าเขาเข้าไป

นี่คือพลังแห่งการทำลายล้าง

หลินเฉินยกมือซ้ายขึ้น แสงสีขาวห่อหุ้มพื้นที่นี้ที่ถูกกลืนกินด้วยพลังแห่งการทำลายล้างและในพริบตาก็ฟื้นคืนกลับมา

นี่คือพลังแห่งการสรรสร้าง

หลินเฉินหันศีรษะและมองไปในระยะไกลที่ทรังค์อยู่

เขาโบกมือขวาเบาๆ

ไกลออกไป ทรังคซ์ที่อยู่ในระหว่างการฝึกก็หยุดนิ่งจนไม่เคลื่อนไหว

นี่คือพลังของเวลา

จากนั้นหลินเฉินก็ดึงมือซ้ายและในชั่วพริบตา เขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าทรังค์

นี่ไม่ใช่หลินเฉินที่ใช้เคลื่อนย้ายพริบตา แต่เป็นเขาที่พาตัวเองเข้ามาใกล้ทรังคซ์มากขึ้น!

นี่คือพลังมิติ

ด้วยการดึงอีกครั้ง หลินเฉินก็กลับเข้ามาอยู่จุดเดิม เขาขยับมือขวาและเวลาของทรังคซ์จึงเริ่มไหลเช่นเดิม

ทำลาย สรรสร้าง เวลา มิติ

หลินเฉินค้นพบว่าเขาเชี่ยวชาญพลังของกฎทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน!

การ์ดประสบการณ์พลังพระเจ้า! นี่คือพลังของการ์ดประสบการณ์พลังพระเจ้า!

ดูเหมือนว่าการเลือกของเขาจะไม่สูญเปล่าเลย

แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

พลังของกฎทั้งสี่สอดคล้องกับเทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง ไคโอชิน เทพเจ้าแห่งกาลเวลาและเทพเจ้าแห่งมิติ

แม้ว่าจะทรงพลังมาก แต่มันก็ไม่ใช่สถานะสูงสุดที่หลินเฉินต้องการบรรลุ

เป้าหมายของเขาคือการเดินไปตามเส้นทางที่ไม่เคยมีใครเดินมาก่อน กลายเป็นเทพเจ้าแห่งชาวไซย่า

พลังของเทพเจ้าแห่งชาวไซย่าจะเป็นเช่นไรกันล่ะ?

ความคิดของหลินเฉินได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สายลมอ่อนๆ พัดผ่านเส้นผมของเขาไป

ออร่าที่เดิมลอยอยู่ข้างหลังเขาได้หายไปแล้ว จากนั้นพลังลึกลับแปลกประหลาดก็พวยพุ่งเข้ามาหาเขา ผมสีดำของหลินเฉินกลายเป็นสีแดงเพลิงในพริบตา

ไกลออกไป ทรังคซ์ที่อยู่ระหว่างการฝึกจู่ๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

เขาไม่รู้สึกถึงพลังของหลินเฉินอีกแล้ว!

ใช่แล้ว ในขณะนี้หลินเฉินได้มีผมสีแดงและดวงตาสีแดง ออร่าที่ทรงพลังก่อนหน้านี้ของเขาก็หายไป ราวกับว่าตอนนี้เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น

“พระเจ้า” ที่แท้จริงไม่มีออร่า และในยามนี้หลินเฉินได้กลายเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าเรียบร้อย

เมื่อรู้สึกถึงพลังของมัน หลินเฉินก็ได้แต่รู้สึกผิดหวัง

เมื่อเทียบกับร่างที่สามารถควบคุมพลังของกฎก่อนหน้านี้ เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าน่าจะเหนือกว่าร่างก่อนหน้านี้ของหลินเฉินมาก แต่เมื่อเทียบในแง่ของพลังทั้งสี่ ร่างเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าถือว่าอ่อนแอพอสมควร

มันเหมือนแค่มาถึงระดับพลังของเทพเจ้า แต่ไม่สามารถควบคุมได้ พลังของมันดูจะด้อยกว่าเทพแห่งการทำลายล้างบีรุสเสียอีก บางทีอาจแค่กว่าร่างฟิวชั่นเบจิโต้ในงานเขียนต้นฉบับด้วยซ้ำ

“นี่ไม่ใช่พระเจ้าที่ข้าต้องการจะเป็นสักหน่อย…” หลินเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด