ตอนที่แล้วตอนที่ 611 ทำลายภูเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 613 สิ้นสุดการต่อสู้

ตอนที่ 612 กล่องสมบัติสีทอง


ตอนที่ 612 กล่องสมบัติสีทอง

เซี่ยเฟยเกลียดศัตรูที่เขามองไม่เห็นมากที่สุด แม้ว่าโดยปกติเขาจะชอบทำตัวเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นของศัตรูของเขาก็ตาม ดังนั้นเมื่อเชพเพิร์ดคอยซ่อนตัวอยู่ในภูเขาและใช้กฎเข้าจู่โจมเขาจากระยะไกล มันจึงทำให้เขาหงุดหงิดและพร้อมที่จะทำลายภูเขาทั้งลูกให้สลายหายไปให้หมดเลย

กฎแห่งการแลกเปลี่ยนคือกฎที่นักสู้จะทำการแฝงตัวเข้าไปในสภาพแวดล้อม สิ่งที่กลายเป็นศัตรูของชายหนุ่มในตอนนี้คือสภาพแวดล้อมทุกหนทุกแห่ง ซึ่งไม่สามารถแยกแยะระบุร่างของศัตรูได้อย่างแน่นอน

ในความเป็นจริงหากผู้ที่มายืนอยู่ตรงเซี่ยเฟยตอนนี้คือบรูซ เขาก็คงจะมีวิธีการอย่างมากมายที่จะแยกตัวของศัตรูออกมาจากสภาพแวดล้อม แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยเพิ่งจะเข้าสู่ดินแดนแห่งผู้ใช้กฎได้ไม่นาน เขาจึงคิดได้เพียงแค่วิธีการที่หยาบที่สุดและง่ายดายที่สุดคือการทำลายสภาพแวดล้อมเท่านั้น

ชายหนุ่มพุ่งตัวออกไปแฝงพลังของกฎแห่งความโกลาหลเข้าใส่ภูเขาหินที่มีความสูงมากกว่า 200 เมตรในพริบตา

สิ่งที่แปลกประหลาดคือภูเขาหินลูกนั้นดูเหมือนกลับจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว เชพเพิร์ดจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ เพราะเขารู้สึกว่าเซี่ยเฟยอ่อนแอมากและถึงแม้วิชาที่ชายหนุ่มใช้จะแปลกประหลาดแต่มันก็ยังไม่สามารถนำมาใช้ในสนามรบได้จริง ๆ

แต่ในระหว่างที่เชพเพิร์ดกำลังมองเซี่ยเฟยอย่างดูถูกอยู่นั่นเอง จู่ ๆ พลังทำลายที่เขาไม่เคยเห็นมาตลอดชีวิตก็ทะลุทะลวงเข้าไปในภูเขาทั้งลูก จนทำให้โมเลกุลของภูเขาทั้งลูกกำลังสั่นสะเทือนด้วยพลังของกฎแห่งความโกลาหล

พริบตาต่อมากฎแห่งความโกลาหลก็ทำลายพันธะโมเลกุลของภูเขาออกจากกัน ซึ่งการทำลายในครั้งนี้ไม่ใช่การทำลายภูเขาหินให้แตกออกเป็นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนภูเขาหินขนาดใหญ่ให้แตกออกเป็นเศษหินชิ้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดไม่ต่างไปจากเม็ดทราย

การจู่โจมในครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังอันน่าทึ่ง เพราะมันสามารถเปลี่ยนภูเขาที่มีความสูงกว่า 200 เมตรและมีความกว้างมากกว่า 1 กิโลเมตรให้กลายเป็นฝุ่นทรายได้ในพริบตา

เมื่อภูเขาทั้งลูกไม่สามารถต้านทานพลังทำลายของเซี่ยเฟยได้ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงร่างกายของเชพเพิร์ดที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาเลย

กว่าที่เชพเพิร์ดจะสัมผัสได้ถึงกฎแห่งความโกลาหล เรื่องทุกอย่างมันก็สายเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว เพราะตอนนี้พลังของกฎแห่งความโกลาหลได้แทรกซึมเข้าไปภายในเซลล์ร่างกายของเขาแล้ว

เชพเพิร์ดพยายามสลัดร่างออกจากภูเขา และถ้าหากว่าเขาฝืนอยู่ที่เดิมต่อไปร่างกายของเขาก็คงจะได้รับบาดเจ็บหนักกว่านี้

“จะไปไหน?”

ในวินาทีเดียวกันกับที่เชพเพิร์ดหลบหนีออกจากภูเขา มันก็ได้มีเงาดำปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับดาบสามคมที่ฟาดฟันลงมาโดยมีเป้าหมายคือศีรษะของเขา

“นี่มันวางแผนเอาไว้หมดแล้ว!” เชพเพิร์ดอุทานขึ้นมาภายในใจอย่างตกตะลึง และเขาก็ได้ตระหนักว่าทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การคำนวณของศัตรูหมดแล้ว

เล่ห์สังหาร!

เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มจู่โจมโดยวิชาเล่ห์สังหารมันก็ไม่มีใครสามารถที่จะคาดเดาเส้นทางการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มได้ เพราะวิชาการเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างของผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดาอีกด้วย เพราะร่างของผู้ใช้จะบิดไปบิดมาด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติของการเคลื่อนไหวโดยทั่วไป

กำแพงโลหะ!

เชพเพิร์ดยกมือขึ้นสร้างโลหะสีดำปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขาในทันที โดยพยายามใช้พลังของกฎแห่งสสารในการต้านทานการจู่โจมของศัตรู

อย่างไรก็ตามการจู่โจมในครั้งนี้ก็คือการจู่โจมของเซี่ยเฟยอย่างเต็มกำลัง มันจึงทำให้เกราะโลหะที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมานั้นแตกสลายไปในทันที และถึงแม้ว่าเกราะโลหะนี้จะสามารถเบี่ยงเบนใบดาบของเขาออกไปได้เล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดบลัดบิวเทียสก็ฟาดฟันลงมาจนตัดแขนขวาของเชพเพิร์ดออกไปโดยตรง

พริบตาเดียวแขนขวาของเชพเพิร์ดที่ถูกตัดก็โดนสูบเลือดจนกลายเป็นเพียงแค่แขนแห้ง ๆ คล้ายกับกิ่งไม้ที่ไร้ชีวิต และการสูญเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากมันก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเทาลงมากกว่าเดิม

เทวาพิโรธ!

เชพเพิร์ดใช้นิ้วแตะจุดสำคัญหลาย ๆ จุดในร่างกายและใช้วิชาพิเศษที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้จากการกลืนกินร่างของศัตรูคนล่าสุด

ตูม!

ทันใดนั้นเองมันก็ได้มีแสงสีแดงสว่างไสวห่อหุ้มร่างของเชพเพิร์ดเอาไว้ เนื่องจากพลังชีวิตของชายคนนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงออกมากลายเป็นพลังงานที่ระเบิดออกมาจากร่างอย่างฉับพลัน

“แข็งแกร่งมาก! ตอนนี้พลังงานภายในร่างของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่าสามเท่า นั่นมันวิธีการอะไรกันแน่?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

ตูม!

เชพเพิร์ดร่อนลงมาหยุดอยู่บนพื้นห่างจากเซี่ยเฟยไปประมาณ 100 เมตร พร้อมกับนำมือซ้ายไปกุมแขนขวาที่ถูกตัดจนขาดด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าตรงตำแหน่งของภูเขาหินที่เขาทำลายลงไปได้ปรากฏพืชพรรณสีเขียวขึ้นมาแทนที่อย่างฉับพลัน และถึงแม้ว่าลำต้นส่วนบนของมันจะถูกทำลายด้วยกฎแห่งความโกลาหล แต่มันก็สามารถแตกกิ่งก้านและใบใหม่ออกมาได้เรื่อย ๆ พร้อมกับเติบโตขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ภาพการเติบโตของต้นไม้ตรงหน้าทำให้เซี่ยเฟยนึกถึงนิทานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่เกิดตรงหน้าของเขานี้ไม่ใช่นิทานปรัมปรา แต่มันคือเรื่องจริงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาแล้วจริง ๆ

ในที่สุดต้นไม้สีเขียวก็เติบโตยืนหยัดขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสูงมากกว่า 500 เมตร ก่อนที่มันจะเริ่มผลิดอกสีเหลืองสดใสทั่วทั้งกิ่งก้านที่แตกระแหงออกไปปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า

หากเซี่ยเฟยสังเกตเห็นคำที่สลักอยู่บริเวณสันเขา เขาจะสามารถรับรู้ได้ในทันทีว่าภูเขาลูกนี้คือปริศนาที่หลบซ่อนอยู่ของบรูซ แต่ในระหว่างการต่อสู้เขาไม่ได้มีเวลาสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดมากขนาดนั้น และเขาก็ได้บังเอิญทำลายภูเขาลูกนี้ลงไปจนได้มาพบกับต้นไม้ขนาดใหญ่ตอนนี้ในที่สุด

ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งเซี่ยเฟยและเชพเพิร์ดต่างก็มองไปยังกล่องสีทองเหนือศีรษะของพวกเขาพร้อม ๆ กัน และทันใดนั้นภายในแววตาของพวกเขาต่างก็เปล่งประกายอย่างตื่นเต้น

ณ ร้านแลกเปลี่ยนของลุงสี่ ภายในเมืองสตีลบาร์

ระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังต่อสู้กับเชพเพิร์ด ลุงสี่ก็กำลังต้อนรับหยูฮัวภายในห้องทำงานของเขาโดยทั้งสองคนกำลังนั่งดื่มน้ำชาอย่างมีความสุข ก่อนที่พนักงานคนหนึ่งจะเดินเข้ามามอบกล่องโลหะที่สวยงามให้กับทั้งคู่จำนวน 2 กล่อง

หยูฮัวเปิดกล่องโลหะทั้งสองออกด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะได้พบกับอาวุธ 2 ชิ้นที่ถูกทำขึ้นมาจากโลหะสีดำสนิท

แม้ว่าหยูฮัวกับลุงสี่จะถือว่าเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งพอสมควรในดินแดนของผู้ใช้กฎ แต่อาวุธสีดำสนิททั้งสองชิ้นนี้ก็ยังทำให้พวกเขาอดที่จะรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้

“ฉันทำธุรกิจมาหลายปีแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นอาวุธที่ทำขึ้นมาจากดาร์คเมทัล นายนี่มันเป็นพวกใจกว้างดีจริง ๆ” ลุงสี่กล่าวด้วยความตื่นเต้น

หยูฮัวเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบดาบวงพระจันทร์เล่มใหญ่ขึ้นมาพิจารณาอย่างสุขใจ

“ฉันขอให้ปรมาจารย์ที่เก่งกาจที่สุดภายในเมืองแอบสร้างมันขึ้นมาให้กับนาย ไม่เพียงแต่งานฝีมือนี้จะเป็นงานฝีมือชั้นยอดเท่านั้น แต่ฉันมั่นใจว่าความลับเรื่องนี้ไม่มีทางหลุดรอดออกไปถึงคนนอกอย่างแน่นอน” ลุงสี่กล่าว

“ขอบคุณครับลุงสี่ นี่ถ้าคนอื่นรู้ว่าอาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากดาร์คเมทัลที่หาได้ยากมาก พวกเขาก็คงจะเริ่มออกตามล่าผมด้วย” หยูฮัวกล่าวอย่างสุภาพ

“ถึงยังไงพวกเราก็เป็นคนครอบครัวเดียวกัน มีเพียงแค่นายกับฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ลูกน้องคนสนิทที่ถือกล่องสินค้าเข้ามาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรอยู่ในกล่อง ดังนั้นนายสบายใจได้เลยว่ามันไม่มีใครออกตามล่านายเพราะอาวุธชิ้นนี้อย่างแน่นอน” ลุงสี่กล่าวพร้อมกับโบกมือไปมาด้วยท่าทางสบาย ๆ

“ฉันรู้ว่าดาบวงพระจันทร์คืออาวุธของนาย แต่อาวุธแปลก ๆ ชิ้นนี้มันคืออะไร? เดี๋ยวนี้นายเปลี่ยนอาวุธที่ใช้แล้วงั้นเหรอ?” ลุงสี่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาพร้อมกับชี้ไปยังอาวุธอีกชิ้น

ดาบวงพระจันทร์ได้ใช้ดาร์คเมทัลผลิตขึ้นมาด้วยอัตราประมาณ 70% ส่วนดาร์คเมทัลอีก 30% ที่เหลือนั้นถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธประหลาดตามคำขอของหยูฮัว

“ผมแค่เตรียมมันเอาไว้ให้เพื่อนตัวน้อยของผมน่ะ วิชาการต่อสู้ของเขาค่อนข้างหลากหลายมากและมันก็น่าจะเข้ากันได้ดีกับอาวุธแปลก ๆ ชิ้นนี้ที่ชื่อว่าวิญญาณหวน และมันก็เป็นอาวุธที่ถูกออกแบบขึ้นมาจะปรมาจารย์คนเดียวกันที่ออกแบบจันทร์ร้องให้กับผม” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่า ๆ ๆ ถึงนายจะอธิบายไปก็เท่านั้นแหละ ฉันไม่ค่อยสันทัดเรื่องอาวุธอยู่แล้ว” ลุงสี่หัวเราะพร้อมกับเกาศีรษะอย่างไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เขาจะกล่าวตอบมาว่า

“เพื่อนตัวน้อยของนายคนนั้นโชคดีมากเลยนะที่นายยอมลงทุนใช้เงินมากมายออกแบบอาวุธให้กับเขาโดยเฉพาะ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาจะเป็นคุณชายผู้มั่งคั่งจากตระกูลไหนถึงกลับทำให้นายยอมลงทุนได้มากขนาดนี้”

“เขาก็มีส่วนร่วมในการได้ดาร์คเมทัลชิ้นนี้มาเหมือนกัน และเขาก็กำลังขาดอาวุธที่เหมาะสมอยู่พอดี น่าเสียดายที่แผนการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นี่นายคิดจะเปลี่ยนแผนงั้นเหรอ?” ลุงสี่กล่าวถามออกมาเบา ๆ

“ก็แค่อาจจะล่ะมั้งครับ” หยูฮัวกล่าวตอบโดยไม่คิดที่จะอธิบายเพิ่มเติม

บทสนทนาระหว่างนักธุรกิจมักจะจบลงสั้น ๆ แบบนี้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าเรื่องบางอย่างมันก็ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้

หยูฮัวนำบัตรที่บรรจุคริสตัลต้นกำเนิดออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะเก็บอาวุธทั้งสองชิ้นเข้าไปในแหวนมิติ

“วิญญาณหวนกับจันทร์ร้องงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชื่อของอาวุธทั้งสองชิ้นนี้ดูคล้ายกับเครื่องดนตรีมากกว่าอาวุธ” ลุงสี่กล่าวถาม

“มันไม่ใช่เครื่องดนตรีหรอกครับแต่เป็นอาวุธสังหารที่แท้จริงต่างหาก เพียงแต่คนที่ออกแบบอาวุธค่อนข้างที่จะชอบดนตรี เขาเลยตั้งชื่อพวกมันออกมาแบบนั้น” หยูฮัวอธิบาย

“หยูฮัว”

“ครับลุงสี่”

“สมมุติว่าวิญญาณหวนชิ้นนี้ไม่ได้ไปอยู่กับเพื่อนตัวน้อยของนาย นายช่วยขายมันเป็นสมบัติประดับร้านของฉันจะได้ไหม ฉันสัญญาว่าฉันจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ” ลุงสี่พูดขึ้นมาเบา ๆ

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมค่อยให้คำตอบก็แล้วกันนะครับ”

แน่นอนว่าเพื่อนตัวน้อยที่หยูฮัวพูดถึงคือเซี่ยเฟยที่ร่วมกันเสี่ยงชีวิตจนได้รับดาร์คเมทัลกลับมา และถึงแม้ว่าในตอนนี้อาวุธจากดาร์คเมทัลจะถูกผลิตขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงตกอยู่ในอันตรายจากการเผชิญหน้ากับเชพเพิร์ดบนดาวเคราะห์ที่ลึกลับ

ดอกไม้สีเหลืองทองที่เบ่งบานเหนือศีรษะของพวกเขาสว่างไสวมาก และกล่องสีทองที่อยู่บนต้นก็เป็นสิ่งที่สะดุดตามากยิ่งกว่า

ทั้งสองต่างก็รู้สึกตกตะลึงไปสักพัก ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กันโดยเล็งไปที่กล่องสีทองบนท้องฟ้า

***************

แย่งมันมาให้ได้นะพี่เฟย!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด