ตอนที่ 612 กล่องสมบัติสีทอง
ตอนที่ 612 กล่องสมบัติสีทอง
เซี่ยเฟยเกลียดศัตรูที่เขามองไม่เห็นมากที่สุด แม้ว่าโดยปกติเขาจะชอบทำตัวเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นของศัตรูของเขาก็ตาม ดังนั้นเมื่อเชพเพิร์ดคอยซ่อนตัวอยู่ในภูเขาและใช้กฎเข้าจู่โจมเขาจากระยะไกล มันจึงทำให้เขาหงุดหงิดและพร้อมที่จะทำลายภูเขาทั้งลูกให้สลายหายไปให้หมดเลย
กฎแห่งการแลกเปลี่ยนคือกฎที่นักสู้จะทำการแฝงตัวเข้าไปในสภาพแวดล้อม สิ่งที่กลายเป็นศัตรูของชายหนุ่มในตอนนี้คือสภาพแวดล้อมทุกหนทุกแห่ง ซึ่งไม่สามารถแยกแยะระบุร่างของศัตรูได้อย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงหากผู้ที่มายืนอยู่ตรงเซี่ยเฟยตอนนี้คือบรูซ เขาก็คงจะมีวิธีการอย่างมากมายที่จะแยกตัวของศัตรูออกมาจากสภาพแวดล้อม แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยเพิ่งจะเข้าสู่ดินแดนแห่งผู้ใช้กฎได้ไม่นาน เขาจึงคิดได้เพียงแค่วิธีการที่หยาบที่สุดและง่ายดายที่สุดคือการทำลายสภาพแวดล้อมเท่านั้น
ชายหนุ่มพุ่งตัวออกไปแฝงพลังของกฎแห่งความโกลาหลเข้าใส่ภูเขาหินที่มีความสูงมากกว่า 200 เมตรในพริบตา
สิ่งที่แปลกประหลาดคือภูเขาหินลูกนั้นดูเหมือนกลับจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว เชพเพิร์ดจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ เพราะเขารู้สึกว่าเซี่ยเฟยอ่อนแอมากและถึงแม้วิชาที่ชายหนุ่มใช้จะแปลกประหลาดแต่มันก็ยังไม่สามารถนำมาใช้ในสนามรบได้จริง ๆ
แต่ในระหว่างที่เชพเพิร์ดกำลังมองเซี่ยเฟยอย่างดูถูกอยู่นั่นเอง จู่ ๆ พลังทำลายที่เขาไม่เคยเห็นมาตลอดชีวิตก็ทะลุทะลวงเข้าไปในภูเขาทั้งลูก จนทำให้โมเลกุลของภูเขาทั้งลูกกำลังสั่นสะเทือนด้วยพลังของกฎแห่งความโกลาหล
พริบตาต่อมากฎแห่งความโกลาหลก็ทำลายพันธะโมเลกุลของภูเขาออกจากกัน ซึ่งการทำลายในครั้งนี้ไม่ใช่การทำลายภูเขาหินให้แตกออกเป็นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนภูเขาหินขนาดใหญ่ให้แตกออกเป็นเศษหินชิ้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดไม่ต่างไปจากเม็ดทราย
การจู่โจมในครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังอันน่าทึ่ง เพราะมันสามารถเปลี่ยนภูเขาที่มีความสูงกว่า 200 เมตรและมีความกว้างมากกว่า 1 กิโลเมตรให้กลายเป็นฝุ่นทรายได้ในพริบตา
เมื่อภูเขาทั้งลูกไม่สามารถต้านทานพลังทำลายของเซี่ยเฟยได้ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงร่างกายของเชพเพิร์ดที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาเลย
กว่าที่เชพเพิร์ดจะสัมผัสได้ถึงกฎแห่งความโกลาหล เรื่องทุกอย่างมันก็สายเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว เพราะตอนนี้พลังของกฎแห่งความโกลาหลได้แทรกซึมเข้าไปภายในเซลล์ร่างกายของเขาแล้ว
เชพเพิร์ดพยายามสลัดร่างออกจากภูเขา และถ้าหากว่าเขาฝืนอยู่ที่เดิมต่อไปร่างกายของเขาก็คงจะได้รับบาดเจ็บหนักกว่านี้
“จะไปไหน?”
ในวินาทีเดียวกันกับที่เชพเพิร์ดหลบหนีออกจากภูเขา มันก็ได้มีเงาดำปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับดาบสามคมที่ฟาดฟันลงมาโดยมีเป้าหมายคือศีรษะของเขา
“นี่มันวางแผนเอาไว้หมดแล้ว!” เชพเพิร์ดอุทานขึ้นมาภายในใจอย่างตกตะลึง และเขาก็ได้ตระหนักว่าทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การคำนวณของศัตรูหมดแล้ว
เล่ห์สังหาร!
เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มจู่โจมโดยวิชาเล่ห์สังหารมันก็ไม่มีใครสามารถที่จะคาดเดาเส้นทางการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มได้ เพราะวิชาการเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างของผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดาอีกด้วย เพราะร่างของผู้ใช้จะบิดไปบิดมาด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติของการเคลื่อนไหวโดยทั่วไป
กำแพงโลหะ!
เชพเพิร์ดยกมือขึ้นสร้างโลหะสีดำปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขาในทันที โดยพยายามใช้พลังของกฎแห่งสสารในการต้านทานการจู่โจมของศัตรู
อย่างไรก็ตามการจู่โจมในครั้งนี้ก็คือการจู่โจมของเซี่ยเฟยอย่างเต็มกำลัง มันจึงทำให้เกราะโลหะที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมานั้นแตกสลายไปในทันที และถึงแม้ว่าเกราะโลหะนี้จะสามารถเบี่ยงเบนใบดาบของเขาออกไปได้เล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดบลัดบิวเทียสก็ฟาดฟันลงมาจนตัดแขนขวาของเชพเพิร์ดออกไปโดยตรง
พริบตาเดียวแขนขวาของเชพเพิร์ดที่ถูกตัดก็โดนสูบเลือดจนกลายเป็นเพียงแค่แขนแห้ง ๆ คล้ายกับกิ่งไม้ที่ไร้ชีวิต และการสูญเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากมันก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเทาลงมากกว่าเดิม
เทวาพิโรธ!
เชพเพิร์ดใช้นิ้วแตะจุดสำคัญหลาย ๆ จุดในร่างกายและใช้วิชาพิเศษที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้จากการกลืนกินร่างของศัตรูคนล่าสุด
ตูม!
ทันใดนั้นเองมันก็ได้มีแสงสีแดงสว่างไสวห่อหุ้มร่างของเชพเพิร์ดเอาไว้ เนื่องจากพลังชีวิตของชายคนนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงออกมากลายเป็นพลังงานที่ระเบิดออกมาจากร่างอย่างฉับพลัน
“แข็งแกร่งมาก! ตอนนี้พลังงานภายในร่างของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่าสามเท่า นั่นมันวิธีการอะไรกันแน่?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
ตูม!
เชพเพิร์ดร่อนลงมาหยุดอยู่บนพื้นห่างจากเซี่ยเฟยไปประมาณ 100 เมตร พร้อมกับนำมือซ้ายไปกุมแขนขวาที่ถูกตัดจนขาดด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าตรงตำแหน่งของภูเขาหินที่เขาทำลายลงไปได้ปรากฏพืชพรรณสีเขียวขึ้นมาแทนที่อย่างฉับพลัน และถึงแม้ว่าลำต้นส่วนบนของมันจะถูกทำลายด้วยกฎแห่งความโกลาหล แต่มันก็สามารถแตกกิ่งก้านและใบใหม่ออกมาได้เรื่อย ๆ พร้อมกับเติบโตขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ภาพการเติบโตของต้นไม้ตรงหน้าทำให้เซี่ยเฟยนึกถึงนิทานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่เกิดตรงหน้าของเขานี้ไม่ใช่นิทานปรัมปรา แต่มันคือเรื่องจริงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาแล้วจริง ๆ
ในที่สุดต้นไม้สีเขียวก็เติบโตยืนหยัดขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสูงมากกว่า 500 เมตร ก่อนที่มันจะเริ่มผลิดอกสีเหลืองสดใสทั่วทั้งกิ่งก้านที่แตกระแหงออกไปปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า
หากเซี่ยเฟยสังเกตเห็นคำที่สลักอยู่บริเวณสันเขา เขาจะสามารถรับรู้ได้ในทันทีว่าภูเขาลูกนี้คือปริศนาที่หลบซ่อนอยู่ของบรูซ แต่ในระหว่างการต่อสู้เขาไม่ได้มีเวลาสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดมากขนาดนั้น และเขาก็ได้บังเอิญทำลายภูเขาลูกนี้ลงไปจนได้มาพบกับต้นไม้ขนาดใหญ่ตอนนี้ในที่สุด
ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งเซี่ยเฟยและเชพเพิร์ดต่างก็มองไปยังกล่องสีทองเหนือศีรษะของพวกเขาพร้อม ๆ กัน และทันใดนั้นภายในแววตาของพวกเขาต่างก็เปล่งประกายอย่างตื่นเต้น
—
ณ ร้านแลกเปลี่ยนของลุงสี่ ภายในเมืองสตีลบาร์
ระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังต่อสู้กับเชพเพิร์ด ลุงสี่ก็กำลังต้อนรับหยูฮัวภายในห้องทำงานของเขาโดยทั้งสองคนกำลังนั่งดื่มน้ำชาอย่างมีความสุข ก่อนที่พนักงานคนหนึ่งจะเดินเข้ามามอบกล่องโลหะที่สวยงามให้กับทั้งคู่จำนวน 2 กล่อง
หยูฮัวเปิดกล่องโลหะทั้งสองออกด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะได้พบกับอาวุธ 2 ชิ้นที่ถูกทำขึ้นมาจากโลหะสีดำสนิท
แม้ว่าหยูฮัวกับลุงสี่จะถือว่าเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งพอสมควรในดินแดนของผู้ใช้กฎ แต่อาวุธสีดำสนิททั้งสองชิ้นนี้ก็ยังทำให้พวกเขาอดที่จะรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้
“ฉันทำธุรกิจมาหลายปีแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นอาวุธที่ทำขึ้นมาจากดาร์คเมทัล นายนี่มันเป็นพวกใจกว้างดีจริง ๆ” ลุงสี่กล่าวด้วยความตื่นเต้น
หยูฮัวเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบดาบวงพระจันทร์เล่มใหญ่ขึ้นมาพิจารณาอย่างสุขใจ
“ฉันขอให้ปรมาจารย์ที่เก่งกาจที่สุดภายในเมืองแอบสร้างมันขึ้นมาให้กับนาย ไม่เพียงแต่งานฝีมือนี้จะเป็นงานฝีมือชั้นยอดเท่านั้น แต่ฉันมั่นใจว่าความลับเรื่องนี้ไม่มีทางหลุดรอดออกไปถึงคนนอกอย่างแน่นอน” ลุงสี่กล่าว
“ขอบคุณครับลุงสี่ นี่ถ้าคนอื่นรู้ว่าอาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากดาร์คเมทัลที่หาได้ยากมาก พวกเขาก็คงจะเริ่มออกตามล่าผมด้วย” หยูฮัวกล่าวอย่างสุภาพ
“ถึงยังไงพวกเราก็เป็นคนครอบครัวเดียวกัน มีเพียงแค่นายกับฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แม้แต่ลูกน้องคนสนิทที่ถือกล่องสินค้าเข้ามาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรอยู่ในกล่อง ดังนั้นนายสบายใจได้เลยว่ามันไม่มีใครออกตามล่านายเพราะอาวุธชิ้นนี้อย่างแน่นอน” ลุงสี่กล่าวพร้อมกับโบกมือไปมาด้วยท่าทางสบาย ๆ
“ฉันรู้ว่าดาบวงพระจันทร์คืออาวุธของนาย แต่อาวุธแปลก ๆ ชิ้นนี้มันคืออะไร? เดี๋ยวนี้นายเปลี่ยนอาวุธที่ใช้แล้วงั้นเหรอ?” ลุงสี่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาพร้อมกับชี้ไปยังอาวุธอีกชิ้น
ดาบวงพระจันทร์ได้ใช้ดาร์คเมทัลผลิตขึ้นมาด้วยอัตราประมาณ 70% ส่วนดาร์คเมทัลอีก 30% ที่เหลือนั้นถูกใช้เพื่อสร้างอาวุธประหลาดตามคำขอของหยูฮัว
“ผมแค่เตรียมมันเอาไว้ให้เพื่อนตัวน้อยของผมน่ะ วิชาการต่อสู้ของเขาค่อนข้างหลากหลายมากและมันก็น่าจะเข้ากันได้ดีกับอาวุธแปลก ๆ ชิ้นนี้ที่ชื่อว่าวิญญาณหวน และมันก็เป็นอาวุธที่ถูกออกแบบขึ้นมาจะปรมาจารย์คนเดียวกันที่ออกแบบจันทร์ร้องให้กับผม” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่า ๆ ๆ ถึงนายจะอธิบายไปก็เท่านั้นแหละ ฉันไม่ค่อยสันทัดเรื่องอาวุธอยู่แล้ว” ลุงสี่หัวเราะพร้อมกับเกาศีรษะอย่างไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เขาจะกล่าวตอบมาว่า
“เพื่อนตัวน้อยของนายคนนั้นโชคดีมากเลยนะที่นายยอมลงทุนใช้เงินมากมายออกแบบอาวุธให้กับเขาโดยเฉพาะ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาจะเป็นคุณชายผู้มั่งคั่งจากตระกูลไหนถึงกลับทำให้นายยอมลงทุนได้มากขนาดนี้”
“เขาก็มีส่วนร่วมในการได้ดาร์คเมทัลชิ้นนี้มาเหมือนกัน และเขาก็กำลังขาดอาวุธที่เหมาะสมอยู่พอดี น่าเสียดายที่แผนการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นี่นายคิดจะเปลี่ยนแผนงั้นเหรอ?” ลุงสี่กล่าวถามออกมาเบา ๆ
“ก็แค่อาจจะล่ะมั้งครับ” หยูฮัวกล่าวตอบโดยไม่คิดที่จะอธิบายเพิ่มเติม
บทสนทนาระหว่างนักธุรกิจมักจะจบลงสั้น ๆ แบบนี้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าเรื่องบางอย่างมันก็ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้
หยูฮัวนำบัตรที่บรรจุคริสตัลต้นกำเนิดออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะเก็บอาวุธทั้งสองชิ้นเข้าไปในแหวนมิติ
“วิญญาณหวนกับจันทร์ร้องงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชื่อของอาวุธทั้งสองชิ้นนี้ดูคล้ายกับเครื่องดนตรีมากกว่าอาวุธ” ลุงสี่กล่าวถาม
“มันไม่ใช่เครื่องดนตรีหรอกครับแต่เป็นอาวุธสังหารที่แท้จริงต่างหาก เพียงแต่คนที่ออกแบบอาวุธค่อนข้างที่จะชอบดนตรี เขาเลยตั้งชื่อพวกมันออกมาแบบนั้น” หยูฮัวอธิบาย
“หยูฮัว”
“ครับลุงสี่”
“สมมุติว่าวิญญาณหวนชิ้นนี้ไม่ได้ไปอยู่กับเพื่อนตัวน้อยของนาย นายช่วยขายมันเป็นสมบัติประดับร้านของฉันจะได้ไหม ฉันสัญญาว่าฉันจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ” ลุงสี่พูดขึ้นมาเบา ๆ
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมค่อยให้คำตอบก็แล้วกันนะครับ”
—
แน่นอนว่าเพื่อนตัวน้อยที่หยูฮัวพูดถึงคือเซี่ยเฟยที่ร่วมกันเสี่ยงชีวิตจนได้รับดาร์คเมทัลกลับมา และถึงแม้ว่าในตอนนี้อาวุธจากดาร์คเมทัลจะถูกผลิตขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงตกอยู่ในอันตรายจากการเผชิญหน้ากับเชพเพิร์ดบนดาวเคราะห์ที่ลึกลับ
ดอกไม้สีเหลืองทองที่เบ่งบานเหนือศีรษะของพวกเขาสว่างไสวมาก และกล่องสีทองที่อยู่บนต้นก็เป็นสิ่งที่สะดุดตามากยิ่งกว่า
ทั้งสองต่างก็รู้สึกตกตะลึงไปสักพัก ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กันโดยเล็งไปที่กล่องสีทองบนท้องฟ้า
***************
แย่งมันมาให้ได้นะพี่เฟย!!