ตอนที่ 611 ทำลายภูเขา
ตอนที่ 611 ทำลายภูเขา
กฎแห่งการแลกเปลี่ยนคือการแลกเปลี่ยนร่างกายของสสารชนิดอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วกฎย่อยของกฎแห่งสสารนี้มักที่จะเอาไว้ใช้เพื่อป้องกันและตอบโต้ศัตรูกลับไปก่อนที่ศัตรูจะทันได้ระวังตัว
เพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่บลัดบิวเทียสจะเจาะเข้าไปภายในร่างของเชพเพิร์ดคนนั้น ร่างกายของฝ่ายตรงข้ามก็ถูกย้ายลงไปอยู่ในดินแล้ว มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงสัมผัสเหมือนกับดาบของเขาได้แทงลงไปในหิน
ฟุบ!
เซี่ยเฟยรีบกระโดดถอยหลังกลับไปเพื่อตั้งหลักและบังคับให้หงส์ครามคอยป้องกันเขาอย่างระมัดระวัง เพราะเขารู้ดีหากเขาพลาดถูกจู่โจมแม้แต่เพียงครั้งเดียว มันก็อาจจะตัดสินผลแพ้ชนะของการต่อสู้ในครั้งนี้ได้เลย
ไม่กี่วินาทีต่อมาหน้าผาหินห่างจากเซี่ยเฟยไปประมาณ 100 เมตรก็ยื่นออกมามีลักษณะเป็นรูปร่างของหัวมนุษย์ โดยในตอนนี้ร่างของเชพเพิร์ดได้ผสานรวมกับสภาพแวดล้อมบริเวณนี้ทั้งหมดแล้ว
“ความเร็ว, พลังจิต, กฎแห่งมิติงั้นเหรอ? ฉันไม่คิดจริง ๆ ว่าฉันจะถูกอัศวินกฎระดับนี้โจมตีได้ แต่น่าเสียดายที่หลังจากนี้แกคงจะไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว” เชพเพิร์ดกล่าวอย่างเย็นชา
“แกคือเผ่าเชพเพิร์ดสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยเสียงเข้ม
“หือ? แกเป็นพวกแกะที่ฉลาดกว่าแกะตัวอื่น ๆ ในฝูงงั้นเหรอ? ฉันชักอยากจะลิ้มรสชาติแกะฉลาด ๆ อย่างแกซะแล้วสิ” เชพเพิร์ดกล่าวพร้อมกับเลียริมฝีปากอย่างตะกละตะกลาม ขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างเป็นประกาย
“ถึงแม้แกจะหลอกคนอื่นได้แต่แกไม่มีทางหลอกฉันได้หรอก บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแกใช้กฎอะไรกันแน่?”
“อยากรู้งั้นเหรอ?”
เชพเพิร์ดพยักหน้าเล็กน้อย
“ถ้าอยากรู้ฉันก็จะบอกให้ก็ได้ กฎที่ฉันใช้คือกฎแห่งการสังหารไงล่ะ”
ฟุบ!
ชายหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันก่อนที่เขาจะปล่อยกำปั้นออกไปกระแทกเข้ากับหน้าผาโดยตรง
หมัดพายุคลั่ง!
ตูม!
ชั่วพริบตาต่อมาชายหนุ่มก็ได้รัวหมัดเข้าใส่หน้าผาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หน้าผาหินขนาดใหญ่ถูกทุบทำลายจนแตกกระจายออกไปในทันที
“เด็กสมัยนี้เป็นพวกชอบใช้แต่อารมณ์จริง ๆ หากใจร้อนเกินไประวังจะหมดแรงตายไปก่อนนะ” เชพเพิร์ดกล่าวขณะโผล่หน้าออกมาจากหน้าผาอีกฝั่งหนึ่ง
กฎแห่งการแลกเปลี่ยนเป็นพลังของกฎที่ลึกลับมาก เพราะมันทำให้ร่างของเชพเพิร์ดคนนี้ผสานเข้าไปกับภูเขาได้อย่างสมบูรณ์ มันจึงยากที่จะระบุได้ว่าภูเขาลูกไหนคือศัตรูของเขากันแน่
—
“นี่พวกมันกล้ามาหยามฉันถึงถิ่นเลยงั้นเหรอ?! พวกเชพเพิร์ดมันเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ” บรูซโยนศพของเชพเพิร์ดคนหนึ่งลงบนพื้นขณะส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ
เฝิงซินเหนียนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มีสภาพที่ค่อนข้างเหนื่อยล้า เนื่องจากระดับพลังของเขาค่อนข้างต่ำมากจนเกินไป การจัดการกับเชพเพิร์ด 4 คนจึงถือเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว
แว้บ!
ทันใดนั้นเองประตูมิติก็ถูกเปิดออกก่อนที่ร่าง 3 ร่างจะปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าบรูซและเฝิงซินเหนียน
“พี่บูลม่า! พี่บุฟฟอน! พี่บูด้า! ขอบคุณนะครับที่รีบมาช่วย” เฝิงซินเหนียนกล่าวอย่างดีใจ
“พ่อเป็นคนเรียกพวกเรามา แล้วพวกเราจะไม่มาได้ยังไง” บูลม่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชายหนุ่ม 2 คนกับหญิงสาว 1 คนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นมานี้คือลูก ๆ ของบรูซ และพวกเขาก็คือเสาหลักคนสำคัญที่ช่วยค้ำยันกลุ่มมังกรฟ้าในยุคปัจจุบัน
“รีบกระจายตัวกันออกไปได้แล้ว ตามหาศัตรูและกำจัดมันให้หมด!” บรูซออกคำสั่งด้วยความโกรธ ซึ่งในฐานะที่เขาเป็นถึง 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์ของกลุ่มมังกรฟ้า การที่เขาถูกพวกเชพเพิร์ดหยามหน้าแบบนี้ถือว่าเป็นความอัปยศในชีวิตของเขามาก
“ครับ/ค่ะ” ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสามตะโกนรับคำสั่ง ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหายตัวไปพร้อม ๆ กับเฝิงซินเหนียนที่เดินทางออกไปจัดการกับพวกเชพเพิร์ดด้วย
แต่ในทันใดนั้นเองบรูซก็หันไปทางด้านหลัง ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาคำนับด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความเคารพ
“สวัสดีครับอาจารย์”
“อือ” อีกฝ่ายตอบกลับมาเบา ๆ ก่อนที่มันจะมีร่างของชายวัยกลางคนเดินออกมาจากหลังพุ่มไม้
แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเฝิงคูชานจะเป็นเพียงแค่ชายวัยกลางคน แต่คนที่คุ้นเคยกับกลุ่มมังกรฟ้าเป็นอย่างดีจะรู้ดีว่าชายคนนี้ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มต่อจากพ่อของเขาตั้งแต่เมื่อ 80 ปีก่อนแล้ว ดังนั้นถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกเขาจะดูเหมือนชายอายุประมาณ 40 ปี แต่ความจริงอายุของเขาก็ใกล้จะครบ 200 ปีแล้ว
“พวกเชพเพิร์ดแทรกซึมเข้ามาได้ยังไง?” เฝิงคูชานเริ่มกล่าวถาม
“พวกมัน 3 คนปลอมตัวเข้ามาเป็นผู้สมัครและแอบเปิดประตูมิติให้คนที่เหลือเข้ามาภายในการประเมิน คาดการณ์ว่าตอนนี้น่าจะมีพวกมันกระจายตัวกันอยู่ไม่น้อยกว่า 100 คน” บรูซรายงานด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว เพราะเขาถือว่าเป็นผู้รับผิดชอบการประเมินครั้งนี้ และการที่เขาไม่ตรวจสอบผู้สมัครทุกคนให้ดี ๆ มันก็คือความผิดพลาดของเขาเอง
“ไม่ต้องโทษตัวเองไปหรอก ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นคนคุมสอบแต่สถานการณ์มันก็คงจะไม่แตกต่างกันหรอก” เฝิงคูชานกล่าว
“ทำไมเหรอครับ?” บรูซถามด้วยความสับสน
“เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในดินแดนของผู้ใช้กฎไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างที่นายคิด และการที่พวกเชพเพิร์ดสามารถแทรกซึมเข้ามาในการประเมินครั้งนี้ได้ มันก็เพราะมีคนคอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่ต่างหาก”
“อาจารย์กำลังจะบอกว่ามันมีหนอนอยู่ในกลุ่มมังกรฟ้างั้นเหรอครับ?”
“ฉันคิดว่าตระกูลในเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่น่าจะแอบช่วยเหลือพวกที่ถูกเนรเทศพวกนั้นหรอก เรื่องนี้น่าจะเกิดจากเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ภายในกลุ่มมังกรฟ้ามากกว่า” เฝิงคูชานกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ถึงแม้ผู้นำของกลุ่มมังกรฟ้าจะได้รับการแต่งตั้งมาจากเผ่าเทพ แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราก็ได้ครองตำแหน่งผู้นำกลุ่มมาเป็นเวลานาน ทำให้เผ่าพันธุ์อื่นภายในกลุ่มรู้สึกไม่พอใจมาเป็นเวลานานแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นการจงใจจู่โจมนายที่เป็นคนคุมสอบโดยเฉพาะ และมันก็เป็นการพยายามทำลายชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างพวกเราด้วย” เฝิงคูชานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“พวกมันไม่กล้าท้าทายอาจารย์อย่างเปิดเผยเลยคิดจะใช้วิธีการที่น่าสมเพศแบบนี้งั้นเหรอครับ?! นี่พวกมันไม่รู้หรือยังไงว่าผู้นำจากตระกูลเฝิงทุกรุ่นต่างก็ถูกคัดเลือกขึ้นมาอย่างเที่ยงธรรม แล้วพวกมันกล้าคิดว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นผู้ผูกขาดตำแหน่งผู้นำของกลุ่มมังกรฟ้าได้ยังไง”
บรูซทั้งบ่นและด่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าต่อหน้าคนอื่นเขาจะแสดงสีหน้าออกมาอย่างนิ่งเฉย แต่ต่อหน้าเฝิงคูชานที่เขาเคารพเขาก็แทบที่จะไม่เคยหลบซ่อนอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เลย
“ถึงจะบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก นายรีบแก้ไขปัญหาครั้งนี้ไปก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปหาฉันที่สำนักงานใหญ่” เฝิงคูชานกล่าว
“ได้ครับ ตอนนี้พวกเชพเพิร์ดเหลืออีกเพียงแค่ 47 คนเท่านั้น อีก 1 ชั่วโมงผมก็น่าจะจัดการเรื่องนี้ได้เรียบร้อยแล้ว” บรูซกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างหนักแน่น
เฝิงคูชานพยักหน้ารับก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในพุ่มไม้อย่างไร้ร่องรอย
—
เล่ห์กายา!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนามแหลมที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ชายหนุ่มก็พยายามบิดร่างไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อหลบหลีกการโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวที่ดูผิดธรรมชาติ
หน้าผากของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเหมือนกับการจู่โจมโดยฝ่ายเดียว เพราะถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามโต้ตอบไปหลายครั้ง แต่สิ่งที่เขาสามารถทำลายลงไปได้ก็มีเพียงแต่หน้าผาของภูเขาเท่านั้น
“หลบได้ดีนี่!” เชพเพิร์ดโผล่หัวออกมาจากหน้าผาและปรบมือให้กับเซี่ยเฟย
“ตอนนี้ฉันยังย่อยร่างของมนุษย์ที่เพิ่งกินเข้าไปไม่หมดเลย เอาเป็นว่าฉันจะใช้ช่วงเวลานี้เล่นสนุกกับนายไปพราง ๆ ก่อนก็แล้วกัน”
เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถระบุตำแหน่งของศัตรูได้แบบนี้
“รีบหาทางหนีเถอะ! ตอนนี้ทั่วทั้งหุบเขาคงจะมีแต่พวกมันหมดแล้ว นายไม่มีทางทุบภูเขาทุกลูกลงได้หรอก” อันธกล่าวอย่างกังวล
“ใครเป็นคนบอกว่าฉันทำไม่ได้! อะไรที่ลองทำได้ก็ลองทำดูก่อน!!” เซี่ยเฟยพูดเสียงแข็ง
ฟุบ!
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ไม่ได้สนใจที่จะทำการต่อสู้อีกต่อไปแล้ววิ่งออกไปยังทิศทางหนึ่งคล้ายกับว่าเขาต้องการที่จะหลบหนี
เชพเพิร์ดที่ซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเคลื่อนที่ติดตามชายหนุ่มไปอย่างใกล้ชิด
แม้ว่าเชพเพิร์ดจะไม่ได้มีพลังพิเศษสายความเร็วเหมือนกับเซี่ยเฟย แต่เขาก็สามารถที่จะย้ายร่างไปตามสสารได้ตามที่เขาต้องการ ดังนั้นไม่ว่าเซี่ยเฟยจะเคลื่อนที่ไปทางไหนแต่เขาก็สามารถที่จะติดตามชายหนุ่มไปได้ทุกที่
ตูม!
เชพเพิร์ดเริ่มควบคุมเศษหินเป็นจำนวนมากให้ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าอย่างต่อเนื่อง
เซี่ยเฟยยังคงใช้เล่ห์กายาเพื่อหลบหลีกอีกครั้ง แต่ในคราวนี้เขาไม่ตอบโต้กลับและยังคงวิ่งตรงต่อไปอย่างมุ่งมั่น
หลังจากนั้นไม่นานพื้นที่ทั้งสองด้านของหุบเขาก็เปิดกว้าง ส่วนหมอกหนาทึบก็ได้หายไปเช่นกันเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่ไม่มีหมอกขาวมาขวางกั้นอีกต่อไป
ในที่สุดชายหนุ่มก็เคลื่อนที่ไปจนถึงเขาหินลูกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา ก่อนที่เขาจะยืนหยัดอยู่นิ่ง ๆ และมองไปยังพื้นที่โดยรอบอย่างระมัดระวัง
อันธไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังวางแผนอะไรไว้แต่เมื่อพิจารณาจากแววตาของชายหนุ่มแล้ว ตอนนี้มันคงจะถึงเวลาที่เขาจะโต้ตอบอีกฝ่ายกลับแล้ว
คลื่น!
หนามแหลมที่มีความยาวมากกว่า 10 เมตรเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นใต้เท้าของเซี่ยเฟยอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะกระโดดหนีขึ้นไปบนฟ้าในระหว่างที่พื้นดินได้กลายเป็นพื้นทรายอย่างฉับพลัน และถ้าหากว่าเขาพลาดเหยียบเท้าลงไปในทรายเมื่อไหร่นั้น เท้าของเขาก็คงจะจมลงไปในพื้นทรายอย่างแน่นอน
เปลี่ยน!
เซี่ยเฟยเปลี่ยนดาบดราก้อนสเกลให้กลายเป็นใบดาบบินเรียงตัวกันเป็นแถว ก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นไปยืนบนอากาศ
คลื่น!
แขนขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากทะเลทราย ก่อนที่มันจะมุ่งหน้าพยายามคว้าร่างของเซี่ยเฟยเอาไว้
“ระวังตัวด้วย! ตอนนี้เขาได้หลอมรวมวัตถุทุกอย่างเข้ากับร่างกาย กฎแห่งการแลกเปลี่ยนของเขาได้ทำลายขีดจำกัดทางด้านร่างกายไปแล้ว” โอโร่กล่าวอย่างจริงจัง
เซี่ยเฟยบิดตัวออกไปยังด้านข้างอย่างว่องไว เพื่อบังคับให้ร่างกายลอดผ่านระหว่างนิ้วทั้งสองของมือทรายขนาดใหญ่ไป
ตูม!
เมื่อมือทรายขนาดใหญ่คว้าเอาไว้ได้เพียงแค่อากาศ มันก็แตกสลายกลายเป็นพื้นทรายอีกครั้งคล้ายกับว่ามันไม่เคยก่อตัวเป็นรูปร่างของมือมาก่อนเลย
ในเวลาเดียวกันร่างกายท่อนบนของเชพเพิร์ดก็ยื่นออกมาเหนือผืนทราย ก่อนที่เขาจะมองไปยังระยะไกลด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อย
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วสินะ” เชพเพิร์ดพึมพำขึ้นมาเบา ๆ จากนั้นสีหน้าขี้เล่นของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสีหน้าที่จริงจัง
เซี่ยเฟยไม่รู้ว่าตอนนี้กลุ่มมังกรฟ้าเริ่มกวาดล้างพวกเชพเพิร์ดแล้ว และอันที่จริงเขาก็ควรจะดีใจที่ไม่ได้ตัดสินใจวิ่งกลับไปยังจุดสตาร์ท เพราะพื้นที่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยเชพเพิร์ดมากกว่าหนึ่งคน และถ้าหากว่าเขาต้องตกอยู่ในวงล้อมของคนพวกนั้น ผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นมันก็คงจะเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
“แกอยากจะเล่นสนุกมันก็เรื่องของแก แต่ฉันทนมามากพอแล้ว!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่เขาจะกระจายใบดาบดราก้อนสเกลและเริ่มเร่งความเร็ว
เชพเพิร์ดทำได้เพียงแต่สายหัวและชื่นชมความดื้อรั้นของเซี่ยเฟย ท้ายที่สุดร่างกายของเขาก็กลมกลืนเข้าไปกับสภาพแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเซี่ยเฟยจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่มีทางทำร้ายเขาได้อย่างแน่นอน
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
“ห๊ะ!” เชพเพิร์ดอุทานด้วยความตกใจเมื่อได้พบว่าจุดที่เซี่ยเฟยเลือกจู่โจมไม่ใช่ร่างของเขาที่เป็นทะเลทรายแต่เป็นเนินเขาที่อยู่ห่างออกไป
“แกกลืนร่างเข้าไปกับสภาพแวดล้อมได้แล้วจะทำไม?! ถ้าหากว่าฉันทำลายสภาพแวดล้อมบริเวณนี้จนหมดก็มาลองดูกันว่าแกจะสามารถมุดหัวหนีไปอยู่ที่ไหนได้อีก!!” เซี่ยเฟยร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ตูม ๆ ๆ ๆ ๆ
ชายหนุ่มจู่โจมออกไปอย่างต่อเนื่องและเป้าหมายของการจู่โจมก็คือเขาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา
***************