บทที่ 89 องค์กรชีลด์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 89 องค์กรชีลด์
แดนนี่จึงฉวยโอกาสนี้รวบรวมพลังทั้งหมดของไอรอนฟิสต์ไปยังจุดที่อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ เขาไม่ลังเลและโจมตีใส่จุดที่เทพเมฆาอัคคีโดนกระสุนทันที
พลังหมัดของไอรอนฟิสต์ทรงพลังมาก จนไรอันเกือบจะไม่สามารถรักษาร่างแยกที่เขาคงไว้ที่เทพเมฆาอัคคีได้เลย
...
"ไม่มีสิ่งใดเป็นสัจธรรม สรรพสิ่งล้วนกระทำได้"
ที่ชั้นหนึ่งของร้านอาหาร เวสลีย์ที่ล้มลงได้ยิงกระสุนนัดสุดท้ายของเขาออกมา
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเทพเมฆาอัคคี ก็ปรากฏรอยยิ้มบนริมฝีปากของเวสลีย์ จากนั้นแขนที่ยื่นออกมาของเขาก็ตกลงพื้น
ความเงียบพลันปรากฏขึ้น
ใบหน้าของแมตต์พลันเปลี่ยนไป เพราะเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจสุดท้ายของเวสลีย์ นิ้วที่จับไม้นำทางในมือของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด
[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +1125]
เทพเมฆาอัคคีจัจุดที่เขาถูกกระสุนยิงและหมัดของไอรอนฟิสต์ เพื่อซ่อนความจริงที่ว่าเขาไม่ได้มีเลือดออก เขาก้าวถอยหลังไปหลายก้าวและคุกเข่าลงข้างหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "ถ้าไม่ใช่เพราะบาดแผลจากการเผชิญหน้าครั้งก่อนและบาดแผลที่ตัวตนลึกลับได้กดดันให้ข้ารับคำเชิญ พวกแกคงทำร้ายฉันไม่ได้หรอก"
"ตัวตนลึกลับ?"
หลังจากที่เทพเมฆาอัคคีพูดแบบนั้น ไรอันก็ถามออกมาทันที "เป็นใครกัน? เขาบอกให้แกทำอะไร?!"
"อยากรู้งั้นเหรอ?" เมื่อมองไปยังไรอันที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม เทพเมฆาอัคคีก็ยิ้ม "ฉันไม่บอกพวกแกหรอก ฮ่าๆๆ เพราะฉันบอกพวกเผิงไหลไปแล้ว แค่ก แค่ก... ฉันแน่ใจว่าพวกแกจะได้พบพวกเขาเร็วๆ นี้แน่..."
ขณะที่เทพเมฆาอัคคีพูด พลังชีวิตของเขาก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ
ทว่าในชั่วพริบตาถัดมา ดวงตาของเทพเมฆาอัคคีที่ถูกปิดก็เปิดออกและเกิดแสงเปล่งประกายในดวงตาทั้งสองข้าง เขาตะโกนออกมาพร้อมรอยยิ้มที่แสยะกว้าง
"เข้าใจแล้ว ในที่สุดฉันก็ตระหนักรู้แล้ว!"
เขาไม่สนใจสิ่งรอบข้างอีกต่อไป เทพเมฆาอัคคีนั่งขัดสมาธิทันที เสียงสวดมนต์ดังขึ้น รูปปั้นพระพุทธรูปสีทองปรากฏขึ้นด้านหลังเขาที่กำลังยิ้มอยู่
"นี่สินะคือกระบวนท่าที่ห้าของฝ่ามือยูไล แสงธรรมส่องหล้า น่าเสียดายที่ฉันตระหนักรู้มันช้าเกินไป"
เมื่อกล่าวจบไป หัวของเทพเมฆาอัคคีที่ชูขึ้นก็ตกลงมา พระพุทธรูปทองคำที่ปรากฏด้านหลังของเขาก็เลือนหายเช่นกัน
[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +500]
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +650]
[คะแนนชื่อเสียงจากแดนนี่ แรนด์ +750]
[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +635]
[คะแนนชื่อเสียงจากมาดามเกา +890]
...
ในที่สุดการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง
ดีเฟนเดอร์สไม่ได้มีความรู้สึกสุขใจนัก
เพราะพวกเขาเสียสละเพื่อนมากเกินไปในชัยชนะครั้งนี้ อาซิง เวสลีย์...
ในงานศพของเวสลีย์ ดีเฟนเดอร์สทุกคนดูเศร้าใจกันมาก
"เวสลีย์ นายเป็นฮีโร่ตัวจริงเลยล่ะ" ลุคจ้องไปที่หลุมฝังศพตรงหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ส่วนเจสซิก้าเงียบไปโดยไม่พูดอะไร
เจสซิก้าถือขวดในมือ ไม่ได้เทลงในปากแต่เทลงบนหลุมศพของเวสลีย์ "นี่สำหรับนาย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายชอบดื่มหรือเปล่าก็เถอะ"
ตอนนี้ความรู้สึกของไรอันค่อนข้างแปรปรวน
เขารู้ดีว่าโลงศพของเวสลีย์ว่างเปล่า แต่เขาก็รู้สึกเศร้าใจคล้อยไปตามทุกคนแล้ว
“ปรมาจารย์ยิป” เมื่อมานั่งข้างไรอันพร้อมกับไม้นำทางในมือ แมตต์ก็ถามไรอัน "หลังจากนี้คุณวางแผนที่จะทำอะไรต่อเหรอครับ?"
คำถามของเขาแมตต์ได้ถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา
ไรอันขมวดคิ้วและนำสิ่งที่เขาเตรียมไว้ในใจออกมา "หลังจากเรื่องนี้จบลง พูดตามตรงฉันคงจะต้องกลับไปยังเผิงไหล ทว่าคำพูดสุดท้ายที่เทพเมฆาอัคคีพูดมาทำให้ฉันกังวล เพื่อความปลอดภัยของเผิงไหล ฉันคงจะอยู่ที่นิวยอร์กอีกสักพักเพื่อหาคำตอบ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แมตต์ก็พยักหน้า "นั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว"
แมตต์ก็กลัวชายลึกลับที่เทพเมฆาอัคคีกล่าวถึงไม่แพ้กัน
...
ณ ฐานปฏิบัติการณ์องค์กรชีลด์
"เข้ามา"
นิคมองลงไปที่ข้อมูลตรงหน้าอย่างเงียบๆ เมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้น
"ดูเหมือนว่าคุณจะเฉื่อยชาไปหน่อยนะ"
นาตาชา โรมานอฟฟ์เปิดประตูและก้าวไปหาผู้อำนวยการที่ดูกำลังสับสนอยู่
"ไม่เลย ผมไม่เคยเฉื่อยช้าสักหน่อย" เมื่อเงยหน้าขึ้นมองนาตาชาด้วยดวงตาข้าวเดียว ฟิวรี่ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "มีภัยคุกคามมากมายที่เราไม่รู้จัก บางอย่างก็เป็นฝีมือของเราเอง"
"คุณหมายถึงวสัตว์ประหลาดร่างสีเขียวที่กองทัพสร้างขึ้นเหรอ?"
จากนั้นนาตาชาก็ถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
ฮัลค์ได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ให้นิวยอร์ก แม้ว่ากองทัพจะพยายามอย่างดีที่สุดในการปราบปรามด้วยวิธีการลับต่างๆ แต่องค์กรชีลด์ก็มีแหล่งข้อมูลที่พอจะทราบข่าวเรื่องนี้ได้ เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มซ่อนอยู่ในกองทัพได้สืบข่าวทั่วทั้งนิวยอร์กมาให้เขา
ด้วยเหตุนี้ แผ่นรายชื่อของฮัลค์จึงปรากฏขึ้นบนโต๊ะของฟิวรี่
เขาไม่ตอบคำถามของนาตาชาโดยตรง ฟิวรี่ผลักข้อมูลในมือของเขาออกมาแทน "ดูเหมือนว่าจะมีคนบางคนที่ซ่อนตัวมานานหลายทศวรรษปรากฏตัวออกมา"
นาตาชาก้มลงมอง เห็นรูปถ่ายมากมายตรงหน้า เมื่อพลิกดูรูปถ่ายที่ฟิวรี่ดันมา นาตาชาก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร
"พวกนี้คือ?"
"ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาโดยเจ้าหน้าที่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนนี้ เมื่อยื่นมือออกไป ฟิวรี่ก็เลือกรูปเบลอๆ สองสามรูปขึ้นมา เขาชี้ไปที่ถนนที่พังยับเยินและร้านอาหารจีนที่เกือบจะถูกตัดครึ่ง "ที่นี่คือย่านไชน่าทาวน์ของแมนฮัตตันตอนล่าง สภาพของมันได้รับความเสียหายอย่างมาก นี่เป็นภาพแรกที่เจ้าหน้าที่ของเราถ่ายได้หลังจากที่พวกเขาสังเกตเห็นเหตุการณ์"
ขณะที่เขาพูด ฟิวรี่ก็พลิกข้อมูลตรงหน้าเขาไปยังอีกหน้าหนึ่ง "จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุ ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ที่อยู่ในไชน่าทาวน์ในวันนั้นต่างบอกว่าความเสียหายมาจากการต่อสู้"
"การต่อสู้?"
นาตาชาเริ่มนำภาพแต่ละแผ่นมาปะติดปะต่อกัน มันยากที่จะจินตนาการได้เลยว่าการต่อสู้แบบไหนถึงทำให้เกิดการทำลายล้างเช่นนี้ขึ้นได้ หากใช้อาวุธสงคราม มันก็คงจะสร้างความเสียหายเหมือนที่เห็นในภาพของไชน่าทาวน์ในตอนนี้ได้
ทว่าหากบอกว่ามันเป็นเพียงการต่อสู้ นาตาชาก็จินตนาการถึงภาพที่ไม่ใช่ระเบิดไม่ออกเลย
เมื่อเปลี่ยนข้อมูลไปยังหน้าถัดไป ฟิวรี่ก็ชี้ไปที่ชายชาวเอเชียในชุดลำลองจีนในภาพ "เขาเป็นหนึ่งในคนที่เกี่ยวข้อง"