บทที่ 30 สถานการณ์ในวัง
เฟิ่งหยินซวงจำได้ว่าในชาติที่แล้วหลังงานแต่งของนางกับหนานหยูเทียนไม่กี่วันก็มีงานเลี้ยงขึ้นในวังแบบนี้ และมันก็เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของสนมซีอานเช่นกัน
นางไม่มีวันลืมเหตุการณ์น่าตกใจที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงในวันนั้นได้
สนมซีอานพี่สาวสุดที่รักของนางถูกกล่าวหาว่าลอบปลงพระชนม์องค์ชายใหญ่ จากนั้นฮ่องเต้ก็สั่งถอดยศนางและส่งตัวนางไปยังตำหนักเย็น
เรื่องนี้ทำให้นางเศร้าเสียใจอย่างมาก แม้ว่าปู่ของนางจะพยายามยื่นอุทธรณ์เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องภายในของราชวงศ์ไม่ใช่เรื่องของราชสำนัก หากท่านยื่นมือเข้าไปยุ่งมากเกินไป ผลเสียก็จะตกอยู่ที่ตัวท่านเอง
องค์ชายใหญ่เป็นองค์ชายรัชทายาทของฮ่องเต้ทั้งยังเป็นโอรสที่พระองค์รักมากที่สุด
เพราะองค์ชายใหญ่เป็นบุตรคนเดียวที่เกิดจากองค์ราชินีผู้ล่วงลับ อันเป็นรักแรกของท่าน ต่อให้เขาจะไม่ใช่องค์ชายที่โดดเด่นหรือเหมาะสมกับตำแหน่งฮ่องเต้ในอนาคตที่สุด แต่เขาคือองค์ชายที่ถูกวางตัวไว้แล้ว ฮ่องเต้จึงโกรธมากที่เขาโดนวางยาพิษจนตาย
ดังนั้น ข้อหาที่สนมซีอานถูกตัดสินจึงเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจยอมความได้ และที่นางถูกนำไปขังที่ตำหนักเย็นก็เพราะฮ่องเต้ยังถือนางเป็นคนโปรดอยู่ มิเช่นนั้นนางคงโดนสั่งประหารไปแล้ว
แน่นอนว่าเฟิ่งหยินซวงไม่มีทางเชื่อว่าสนมซีอานจะทำสิ่งเลวร้ายเช่นนั้นได้ นางเป็นคนอ่อนโยน ใจดี และไม่เคยขัดแย้งกับใคร นางไม่สามารถเป็นคนโหดเหี้ยมขนาดนั้นได้อย่างแน่นอน
ว่ากันตามจริง องค์ชายใหญ่ถือเป็นภัยต่อนางสนมคนอื่น ๆ เพราะพวกนางล้วนมีบุตรชายกันหมด และแต่ละนางก็คงหวังให้ลูกชายของตนได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้
แต่กับสนมซีอานผู้มีบุตรสาววัยห้าขวบเพียงคนเดียว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่นางจะทำเช่นนี้ได้เลย
ในตอนนั้น นางรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสนมหลี่และองค์ชายสาม เพราะนอกจากพวกเขาแล้ว ใครเล่าจะมีจิตใจที่ชั่วร้ายเช่นนี้ได้
พวกเขาวางแผนฆ่าองค์ชายใหญ่แล้วกำจัดนางสนมซีอานภายในครั้งเดียว ต้องยอมรับว่าแผนการนั้นฉลาดจริง ๆ
ดังนั้นในงานเลี้ยงวันนี้ นอกเหนือจากการได้กู้หน้าให้เฉินหยิงแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือช่วยสนมซีอานให้รอดพ้นจากแผนการชั่วร้ายนี้ และเปิดหน้าฆาตกรตัวจริงที่เป็นผู้วางยาให้ได้
...
และแล้วเวลางานก็มาถึง
ซูมันรูมาที่บ้านตระกูลเฟิ่งตั้งแต่เช้า ไม่นานนัก เฉินหยิงก็เดินทางมาสมทบ
การที่เฟิ่งหยินซวงจะแต่งตัวสวยและดูสง่างามนั้น ด้วยชาติตระกูลของนางจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่นางจะดูโดดเด่น แต่กับเฉินหยิง พ่อของนางเป็นเพียงข้าราชการระดับไม่สูงนัก แต่นางกลับสะสวยและดูสง่างามมาก แม้จะไม่ได้แต่งตัวหรูหรา แต่นางก็ดึงดูดสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนั่นทำให้ซูมันรูรู้สึกริษยา เพราะรูปร่างหน้าตาของนางไม่ได้สวยโดดเด่น และถ้าไม่มีเสื้อผ้าเครื่องประดับที่เฟิ่งหยินซวงให้นางไว้ นางก็ไม่มีอะไรดึงดูดสายตาใครได้ และนางก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเฟิ่งหยินซวงถึงต้องพานางเข้าวังด้วย
หลังจากเดินทางถึงพระราชวัง ขณะที่ขบวนเสลี่ยงกำลังหยุดที่หน้าประตู เฟิ่งหยินซวงก็เห็นว่าหนานหยูเทียนกำลังยืนยิ้มรออยู่ ยิ่งเขาได้เห็นว่านางแต่งตัวสวยงามในวันนี้ เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินไปหานาง
“ทำความเคารพองค์ชายสามเพคะ” เฟิ่งหยินซวงเฉินหยิงและซูมันรู โค้งคำนับในทันที
“ซวงเอ๋อร์ ข้าคิดไว้แล้วเจ้าจะต้องมาร่วมงานวันนี้ นางสนมซีอานรักและเอ็นดูเจ้ามาเสมอ เจ้าจะไม่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของนางได้อย่างไร” หนานหยูเทียนมองนางด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
เฟิ่งหยินซวงจำประโยคนี้ของเขาได้ดี เพราะในชาติที่แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง สนมซีอานพี่สาวสุดที่รักของนางก็ถูกใส่ร้ายและส่งตัวไปยังตำหนักเย็น
เพราะฉะนั้น วันนี้นางต้องหาทางพลิกสถานการณ์และไม่ปล่อยให้ผิดพลาดซ้ำรอยอดีตได้อีก
“ใช่เพคะ ข้าเองก็ไม่คิดว่าองค์ชายสามจะมาด้วย” นางหลบมือของเขาที่ยื่นมาช่วยพยุงนางลงจากเกี้ยวแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตัวนางเอง
ครั้งนี้นางไม่ต้องการไหลตามน้ำของหนานหยูเทียน เพราะนางสัมผัสได้ว่ามีสายตาเย็นชาคู่หนึ่งกำลังจดจ้องมาอย่างตั้งใจ
ใช่แล้ว คน ๆ นั้นคือ ‘สามีกำมะลอ’ ของนาง ร่างสูงโปร่งที่สวมเสื้อคลุมแขนกว้างสีขาวและหน้ากากหมาป่ายืนกอดอกมองนางอยู่ไม่ไกลนัก
น่าแปลกใจไม่น้อยที่คนที่มีนิสัยเก็บตัวและไม่ชอบการมีปฏิสัมพันธ์ จะโผล่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ด้วย ทำไมเขาถึงสนใจที่จะมาที่นี่? นางสามารถคิดเข้าข้างตัวเองว่าเป็นเพราะนางได้หรือไม่?
เฟิ่งหยินซวงลอบถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดไร้สาระ
แม้ว่านางจะยอมเป็นผู้หญิงของเขา แต่นางก็ยังต้องระแวดระวังตัวเองอยู่เสมอเพราะการขยับเพียงครั้งเดียวของเขา ก็อาจจะปลิดชีวิตนางได้เลย
หนานหยูเทียนมองตามสายตาของนางไปจนได้เห็นว่าคนที่นางมองอยู่คือใครเขาก็หน้าเสียในทันที ให้ตายเถอะ ทำไมเป็นเขาอีกแล้ว!
“ซวงเอ๋อร์ ข้าขอตัวไปคุมงานด้านในก่อน เชิญพวกเจ้าตามสบาย” พูดจบเขาก็รีบเดินจากไป
ด้านจุนโมเชน เมื่อเห็นว่าหนานหยูเทียนเดินจากไปแล้วเขาก็ไม่ได้มาเข้ามายุ่มย่ามอะไรอีก ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เฟิ่งหยินซวงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่โล่งได้ไม่นานเสียงเย้ยหยันของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“อุ๊ยตาย! ข้าคิดอยู่แล้วเชียวว่าใคร ที่แท้ก็สองนางเอกที่เกี้ยวแต่งงานสลับกันนี่เอง การได้เห็นนางทั้งคู่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ”
เฉินชูเซียน บุตรสาวแห่งคฤหาสน์เฉินกั่วกง เดินเข้ามาหานางพร้อมกับสาวใช้จำนวนหลายคน และทุกคนก็มองพวกนางด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างมาก
ซูมันรูแอบหัวเราะอยู่ในใจทันที ผิดกับเฉินหยิงที่รีบยกผ้าเช็ดหน้าในมือขึ้นบังใบหน้าของตัวเองไว้ครึ่งหนึ่ง ก่อนจะรีบหันหน้าหนี
นางโกรธมากที่เฉินชูเซียนพูดกับนางแบบนี้ และมันไม่ใช่ครั้งแรกที่นางโดนกระทำ
เฟิ่งหยินซวงตวัดสายตามองคนมาใหม่อย่างไม่พอใจ
คอยดูเถิด…นางจะเอาคืนคนพวกนี้ในสักวัน!