บทที่ 29 การป้องกัน
เมื่อซูมันรูมาถึงบ้านตระกูลเฟิ่ง นางก็เห็นเฟิ่งหยินซวงกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ห้องรับแขก อีกทั้งพวกนางยังดูสนิทสนมกันราวกับซ้อนทับภาพนางในอดีตเลยทีเดียว
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ทำไมถึงมานั่งกับพี่สาวของนางได้?
คิดได้แบบนั้นดวงตาของซูมันรูก็ฉายแววริษยา เฟิ่งหยินซวงควรมีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับนางไม่ใช่หรือ? แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร? ทำไมจู่ ๆ นางก็มาสนิทสนมกับพี่สาวของนางได้?
หลังจากเฟิ่งหยินซวงเห็นซูมันรูนางก็หันไปขยิบตาให้เฉินหยิงพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะพากันเดินไปหานาง
“น้องเฉิน นี่คือแม่นางซูที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟัง แม่นางซูนี่คือเฉินหยิง ลูกสาวของเฉินเส้าเจียน รู้จักกันไว้สิ”
ลูกสาวของเฉินเส้าเจียน? นางคือผู้หญิงที่สลับเกี้ยวกับเฟิ่งหยินซวงไม่ใช่หรือ?
ซูมันรูรู้สึกว่าพวกนางควรจะมีความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดใจต่อกัน แต่ทำไมตอนนี้ พวกนางถึงดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากกว่า
“สวัสดีแม่นางเฉิน” ซูมันรูโค้งคำนับ
“สวัสดีแม่นางซู” เฉินหยิงคำนับกลับ “ท่านพี่หยินซวงเพิ่งพูดถึงท่านให้ข้าฟัง ท่านสวยและเรียบร้อยอ่อนหวานเหมือนที่นางว่าไว้จริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่องค์ชายสามจะชอบท่านจนจะพาท่านเข้าวังด้วย”
เมื่อแม่นางเฉินพูดถึงเรื่องนี้ ซูมันรูก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย นางมองไปที่เฟิ่งหยินซวงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบว่านางกำลังยกยิ้มให้ด้วยสีหน้าปกติ
“ที่ข้าโชคดีได้เข้าวังแบบนี้ได้ ก็เพราะบารมีของท่านพี่หยินซวงนั่นแหละ ในอนาคต เมื่อท่านพี่และองค์ชายสามแต่งงานกัน ข้าก็จะได้อยู่กับพี่สาวของข้าและสามารถดูแลนางได้ตลอดเวลา”
“ท่านช่างใส่ใจท่านพี่หยินซวงดีจริง ๆ ข้าชักจะอิจฉาท่านพี่แล้วที่มีน้องสาวที่ดีแบบนี้”
เฉินหยิงเป็นคนฉลาด เพียงนางได้พูดคุยกับซูมันรูไม่กี่ประโยคนางก็รับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแบบไหน
“มะรืนนี้จะมีงานเลี้ยงวันเกิดของสนมซีอานในวัง ข้าเลยจะพาแม่นางเฉินไปด้วย ข้าคิดว่าเจ้ายังไม่แข็งแรงจึงอยากให้เจ้าได้พักก่อน แต่ดูเหมือนตอนนี้เจ้าจะดีขึ้นแล้ว” เฟิ่งหยินซวงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณท่านพี่ที่นึกถึงข้า ตอนนี้ข้าหายเป็นปกติดีแล้ว” ซูมันรูเดินไปยืนข้างเฟิ่งหยินซวงแล้วจับแขนของนางอย่างสนิทสนม รู้สึกได้ว่านางค่อนข้างต่อต้านเฉินหยิงอยู่เล็กน้อย
“ข้าเคยอยู่ในงานเลี้ยงกับท่านพี่มาทุกงาน ข้ากังวลว่าหากข้าไม่ได้อยู่กับท่านพี่ แล้วท่านพี่จะไม่มีใครดูแล ท่านไม่ต้องกังวลว่าข้าจะยังไม่หายดีเลย แม้ว่าข้าจะยังป่วยอยู่ข้าก็อยากไปดูแลท่านพี่ของข้า”
คำพูดของซูมันรูนั้นน่าชื่นชมเสมอ ใบหน้าของนางดูบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด เพราะนางรู้สึกเหมือนมีคนกำลังจะมาแย่งของมีค่าของนางไป
“แม่นางซูช่างเป็นห่วงข้าจริง ๆ เอาล่ะ มะรืนนี้เราทั้งสามจะไปงานเลี้ยงด้วยกัน น้องเฉิน เจ้ากลับไปเตรียมตัวเถิด แล้วเจอกันวันงาน”
เฉินหยิงพยักหน้า ก่อนจะโค้งคำนับแล้วลากลับบ้านไป
หลังจากที่แม่นางเฉินออกไป ซูมันรูก็เริ่มพูดบางอย่างเพื่อหว่านความขัดแย้งในทันที
“ท่านพี่ ทำไมท่านพี่ถึงอยู่กับนางได้? ก่อนหน้านี้ท่านสองคนนั่งเกี้ยวสลับกัน และตอนนี้นางก็กลายเป็นผู้หญิงที่องค์ชายสามและกษัตริย์แห่งชิงผิงไม่ต้องการ ทั้งชื่อเสียงของนางก็พังย่อยยับ หากท่านพี่ไปสนิทสนมกับนาง ท่านพี่จะโดนคนซุบซิบนินทาเอาได้นะเจ้าคะ”
“แล้วเจ้าคิดว่าชื่อเสียงของข้าตอนนี้มันดีไปกว่านางหรือ?” เฟิ่งหยินซวงพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
ซูมันรูมีสีหน้าตกใจทันทีแล้วรีบพูดอย่างหวาดกลัว
“ท่านพี่ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าเพียงเป็นห่วงท่าน แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ในใจ ที่องค์ชายสามและกษัตริย์ชิงผิงไม่ต้องการนางก็เพราะทั้งคู่ชอบท่านพี่ แล้วอย่างนี้นางจะไม่นึกโกรธแค้นหรืออับอายจากเรื่องนี้หรือ?”
ความสามารถของซูมันรูในการหว่านความขัดแย้งนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก หากเป็นนางคนก่อน นางคงจะเชื่อคำยุยงของนางในทันที แต่ตอนนี้นางได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของนางแล้ว นางจะเชื่อคำพูดของนางได้อย่างไร?
“ข้ารู้ว่าข้าต้องระวังตัว แต่แม่นางเฉินก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและข้าเชื่อว่านางจะไม่ทำอะไรเพื่อให้ร้ายข้า การที่ข้าได้มาเจอกับนางคงเป็นความต้องการของสวรรค์ ในอนาคตข้าก็อาจจะมีน้องสาวที่ดีเพิ่มขึ้นอีกคนก็ได้ เจ้าว่าดีหรือไม่?”
ไม่ ไม่ดีอย่างแน่นอน!
ก่อนหน้านี้เฟิ่งหยินซวงทำดีกับนางเพียงคนเดียวมาตลอด แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าความไว้ใจของนางที่มีต่อนางเริ่มจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ต้นเหตุก็เป็นเพราะแม่นางเฉินคนนี้นี่เอง
ซูมันรูเป็นคนใจแคบและขี้หวง ไม่ว่าจะเป็นความรักขององค์ชายสามหรือความไว้วางใจของเฟิ่งหยินซวง ทั้งหมดก็จะต้องมอบให้นางเพียงคนเดียว!
“ข้าแค่กังวลว่าท่านพี่ของข้าจะถูกหลอก ในเมื่อท่านพี่คิดว่านางเป็นผู้หญิงที่ดี ข้าก็จะชอบนางด้วยเช่นกัน” ซูมันรูได้แต่ยิ้มอย่างไม่เต็มใจ
นางนั่งเล่นต่ออีกสักพักก็เริ่มรู้สึกคันยุบยิบขึ้นมาตรงแขนอีกรอบ ซึ่งมันทำให้นางไม่สบายตัวและเริ่มมีท่าทางแปลก ๆ โดยไม่รู้ตัว
เฟิ่งหยินซวงเมื่อเห็นอาการของซูมันรูนางก็แสร้งถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงทันที
“แม่นางซู เจ้าเป็นอะไร? หากเจ้าไม่สบาย เจ้าก็ควรกลับไปพักผ่อนก่อน ส่วนงานเลี้ยงในวันมะรืน ข้าจะไปกับแม่นางเฉินเอง ไม่ว่ายังไงร่างกายของเจ้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ซูมันรูที่เริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็พยายามอดกลั้นไว้
“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ความรู้สึกคันก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
“เจ้าถูกพ่อตีจนเป็นแผลทั้งยังเพิ่งตกเรือมา อาการไข้ของเจ้าก็เพิ่งจะดีขึ้น แผลของเจ้าอาจจะกำลังอักเสบขึ้นมาอีกรอบก็ได้ เจ้าต้องทายาที่ข้าให้ไปบ่อย ๆ แผลเจ้าจะได้ไม่ติดเชื้อ”
น้ำเสียงของเฟิ่งหยินซวงดูห่วงใยนางเป็นอย่างมาก ดวงตาของนางฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
ใช่ มันต้องเป็นเพราะสาเหตุนี้แน่ ที่แผลของนางมีอาการคันยุบยิบขึ้นมาคงเป็นเพราะติดเชื้อจากการตกน้ำ แต่ทั้งหมดก็เป็นเพราะนางไม่ใช่หรือที่ทำ
“ใช่แล้วท่านพี่ หากข้าไม่ได้ครีมบัวหิมะของท่านพี่ แผลของข้าคงจะอักเสบกว่านี้แน่ ๆ แต่ข้าก็รู้สึกว่ามัน…” ซูมันรูแสร้งยกมือถูกแขนไปมา
เฟิ่งหยินซวงเข้าใจความหมายของนางได้ในทันที นางหันไปสั่งรัวซุ่ยให้ขึ้นไปเอายาอีกตัวมาให้ ก่อนจะพบว่ามันคือ ‘ครีมน้ำค้างเกล็ดหิมะ’ ที่หายากและราคาแพงมาก
“ครีมน้ำค้างเกล็ดหิมะอันนี้หายากและราคาแพงมาก เจ้าเอาไปลองใช้ดูเถิด เผื่อมันจะดีกว่าครีมบัวหิมะที่ข้าเคยให้” นางว่าแล้วส่งตลับครีมให้นาง
“หากมันมีมูลค่ามากขนาดนั้น ข้าคงไม่กล้ารับไว้ดอกท่านพี่”
ซูมันรูพูดด้วยท่าทางเกรงใจ แต่ก็รู้สึกกังวลนิดหน่อยว่าเฟิ่งหยินซวงจะไม่ยกมันให้นางจริง ๆ ครีมน้ำค้างเกล็ดหิมะที่หายากและราคาแพงขนาดนั้น นางจะไม่ต้องการมันได้อย่างไร
“เจ้ารับไปเถิด เจ้าเป็นน้องสาวที่ดีของข้า ข้าต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เจ้าสิ”