บทที่ 22: เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ, อินทรีย์เหล็ก 300 ตัว!
บทที่ 22: เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ, อินทรีย์เหล็ก 300 ตัว!
ม่านแสงที่ทางเข้าของ สำนักศิลปะการต่อสู้ สามารถปิดกั้นการเข้ามาของทุกคนที่ไม่ภักดีต่อซูเฉินมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่หน่วยสายลับของอาณาจักรหนานหลิน จะภักดีต่อซูเฉินด้วยเช่นกัน
ด้วยวิธีนี้ ซูเฉินเพียงแค่ต้องจับกุมและสอบปากคำทุกคนที่ถูกกั้นด้วยม่านแสง จากนั้นเขาก็สามารถค้นหาหน่วยสายลับทั้งหมดจากอาณาจักรหนานหลินได้แล้ว
"เป็นเช่นนั้น!"หยูเหวินจัวพลันตระหนักได้
"แม่ทัพหยูเหวิน เจ้าควรกลับไปก่อน หลังจากการพิสูจน์ฝีมือของท่านในครั้งนี้สิ้นสุดลง อำนาจทางทหารของท่านควรคืนสู่ราชสำนักก่อน ยังไงซะ กองกำลังป้องกันเมืองนับพันของท่านยังคงรอการกลับไปของท่านอยู่นา!" ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าหยูเหวินจัวจะได้โอกาสนำกองทัพนับ 150,000 นายของอาณาจักรเทพยุทธ์ในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่นี่เป็นเพียงการแต่งตั้งชั่วคราวเพียงเท่านั้น ตัวตนที่แท้จริงของหยูเหวินจัวยังคงเป็นผู้นำของกองทัพป้องกันเมืองหลวงอยู่ดี
ต้องรู้กันก่อนว่าตั้งแต่ ซูจือหยาน รักษาการตำแหน่งผู้คัดเลือกการเข้าสำนักศิลปะการต่อสู้ กองทัพป้องกันเมืองหลวงก็อยู่ในสภาพไร้ผู้นำ
หากไม่ใช่เพราะระเบียบวินัยทางทหารที่เข้มงวดซึ่งหยูเหวินจัวกำหนดไว้ก่อนหน้านี้เพื่อให้พวกเขาสามารถฝึกและปฏิบัติงานได้ตามปกติ ข้าเกรงว่าจะเกิดการจลาจลในกองทัพป้องกันเมืองของเมืองหลวงเสียด้วยซ้ำไป
"ขอรับ!"
หยูเหวินจัวพยักหน้าและถอยออกไป
หลังจากที่หยูเหวินจัวจากไป ซูเฉินก็ลูบคิ้วและตรวจสอบกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา
คู่มือการจัดการเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ ที่เขาพึ่งได้รับเป็นรางวัลจากระบบนั้นวางอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของระบบอยู่
“ระบบ อินทรีย์เหล็ก 300 ตัวอยู่ที่ไหน”
ซูเฉินถามระบบ
"ดิง!"
"อินทรีย์เหล็ก 300 ตัวของเจ้าของระบบพร้อมแล้ว พวกมันอยู่ไปทางห้าสิบกิโลเมตรทางเหนือของเมืองหลวง และอัตลักษณ์ของมันได้รับการผันแปลภายใต้การแทรกแซงของระบบ ตัวตนของอินทรีย์เหล็ก 300 ตัวคือคนของแม่ของเจ้าของระบบที่อยู่นอกเมืองหลวงในฐานะชายฉกรรจ์ที่ได้รับการฝึกฝนบ่มเพาะจากเจ้าของระบบ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูเฉินก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้ง
“เสด็จแม่รึ? ดูเหมือนว่าข้าต้องหาเวลาไปเยี่ยมนางบ้างแล้ว”
ซูเฉินคิดกับตัวเอง
ซูเฉินยืนขึ้นและออกจากวังโดยไม่รบกวนใคร
เขาบินไปยังทิศทางที่ระบบระบุ
ในไม่ช้า ห้าสิบกิโลเมตรทางเหนือของเมืองหลวง ซูเฉินพบค่ายฝึกเล็กๆ
ค่ายนี้ไม่ใหญ่นัก และพื้นที่ของมันมีขนาดเท่ากับบ้านพัก 5 หลังในชีวิตที่แล้วของซูเฉิน อย่างไรก็ตามค่ายนี้ตั้งอยู่บนที่ราบที่ดูราวกับไม่มีจุดสิ้นสุดซึ่งกะมองยังไงก็ดูรู้ว่าอยู่ก็พึ่งจะโผล่ออกมา
"ดูเหมือนว่าเหล่าอินทรีเหล็กของข้าจะอยู่ในค่ายนี้!"
ซูเฉินคิดเช่นนั้น และบินตรงไปยังท้องฟ้าเหนือค่าย
โครงสร้างภายในของค่ายนี้คล้ายกับสนามของลานฝึกในค่ายทหารป้องกันเมืองหลวง และในค่ายนี้ ชายในชุดเกราะสามร้อยคนกำลังกวัดแกว่งกระบี่คมกริบอยู่ในมือ และพวกเขากำลังฝึกฝนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ซูเฉินมองอย่างใกล้ชิด และพบว่าการฝึกอินทรีเหล็ก 300 คน(ตัว)บางส่วน เขาเคยเห็นในการฝึกหน่วยรบพิเศษในชาติที่แล้วของเขาด้วยซ้ำ!
ทั้งตัวของนักรบอินทรีเหล็กทั้งสามร้อยตัวเปล่งรัศมีอาฆาตที่น่าสะพรึงกลัวออกมา แม้จะมองจากระยะไกล ซูเฉินก็มั่นใจได้ว่านักรบอินทรีเหล็กทั้งสามร้อยคน(ตัว)นี้เป็นสุดยอดของชนชั้นสูง!
ตามคาด สุดยอดอินทรีเหล็ก สมกับคำว่าอินทรีย์เหล็กจริงๆ!
ซูเฉินอดไม่ได้ที่จะถอดถอนลมหายใจ
เมื่อคิดเช่นนี้ ซูเฉินก็ปลดปล่อยพลังงานที่ปกปิดลมหายใจของเขา แสดงรูปร่างของเขา และค่อยๆ ลงมายังบริเวณลานฝึกด้านล่าง
"ใคร?!"
ในขณะที่ซูเฉินแสดงรูปร่างของเขา ชายผู้แหลมคมของอินทรีเหล็กสามร้อยตัวที่อยู่ด้านล่างก็ค้นพบตัวตนของเขาจริงๆ
ภายในเวลาน้อยกว่าสองลมหายใจ อินทรีเหล็ก 300 คน(ตัว) ก็ดึงธนูทดกำลัง(Compond bow)ที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็ว ชักธนูออกมา และเล็งไปที่ซูเฉินในอากาศ
ปฏิกิริยาของ อินทรีเหล็ก 300 คน(ตัว)นั้นไม่น่าสบอารมณ์อย่างยิ่งสำหรับซูเฉิน!
แต่การตกอยู่ในสภาพที่เป็นเป้าหมายของธนูทดกำลัง 300 นัดเช่นนี้ ซูเฉินไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย
ซูเฉินจับมือทั้งสองข้าง ชุด มงกุฏ และกระบี่ของจักรพรรดิปรากฏบนร่างกายของเขา แสดงถึงตัวตนของเขา
เมื่อเห็นฉากนี้ อินทรีเหล็ก 300 คน(ตัว)รีบวางคันธนูในมือลงอย่างรวดเร็ว คุกเข่าข้างหนึ่งลงพร้อมกันในทิศทางของซูเฉินและทำความเคารพ "ข้าเห็นนาย!"
ซูเฉินควบคุมร่างของเขาให้ตกลงบนพื้นอย่างดี จากนั้นถามออกมา "เจ้าคือชายฉกรรจ์ที่แม่ของข้าเลี้ยงดูไว้นอกเมืองหลวงใช่ไหม? ให้ผู้นำของเจ้าออกมา!"
เมื่อเสียงของซูเฉินเงียบลง ชายหนุ่มที่ดูอายุแค่ยี่สิบเศษก็เดินออกมาจากนักรบอินทรีเหล็กทั้งสามร้อยคน
ชายหนุ่มคำนับซูเฉิน
"เจ้าชื่ออะไร?" ซูเฉินถาม
ชายหนุ่มตอบออกมา "เรียนนายท่าน เย่อิง(ใต้เงารัตติกาล) ขอรับ"
ซูเฉินพยักหน้าก่อนจะพูดออกมาว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าจะเรียกตัวเองว่าผู้ฝึกตนอินทรีเหล็ก และเจ้าเย่อิงคือผู้นำของผู้ฝึกตนอินทรีเหล็กทั้งสามร้อยคนนี้!"
"ขอรับ ท่านผู้นำ!" เย่อิง ได้พูดออกมา
ซูเฉินเหลือบมองนกอินทรีเหล็กสามร้อยตัวที่อยู่ข้างหน้าเขาอีกครั้ง ยอดฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและทรงพลังเหล่านี้ พูดได้เลยว่ายิ่งดูก็ยิ่งพึงพอใจ!
“นอกจากนั้น ข้าวางแผนที่จะก่อตั้งองค์กรหน่วยข่าวกรอง เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ!”
“และพวกเจ้า อินทรีเหล็กทั้งสามร้อยคือคนของเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ นี่คือคู่มือการจัดตั้งเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นรับผิดชอบเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ!”
“หลังจากก่อตั้ง เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ มีแค่ข้าที่พวกเจ้าจะต้องขึ้นตรงด้วย!”
ซูเฉินได้พูดออกมา หยิบคู่มือการจัดการ เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของระบบ และมอบให้ เย่อิง
“ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าจะทำตามความคาดหวังของนาย!”
เย่อิง ตั้งท่าทางกล่าวคำสาบาน เขาโค้งคำนับและหยิบคู่มือการจัดตั้งหน่วยข่าวกรองเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ
"ด้วยตราประทับนี้ กองทัพป้องกันเมืองหลวงจะอนุญาตให้เจ้าเข้าไปในเมือง ข้าได้จัดที่พักให้เจ้าในเมืองหลวงแล้ว และนั่นจะเป็นฐานในอนาคตของเครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ!"
ซูเฉินโยนโทเค็นที่สลักคำว่า "ซู" ให้เย่อิงก่อนจะพูดออกมาว่า
หลังจากให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดตั้ง เครือข่ายน้ำแข็งทมิฬ แล้ว ซูเฉินกลับวังก่อนกำหนด
ขณะที่ซูเฉินนั่งอย่างมั่นคงบนเก้าอี้ในหอตำราของจักรพรรดิ เสียงของหยวนเอ๋อก็ดังมาจากนอกประตู
“ฝ่าบาท องค์ชายหกขอพบพระองค์เพคะ!”
ฮื้ม? ซูจือหยานอยู่ที่นี่งั้นรึ? !
ซูเฉินได้พูดออกมา "ให้เขาเข้ามา!"
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูของหอตำราจักรพรรดิก็เปิดออก และซูจือหยานก็เดินเข้ามาจากประตู
“ในเวลาหนึ่งเดือน เจ้าก็สามารถทะลวงจากระดับพลังงานมืดขั้นต้นไปสู่ระดับพลังงานมืดขั้นสุดท้าย ได้แล้ว!”
ซูเฉินมองไปที่ ซูจือหยาน และพูดด้วยรอยยิ้ม
ซูจือหยานยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดออกมาว่า "เสด็จพี่เฉิน อย่าล้อเล่นกับข้าเลย ท่านอาจารย์บอกข้าว่าตอนนี้ท่านเป็นนักสู้ระดับสี่ เมื่อเทียบกับท่าน ระดับการฝึกฝนบ่มเพาะของข้าในฐานะนักศิลปะการต่อสู้ในระดับ พลังงานมืด นี้ไม่ใช่อะไรเลย!"
ซูเฉินตบไหล่ของ ซูจือหยาน และพูดด้วยรอยยิ้ม "อย่าดูถูกตัวเองสิ เจ้าไม่อิจฉาหยูเหวินจัวที่สามารถนำกองทัพของ 150,000 นายของอาณาจักรเทพยุทธ์ไปพิสูจน์ฝีมือแบบนั้นรึ"
“เอาล่ะ โอกาสของเจ้าก็มาถึงแล้ว!”ซูเฉินกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูจือหยานก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
“เสด็จพี่เฉิน มีองค์ชายองค์อื่นที่กบฏในอาณาจักรเทพยุทธ์งั้นหรือ?”
ซูจือหยาน ถามโดยไม่รู้ตัว
บังอาจ!
ซูเฉินตบหัวซูจือหยานและพูดด้วยความโกรธว่า "เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่กัน!"
“เสด็จพี่เฉินหมายความว่ายังไง” ซูจือหยานปิดหน้าผากและถามอย่างไม่แน่นอนหลังจากโดนดุด่า
แม้ว่าครั้งนี้ซูเฉินจะไม่ได้ใช้พลังแห่งโชคชะตาในร่างกายของเขา แต่ก็ยังทำให้หน้าผากของซูจือหยานเจ็บได้
ซูเฉินได้พูดออกมา: "อาณาจักรหนานหลิน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรเทพยุทธ์ของเรากล้าที่จะส่งหน่วยสายลับเพื่อแทรกซึมเข้ามาในอาณาจักรเทพยุทธ์"
"หลังจากที่เราพบหน่วยสายลับเหล่านี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะใช้กองกำลังต่อต้านจักรพรรดิหนานหลิน!"
"เจ้าลองคิดดูก็แล้วกันว่ามันจะรวดเร็วเพียงใด!"