บทที่ 19: [ด่าน 1] ทุ่งสังหาร (1)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 19: [ด่าน 1] ทุ่งสังหาร
“ปกป้องอาณาจักร” เป็นหัวใจหลักของเกมป้องกัน
ถ้าอย่างนั้นคิดว่ากฎหลักของเกมเป็นยังไงบ้าง?
พวกสัตว์ประหลาดล้วนทำตามรูปแบบพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบการเดินของพวกมันได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจพวกมันและสามารถคิดแผนในการป้องกันได้
ในเกม "ปกป้องอาณาจักร" สัตว์ประหลาดจึงมักมีเพียงจุดมุ่งหมายเดียว
’สังหารมนุษย์’
พวกมันจะเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด โดยมุ่งเป้าไปที่มนุษย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
ด้วยรูปแบบพฤติกรรมที่เข้าใจง่าย จึงได้ดังเกิดแผนการสร้างมากมายขึ้น
ซึ่งแผนอันเรียบง่ายที่พวกเขาใช้คือการใช้สิ่งกีดขวาง ส่งกลุ่มตัวละครขนาดเล็กออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของสัตว์ประหลาด นำพวกมันไปยังตำแหน่งที่กำหนด
จากนั้นข้าก็จะใช้แผนที่ข้าชอบใช้มาโดยตลอด ’เส้นทางบังคับ’
การใช้รั้วกำแพงไม้ขวาง สิ่งกีดขวางและอีกมากมายสามารถใช้ถ่วงการโจมตีของมันได้
แต่หากเส้นทางของพวกเขาถูกปิดกั้น พวกสัตว์ประหลาดก็จะทำลายวิ่งกีดขวางและเดินหน้าต่อไป ทว่าหากมีทางขนาดเล็กเหลืออยู่และมีเหยื่อล่อเป็นตัวละครกลุ่มหนึ่ง สัตว์ประหลาดก็จะเดินไปตามที่เส้นทางที่ถูกจัดไว้
ในเส้นทางที่พวกมันกำลังเดินเข้ามา มีพลยิงพร้อมประจำการอยู่
พอต้อนสัตว์ประหลาดเข้าไปในที่แคบ พวกมันก็กระจุกกันอยู่จุดเดียว สามารถกวาดล้างมันได้ในคราวเดียว
นี่คือกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานของเกมประเภทป้องกัน
“มันคือทุ่งสังหาร!”
ข้าร้องออกมา กำหมัดแน่น
ปัง! ปัง ปัง ปัง!
สัตว์ประหลาดเริ่มเล็ดลอดเข้ามาทางเข้าระหว่างกำแพงรั้ว
ปืนใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนกำแพงป้อมปราการได้พ่นไฟใส่พวกสัตว์ประหลาดที่กำลังพุ่งเข้ามา
-ฟูมมม! บึ้มม-!
ชุดเกราะมีชีวิตที่ทะลุผ่านประตูเข้ามาก็ได้ถูกหลอมละลายด้วยแรงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัว
"ยิงได้!"
แขนของข้าแกว่งไปข้างหน้าอย่างแรงพร้อมกับเสียงตะโกนสุดเสียง
"ยิง! ยิงไป! อย่าหยุด! ยิงต่อไปจนกว่ากระบอกปืนใหญ่จะหลอมเหลว!”
คำสั่งของข้าก็ได้ถูกส่งต่อไปยังลูคัส
“ยิง บรรจุกระสุน ยิงใหม่! เราจะปล่อยให้พวกมันพักไม่ได้เด็ดขาด!”
ร่างของทหารที่บังคับปืนใหญ่แต่ละกระบอกเปียกโชกไปด้วยเหงื่อมี พวกเขาบรรจุกระสุนและยิงเป็นวัฏจักรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เสียงกระสุนดังกึกก้องไปทั่วอากาศ ทันใดนั้นระเบิดก็ได้ตกลงไปยังจุดปะทะอย่างต่อเนื่อง ชุดเกราะมีชีวิตถูกทำลายอย่างไร้ความปราณี
แต่การต่อสู้ยังไม่จบ
“ลิลลี่!”
ข้ารีบเดินไปทางด้านข้าง
“สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์สนามแรงโน้มถ่วงพร้อมหรือยัง?”
“พร้อมแล้วค่ะ!”
ลิลลี่ที่รับหน้าที่ดูแลสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ได้ตอบกลับมาทันที ข้าพยักหน้า
"เปิดใช้งาน!"
"ค่ะ! เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์สนามแรงโน้มถ่วง!”
นักเล่นแร่แปรธาตุได้เตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาทวนคำสั่งพร้อมกันและเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทมนตร์ที่มีสีน้ำตาลทันที
“เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์!”
-ฟู่!
เสียงการทำงานอันผิดปกติของสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ได้เปล่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา
มันเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งประดิษฐ์ระดับ R ที่ได้รับการซ่อมแซม
ความสามารถของมันก็เป็นไปตามชื่อ มันขยายแรงโน้มถ่วงของพื้นที่เฉพาะบางจุด ทำให้การเคลื่อนไหวของศัตรูช้าลง
แต่แม้จะฟังดูเรียบง่าย ความสามารถของมันก็ดีเป็นอย่างมาก
ในยามที่พลังสนามแรงโน้มถ่วงได้ถูกวางไว้ที่ทุ่งสังหาร ชุดเกราะที่เคลื่อนไหวช้าอยู่แล้วก็เริ่มเดินอย่างงุ่มง่าม
สิ่งนี้ทำให้การยิงระเบิดลงไปมีความแม่นยำขึ้นมาก
“เราแค่ต้องให้มันอยู่ที่จุดนั่นเท่านั้นเหรอขอรับ?”
เดเมียนที่กำลังจ้องมองนรกเบื้องหน้าก็ได้ถามข้าขึ้นมา
“เจ้าคิดว่าสิ่งมีชีวิตพวกนั้นจะไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางแค่นั้นได้เหรอ?”
“…”
ข้ากลั้นลมหายใจ มองดูชุดเกราะมีชีวิตที่ถูกฉีกสะบั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากพลยิงที่ข้าสั่งการ
หากกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้สามารถหยุดพวกมันได้อย่างง่ายดาย ข้าคงไม่บอกหรอกว่าพวกมันคือศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของเรา
ตามที่คาดไว้
-ครืน ครืน …!
ผ่านกลุ่มควันอันหนาทึบ สัตว์ประหลาดเริ่มหนีจากทุ่งสังหารทีละตัว
ชุดเกราะที่มีชีวิตแต่ละตัวต่างถือโล่
พวกมันยกโล่ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อลดพลังของกระสุนที่พุ่งเข้ามากระทบ
อย่าลืมว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกหล่อหลอมจากชุดเกราะที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าเราจะเน้นไปที่การทิ้งระเบิดและสร้างความเสียหายเฉพาะจุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกวาดล้างพวกออกไปมันทั้งหมด
“ทัพธนู!”
นั่นเป็นเหตุผลที่เราจัดให้มีทีมที่คอยจัดการแยกต่างหาก
“เริ่มยิงใส่ตัวที่มันหลบหนีจากทุ่งสังหาร!”
ลูคัสถ่ายทอดคำสั่งของข้าโดยไม่พลาดแม้แต่ประโยคเดียว
“คันศรยักษ์ ยิงได้!”
"ขอรับ! เริ่มการยิง-!”
ทหารที่รออยู่ใกล้เครื่องคันศรยักษ์ก็ได้เปิดฉากยิงพร้อมกัน
-ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ด้วยเสียงดังกึกก้อง ลูกศรขนาดใหญ่ก็ได้บินออกมาจากคันศรยักษ์
ลูกธนูที่ปล่อยออกมาได้พุ่งทะยานไปยังชุดเกราะมีชีวิตที่กำลังยกโล่ขึ้นและหลบหนีจากทุ่งสังหาร
-ฉึก ฟึบ-!
เสียงของโล่ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ดังก้องไปทั่ว
ชุดเกราะมีชีวิตที่โดนทิ้งระเบิดมาแล้วก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของคันศรยักษ์ได้และล้มลงทีละตัว
- กรร…!
- ตุบ ตุบ!
เมื่อมองลงไปที่ชุดเกราะที่มีชีวิตที่คว่ำหน้าเหมือนตุ๊กตาฟาง ข้าก็เปิดหน้าต่างข้อมูลของศัตรูขึ้นมา
[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]
- ระดับ? ???: 1 ตน
- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 810 ตน (จำนวนการสังหาร: 242)
จำนวนการฆ่าได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
’ดี ทุกอย่างเป็นไปตามตำรา’
สร้างทุ่งสังหาร ตรึงศัตรูไว้ที่นั่นให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และกวาดล้างพวกมันออกไปในคราวเดียว
มันเป็นกลยุทธ์การป้องกันตามตำราของเกม <ปกป้องอาณาจักร> แม้ว่าจะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น แต่เราก็ต่อสู้ได้ดีเลย
ถ้าเราสามารถรักษาแนวหน้าไว้ได้แบบนี้….
“องค์ชาย!”
ทว่า...
“มีบางอยู่อีกฟากของกำแพง!”
“…!”
มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น
ข้ารีบยกกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมา จ้องมองไปยังจุดที่ลูคัสชี้อยู่
กองกำลังชุดเกราะมีชีวิตส่วนหนึ่งพยายามหลบเลี่ยงกำแพงรั้วไม้ไปทั้งทางซ้ายและขวา
ถ้าเกิดเราปิดกั้นพวกมันอย่างสมบูรณ์ พวกมันก็จะทำลายกำแพงทิ้งจนเกิดช่องว่างขึ้น
เมื่อกำแพงตรงกลางถูกปิดกั้นและแออัด ชุดเกราะที่มีชีวิตที่ด้านหลังก็เริ่มอ้อมไปทางซ้ายและขวา
จำนวนของพวกมันไม่ค่อยมากเท่าไร แต่ด้วยกระทำเช่นนี้ ก็ทำให้พวกมันหยุดชะงักไป
"จูปิเตอร์!"
ข้าเรียกจูปิเตอร์ทันที จูปิเตอร์และทีมของนางกำลังล่าถอย รอคำสั่งอยู่ใกล้กำแพงเมือง
“ข้าขอมอบคำสั่งให้เจ้าไปจัดการพวกชุดเกราะมีชีวิตที่ออกมาทางด้านขวาของรั้ว! สกัดกั้นพวกเขามันด้วยการรบแบบกองโจร!”
“ตามบัญชาองค์ชาย”
จูปิเตอร์รับคำสั่งของข้า จากนั้นนางก็ดึงสายบังเหียนม้าอย่างแผ่วเบา
"ไปกันเถอะ! โจมตี!"
ทีมของจูปิเตอร์ทั้งห้าคนพุ่งไปข้างหน้าราวกับกำลังบินอยู่
จูปิเตอร์ซึ่งกำลังพุ่งตรงไปที่ชุดเกราะมีชีวิตก็ได้ตกเป็นเป้าหมายของพวกมันจนถูกโอบขนาบข้าง
“เอานี้ไปกินซะ!”
-ฟึบ-!
-ตู้ม!
สายฟ้าฟาดมาห่อหุ้มชุดเกราะมีชีวิตจนมันตกอยู่ในเปลวไฟที่ลุกโชน
'ยอดเยี่ยม จูปิเตอร์รับมือด้านนั้นได้ดีเลยทีเดียว’
สิ่งที่มีปัญหาคือพวกชุดเกราะที่ไหลมาจากทางด้านซ้าย
ผมเหลือบมองไปทางด้านข้าง สายตาของข้าพลันจับจ้องเดเมียนที่กำลังกลืนน้ำลายจนเกิดเสียงดัง
“เดเมี่ยน”
"ค-ครับ!"
"ตาเจ้าแล้ว"
ข้าชี้ไปทางชุดเกราะมีชีวิตที่เดินหน้ามาแต่ไกล
“ซุ่มยิงคนที่พยายามจะขนาบข้างเราจากด้านซ้ายของรั้ว”
"...ครับ"
เดเมี่ยนจับหน้าไม้แน่นและเดินไปที่ป้อมปราการ
เขาพาดหน้าไม้ของเขาขึ้นและเล็งไปที่ชุดเกราะมีชีวิต หลังจากนั้น-
"ฮึก..."
เขาหลับตาลงเพื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ และเบิกตากว้าง
จากนั้นเขาก็เหนี่ยวไกปืน
-แคร๊ง!
ฟูบบ!
เสียงของลมที่ถูกฉีกขาดได้ดังขึ้น ลูกศรพุ่งออกมาจากหน้าไม้
ลูกศรที่ปล่อยออกมาพุ่งไปไกลกว่าช่วงระยะปกติของมัน
-แคร๊ง!
ชุดเกราะมีชีวิตที่เป็นเป้าหมายได้ยกโล่ขึ้น
-ฟิ้วว-!
ราวกับอสรพิษ ลูกศรบิดร่างกายของมันกลางอากาศ ตีกรอบเส้นทาง หลบโล่และเจาะทะลุทะลวงไป
-ฉึก!
มันทะลุช่องว่างระหว่างหมวกและแผ่นเกราะของชุดเกราะมีชีวิต
เปลวไฟสีน้ำเงินส่องประกายภายในชุดเกราะ จากนั้นมันก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ
- กรร แคร๊ง!
ราวกับว่าแกนของมันถูกแทง การเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดหุ้มเกราะได้หยุดลงอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นเปลือกเกราะที่ว่างเปล่าก็ตกลงบนพื้น
ทหารที่เฝ้าสังเกตอยู่บนป้อมปราการต่างก็มองด้วยความตกใจ รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของข้า
นี่คือพลังของ [ดวงตาพันลี้]
การระบุช่องโหว่ของศัตรูและซุ่มยิงอย่างแม่นยำ
’ถึงอย่างนั้น แต่การเจาะแกนวิญญาณด้วยเพียงหน้าไม้และลูกศรธรรมดา มันก็….'
มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าคุณลักษณะตัวละครบัดซบนี้โกงมากขนาดไหน!
วู้บบ! วู้บบ! วู้บบ!
เดเมี่ยนยังคงยิงธนูอย่างไม่หยุดหย่อน
-กรร...
-กริ้สสส!
ลูกศรเหล่านี้ทิ่มแทงเสียบใส่ชุดเกราะมีชีวิตทุกตน
หนึ่งลูก หนึ่งศพ
มันคล้ายกับเป็นทักษะจากสวรรค์อย่างแท้จริง ทหารโดยรอบมองดูเดเมี่ยนจนอ้าปากค้าง
เดเมี่ยนไม่สนใจสายตาของพวกเขา เขาบรรจุธนูและยิงลูกศรต่อไป
ด้านหน้าเป็นทุ่งสังหาร จูปิเตอร์คอยรับด้านขวาและด้านซ้ายก็ถูกปกปักษ์โดยเดเมี่ยน
การป้องกันดำเนินไปได้ดี
[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]
– ระดับ.???: 1 ตน
- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 560 ตน (จำนวนการสังหาร: 492)
ก่อนที่ข้าจะรู้ตัว เราก็สังหารไปเกือบ 500 ตนแล้ว!
เมื่อเห็นแนวหน้าที่ยังคุมได้อยู่ ข้าก็พยักหน้าให้ตัวเอง
’ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็คงจะราบรื่นมากจนกว่าหัวหน้าฝูงสัตว์ประหลาดจะปรากฏตัวใช่ไหมนะ?’
ทันใดนั้นเอง -
สสารคล้ายหมอกเริ่มไหลออกมาจากชุดเกราะที่ตายไป มันกระจัดกระจายไปทั่วสนามรบ
“…?”
ข้ากระพริบตาปริบๆ
นี่มันบ้าอะไรกัน?
ไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในเกมมาก่อน
สสารค่อยๆ รวมตัวกันอยู่เหนือพวกเรา รวมกันเป็นร่างหนึ่ง
จากที่มันเป็นเพียงสสารเลือนลางก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น ยิ่งชุดเกราะมีชีวิตตายไปมากเท่าไร มันก็ยิ่ง...
จากนั้นเมื่อจำนวนการสังหารถึง 500...
[ติ้ง!
หน้าต่างข้อมูลของศัตรูเปลี่ยนไป
[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]
– ระดับ25 อัศวินเงา: 1 ตน
- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 552 ตน (จำนวนการสังหาร: 500)
ชื่อของบอสสัตว์ประหลาดที่ถูกปกปิดได้ถูกเปิดเผยแล้ว
ผู้นำกองกำลังชุดเกราะมีชีวิตคือ ‘อัศวินเงา’
ทุกอย่างจนถึงตอนนี้เป็นไปตามที่ข้าคาดไว้
ทว่าทันทีที่ชื่อมันถูกเปิดเผย...
-ฟู่!
มวลหมอกที่ลอยอยู่เริ่มแข็งค้างไป
ร่างที่น่าสยดสยองที่มีแขนขาสีซีด บิดเบี้ยวอย่างน่าขยะแขยง สวมชุดเกราะที่ฉีกขาด…เป็นวิญญาณร้ายเหมือนที่มักถูกบอกเล่ากันในหนังสือไม่มีผิด
‘นี่คือบอสของสัตว์ประหลาดชุดเกราะมีชีวิต อัศวินเงา!'
โดยทั่วไปแล้วสัตว์ประหลาดตนนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อชุดเกราะมีชีวิตถูกกำจัดไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นมันก็จะผสานวิญญาณของชุดเกราะมีชีวิตที่ตายลงไป
นี่คือพลังที่น่าสะพรึงกลัวของกองทัพเกราะมีชีวิต
มันเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง แม้ว่าพวกมันจะถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว แต่พอบอสปรากฏตัวขึ้น มันก็ราวกับว่าพวกเขาต้องต่อสู้อีกเป็นอรบที่สอง
‘แต่ข้ายังไม่ได้เอาชนะชุดเกราะมีชีวิตทั้งหมดไปเลยไม่ใช่หรือ?’
ทำไมมันถึงเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้?
อัศวินเงาที่เผยร่างยังไม่ได้เคลื่อนไหว มันไม่ได้สร้างสถานะทางลบหรือปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรง
มันลอยอยู่ในอากาศอย่างไร้จุดหมาย
“ว-ว-เหวอ…?!”
“น-นขนั่นมันอะไรกัน?!”
แต่นี่ไม่ใช่เกม มันคือโลกความจริงอันแสนโหดร้าย
เพียงร่างมหึมาประหลาดปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เหล่าทหารตกอยู่ในภาวะโกลาหล
'บัดซบ!'
ข้ากัดฟันแน่น
นี่คือความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสงครามมนุษย์และสงครามกับสัตว์ประหลาด
เหมือนกับการที่กลัวเวลาเจอมนุษย์ต่างดาว
เพียงแค่บอสปรากฏตัว เหล่าทหารก็จิตใจแหลกสลายด้วยความกลัว ประสิทธิภาพของแนวหน้าก็ลดลงอย่างมาก
ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่แข็งค้างกลายเป็นหิน
- ฮี่! ฮี่!
ม้าเริ่มตื่นตระหนก มันยอมจำนนต่อความหวาดกลัวของพวกมัน พวกมันไม่สามารถทนต่อกลิ่นอายชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดระดับบอสได้เลย
อาชาสงครามของทีมจูปิเตอร์ที่กำลังปฏิบัติการกองโจรนอกกำแพงป้อมปราการก็ไม่ได้รับการยกเว้น
ม้าพุ่งออกไปด้วยความหวาดกลัว ทำให้จูปิเตอร์ที่เพิ่งปลดปล่อยพลังคาถาสายฟ้าออกไปก็สูญเสียการควบคุมและถูกโยนออกจากอานม้าของนาง
“บัดซบ อะไรกันวะ…?!”
-ตุ๊บ!
จูปิเตอร์ที่หลุดออกจากอานม้าก็กระแทกลงกับพื้น
"อึก?!"
“แค่ก!”
สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมของจูปิเตอร์ประสบชะตากรรมเดียวกัน ทุกคนต่างโอดครวญด้วยความเจ็บปวดที่ถูกโยนออกจากม้าที่ควบคุมไม่ได้
“อึก...?”
ศีรษะของจูปิเตอร์ถูกกระแทกกับพื้น จนทำให้นางรู้สึกเวียนหัวยิ่ง
นางพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะลุกขึ้นมา ทว่าก็หมดสติไป
- กรร!
ในขณะเดียวกัน ชุดเกราะมีชีวิตที่หลุดรอดออกมาจากทุ่งสังหารที่ถูกทำลายก็พุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
เป้าหมายน่ะเหรอ? ก็คือการสังหารมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้าพวกมันยังไงเล่า