ตอนที่แล้วบทที่ 18 : [ด่าน 1] สัตว์ประหลาดกำลังมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20: [ด่าน 1] ทุ่งสังหาร (2)

บทที่ 19: [ด่าน 1] ทุ่งสังหาร (1)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 19: [ด่าน 1] ทุ่งสังหาร

“ปกป้องอาณาจักร” เป็นหัวใจหลักของเกมป้องกัน

ถ้าอย่างนั้นคิดว่ากฎหลักของเกมเป็นยังไงบ้าง?

พวกสัตว์ประหลาดล้วนทำตามรูปแบบพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป รูปแบบการเดินของพวกมันได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจพวกมันและสามารถคิดแผนในการป้องกันได้

ในเกม "ปกป้องอาณาจักร" สัตว์ประหลาดจึงมักมีเพียงจุดมุ่งหมายเดียว

’สังหารมนุษย์’

พวกมันจะเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด โดยมุ่งเป้าไปที่มนุษย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

ด้วยรูปแบบพฤติกรรมที่เข้าใจง่าย จึงได้ดังเกิดแผนการสร้างมากมายขึ้น

ซึ่งแผนอันเรียบง่ายที่พวกเขาใช้คือการใช้สิ่งกีดขวาง ส่งกลุ่มตัวละครขนาดเล็กออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของสัตว์ประหลาด นำพวกมันไปยังตำแหน่งที่กำหนด

จากนั้นข้าก็จะใช้แผนที่ข้าชอบใช้มาโดยตลอด ’เส้นทางบังคับ’

การใช้รั้วกำแพงไม้ขวาง สิ่งกีดขวางและอีกมากมายสามารถใช้ถ่วงการโจมตีของมันได้

แต่หากเส้นทางของพวกเขาถูกปิดกั้น พวกสัตว์ประหลาดก็จะทำลายวิ่งกีดขวางและเดินหน้าต่อไป ทว่าหากมีทางขนาดเล็กเหลืออยู่และมีเหยื่อล่อเป็นตัวละครกลุ่มหนึ่ง สัตว์ประหลาดก็จะเดินไปตามที่เส้นทางที่ถูกจัดไว้

ในเส้นทางที่พวกมันกำลังเดินเข้ามา มีพลยิงพร้อมประจำการอยู่

พอต้อนสัตว์ประหลาดเข้าไปในที่แคบ พวกมันก็กระจุกกันอยู่จุดเดียว สามารถกวาดล้างมันได้ในคราวเดียว

นี่คือกลยุทธ์ขั้นพื้นฐานของเกมประเภทป้องกัน

“มันคือทุ่งสังหาร!”

ข้าร้องออกมา กำหมัดแน่น

ปัง! ปัง ปัง ปัง!

สัตว์ประหลาดเริ่มเล็ดลอดเข้ามาทางเข้าระหว่างกำแพงรั้ว

ปืนใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนกำแพงป้อมปราการได้พ่นไฟใส่พวกสัตว์ประหลาดที่กำลังพุ่งเข้ามา

-ฟูมมม! บึ้มม-!

ชุดเกราะมีชีวิตที่ทะลุผ่านประตูเข้ามาก็ได้ถูกหลอมละลายด้วยแรงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัว

"ยิงได้!"

แขนของข้าแกว่งไปข้างหน้าอย่างแรงพร้อมกับเสียงตะโกนสุดเสียง

"ยิง! ยิงไป! อย่าหยุด! ยิงต่อไปจนกว่ากระบอกปืนใหญ่จะหลอมเหลว!”

คำสั่งของข้าก็ได้ถูกส่งต่อไปยังลูคัส

“ยิง บรรจุกระสุน ยิงใหม่! เราจะปล่อยให้พวกมันพักไม่ได้เด็ดขาด!”

ร่างของทหารที่บังคับปืนใหญ่แต่ละกระบอกเปียกโชกไปด้วยเหงื่อมี พวกเขาบรรจุกระสุนและยิงเป็นวัฏจักรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เสียงกระสุนดังกึกก้องไปทั่วอากาศ ทันใดนั้นระเบิดก็ได้ตกลงไปยังจุดปะทะอย่างต่อเนื่อง ชุดเกราะมีชีวิตถูกทำลายอย่างไร้ความปราณี

แต่การต่อสู้ยังไม่จบ

“ลิลลี่!”

ข้ารีบเดินไปทางด้านข้าง

“สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์สนามแรงโน้มถ่วงพร้อมหรือยัง?”

“พร้อมแล้วค่ะ!”

ลิลลี่ที่รับหน้าที่ดูแลสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ได้ตอบกลับมาทันที ข้าพยักหน้า

"เปิดใช้งาน!"

"ค่ะ! เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์สนามแรงโน้มถ่วง!”

นักเล่นแร่แปรธาตุได้เตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาทวนคำสั่งพร้อมกันและเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทมนตร์ที่มีสีน้ำตาลทันที

“เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์!”

-ฟู่!

เสียงการทำงานอันผิดปกติของสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ได้เปล่งเสียงดังสนั่นขึ้นมา

มันเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งประดิษฐ์ระดับ R ที่ได้รับการซ่อมแซม

ความสามารถของมันก็เป็นไปตามชื่อ มันขยายแรงโน้มถ่วงของพื้นที่เฉพาะบางจุด ทำให้การเคลื่อนไหวของศัตรูช้าลง

แต่แม้จะฟังดูเรียบง่าย ความสามารถของมันก็ดีเป็นอย่างมาก

ในยามที่พลังสนามแรงโน้มถ่วงได้ถูกวางไว้ที่ทุ่งสังหาร ชุดเกราะที่เคลื่อนไหวช้าอยู่แล้วก็เริ่มเดินอย่างงุ่มง่าม

สิ่งนี้ทำให้การยิงระเบิดลงไปมีความแม่นยำขึ้นมาก

“เราแค่ต้องให้มันอยู่ที่จุดนั่นเท่านั้นเหรอขอรับ?”

เดเมียนที่กำลังจ้องมองนรกเบื้องหน้าก็ได้ถามข้าขึ้นมา

“เจ้าคิดว่าสิ่งมีชีวิตพวกนั้นจะไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางแค่นั้นได้เหรอ?”

“…”

ข้ากลั้นลมหายใจ มองดูชุดเกราะมีชีวิตที่ถูกฉีกสะบั้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากพลยิงที่ข้าสั่งการ

หากกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้สามารถหยุดพวกมันได้อย่างง่ายดาย ข้าคงไม่บอกหรอกว่าพวกมันคือศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของเรา

ตามที่คาดไว้

-ครืน ครืน …!

ผ่านกลุ่มควันอันหนาทึบ สัตว์ประหลาดเริ่มหนีจากทุ่งสังหารทีละตัว

ชุดเกราะที่มีชีวิตแต่ละตัวต่างถือโล่

พวกมันยกโล่ขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อลดพลังของกระสุนที่พุ่งเข้ามากระทบ

อย่าลืมว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกหล่อหลอมจากชุดเกราะที่แข็งแกร่ง

แม้ว่าเราจะเน้นไปที่การทิ้งระเบิดและสร้างความเสียหายเฉพาะจุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกวาดล้างพวกออกไปมันทั้งหมด

“ทัพธนู!”

นั่นเป็นเหตุผลที่เราจัดให้มีทีมที่คอยจัดการแยกต่างหาก

“เริ่มยิงใส่ตัวที่มันหลบหนีจากทุ่งสังหาร!”

ลูคัสถ่ายทอดคำสั่งของข้าโดยไม่พลาดแม้แต่ประโยคเดียว

“คันศรยักษ์ ยิงได้!”

"ขอรับ! เริ่มการยิง-!”

ทหารที่รออยู่ใกล้เครื่องคันศรยักษ์ก็ได้เปิดฉากยิงพร้อมกัน

-ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ด้วยเสียงดังกึกก้อง ลูกศรขนาดใหญ่ก็ได้บินออกมาจากคันศรยักษ์

ลูกธนูที่ปล่อยออกมาได้พุ่งทะยานไปยังชุดเกราะมีชีวิตที่กำลังยกโล่ขึ้นและหลบหนีจากทุ่งสังหาร

-ฉึก ฟึบ-!

เสียงของโล่ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ดังก้องไปทั่ว

ชุดเกราะมีชีวิตที่โดนทิ้งระเบิดมาแล้วก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของคันศรยักษ์ได้และล้มลงทีละตัว

- กรร…!

- ตุบ ตุบ!

เมื่อมองลงไปที่ชุดเกราะที่มีชีวิตที่คว่ำหน้าเหมือนตุ๊กตาฟาง ข้าก็เปิดหน้าต่างข้อมูลของศัตรูขึ้นมา

[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]

- ระดับ? ???: 1 ตน

- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 810 ตน (จำนวนการสังหาร: 242)

จำนวนการฆ่าได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

’ดี ทุกอย่างเป็นไปตามตำรา’

สร้างทุ่งสังหาร ตรึงศัตรูไว้ที่นั่นให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และกวาดล้างพวกมันออกไปในคราวเดียว

มันเป็นกลยุทธ์การป้องกันตามตำราของเกม <ปกป้องอาณาจักร> แม้ว่าจะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น แต่เราก็ต่อสู้ได้ดีเลย

ถ้าเราสามารถรักษาแนวหน้าไว้ได้แบบนี้….

“องค์ชาย!”

ทว่า...

“มีบางอยู่อีกฟากของกำแพง!”

“…!”

มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น

ข้ารีบยกกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมา จ้องมองไปยังจุดที่ลูคัสชี้อยู่

กองกำลังชุดเกราะมีชีวิตส่วนหนึ่งพยายามหลบเลี่ยงกำแพงรั้วไม้ไปทั้งทางซ้ายและขวา

ถ้าเกิดเราปิดกั้นพวกมันอย่างสมบูรณ์ พวกมันก็จะทำลายกำแพงทิ้งจนเกิดช่องว่างขึ้น

เมื่อกำแพงตรงกลางถูกปิดกั้นและแออัด ชุดเกราะที่มีชีวิตที่ด้านหลังก็เริ่มอ้อมไปทางซ้ายและขวา

จำนวนของพวกมันไม่ค่อยมากเท่าไร แต่ด้วยกระทำเช่นนี้ ก็ทำให้พวกมันหยุดชะงักไป

"จูปิเตอร์!"

ข้าเรียกจูปิเตอร์ทันที จูปิเตอร์และทีมของนางกำลังล่าถอย รอคำสั่งอยู่ใกล้กำแพงเมือง

“ข้าขอมอบคำสั่งให้เจ้าไปจัดการพวกชุดเกราะมีชีวิตที่ออกมาทางด้านขวาของรั้ว! สกัดกั้นพวกเขามันด้วยการรบแบบกองโจร!”

“ตามบัญชาองค์ชาย”

จูปิเตอร์รับคำสั่งของข้า จากนั้นนางก็ดึงสายบังเหียนม้าอย่างแผ่วเบา

"ไปกันเถอะ! โจมตี!"

ทีมของจูปิเตอร์ทั้งห้าคนพุ่งไปข้างหน้าราวกับกำลังบินอยู่

จูปิเตอร์ซึ่งกำลังพุ่งตรงไปที่ชุดเกราะมีชีวิตก็ได้ตกเป็นเป้าหมายของพวกมันจนถูกโอบขนาบข้าง

“เอานี้ไปกินซะ!”

-ฟึบ-!

-ตู้ม!

สายฟ้าฟาดมาห่อหุ้มชุดเกราะมีชีวิตจนมันตกอยู่ในเปลวไฟที่ลุกโชน

'ยอดเยี่ยม จูปิเตอร์รับมือด้านนั้นได้ดีเลยทีเดียว’

สิ่งที่มีปัญหาคือพวกชุดเกราะที่ไหลมาจากทางด้านซ้าย

ผมเหลือบมองไปทางด้านข้าง สายตาของข้าพลันจับจ้องเดเมียนที่กำลังกลืนน้ำลายจนเกิดเสียงดัง

“เดเมี่ยน”

"ค-ครับ!"

"ตาเจ้าแล้ว"

ข้าชี้ไปทางชุดเกราะมีชีวิตที่เดินหน้ามาแต่ไกล

“ซุ่มยิงคนที่พยายามจะขนาบข้างเราจากด้านซ้ายของรั้ว”

"...ครับ"

เดเมี่ยนจับหน้าไม้แน่นและเดินไปที่ป้อมปราการ

เขาพาดหน้าไม้ของเขาขึ้นและเล็งไปที่ชุดเกราะมีชีวิต หลังจากนั้น-

"ฮึก..."

เขาหลับตาลงเพื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ และเบิกตากว้าง

จากนั้นเขาก็เหนี่ยวไกปืน

-แคร๊ง!

ฟูบบ!

เสียงของลมที่ถูกฉีกขาดได้ดังขึ้น ลูกศรพุ่งออกมาจากหน้าไม้

ลูกศรที่ปล่อยออกมาพุ่งไปไกลกว่าช่วงระยะปกติของมัน

-แคร๊ง!

ชุดเกราะมีชีวิตที่เป็นเป้าหมายได้ยกโล่ขึ้น

-ฟิ้วว-!

ราวกับอสรพิษ ลูกศรบิดร่างกายของมันกลางอากาศ ตีกรอบเส้นทาง หลบโล่และเจาะทะลุทะลวงไป

-ฉึก!

มันทะลุช่องว่างระหว่างหมวกและแผ่นเกราะของชุดเกราะมีชีวิต

เปลวไฟสีน้ำเงินส่องประกายภายในชุดเกราะ จากนั้นมันก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ

- กรร แคร๊ง!

ราวกับว่าแกนของมันถูกแทง การเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดหุ้มเกราะได้หยุดลงอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นเปลือกเกราะที่ว่างเปล่าก็ตกลงบนพื้น

ทหารที่เฝ้าสังเกตอยู่บนป้อมปราการต่างก็มองด้วยความตกใจ รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของข้า

นี่คือพลังของ [ดวงตาพันลี้]

การระบุช่องโหว่ของศัตรูและซุ่มยิงอย่างแม่นยำ

’ถึงอย่างนั้น แต่การเจาะแกนวิญญาณด้วยเพียงหน้าไม้และลูกศรธรรมดา มันก็….'

มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าคุณลักษณะตัวละครบัดซบนี้โกงมากขนาดไหน!

วู้บบ! วู้บบ! วู้บบ!

เดเมี่ยนยังคงยิงธนูอย่างไม่หยุดหย่อน

-กรร...

-กริ้สสส!

ลูกศรเหล่านี้ทิ่มแทงเสียบใส่ชุดเกราะมีชีวิตทุกตน

หนึ่งลูก หนึ่งศพ

มันคล้ายกับเป็นทักษะจากสวรรค์อย่างแท้จริง ทหารโดยรอบมองดูเดเมี่ยนจนอ้าปากค้าง

เดเมี่ยนไม่สนใจสายตาของพวกเขา เขาบรรจุธนูและยิงลูกศรต่อไป

ด้านหน้าเป็นทุ่งสังหาร จูปิเตอร์คอยรับด้านขวาและด้านซ้ายก็ถูกปกปักษ์โดยเดเมี่ยน

การป้องกันดำเนินไปได้ดี

[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]

– ระดับ.???: 1 ตน

- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 560 ตน (จำนวนการสังหาร: 492)

ก่อนที่ข้าจะรู้ตัว เราก็สังหารไปเกือบ 500 ตนแล้ว!

เมื่อเห็นแนวหน้าที่ยังคุมได้อยู่ ข้าก็พยักหน้าให้ตัวเอง

’ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็คงจะราบรื่นมากจนกว่าหัวหน้าฝูงสัตว์ประหลาดจะปรากฏตัวใช่ไหมนะ?’

ทันใดนั้นเอง -

สสารคล้ายหมอกเริ่มไหลออกมาจากชุดเกราะที่ตายไป มันกระจัดกระจายไปทั่วสนามรบ

“…?”

ข้ากระพริบตาปริบๆ

นี่มันบ้าอะไรกัน?

ไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในเกมมาก่อน

สสารค่อยๆ รวมตัวกันอยู่เหนือพวกเรา รวมกันเป็นร่างหนึ่ง

จากที่มันเป็นเพียงสสารเลือนลางก็เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น ยิ่งชุดเกราะมีชีวิตตายไปมากเท่าไร มันก็ยิ่ง...

จากนั้นเมื่อจำนวนการสังหารถึง 500...

[ติ้ง!

หน้าต่างข้อมูลของศัตรูเปลี่ยนไป

[ข้อมูลศัตรู – ด่านที่ 1]

– ระดับ25 อัศวินเงา: 1 ตน

- ระดับ 5 ชุดเกราะมีชีวิต: 552 ตน (จำนวนการสังหาร: 500)

ชื่อของบอสสัตว์ประหลาดที่ถูกปกปิดได้ถูกเปิดเผยแล้ว

ผู้นำกองกำลังชุดเกราะมีชีวิตคือ ‘อัศวินเงา’

ทุกอย่างจนถึงตอนนี้เป็นไปตามที่ข้าคาดไว้

ทว่าทันทีที่ชื่อมันถูกเปิดเผย...

-ฟู่!

มวลหมอกที่ลอยอยู่เริ่มแข็งค้างไป

ร่างที่น่าสยดสยองที่มีแขนขาสีซีด บิดเบี้ยวอย่างน่าขยะแขยง สวมชุดเกราะที่ฉีกขาด…เป็นวิญญาณร้ายเหมือนที่มักถูกบอกเล่ากันในหนังสือไม่มีผิด

‘นี่คือบอสของสัตว์ประหลาดชุดเกราะมีชีวิต อัศวินเงา!'

โดยทั่วไปแล้วสัตว์ประหลาดตนนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อชุดเกราะมีชีวิตถูกกำจัดไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นมันก็จะผสานวิญญาณของชุดเกราะมีชีวิตที่ตายลงไป

นี่คือพลังที่น่าสะพรึงกลัวของกองทัพเกราะมีชีวิต

มันเป็นศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง แม้ว่าพวกมันจะถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว แต่พอบอสปรากฏตัวขึ้น มันก็ราวกับว่าพวกเขาต้องต่อสู้อีกเป็นอรบที่สอง

‘แต่ข้ายังไม่ได้เอาชนะชุดเกราะมีชีวิตทั้งหมดไปเลยไม่ใช่หรือ?’

ทำไมมันถึงเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้?

อัศวินเงาที่เผยร่างยังไม่ได้เคลื่อนไหว มันไม่ได้สร้างสถานะทางลบหรือปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรง

มันลอยอยู่ในอากาศอย่างไร้จุดหมาย

“ว-ว-เหวอ…?!”

“น-นขนั่นมันอะไรกัน?!”

แต่นี่ไม่ใช่เกม มันคือโลกความจริงอันแสนโหดร้าย

เพียงร่างมหึมาประหลาดปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เหล่าทหารตกอยู่ในภาวะโกลาหล

'บัดซบ!'

ข้ากัดฟันแน่น

นี่คือความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสงครามมนุษย์และสงครามกับสัตว์ประหลาด

เหมือนกับการที่กลัวเวลาเจอมนุษย์ต่างดาว

เพียงแค่บอสปรากฏตัว เหล่าทหารก็จิตใจแหลกสลายด้วยความกลัว ประสิทธิภาพของแนวหน้าก็ลดลงอย่างมาก

ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่แข็งค้างกลายเป็นหิน

- ฮี่! ฮี่!

ม้าเริ่มตื่นตระหนก มันยอมจำนนต่อความหวาดกลัวของพวกมัน พวกมันไม่สามารถทนต่อกลิ่นอายชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดระดับบอสได้เลย

อาชาสงครามของทีมจูปิเตอร์ที่กำลังปฏิบัติการกองโจรนอกกำแพงป้อมปราการก็ไม่ได้รับการยกเว้น

ม้าพุ่งออกไปด้วยความหวาดกลัว ทำให้จูปิเตอร์ที่เพิ่งปลดปล่อยพลังคาถาสายฟ้าออกไปก็สูญเสียการควบคุมและถูกโยนออกจากอานม้าของนาง

“บัดซบ อะไรกันวะ…?!”

-ตุ๊บ!

จูปิเตอร์ที่หลุดออกจากอานม้าก็กระแทกลงกับพื้น

"อึก?!"

“แค่ก!”

สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมของจูปิเตอร์ประสบชะตากรรมเดียวกัน ทุกคนต่างโอดครวญด้วยความเจ็บปวดที่ถูกโยนออกจากม้าที่ควบคุมไม่ได้

“อึก...?”

ศีรษะของจูปิเตอร์ถูกกระแทกกับพื้น จนทำให้นางรู้สึกเวียนหัวยิ่ง

นางพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะลุกขึ้นมา ทว่าก็หมดสติไป

- กรร!

ในขณะเดียวกัน ชุดเกราะมีชีวิตที่หลุดรอดออกมาจากทุ่งสังหารที่ถูกทำลายก็พุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง

เป้าหมายน่ะเหรอ? ก็คือการสังหารมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้าพวกมันยังไงเล่า

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด