บทที่ 157 วังพระเจ้าและการพบกับมิสเตอร์โปโป้อีกครั้ง
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 157 วังพระเจ้าและการพบกับมิสเตอร์โปโป้อีกครั้ง
“ข้าคงต้องไปแล้ว ลาก่อน”
ทันทีที่พวกเขากลับถึงโลก หมายเลข 18 ก็ตัดสินใจออกไปทันที
ทันใดนั้นหลินเฉินก็หยุดหมายเลข 18 เอาไว้
“หมายเลข 18 เดี๋ยวก่อน!”
"มีอะไร?" หมายเลข 18 หันกลับมาอย่างระมัดระวัง
หลินเฉินยิ้มออกมาและดึงชุดเสื้อผ้าลำลองที่เขาเตรียมไว้ให้ฮานาเซียใส่ในระหว่างการเดินทางไปยังจักรวาลที่ 6 ออกมาจากพื้นที่ของระบบ
แม้ว่าพวกเขาจะมีแคปซูลพกพา แต่พวกเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงการไล่ตามของฮิตโตะอยู่บ่อยครั้ง ทำให้การใช้งานมันไม่ค่อยสะดวกเท่าไร เป็นผลให้สิ่งต่างๆ จำนวนมากถูกเก็บไว้ในพื้นที่ระบบของหลินเฉิน
“หมายเลข 18 เสื้อผ้าของเจ้าฉีกขาดหมดแล้ว ทำไมเจ้าไม่เข้าไปข้างในและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนออกไปล่ะ?”
หมายเลข 18 ดูสับสนขณะที่นางหยิบเสื้อผ้า ก่อนที่จะก้มลงมองร่างกายของตัวเอง
เสื้อผ้าที่นางสวมถูกฉีกขาดจนหมดสิ้นแล้ว
ทันใดนั้น ใบหน้าของหมายเลข 18 ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและนางก็รีบเดินเข้าไปในบ้านของหลินเฉินพร้อมกับเสื้อผ้า
หลังจากนั้นไม่นาน หมายเลข 18 ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เสร็จสิ้น
“ข้าจะไปแล้ว” นางกล่าว
“อืม ราตรีสวัสดิ์” หลินเฉินพยักหน้าเตรียมกลับไปนอน
แต่จู่ๆ หมายเลข 18 ก็หยุดลง "หลินเฉิน"
"อืม?" หลินเฉินหันกลับมา
"ขอบคุณ!"
ดวงตาของหมายเลข 18 เป็นประกายแปลกประหลาด เมื่อนางกล่าวขอบคุณเขาเสร็จ นางก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ต่อไปนี้เรียกข้าว่าลาซูลิ เพราะที่นี่มีเพียงคนสองสามคนเท่านั้นที่รู้ว่าข้าเป็นมนุษย์จักรกล”
"โอ้..."
หลังจากหมายเลข 18 หรือลาซูลิจากไป หลินเฉินก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เป็นแฟนคลับของหมายเลข 18
แต่หลินเฉินไม่คาดคิดเลยว่าหลังข้ามมายังโลกดราก้อนบอล เขาจะได้ดร.เกโร่มาเป็นพวก
ซึ่งหมายความว่ามนุษย์จักรกลหมายเลข 17 และ 18 ในอนาคตจะไม่ปรากฏขึ้น
เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้คงไม่สำคัญมากนัก แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหมายเลข 18 ของจักรวาลใบนี้ หลินเฉินก็ตระหนักว่าโลกดราก้อนบอลที่ไม่มีหมายเลข 18 คงจะขาดความสนุกไปมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น ทรังคซ์ก็มาที่บ้านของหลินเฉินแต่เช้าพร้อมกับบูลม่า ลาซูลิและคนอื่นๆ
เมื่อลาซูลิเห็นหลินเฉิน ใบหน้าของนางก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกมา ราวกับว่าเหตุการณ์ในคืนก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งนางยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของตัวเองอีกด้วย
“หลินเฉิน เจ้าวางแผนที่จะพาทรังคซ์ไปฝึกที่ไหน? โบแจ็คและคนอื่นๆ ต่างรู้สึกถึงพลังได้ หากเจ้าสร้างความวุ่นวายมากเกินไป พวกเขาอาจพบตัวเจ้า” ลาซูลิเอ่ยถาม
“ข้าคิดถึงสถานที่ฝึกที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งได้ ถ้าเราไปที่นั่น ไม่ว่าทรังคซ์กับข้าจะปล่อยพลังมากแค่ไหน มันก็ไม่ทำให้ใครรู้ตัวแน่”
“เป็นดาวเคราะห์ดวงอื่นเหรอ?”
“ไม่ มันอยู่บนโลก วังพระเจ้าที่อยู่เหนือหอคอยคาริน
“ท่านหมายถึงห้องกาลเวลางั้นเหรอ?” บูลม่าอุทานออกมา
“ห้องกาลเวลา? บูลม่า เจ้ารู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นด้วยเหรอ?” ลาซูลิถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
บูลม่าพยักหน้า “ใช่ ห้องกาลเวลาเป็นห้องฝึกพิเศษในวังพระเจ้า หนึ่งปีข้างในจะเท่ากับหนึ่งวันข้างนอก”
“มีสถานที่เช่นนั้นอยู่ด้วยหรือ? ทำไมเจ้าไม่เคยพูดถึงมันมาก่อนล่ะ?” ลาซูลิเอ่ยถาม
บูลมาส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากพูดถึงมัน แต่ที่นั่นอาจไม่มีอยู่แล้ว”
“ไม่มีทางหรอก!” คราวนี้เป็นทางดา้นของหลินเฉินที่จะขมวดคิ้ว
บูลม่าจึงกล่าวต่ออีกว่า “หลังจากเซลล์เกมจบลง เซลล์ก็ไปยังหอคอยคาริน เขาฆ่าคาริน จากนั้นจึงทำลายหอคอยคารินและไปยังวังพระเจ้าเพื่อฆ่าเดนเด้กับมิสเตอร์โปโป้ ด้วยการตายของเดนเด้ ลูกแก้วมังกรจึงไม่มีอยู่อีกต่อไปและคนที่ถูกฆ่าโดยเซลล์ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้”
“ในตอนนั้น ผู้เฒ่าเต่ากำลังเดินทางไปที่วังพระเจ้า เขาต้องการให้เดนเด้เรียกเทพพระเจ้ามังกรออกมา แต่เขาก็เห็นว่าวังพระเจ้าได้ถูกทำลายโดยเซลล์ไปแล้ว”
ผู้เฒ่าเต่าที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้าเห็นเซลล์ทำลายวังพระเจ้าโดยใช้พลังคลื่นเต่าด้วยตาของข้าเอง ดังนั้นหลินเฉิน ข้าเกรงว่าเจ้าอาจต้องเปลี่ยนแผนของเจ้า”
“วังพระเจ้าถูกทำลายโดยเซลล์ได้จริงเหรอ?” หลินเฉินไม่อยากจะคิดแง่ร้ายเลย
เพราะวังพระเจ้าเป็นสถานที่ที่ลึกลับมาก
ต้องรู้กันก่อนว่าในจักรวาลของดราก้อนบอล ยามใดที่มีเหตุการณ์ร้ายแรง ห้องกาลเวลาของวังพระเจ้าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือพลังอันลึกลับที่สามารถบิดเบี้ยวกาลเวลาได้
สิ่งนี้ท้าทายตรรกะอย่างมาก
สถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้จะหายไปเพราะการทำลายของเซลล์ได้ด้วยเหรอ?
หลินเฉินไม่คิดเช่นนั้น
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปดูที่วังพระเจ้าก่อน ถ้าวังพระเจ้าถูกทำลายจริงๆ ข้าคงจะต้องคิดหาวิธีอื่น”
จากนั้นหลินเฉินก็ใช้เคลื่อนย้ายพริบตาและมุ่งตรงไปยังวังพระเจ้า
ไกลออกไป บนท้องฟ้านอกมิติของโลก
ทันใดนั้นร่างของหลินเฉินก็ปรากฏขึ้นที่นี่
เท้าของเขายืนอยู่บนจตุรัส
เมื่อมองไปที่อาคารของวังพระเจ้าที่ทรุดโทรมเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ หลินเฉินจึงคิดในใจว่า “เป็นอย่างที่คิดไว้ วังพระเจ้าไม่ได้ถูกทำลาย!”
แต่หลังจากรู้สึกตื่นเต้นไปพักหนึ่ง หลินเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
ตามที่ผู้เฒ่าเต่ากล่าว วังพระเจ้าควรถูกทำลายพลังคลื่นเต่าของเซลล์ แต่สิ่งที่หลินเฉินเห็นในยามนี้คือวังพระเจ้ามีสภาพสมบูรณ์มาก
ผู้เฒ่าเต่าอาจจะโกหก หรืออาจมีใครซ่อมบำรุงวังพระเจ้าแล้ว
ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้เฒ่าเต่าจะโกหก ดังนั้นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดคือมีคนฟื้นฟูวังพระเจ้า
ผู้ใดกัน?
ทันใดนั้นดวงตาของหลินเฉินก็พบร่างหนึ่งในวังพระเจ้า
แม้ว่าเงานั้นจะปรากฏเพียงชั่วครู่ แต่หลินเฉินก็สามารถใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อมายังด้านข้างของอีกฝ่าย และยื่นฝ่ามือเพื่อพยายามหยุดพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไป
แต่หลินเฉินกลับต้องประหลาดใจ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาสามารถป้องกันฝ่ามือของเขาได้
สิ่งนี้ทำให้หลินเฉินตกใจอย่างมาก
เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือคนที่หลินเฉินรู้จัก ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว อีกฝ่ายไม่ควรจะสามารถป้องกันเขาได้เลย
แต่อีกฝ่ายก็เผยใบหน้าประหลาดใจออกมาเช่นกัน
มันเกิดอะไรขึ้น?
ขณะที่หลินเฉินคิด เขาก็ไล่ล่าคนตรงหน้าเขาทันที
ปัง ปัง ปัง!
หมัดของหลินเฉินรวดเร็วราวกับสายฟ้า แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาหลบพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
หลินเฉินเพิ่มความเร็วของเขา แต่คนตรงหน้าเขาก็ยังคงหลบได้เช่นเดิม
แม้แต่ตอนที่หลินเฉินเกือบจะใช้กำลังอย่างเต็มที่ในร่างปกติ คนที่อยู่ตรงข้ามเขาก็ยังรับมือกับมันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อรู้หากทำต่อไปอาจดึงดูดความสนใจของโบแจ็คและคนอื่นๆ หลินเฉินจึงหยุดและถามด้วยสีหน้าสับสน “มิสเตอร์โปโป้ เจ้าเป็นใครกันแน่?”
อันที่จริงคนที่ต่อสู้กับหลินเฉินไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมิสเตอร์โปโป้ ซึ่งมักจะคิดว่าตนเองเป็นผู้ดูแลของพระเจ้าในวังพระเจ้าแห่งนี้
ผู้เฒ่าเต่ากล่าวว่ามิสเตอร์โปโป้น่าจะเสียชีวิตพร้อมกับพระเจ้าเดนเด้แล้ว แต่เขากลับยังมีชีวิตอยู่
นอกจากนี้ แม้จะเป็นเพียงผู้ดูแล แต่มิสเตอร์โปโป้กลับสามารถต่อสู้กับหลินเฉินได้อย่างเท่าเทียม ทั้งที่เขาในร่างปกติก็มีพลังถึง 8 ล้าน
นี่มันลึกลับเกินไปแล้ว
“เจ้ารู้จักโปโป้หรือ? แต่โปโปไม่รู้จักเจ้า” มิสเตอร์โปโป้ยืนกอดอกอยู่ด้านหลัง เขามองไปที่หลินเฉินอย่างไร้ความรู้สึก