ตอนที่แล้วบทที่ 81 ผู้นำอีเลฟเว่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 83 มหาวิทยาลัยเมืองหลวงโบราณ

บทที่ 82 หนอนแห่งจินตนาการ


หลังจากยกไหมหนอนของหนอนไหมเขียวจนถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ซืออวี๋ก็สนอการหลับลึกให้แก่มัน

[ชื่อ] : หนอนไหมเขียว

[ระดับการเติบโต] : ปลุกตื่นขั้นสิบ

[ทักษะ] : ไหมหนอน (สมบูรณ์) การหลับลึก (ขั้นเริ่มต้น)

แผงคุณสมบัติของหนอนไหมเขียวกลายเป็นเช่นนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว

ในขณะนี้ แม้ว่าหนอนไหมเขียวจะยังคงอ่อนแอมาก แต่ศักยภาพของมันก็สูงอย่างมาก

สำหรับนักวิจัยการวิวัฒนาการเหล่านั้น… แม้กระทั่งอีเลฟเว่นผู้ที่เชี่ยวชาญทักษะมากมายก็ยังไม่มีค่าเท่ากับหนอนไหมเขียว

ท้ายที่สุด ความยืนหยุ่นของหนอนไหมเขียวนั้นดีมากเกินไปซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด

อันที่จริง ซืออวี๋ต้องการเพิ่มแต้มอีกเล็กน้อยเพื่อดูว่ามีหนทางเพิ่มระดับของไหมหนอนถึงขั้นเหนือธรรมชาติไหม

ทว่าในขณะนี้ เขาไม่มีพลังงานเพียงพอ… ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าอาจมีความเชี่ยวชาญขั้นที่สูงยิ่งขึ้นในตอนนี้

“จิ๋…”

หลังจากเรียนรู้การหลับลึก หนอนไหมเขียวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

มีทักษะที่สะดวกเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

การหลับลึกสามารถช่วยให้สัตว์อสูรหลับได้ในทันที และนั่นก็เป็นการหลับสนิทพร้อมกับความเร็วการฟื้นฟูที่รวดเร็ว นี่คือสิ่งที่มันชอบมาก!

ในที่สุดมันก็ออกห่างจากอาการนอนไม่หลับได้…

“อย่าคิดถึงเรื่องนอนไม่หลับ”

“เจ้ารู้สึกว่าจิตใจและจิตวิญญาณของเจ้าดีขึ้นไหม?”

การหลับลึกเป็นทักษะประเภทจิตวิญญาณ หลังจากสอนมันแล้ว มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจให้แก่หนอนไหมเขียว เมื่อซืออวี๋กล่าวจบ หนอนไหมเขียวก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยความสับสนและมองไปที่ซืออวี๋ จากนั้นมันก็พยักหน้า บางที…

“...” ทำไมซืออวี๋ถึงรู้สึกว่าเขาเป็นอาจารย์และกำลังถามนักเรียน ทว่านักเรียนไม่แน่ใจและไม่สามารถตอบคำถามได้ล่ะ?

“ถ้าเช่นนั้นภารกิจต่อไปของเจ้าคือการฝึกฝนความฝันให้ชัดเจน”

“เจ้าเคยฝันซ้ำสองสามครั้งก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าจ้าอยู่ในความฝันไหม?” ซืออวี๋เอ่ยถามออกมา

หนอนไหมเขียวพยักหน้า ใช่แล้ว ใช่แล้ว มันเคยฝันว่าถูกนกกินมากกว่าหนึ่งครั้ง

บัดซ* มันจำความแค้นนี้ได้ดี

“ถ้าเช่นนั้นหลังจากที่เจ้ารู้สึกตัวแล้ว เจ้าได้ดิ้นรนและปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมาไหม?” ซืออวี๋เอ่ยถามอีกครั้ง

หนอนไหมเขียวพบเจอกับเรื่องประหลาดใจ ทำไมซืออวี๋ถึงรู้เรื่องทุกอย่างล่ะ!

ซืออวี๋หัวเราะ นี่คือการฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทุกคน

“มุ่งเน้นไปที่จินตนาการของเจ้าก่อนนอนและสะกดจิตตัวเองเพื่อทบทวนความฝันที่เจ้ามักฝันถึง นี่คือจุดเริ่มต้นของความฝันที่ชัดเจน”

“หากเจ้าเจอความฝันที่คล้ายกันอีกครั้งและรู้สึกตัวว่ากำลังฝัน แสดงว่าเจ้าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในขณะนั้น เจ้าต้องใจเย็นและมีสมาธิ อย่าคิดที่จะหลบหนี ให้เริ่มจินตนาการแทน”

“นี่คือความฝันของเจ้า หากไม่มีการรบกวนจากภายนอก ทุกอย่างภายในความฝันจะถูกควบคุมโดยเจ้า”

“ตราบใดที่พลังจิตในจิตใต้สำนึกของเจ้าแข็งแกร่งมากพอ ฉากฝันร้ายก็สามารถหายไปได้ทุกเมื่อ เจ้าสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้ในความฝันอย่างง่ายดาย”

ซืออวี๋อาจต้องพึ่งพาสารบัญทักษะเพื่อสอนทักษะ ทว่าเขาก็เข้าใจวิธีการสอนปกติเช่นกัน

มีอยู่ครั้งหนึ่งในตอนที่เขาทุกข์ใจเพราะฝันร้าย ซืออวี๋พึ่งพาการกระทำนี้เพื่อสังหารผีสาวได้สำเร็จ น่าเสียดายที่นั่นเกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น

ในขณะนี้ หนอนไหมเขียวเข้าใจอย่างคลุมเครือ ด้านข้างมัน อีเลฟเว่นกำลังฝึกฝนและแอบฟัง

โอ้ นั่นไม่ใช่แค่การฝันกลางวันหรอกเหรอ?

นั่นไม่เหมาะกับมัน ไม่มีความหมายเลย

ในขณะเดียวกัน มันยังรู้สึกว่าหนอนไหมเขียวไม่สามารถรับมือกับมันได้!

อีเลฟเว่นเลือกที่จะฝึกฝนอย่างหนักต่อไป

ในขณะนี้ หน้าสารบัญทักษะของซืออวี๋ก็ยังคงเต็มอยู่ มีเพียงการทำสัญญากับสัตว์อสูรตัวต่อไปเท่านั้นเขาถึงจะสามารถเพิ่มจำนวนหน้าได้อีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจำลองทักษะการควบคุมความฝันได้ เขาทำได้เพียงแค่ปล่อยให้หนอนไหมเขียวฝึกฝนความฝันให้ชัดเจนก่อน

เขาต้องการที่จะทำสัญญากับหนอนไหมเขียวทันที ทว่าระดับมิติฝึกสัตว์อสูรของเขายังไม่สูงมากพอ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หนอนไหมเขียวจะกลายเป็นรังไหม ซืออวี๋จะต้องทำสัญญากับมันอย่างแน่นอน

มีประโยชน์สองอย่างสำหรับเรื่องนี้

อย่างแรก หากหนอนไหมเขียวกลายเป็นสัตว์อสูรของเขาและพบสถานการณ์ที่ไม่สามารถกลายเป็นรังไหมได้ ซืออวี๋สามารถใช้มิติฝึกสัตว์อสูรเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ตาย

การทำสัญญากับสัตว์อสูรเป็นพลังเวทมนตร์ เว้นแต่จะเป็นการกำจัดอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่านักฝึกสัตว์อสูรหรือสัตว์อสูรของพวกเขาตกอยู่ในสภาวะวิกฤต ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งยังอยู่ในสภาพดี สัญญาก็จะไม่ถูกทำลาย

อย่างที่สอง หากหนอนไหมเขียววิวัฒนากรได้สำเร็จภายใต้สานะทำสัญญา ซืออวี๋ในฐานะนักฝึกสัตว์อสูรอาจได้รับประโยชน์บางส่วนในระหว่างการวิวัฒนาการ เช่นเดียวกับการเพิ่มระดับการเติบโตของสัตว์อสูรซึ่งนำประโยชน์บางส่วนมาสู่นักฝึกสัตว์อสูร

“จิ๋!”

จากนั้น ซืออวี๋ก็อธิบายประเด็นสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับการควบคุมความฝันให้หนอนไหมเขียวฟัง ไม่เพียงแค่ข้อมูลที่เขารู้เท่านั้น ทว่ายังรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่หาได้ในอินเทอร์เน็ตของโลกนี้ด้วยเช่นกัน

วัฒนธรรมการควบคุมความฝันในโลกนี้ดูราวกับจะเป็นที่นิยมยิ่งกว่าบน ‘โลก’ เสียอีก

“จิ๋!!”

หลังจากผ่านไปสักพัก หนอนไหมเขียวก็ได้จำความรู้นี้ไว้อย่างสมบูรณ์และวางแผนที่จะฝึกฝนทันที

“รอก่อน” ซืออวี๋หาวก่อนที่จะเรียกหนอนไหมเขียวอีกครั้ง

“ข้ายังกล่าวไม่จบ อย่าฝันถึงเรื่องไร้สาระ ต้องวางแผนก่อน”

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดภาพให้หนอนไหมเขียวดู

[ภาพ]

[ชื่อ] : มังกรน้ำแข็ง

[ระดับการเติบโต] : ผู้ปกครองชั้นกลาง

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยฝันว่าเจ้าได้กลายเป็นมังกรมาก่อนเหรอ? ดูสิ มันเป็นสัตว์อสูรตัวนี้ไหม?”

ซืออวี๋ค้นหารูปภาพของมักงรน้ำแข็งบนอินเทอร์เน็ต กล่าวตามตรง สัตว์อสูรที่เขาพบในซากปรักหักพังนั้นแตกต่างจากสัตว์อสูรตัวนี้มาก

อย่างไรก็ตาม รูปลักษณ์ของพวกมันก็เหมือกนัน พวกมันน่าประทับใจและน่าเกรงขามมาก

“จิ๋!!!”

เมื่อเห็นว่าซืออวี๋หยิบโทรศัพท์ออกมา หนอนไหมเขียวก็มองภาพนั้นด้วยความสงสัยและส่ายหัวของมัน

มันฝันว่ามันได้กลายเป็นมังกรเขียว ไม่มีปีกซึ่งดูคล้ายกับตัวมันเองมาก ไม่ใช่มังกรตัวนี้ที่มีปีก

“มังกรเขียวเหรอ? ไม่แปลกใจเลย” ซืออวี๋รู้ว่าทำไมหนอนไหมเขียวถึงฝันว่ามันกลายเป็นมังกร

เป็นไปได้มากว่ามันเคยเห็นภาพของมังกรเขียวมาก่อนและเกิดความประทับใจ

มังกรเขียวเป็นสัตว์อสูรจากเทพนิยายโบราณ สถานที่หลายแห่งใช้รูปปั้นและภาพของมัน นี่อาจเป็นวิธีที่หนอนไหมเขียวเห็นมัน

“หยุดคิดเรื่องนี้ ดูนี่ก่อนสิ” ซืออวี๋ชี้ไปที่มังกรน้ำแข็งในภาพ

“เจ้านี่… มันได้เอาชนะอีเลฟเว่นในซากปรักหักพังครั้งก่อน”

“ดูให้ระเอียดและลองฝันถึงมัน เมื่อถึงเวลา ข้าจะสอนทักษะการแสดงความฝันให้เป็นจริงแก่เจ้า เจ้ามีโอกาสที่จะเอาชนะอีเลฟเว่นได้”

“จิ๋?”

จริงเหรอ?

หนอนไหมเขียว : ✪ ω✪

มันมองไปที่อีเลฟเว่นในการฝึกฝน อีเลฟเว่นเป็นผู้นำของัมน การเอาชนะอีเลฟเว่นดูเหมือนจะเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่!

อีเลฟเว่นผู้ที่กำลังฝึกฝนอยู่นั้นรู้สึกอย่างบางเบาว่ามีคนต้องการเอาชนะมัน

มันหันไปรอบตัวและเห็นซืออวี๋และหนอนไหมเขียวกำลังมองมาที่มันด้วยเจตนาร้าย

อีเลฟเว่น :???

เกิดอะไรขึ้น? มันทำอะไรผิดเหรอ?

ซืออวี๋ยิ้มและวางโทรศัพท์ลงบนพื้นเพื่อให้หนอนไหมเขียวสังเกตมังกรน้ำแข็งจนสลักลึกในหัวใจของมัน

อืมม… เมื่อเขาว่าง เขาควรจะไปปริ้นรูป มิฉะนั้น เขาคงจะลำบากน่าดู

อันที่จริง ซืออวี๋วางแผนที่จะปล่อยให้หนอนไหมเขียวเล่นใหญ่ตั้งแต่แรก

การใช้มังกรเป็นเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมในความฝันจะมีผลอย่างมากในตอนเริ่มต้น

บางทีพลังต่อสู้ของสิ่งที่สร้างจากความฝันอาจเป็นเช่นเดียวกับกิ้งก่าน้ำแข็งระดับปลุกตื่นขั้นหนึ่ง ทว่าทักษะภูติมายาก็ต้องได้รับการบ่มเพาะอย่างช้าๆ พวกเขาต้องเริ่มต้นจากอะไรสักอย่าง

“ข้าทนไม่ไหวแล้ว”

ในขณะเดียวกัน เปลือกตาของซืออวี๋ก็หนักยิ่งขึ้น

ซืออวี๋ผู้ที่ได้เพิ่มแต้มหนอนไหมเขียว 48 ครั้งติดต่อกันรวมถึงการหลับลึก กินถั่วเซียนห้าเม็ดและอาหารเสริมอื่นติดต่อกันก็ได้รู้สึกว่าเขาต้องการนอนหลับแล้ว ร่างกายของเขาได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว

วันต่อมา

ซืออวี๋ได้ถูกปลุกโดยหนอนไหมเขียวหรืออีเลฟเว่น ทว่ากลับถูกปลุกโดยเสียงโทรศัพท์

“สวัสดี พัสดุของเจ้ามาถึงแล้ว!”

“รอสักพักหนึ่ง”

เมื่อซืออวี๋ได้ยินเสียง เขาก็ลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความงุนงงและเดินออกจากบ้านฝึกฝนด้วยรองเท้าแมวของเขา

ในตอนแรก ซืออวี๋ยังคงสับสนในตอนที่เขาตื่น ทว่าเมื่อเขาเห็นคนส่งของที่คุ้นเคยตรงหน้าเขา เขาก็หายสับสนในทันที

“อ่าา นี่แหละ”

คนส่งของชำเลืองมองที่ซืออวี๋และมองไปยังบ้านหลังใหญ่ข้างหลังซืออวี๋ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจบางอย่างและแสดงสีหน้าอิจฉาออกมา

ผ่านไปสักพักหนึ่ง ซืออวี๋ก็เก็บผลไม้คริสตัลมิติสองลูกและเดินเข้าไปในบ้าน

ซืออวี๋มองไปที่นอกหน้าต่างและเห็นว่าอีเลฟเว่นยังคงฝึกฝนอยู่

วิธีการฝึกฝนของมันนั้นเรียบง่ายมาก การทวีคูณ ฝ่ามือสายฟ้า การเคลือบแข็ง และสุดยอดการมองเห็นได้ถูกใช้พร้อมกันเพื่อฝึกฝนความสามารถในการประสานของมัน

เรื่องนี้ถูกสอนโดยซืออวี๋ ท้ายที่สุด ไม่มีความหมายในการฝึกฝนทักษะเดียว การฝึกทักษะผสานโดยตรงนั้นจะดีกว่ามาก

วิธีนี้สามารถฝึกฝนสี่ทักษะได้ในเวลาเดียวกันและยังฝึกฝนความสามารถการประสานที่สำคัญที่สุดของทักษะผสานในอนาคตได้ นั่นเรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

“หลังจากที่ข้าวิวัฒนาการบักกี้เสร็จ ข้าจะช่วยอีเลฟเว่นให้เข้าสู่ความล้ำลึกของ ‘เกราะสายฟ้า’”

“ข้าสงสัยว่า ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กไฟฟ้า’ จะใช้เวลานานแค่ไหน”

อย่างแรกคือการผสานของการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้าขั้นสมบูรณ์ ในขณะที่อย่างหลัง ซืออวี๋ประมาณว่าอย่างน้อยที่สุดมันต้องมีการเคลือบแข็งและฝ่ามือสายฟ้าขั้นเหนือธรรมชาติ…

หลังจากมองดูอีเลฟเว่น ซืออวี๋ก็พบหนอนไหมเขียวอย่างรวดเร็ว

ในขณะนี้ หนอนไหมเขียวกำลังนอนหลับอยู่ในกระถางต้นไม้ในสนามฝึก

“ตื่นได้แล้ว” ซืออวี๋ใช้กระแสจิตเพื่อเรียกมัน

การหลับลึกของบักกี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่มันจะรู้สึกถึงโลกภายนอกในขณะหลับ

อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋มีกระแสจิต ดังนั้นเขาจึงปลุกมันได้อย่างง่ายดายซึ่งดียิ่งกว่านาฬิกาปลุก

“จิ๋…” หนอนไหมเขียวลืมตาขึ้นมาด้วยความงุนงงและพบซืออวี๋

ในวินาทีต่อมา มันก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมา

มันคือหนอนไหมเขียวอัจฉริยะ!

“เอ่อ เจ้ากำลังบอกว่าการจัดการความฝันของเจ้าค่อนข้างดีเหรอ? เจ้าสามารถร่างภาพคร่าวๆ ของมังกรน้ำแข็งได้เหรอ?”

เมื่อได้ยินคำกล่าวของหนอนไหมเขียว ซืออวี๋ก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด พรสวรรค์นี้ไม่เลวเลย

แม้ว่าความสามารถนี้สามารถฝึกฝนได้โดยคนธรรมดาได้ แต่หนอนไหมเขียวก็ยังคงเป็นหนอน เพื่อให้สามารถเข้าใกล้เงื่อนไขของความฝันที่ชัดเจนในชั่วข้ามคืน มันจะต้องมีพรสวรรค์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในความฝันเช่นนี้ ภาพของมังกรน้ำแข็งที่หนอนไหมเขียวฝันถึงคงจะหลุมเครือมากอย่างแน่นอน

คุณภาพของภาพมายาที่เกิดขึ้นนั้นสัมพันธ์กับความถูกต้องของภาพมายา หากหนอนไหมเขียวต้องการสร้างมังกรน้ำแข็งให้สมบูรณ์ อย่างน้อยที่สุด มันต้องฝันเห็นถึงขนทุกเส้นของมังกรน้ำแข็งให้ชัดเจน

นั่นเทียบเท่ากับการให้ฝันถึงแมวและนับขนแมวในความฝัน

เรื่องนี้ยากมากอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสัตว์อสูรที่ไร้ซึ่งพรสวรรค์ด้านความฝัน ทว่าเพื่อที่จะสร้างภาพมายาเสมือนจริงให้สมบูรณ์ ขั้นตอนนี้ต้องได้รับการฝึกฝน

ต้องรอดูว่าเขาจะสามารถจำลองทักษะที่คล้ายกันได้ไหมในอนาคต…

“กินอะไรก่อนนะ” ซืออวี๋หยิบผลไม้คริสตัลมิติที่โปร่งใส่ราวกับแก้วและมอบมันให้แก่หนอนไหมเขียว

“จิ๋…”

แม้ว่าหนอนไหมเขียวจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรและไม่ได้กลิ่นอะไรเลย แต่เนื่องจากซืออวี๋มอบมันให้ มันจึงต้องเป็นของดีอย่างแน่นอน

“จิ๋”

หนอนไหมเขียวส่งเสียงร้องและคลานไปด้านข้าง มันเงยหน้าขึ้นมาและกัดผลไม้คริสตัลมิติ

อึก

หลังจากกลืนผลไม้เข้าไป หนอนไหมเขียวก็ไม่รู้สึกถึงรสชาติอะไรเลย และร่างกายของมันก็ไม่รู้สึกถึงอะไรเลยเช่นกัน

“กินมันให้หมด” ซืออวี๋กล่าวออกมา

หนอนไหมเขียวเริ่มพยายามอย่างหนักเพื่อกินผลไม้คริสติลมิติที่อยู่ตรงหน้ามัน

พี่ใหญ่ในสถาบันแห่งหนึ่งผู้ที่วิจัยผีเสื้อฟินิกซ์น้ำแข็งและบ่มเพาะหนอนไหมเขียวจนมันมีทักษะขั้นเหนือธรรมชาตินั้นได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับไหมหนอน

แม้ว่าไหมหนอนขั้นเหนือธรรมชาติของหนอนไหมเขียวจะเปลี่ยนลักษณะของมันผ่านทางอาหารได้ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็อยู่ได้ไม่นานนัก

หากมันต้องการที่จะรักษาคุณสมบัติไว้ มันจะต้องกินอาหารแบบเดียวกันทุกวัน

หากอาหารถูกเปลี่ยนในสักวันหนึ่ง ลักษณะเก่าของไหมหนอนอาจถูกปกคลุมโดยคุณสมบัติใหม่

ต่อจากนั้น ไหมหนอนขั้นเหนือธรรมชาติของหนอนไหมเขียวได้รับสืบทอดลักษณะเฉพาะของวัสดุวิวัฒนาการที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

น่าเสียดาย พี่ใหญ่ผู้นี้ไม่ได้ประกาศลักษณะของวัสดุทุกคุณสมบัติ คนผู้นั้นเพียงแค่ยกยกตัวอย่างมาสองวัสดเุ

ก่อนนหา้นี้ หนอนไหมเขียวกินหญ้าหนวดมังกรระดับหนึ่ง นี่เป็นทรัพยากรที่ใช้เพื่อเสริมพลังความแหลมคมและความแข็งแกร่งของทักษะประเภทไหม

และในตอนนี้ เมื่อมันกินผลไม้คริสตัลมิติเสร็จ แม้ว่าหนอนไหมเขียวจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในไหมหนอน แต่ในไม่ช้า สารบัญทักษะที่อยู่ตรงหน้าซืออวี๋ก็เปลี่ยนไป

[ทักษะ] : ภูติมายา

[ระดับทักษะ] : สูง

[สถานะ] : สอนได้

ซืออวี๋ : “!!!”

เยี่ยมไปเลย!

เกณฑ์ความเข้ากันได้ของสารบัญทักษะสามารถเปลี่ยนแปลงได้!

“จิ๋…” ในขณะนี้ หนอนไหมเขียวไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะที่มันมองไปที่ซืออวี๋ซึ่งแสดงสีหน้าประหลาดใจและยินดีอย่างกะทันหัน

“ข้า… ลืมไปเถอะ ทดลองลักษณะของไหมหนอนก่อน”

“จิ๋!” หนอนไหมเขียวพยักหน้าในทันที จากนั้นก็ควบแน่นไหมหนอนเป็นลูกศรสีขาวและยิงออกไป!

หวือออ!!!

ในสายตาของหนอนไหมเขียว ไม่มีความแตกต่างจากเดิมเลย

ในตอนท้าย ลูกศรก็ได้แทงเข้าไปบนในพื้นและเกิดรอยแตกร้าวบนพื้นซึ่งธรรมดามาก

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องปกติเลย สถานที่แห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝึกฝนโดยเฉพาะ ดังนั้นความแหลมคมของไหมหนอนจึงดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

“จิ๋…” หนอนไหมเขียวกำลังรู้สึกสูญเสีย ดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้น ทว่ามันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันทรงพลังมากนัก

มันมองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่กำลังมองดูรอยแตกในสนามฝึกอย่างเงียบสงบ

“เจ้าควบแน่นไหมหนอนเป็นลูกศรและยิงมันเหรอ?”

หนอนไหมเขียวพยักหน้า ใช่แล้ว ใช่แล้ว

ซืออวี๋ :“…”

เขาขยี้ตาและสงสัยว่าตาของเขามีปัญหาไหม

“ทำอีกครั้งหนึ่ง”

ผ่านไปสักพักหนึ่ง รอยแตกร้าวอีกหนึ่งรอยก็ปรากฎขึ้นบนสนามฝึก

“วางไหมหนึ่งเส้นบนพื้น”

จากนั้น ซืออวี๋ก็ให้หนอนไหมเขียวคายไหมหนอนออกมาบนพื้น

ซืออวี๋หมอบลงและแตะมันเบาๆ ด้วยมือของเขา ในที่สุดเขาก็ยืนยันได้แล้ว

นอกจากความแหลมคมแล้ว ลักษณะหลักของไหมหนอนมิติก็คือการล่องหน

อันที่จริง ประเภทแสง จิตวิญญาณ และอันเดตสามารถทำเช่นนี้ได้ สิ่งเหล่านี้สามารถหลอกลวงการรับรู้ของผู้คนได้ในรูปแบบต่างๆ

สำหรับความสามารถนี้ ซืออวี๋เงียบไปเล็กน้อย เขาแค่ไม่รู้ว่าวิธีการหลอกลวงนั้นจะสมบูรณ์ง่ายกว่าลักษระอื่นไหม

หกามันสมบูรณ์ได้ยาก นั่นคงไม่เป็นไร ทว่าหากมันสมบูรณ์ได้ง่าย นั่นคงแย่อย่างแน่นอน ท้ายที่สุด หากเขาต้องการรักษาไหมหนอนประเภทนี้ไว้ เขาไม่สามารถหยุดซื้อผลไม้คริสตัลมิติลูกละ 500,000 หยวนได้เลย ตามที่คาดไว้ มันยังคงห่างไกลจากการตัดผ่านมิติ…

เฮ้อ ท้ายที่สุด มันก็เป็นเพียงแค่หนอนไหมเขียวระดับปลุกตื่นขั้นสิบและผลไม้คริสตัลมิติที่มีพลังมิติอ่อนแอ… เขาไม่ควรหวังมากเกินไปนัก

“กุญแจสำคัญไม่ใช่ไหมหนอน ทว่าคือทักษะนี้”

ซืออวี๋เอื้อมมือออกไปและเตรียมที่จะสอนทักษะ ‘ภูติมายา’ ให้แก่หนอนไหมเขียว

เหตุผลที่เขามอบคุณสมบัติมิติชั่วคราวให้แก่หนอนไหมเขียวไม่ใช่เพื่อเสริมพลังให้แก่หนอนไหมเขียว ทว่าเพื่อเพิ่มความเข้ากันได้ระหว่างหนอนไหมเขียวและระบบมิติ

“สอน”

ก่อนที่หนอนไหมเขียวจะทันได้ตอบสนอง ซืออวี๋ก็กดนิ้วลงบนหัวของมัน

หนอนไหมเขียวก้มหัวลงเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน แสงสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันในร่างกายของมันและเปลี่ยนร่างกายของมัน

ในช่วงเวลาอันสั้น ประสบการณ์และความรู้นับไม่ถ้วนที่เกี่ยวกับภาพมายาก็ปรากฎขึ้นในใจของหนอนไหมเขียว ทำให้มันปวดหัวอย่างมาก

“จิ๋—”

ผ่านไปสักพักหนึ่ง หนอนไหมเขียวก็ได้รับและเข้าใจทักษะอันซับซ้อนนี้ด้วยสีหน้าตกตะลึง

มันมองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่กำลังกำถั่วเซียนในมือข้างหนึ่งและดื่มของเหลวที่มันไม่รู้ตจักในมืออีกข้างหนึ่ง ในขณะที่มันรู้สึกสูญเสีย เสียงของซืออวี๋ก็ดังขึ้นในหัวของมัน

[หลับ รีบฝัน และแสดงมังกรน้ำแข็งมายาออกมา]

[ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ใช่หนอนไหมเขียวอีกต่อไป ทว่าเป็นหนอนแห่งจินตนาการ]

หนอนแห่งจินตนาการที่สามารถอัญเชิญมังกรได้เพียงแค่ฝันกลางวัน!

“จิ๋!” เมื่อได้รับคำสั่งของนักฝึกสัตว์อสูร เลือดของหนอนไหมเขียวก็เดือดพล่าน และมันก็หลับไปด้วยความมั่นใจ ท้ายที่สุด มันได้ฝึกฝนมาตลอดทั้งคืน

มันมั่นใจในความสำเร็จอย่างมาก

จากนั้น… ซืออวี๋ก็ยืนอยู่ที่นั่นประมาณห้านาที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนอนไหมเขียวดูราวกับจะหลับสนิท

“…”

บักกี้ หากว่านี่คือการต่อสู้ เจ้าคงตายไปแล้ว ใครจะให้เวลาเจ้าถึงห้านาทีในการใช้ทักษะกัน?

ซืออวี๋ไร้คำกล่าว ทว่าเมื่อเขานึกขึ้นมาได้ว่ามันเป็นหนอนไหมเขียว ไม่ใช่สัตว์อสูรความฝัน และมันเพิ่งเรียนรู้ทักษะของมัน เขาจึงรอคอยอย่างอดทน

ผ่านไปอีกห้านาที

ฮู ฮู ฮู ~ ~

ตรงหน้าซืออวี๋ มิติรอบตัวหนอนไหมเขียวดูราวกับบิดเบี้ยว ภาพของหนอนไหมเขียวที่นอนอยู่บนพื้นถูกแทนที่ด้วยมังกรน้ำแข็ง… ทว่ามันดูไม่เหมือนมังกรน้ำแข็งเลย อันที่จริง มันยาวประมาณสองเมตรเท่านั้น มีบางอย่างที่ดูเหมือนกิ่งก้าสีน้ำเงินปรากฎขึ้นตรงหน้าซืออวี๋

มันพ่นลมเยือกแข็งออกมาและกระพือปีกของมัน สายตาของมันเผยให้เห็นถึงออร่าที่น่าเกรงขาม

นี่ไม่ใช่ภาพมายาแบบดั้งเดิม ทว่าเป็นภาพมายาร่างกาย นี่คือสัตว์อสูรจากความฝันของหนอนไหมเขียว มันใช้พลังมิติเพื่อฉายภาพตัวเองและประสบความสำเร็จในการสร้างภาพมายา

กิ้งก่าน้ำแข็ง ไปเลย!

ซืออวี๋ไร้คำกล่าว

ดูเหมือนว่ามันยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ… มิฉะนั้น มันจะไม่สามารถเลียนแบบรูปลักษณ์ของมังกรน้ำแข็งได้ย่างแม่นยำนัก นับประสาอะไรกับความแข็งแกร่งของมังกรน้ำแข็ง มันไม่สามารถทำให้คนหวาดกลัวได้ด้วยพลังแห่งมังกรปลอมของมันได้

“จิ๋!”

“กรรรร”

ในขณะนี้ มันรู้สึกอยู่ยงคงกระพัน… ความแข็งแกร่งของมันมากยิ่งกว่าในตอนที่มันเป็นหนอนไหมเขียว!

“เอาล่ะ เจ้าอยู่ยงคงกระพัน ไปเลย อีเลฟเว่นที่ตรงนั้น ท้าทายมันสิ” เมื่อซืออวี๋กล่าวจบ กิ้งก่าน้ำแข็งก็มองไที่ราชาแพนด้าอีเลฟเว่นที่ยังคงฝึกฝนและพุ่งเข้าหาอีเลฟเว่นในทันที!

“อู๋?”

“จิ๋!!!”

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด