บทที่ 18 : [ด่าน 1] สัตว์ประหลาดกำลังมา
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 18 : [ด่าน 1] สัตว์ประหลาดกำลังมา
งานมีความคืบหน้าอย่างมาก
ข้าเดินทางไปรอบๆ ทุกที่เพื่อออกคำสั่ง
เราเสริมสร้างกลไกการป้องกัน ตั้งสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์บนกำแพง ฝึกวินัยของทหารและสร้างกำแพงไม้
'ไม่เลวทีเดียว'
ด้วยการเตรียมการทุกอย่าง ข้าก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น
’ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวลอีกต่อไป!'
อันที่จริงเกราะมีชีวิตเป็นหนึ่งในสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุดในช่วงเริ่มต้น
แต่นี่เป็นด่านที่ 1 ซึ่งเป็นด่านแรกๆ ระดับของสัตว์ประหลาดโดยเฉลี่ยจึงอยู่ที่ 5 เท่านั้น
ไม่ว่าพวกมันจะเก่งแค่ไหน แต่ค่าสถานะของพวกมันก็ไม่ได้น่ากลัวมากขนาดนั้น
’ก็ถือว่าเป็นกำไร! การจัดการกับชุดเกราะมีชีวิตแต่เนิ่นๆ ย่อมทำให้เส้นทางข้างหน้าราบรื่นยิ่งขึ้น!'
เมื่อจัดการกับพวกมันไปครั้งหนึ่ง พวกมันก็จะไม่เกิดขึ้นอีกสักพักหนึ่ง
หากจัดการกับศัตรูที่น่าสะพรึงไปได้ เส้นทางต่อจากนี้ก็คงง่ายดายมาก
’นอกจากนี้เมื่อผ่านด่าน 0 แล้ว สถานการณ์ก็ค่อนข้างเข้ามาทางเขามาก’
ไม่ว่าจะอยู่โลกไหน เงินก็คือเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ด้วยของจากด่านที่ 0 ทำให้เราสามารถเสริมสร้างและเตรียมความพร้อมของกำแพง จนมันไม่มีสภาพเหมือนกับกำแพงที่จะอยู่ในด่านแรกอีกต่อไปแล้ว
‘ข้าทำได้ ข้าทำได้ ข้าทำได้!'
เมื่อทวนคำพูดนี้ไปมา ข้าก็ได้ใช้เวลาทั้งสามวันในการเตรียมการป้องกัน
เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
***
สามวันได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ด้านบนของป้อมปราการทางใต้ของครอสโรด
“…..”
ข้ากำลังมองดูหน้าต่างข้อมูลของด่านอยู่
[ด่านที่ 1]
– เริ่มใน: 30 นาที
เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมง
เวลาเริ่มต้นของด่านหมายความว่าทัพหน้าของฝูงสัตว์ประหลาดกำลังจะเริ่มการโจมตีครั้งแรกของพวกมัน
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
หมายความว่าเราจะสามารถมองเห็นพวกสัตว์ประหลาดได้ก่อน
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
เสียงโลหะได้ดังก้องไปทั่วผืนดิน
ชุดเกราะภูติวิญญาณได้ปรากฏขึ้น พวกมันเคลื่อนไหวกันเป็นหนึ่งเดียว
“เห็นพวกมันแล้ว!”
หน่วยสอดแนมตะโกนสุดเสียง
“พวกมันกำลังมา!”
ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!
กองทัพชุดเกราะมีชีวิต
แม้จะมันจะอยู่ไกล แต่เสียงการเคลื่อนไหวของพวกมันก็ดังมากจนมาถึงจุดที่พวกเขาอยู่กัน
อึก
ทหารทุกคนในป้อมปราการกลืนน้ำลายพร้อมกันดว้ยความกลัว
เป็นเวลาประมาณทศวรรษแล้วที่พวกสัตว์ประหลาดไม่ได้มายังครอสโรด
ฝูงสัตว์ประหลาดที่มาจากทะเลสาบนั้นลดน้อยลงมาก
แต่เมื่อผ่านไปเพียงทศวรรษ พวกมันก็หวนกลับคืนมาแล้ว
ทหารทุกคนต่างตึงเครียด ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
“ไม่จำเป็นต้องกลัว!”
ข้าตะโกนออกมาด้วยความเชื่อมั่น
“สัตว์อสูรพวกนี้มีดีแค่เรื่องจำนวน!”
อืม พวกมันเป็นกองกำลังชุดเกราะมีชีวิต เป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่สุดในช่วงเริ่มต้น
“ส่วนพวกเราคือองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิทางใต้!”
จริงๆ แล้วเราเป็นเพียงกลุ่มทหารผ่านศึกที่เกษียณและทหารเกณฑ์ที่คัดมาจากทหารรับจ้างมือใหม่ก็เท่านั้น
“การเตรียมการป้องกันของเรานั้นไร้ที่ติ! อุปกรณ์ของเราอยู่ในสภาพพร้อมรบ!”
ไม่ว่าเงินจะถูกเทลงมามากแค่ไหน เวลาก็เป็นสิ่งที่เป็นปัญหาที่สุด อันที่จริง เวลาเตรียมการเราไม่พอด้วยซ้ำ
“เราสามารถขับไล่พวกมันออกไปได้! เราไม่มีอะไรต้องกลัว!”
แต่คำกล่าวข้ากลับกล้าปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป
ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่ควรแบกรับความกังวลพวกนี้ ความกลัวและความสงสัยของพวกเขาควรจะอยู่กับแค่ข้าเท่านั้น
“แค่ทำตามที่ข้าสั่ง”
รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้า ทหารทุกคนต่างจับจ้องมาทางข้า
“พวกเราก็จะได้รับชัยชนะในศึกครานี้”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของข้า ทหารมือเก๋าที่เข้าใจความน่าสะพรึงกลัวของชุดเกราะที่มีชีวิตก็รู้สึกตึงเครียดมาก
ส่วนทหารใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับภัยคุกคามที่กำลังจะเข้ามาก็ยังยืนนิ่งไป
แรงสั่นสะเทือนของสัตว์ประหลาดกำลังก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างมั่นคง
’เจ้าทำได้ จูปิเตอร์!'
ข้ามองผ่านกล้องส่องทางไกลของข้าไปที่ฝูงสัตว์ประหลาดที่ใกล้เข้ามาด้วยความกังวล
’แผนกว่าครึ่งที่ข้าวางไว้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว! จงทำให้ดี!'
และผ่านไปสักพัก...
ครืน ครืน...
เสียงฟ้าร้องได้ดังกึกก้องมาแต่ไกล
มุมปากของข้ายกยิ้มขึ้น
หากมีเสียงคำรามของสายฟ้า ย่อมหมายถึงอัสนีกำลังมา
นักเวทย์สายฟ้าราคาสูงที่ข้าจ้างมากำลังเคลื่อนไหว
***
จากแผนที่ จูปิเตอร์และทีมของนางจะประจำการอยู่นอกป้อมปราการ
ภารกิจของพวกเขาคือการซุ่มโจมตีกองทหารชุดเกราะมีชีวิตที่เดินทางข้ามมายังที่ราบทางใต้
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
พวกมันเหมือนเครื่องจักรที่ไม่ยอมแพ้ สัตว์ประหลาดชุดเกราะนับ 1,000 ตนได้เดินขบวนตามลำดับอย่างพร้อมเพรียงกัน
จากที่ราบทางใต้มายังป้อมปราการครอสโรด มันเดินเป็นเส้นตรง
เมื่อเฝ้ามองพวกมันผ่านกล้องส่องทางไกล ข้าก็กระซิบกับตัวเอง
’ใกล้เข้ามาอีกนิด...อีกหน่อย...’
พวกสัตว์ประหลาดยึดมั่นเพียงสิ่งเดียว
– กำจัดมนุษย์ให้สิ้นซาก
พวกมันจึงใช้เส้นทางที่ตรงและใกล้ที่สุดในการกำจัดมนุษย์
หากไม่มีสิ่งกีดขวาง พวกมันก็จะเดินตามถนนเป็นเส้นตรงไปยังเมือง ซึ่งหมายความว่า...
ทันใดนั้นเอง
จากเส้นทางที่คาดเดาได้ของพวกมัน กับดักของข้าก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ
วู้บบ!
ชุดเกราะมีชีวิตได้เหยียบย่ำลงบนหลุมที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน
ชุดเกราะมีชีวิตเดินโซเซ จากนั้นก็ร่วงลงไป
ตุ๊บ! ปัง!
กับดักหลุมพรางสุดพื้นฐาน
เมื่อไม่มีเวลาขุดลึก หลุมจึงตื้นเขินพอสมควร แต่ก็เพียงพอที่จะโยนชุดเกราะมีชีวิตให้เสียการทรงตัว
ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว สัตว์ประหลาดชุดเกราะล้มลงอย่างงุ่มง่าม
เมื่อแถวแรกทรุดตัวลง ด้านหลังก็ชะงักตามไป
เมื่อพวกมันเสียขบวนไป ทั้งทัพของมันก็หยุดนิ่ง
นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการ ข้าตะโกนออกมาทันที
"ตอนนี้เลย!"
กับ! กับ! กับ! กับ! กับ!
เมื่อได้รับคำสั่งของข้า ทีมห้าคนของจูปิเตอร์ที่ขี่อยู่บนหลังอาชาสงครามก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่
ประกายแสงสีฟ้าได้ปรากฏอยู่ในมือของจูปิเตอร์ที่อยู่แนวหน้า
"ถ้าอย่างนั้น..."
ผมสีขาวของจูปิเตอร์โบกสะบัดไป นางรวบรวมพลังเวทย์เข้ามาและปล่อยพายุสายฟ้าไปทั่วทุกทิศทาง
“ก็มารับเงินของเรากันเถิด!”
ฟู้ม!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
สายฟ้าสีเหลืองสดใสได้พุ่งลงมาใส่ชุดเกราะมีชีวิตราวกับพายุสายฟ้า
นี่คือทักษะแรกของจูปิเตอร์ [พื้นที่แห่งการชำระล้าง]
ทักษะของหญิงชราผู้นี้มีชื่อว่าการชำระล้าง ซึ่งก็เหมือนกับการชำระล้างจนทำให้เป้าหมายสะอาดขาวขึ้น
’แต่พวกเขากำลังเปลี่ยนเป็นสีดำใช่ไหมนะ?’
ขณะที่มองชุดเกราะมีชีวิตที่ร่างไหม้เกรียมเพราะสายฟ้า ร่างของข้าถึงกับสั่นสะท้าน
นี่น่ะหรือการชำระล้าง? เรียกว่าทำให้ไหม้ยังดูจะเข้าเค้ากว่า
ตู้ม!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
สายฟ้าได้พุ่งเข้าใส่โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ด้วยก้อนพลังสายฟ้า ชุดเกราะมีชีวิตแทบทุกตนต่างสลายไปเหมือนกับกระดาษ
เนื่องจากเกราะโลหะของพวกมันมีการนำไฟฟ้า อีกทั้งสัตว์ประหลาดประเภทภูติวิญญาณยังได้รับความเสียหายพิเศษจากการโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ มันจึงเป็นชนะทางโดยสมบูรณ์
ก่อนที่ข้าจะรู้ตัว ชุดเกราะมีชีวิตหลายสิบตนก็ไหม้เป็นตอตะโกแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ ข้าก็กำหมัดแน่น ทำได้ดีมาก จูปิเตอร์!
-กรร…
-กรร!
ชุดเกราะที่มีชีวิตที่หลบหนีจากสายฟ้าอันเกรี้ยวกราดได้ก็มองไปยังผู้ที่โจมตีมันทันที
สายตาขอสัตว์ประหลาดนับพันที่จ้องมองอย่างพร้อมเพรียงนั้นน่าหวาดกลัวยิ่ง
แม้ข้าจะอยู่ไกลขนาดนี้ ก็ยังรู้สึกกลัวเลย ข้าได้แต่จินตนาการถึงสภาพของทางฝั่งจูปิเตอร์และทีมของนางที่ต้องถูกมองโดยพวกมัน
“พวกแกกำลังจ้องอะไรอยู่ ไอ้พวกสัตว์ประหลาดตัวน้อยที่ไม่รู้จักแม้แต่การเคารพผู้อาวุโส!”
แต่ดูพวกเขาจะไม่ต้องกังวลเลย
จูปิเตอร์เป็นทหารที่มีประสบการณ์ สมาชิกในทีมของนางก็พลอยได้แรงฮึกเหิมไปด้วย พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวพวกมันสักนิดเดียว
เมื่อจุดซิการ์ในมือด้วยสายฟ้าแล้ว จูปิเตอร์ก็ยิ้มกว้างขณะยกมือขึ้นอีกครั้ง
“อาหารค่ำมื้อพิเศษของคืนนี้คือชุดเกราะทอด! พวกเจ้าต้องเคี้ยวกันช้าๆ นะเด็กๆ!”
คราวนี้สายฟ้าสีน้ำเงินได้ตกลงมาจากท้องนภา
ฟู้ม!
ทักษะที่สองของจูปิเตอร์ [ชะล้างมลายหาย]!
ทักษะแรกคือการสร้างสัญลักษณ์ไว้บนศัตรูที่ถูกโจมตี ส่วนทักษะครั้งที่สองคือการสร้างความเสียหายเพิ่มแต่แก่ผู้ที่มีสัญลักษณ์ติดเอาไว้
สายฟ้าสีน้ำเงินได้ฟาดลงมาที่ชุดเกราะมีชีวิตที่รอดชีวิตจากการโจมตีครั้งแรก ทำให้พวกมันกลายเป็นฝุ่นผงทันที
ชุดเกราะมีชีวิตโดยรอบเองก็ละลายลงไป พลังนั้นช่างน่าตกตะลึงยิ่ง
-กึกกักกึกกัก…!
เปลวไฟและเสียงฟ้าคำรามได้สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสนามรบ
-สุดยอด!
ทหารที่เฝ้าดูจากกำแพงปราสาทก็รู้สึกมีกำลังใจเป็นอยา่งยิ่ง
เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดชุดเกราะละลายราวกับน้ำค้างแข็งในฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาก็เริ่มมีใจสู้ขึ้นมา
แต่เมื่อควันและเปลวไฟได้เลือนหายไป เสียงโห่ร้องของทหารก็ค่อยๆ เงียบลง
-กึก…
-กรร!
กองทหารชุดเกราะมีชีวิตดูจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย จำนวนของพวกมันยังคงมีมากมายมหาศาลอยู่ดี
การโจมตีครั้งแรกของพวกเขาทำให้สัตว์ประหลาดหายไปประมาณ 50 ตัว แต่อย่าลืมว่าพวกมันมีจำนวนอยู่นับพัน
การโจมตีก่อนหน้านี้เหมือนกับการสะกิดพวกมัน
ชุดเกราะมีชีวิตเริ่มรวมตัวกันอีกครั้ง ดวงตาที่น่าขนลุกของพวกมันเป็นประกายแวววาว ข้าตะโกนสุดเสียง
“ถอยมาจูปิเตอร์!”
ทันใดนั้น จูปิเตอร์ก็พุ่งกลับมาทันที
"พุ่งไป!"
เสียงตะโกนของจูปิเตอร์ดังก้องขณะที่ทีมห้าคนของนางพุ่งออกมาฝ่าฝูงสัตว์ประหลาดไปยังทางป้อมปราการ
-กรรร!
-กรร!
ในทางกลับกัน ชุดเกราะที่มีชีวิตก็ได้ส่งเสียงคำรามน่าสะพรึงและไล่ล่าตามมา
-แคร๊ง! แคร๊ง! แคร๊ง!
เสียงของห่าฝูงโลหะได้ตามพวกเขาไป
สัตว์ประหลาดเกราะนับพันได้ไล่ล่าด้วยความเร็วขั้นสุด เป้าหมายเดียวของพวกมันคือฉีกกระชากมนุษย์เบื้องหน้า
แม้ว่าพวกมันจะช้ากว่าอาชาสงคราม แต่แค่เพียงสายตาของพวกมันก็พอแล้วที่จะทำให้สั่นกลัวไปถึงกระดูกสันหลัง
“วิ่งเร็วเข้าเจ้าพวกเด็กน้อย! อย่าหันหลับไป แค่วิ่งไป!”
จูปิเตอร์นำทั้งกลุ่มและตะโกนจากด้านหน้า
ทหารที่อยู่บนป้อมปราการถึงกับหน้าซีดเผือด ฝูงชุดเกราะที่ไล่ตามมนุษย์ที่หนีออกมาเป็นภาพที่สยดสยองอย่างมาก
“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน! ไม่จำเป็นต้องกังวล!”
ข้าตะโกนสุดเสียง
“แค่ทำตามคำสั่งของข้าพอ! ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!”
"ขอรับองค์ชาย!"
ทหารทุกคนรีบประจำการยังตำแหน่งของพวกเขา ปืนใหญ่ทั้งหมดที่ติดตั้งอยู่บนป้อมปราการนั้นพร้อมแล้ว
-ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ!
ชุดเกราะที่มีชีวิตที่กำลังไล่ตามมนุษย์ไปก็พบเข้ากับสิ่งแปลกประหลาด
- กรร…
-กรร…
กำแพไงม้
กำแพงไม้ยาวที่สูงกว่าตัวคนหน่อยได้ขวางกั้นระหว่างพวกมันกับจูปิเตอร์
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ช่างไม้ที่ขยันขันแข็งของเราได้ทำการสร้างมันทั้งกลางคืนและกลางวัน
- กับ กับ กับ กับ!
สมาชิกทีมของจูปิเตอร์ได้ขี่ม้าพุ่งผ่านประตูแคบๆ กลางกำแพงไป
ชุดเกราะที่ไล่ตามมาก็หยุดชะงักไปชั่วขณะ
พวกสัตว์ประหลาดมีสามเส้นทางที่จะเลือก
– ทำลายกำแพงไม้
– วนรอบกำแพงไม้และใช้เส้นทางที่ยาวกว่า
– หรือตามรอยมนุษย์ผ่านประตูแคบๆ ท่ามกลางกำแพงไม้จิ๋วพวกนี้
- กรรรร!
พวกสัตว์ประหลาดจะเลือกเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
กำจัดมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้า
พวกมันไม่คำนึงถึงตัวเลือกที่สองอย่างการพังกำแพงหรือการอ้อมเลย
“ใช่แล้ว ไอ้พวกสัตว์ประหลาดบัดซบ!”
ข้าส่งเสียงตะโกนพร้อมกับยื่นแขนไปด้านข้าง
“ทุกหน่วยเตรียมพร้อมยิง!”
เมื่อต้องผ่านประตูแคบๆ ชุดเกราะที่มีชีวิตก็ถูกบังคับให้กระจุกตัวอยู่ตำแหน่งเดียว
การเคลื่อนไหวของพวกมันเฉื่อยชาลง พวกมันเริ่มเบียดเสียดกันเข้ามาผ่านทางเดินแคบๆ
ซึ่งเมื่อพวกมันรวมตัวกระจุกกันในที่โล่งและมีความเร็วลดลง ก็หมายความว่า...
“เรารอกันมานานแล้ว ทุกคน”
ทุกคนที่อยู่บนป้อมปราการตั้งท่าพร้อมยิงลงไป
จากนัน้ข้าก็ออกคำสั่งด้วยเสียงที่ดังกึกก้องให้กับทหารที่คุมปืนใหญ่ที่กำลังรอสัญญาณจากข้า
“จงจัดการพวกมันไม่ให้เหลือ ยิงด้วยทุกอย่างที่มี!”
เมื่อข้ากล่าวจบ ข้าก็ดันแขนไปข้างหน้าอย่างสุดแรง
"ยิงได้!"
"ยิง-!"
เหล่าทหารทวนคำสั่งของข้าและก็ได้จุดชนวนปืนใหญ่
ฟูมม! ตู้ม!
ปืนใหญ่ทั้งหมดบนป้อมปราการยิงออกไปพร้อมกัน
ฟิ้วววว
กระสุนปืนใหญ่ที่ปล่อยออกมาหลายสิบนัดได้ตกลงมาที่หัวของสัตว์ประหลาดที่เพิ่งผ่านประตูเข้ามา
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เกิดการระเบิดขึ้นมากมายหลายครั้ง ลดจำนวนพวกสัตว์ประหลาดให้กลายเป็นกองขี้เถ้าได้มากพอสมควร