ตอนที่ 166 กองทัพเทพวานร(อ่านฟรี)
ตอนที่ 166 กองทัพเทพวานร
หลังจากออกมาเพื่อดูว่ามีมนุษย์วานรเลือกจะตามเข้าไปกี่คน แต่พอออกมาด้านนอกลุคก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าด้านนอกมีมนุษย์วานรรวมตัวกันจำนวนมาก เรียกว่ามาแทบทั้งหมด
“พวกเขามารวมกันทำไม”
“พวกเขาทุกคนเลือกจะติดตามท่านไป”
ลุคมองด้วยความทึ่ง ‘มนุษย์วานรทุกคนนั้นกลับเลือกที่จะไปกับฉัน’
ก่อนหน้านั้นเดนเอาเรื่องที่ลุคสามารถรักษาเชื้อซอมบี้ได้และสามารถเปลี่ยนเผ่ามนุษย์วานรให้เป็นขนสีขาวได้ไปบอกทุกคน เดนทำแบบนี้เพื่อมนุษย์วานรทุกคน เพราะเล็งเห็นว่าพวกมนุษย์วานรควรได้รับโอกาสในการเป็นสาวกของเทพลุค
คำกล่าวของเดนส่งผลอย่างมากต่อมนุษย์วานรทุกคนในชุมชนที่นี่ แค่รักษาเชื้อซอมบี้ได้มนุษย์วานรทุกคนก็ยินดีติดตามลุคไปแล้ว เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดในโลกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ แต่เป็นเชื้อของพวกมัน ถ้าโดนกัดก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น
พอรู้ว่ามีผู้ที่สามารถรักษาได้พวกเขาก็พากันยอมทำทุกอย่างเพื่อได้รับโอกาสนั้นแล้ว ถึงจะไม่ใช่ตอนนี้ แต่ถ้ายังอยู่ในโลกนี้สักวันก็ต้องโดนกัด
และพอรู้เรื่องว่าเป็นนักรบของลุคก็จะได้รับพลังเปลี่ยนจากขนสีดำเป็นขนสีขาว ก็ยิ่งทำให้นักรบทุกคนยินยอมติดตามกันอย่างไม่ลังเล ไม่มีใครคิดว่านี่คือคำโกหก เพราะก็มีตัวอย่างเช่นเดนให้ได้เห็นแล้วว่ามันคือเรื่องจริง
ก่อนหน้านั้นเดนเป็นแค่มนุษย์วานรระดับ E เท่านั้น แต่ไม่นานเขาก็เปลี่ยนเป็นขนสีขาวและมีพลังระดับ D แล้ว ทำให้ทุกคนเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
ดังนั้นเรื่องที่เดนกล่าวอ้างว่าเขาผู้นั้นเป็นเทพก็คือความจริง หนึ่งปากบอกเป็นเทพอาจจะเป็นคำโกหก แต่ถ้าทุกคนพูดเหมือนกันนั้นคือความจริง
ลุคเลยกลายเป็นเทพของพวกเขาไปโดยปริยาย
หลังจากได้ยินคำอธิบายลุคก็ต้องมองเดนใหม่
การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนย่อยทำให้ยุ่งยาก แต่ลุคเลือกจะยอมรับทุกคน อย่างแรกคือเขาส่งเดนให้กลับไปรับเด็ก ๆ ที่รออยู่ที่บ้านใต้ซากรถมาที่นี่
ตอนแรกเขาคิดว่าจะมาตรวจสอบที่นี่หาของที่ต้องการและกลับไปที่นั่น แต่ดูแล้วคงจะไม่ได้กลับไปอีก เพราะต้องเตรียมตัวออกเดินทาง
ฐานวิจัยมีบันทึกถึงเรื่องประตู แต่ไม่มีข้อมูลรายละเอียด ทำให้เขาต้องไปค้นหาที่อื่น โชคดีที่ในฐานวิจัยมีบันทึกถึงตำแหน่งของฐานอื่น ๆ รวมทั้งแผนที่ของโลกใบนี้
แม้จะผ่านมาหลายพันหรือหมื่นปี แต่ว่าก็ยังสามารถใช้แผนที่พวกนี้มาอ้างอิงและกำหนดเส้นทางคร่าว ๆ ออกมาได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศขนาดใหญ่ลุคคิดว่าเขาน่าจะหาฐานวิจัยที่บันทึกไว้เจอ
การเดินทางคราวนี้ใช้เวลานานเขาต้องเตรียมตัวให้ดี ระหว่างที่รอเดนกลับไปรับเด็ก ๆ ลุคก็ให้พวกนักรบมนุษย์วานรควบคุมพื้นที่รอบ ๆ พร้อมกับเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเดินทาง
ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ก็ต้องเก็บของเช่นกัน
ส่วนตัวลุคเขาไปตรวจสอบยานพาหนะที่เขาพบก่อนหน้านั้น มันเป็นเหมือนกับรถไฟที่ลอยตัวเหนือพื้นราว ๆ 2 เมตรไม่จำเป็นต้องใช้ราง ทำให้เวลาเดินทางสามารถไปได้ในทุกที่ขอแค่เป็นพื้นที่ราบไม่มีหุบเหวจนเกินไป
เพราะตอนที่สร้างจากข้อมูลแล้วระยะการลอยตัวกลับมีจำกัด เนื่องจากก่อนหน้านั้นพวกเผ่าพันธุ์มนุษย์สามตาให้ความสนใจแต่ในเรื่องของเครื่องดูดซับพลังงานต่างมิติในอากาศเท่านั้น เลยไม่มีเวลามาพัฒนาเทคโนโลยีด้านอื่น ๆ
แต่ว่ายานพาหนะนี้ก็ยังมีข้อดีอื่น ๆ เช่นความเร็วที่สูงและน้ำหนักที่บรรทุกได้ แถมยังมีระบบนำทางและตัวรถไฟก็ติดตั้งเกราะที่มีทนทานสูงสามารถป้องกันการโจมตีจากซอมบี้ทั่วไปได้
ที่จริงมีคันที่ต้านพวกซอมบี้กลายพันธุ์ได้ แต่คงถูกเอาไปตอนอพยพแล้ว ถึงอย่างนั้นจากข้อมูลลุคคิดว่าซอมบี้กลายพันธุ์ช่วงแรก ๆ ไม่ได้ทรงพลังเท่าตอนนี้จะแข็งแกร่งกว่าซอมบี้ทั่วไปช่วงหนึ่งเท่านั้น มีความได้เปรียบด้านความสามารถที่กลายพันธุ์มา
แต่ตอนนี้ดูแค่ซอมบี้ไททัน ถ้าเจ้าตัวพวกนั้นทุบรถไฟพวกนี้ก็คงแหลกคามือพวกมันแน่นอน ส่วนรถไฟที่มีเกราะที่ทรงพลังก็หน่อยก็อาจจะต้านได้สักครั้งสองครั้ง แต่คงพังไม่ต่างกัน
รถไฟพวกนี้มีอยู่ 2 คันและลุคตรวจสอบดูแล้วน่าเสียดายที่หัวรถจักรใช้ได้เพียงคันเดียวเท่านั้น ยังดีที่หัวเดียวก็มีกำลังสูงมากแล้ว เขาเลยย้ายตู้รถไฟจากคันที่ใช้ไม่ได้มาต่อกับคันที่ใช้งานได้
ทำให้ตอนนี้มีรถไฟที่มีตู้ทั้งหมด 20 ตู้ ซึ่งมากพอจะรองรับผู้คนสองร้อยกว่าคนที่จะไปได้ นอกจากนั้นยังมีที่เก็บของที่เพียงพอ ลุคปรับเปลี่ยนตู้กลางขบวนตู้หนึ่งเพื่อยัดเอาเครื่องผลิตน้ำจากอากาศเข้าไปด้วย แม้รถไฟจะมีระบบดึงพลังงานในอากาศแบบเดียวกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มีความสามารถในการผลิตน้ำ
เขาต้องเอาเครื่องนี้ไป เพราะด้วยจำนวนคนมากขนาดนี้จะต้องการน้ำดื่มจำนวนมาก
“ควรตั้งระบบซะใหม่” ลุคใช้แหวนเครือข่ายไกอาเข้าไปตั้งค่าระบบใหม่ เพื่อให้เครื่องสามารถผลิตน้ำได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมกับเพิ่มกำลังมากขึ้นอีก 20 % เพราะก่อนหน้านั้นเครื่องเดินไว้ที่ 30% เท่านั้น เพื่อรักษาสภาพไม่ให้อะไหล่พังเร็วจนเกินไป
แต่ตอนนี้ลุคไม่ได้คิดไปถึงตรงนั้น อย่างน้อยเดินเครื่องไปที่ 50% จากที่ระบบแจ้งมาอะไหล่สามารถอยู่ไปได้อีก 100 ปี เขาไม่คิดจะอยู่ที่นี่ร้อยปีอยู่แล้ว
น้ำที่มากขึ้นก็แจกจ่ายให้ทุกคนได้มากขึ้น
พืชในห้องเพราะเลี้ยงทั้งหมดถูกลุคกวาดมาจนหมดด้วย เพราะไม่รู้จะเหลือไว้ให้ใครในเมื่อทุกคนเลือกตามเข้าไปจนหมด เขาย้ายมันไปยังตู้หลังใหม่ ก่อนจะขุดเอาไฟพวกนั้นมาด้วยต่อเติมเข้าไป
เนื่องจากโลกภายนอกมีเวลากลางวันน้อยกว่ากลางคืนถ้าไม่เอาหลอดไฟไปคงทำให้พืชโตได้ช้าลงมาก
ทุกอย่างที่กล่าวมาใช้เวลาเกือบทั้งวัน โดยมีลุคกำกับดูแลให้เผ่ามนุษย์วานรช่วยกันทำงานอย่างเป็นระเบียบ กว่าจะเสร็จก็เย็นพอดี
ก่อนหน้านั้นเดนก็พาพวกเด็ก ๆ มาแล้วด้วย ถ้าช้าไปกว่านี้พวกเขาคงติดอยู่ด้านนอกตอนกลางคืนไปซะแล้ว แต่เพราะว่าตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว เลยต้องรอให้ออกเดินทางในวันพรุ่งนี้แทน
ทุกคนกลับเข้าไปนอนและรอคอยการเดินทางครั้งใหม่อย่างตื่นเต้น พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังไปไหน แต่ว่าเทพลุคบอกว่าจะค้นหาประตูเพื่อออกไปจากโลกนี้กลับไปยังโลกยุคโบราณ
หรือก็คือโลกที่พวกมนุษย์วานรเคยอาศัยอยู่ มนุษย์วานรทุกคนคาดหวังและจินตนาการถึงโลกใบนั้นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ มีแหล่งน้ำไม่จำกัด มีอาการกินไม่ขาด
พวกเขาค่อนข้างคาดหวังกับสิ่งเหล่านั้น
...
ตกกลางคืนขณะที่พวกอื่นแยกกันไปนอน ส่วนลุคเรียกนักรบมนุษย์วานรเข้ามาพบและยังเกณฑ์เผ่ามนุษย์วานรที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถต่อสู้ได้มารวมกันที่ตึกหลักในส่วนกลางทั้งหมด
รวมแล้วมี 100 แบ่งเป็นมนุษย์วานรระดับ E 40 คน มนุษย์วานรระดับ F 60 คน
ทั้งหมดจัดการไม่ได้ยากลุคติดตั้งอาวุธหลักเป็นปืนโลหิตและชุดเกราะเป็นชุดเกราะด้วงทมิฬ เสริมด้วยปลอกแขนอัคคี กับไอเทมบางอย่างที่พอมีก็มอบให้ไว้
หลังจากปลดล็อกการผสานคลื่นพลังแล้ว พอมนุษย์วานรทุกคนได้รับไอเทมไปและผสานพลังก็เปลี่ยนเป็นพวกมนุษย์วานรขนขาวกันหมด
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าลุคมีพลังในการเปลี่ยนพวกเขาเป็นขนสีขาว แต่พอได้ประสบด้วยตัวเองกลับเป็นความรู้สึกที่ต่างออกไปราวฟ้ากับเหว ตอนนี้ในใจของทุกคนทั้งปลื้มปีติและซาบซึ้งในสิ่งที่ลุคมอบให้
พวกเขาพากันคุกเข่าและโขกศีรษะคารวะราวกับตอนที่พวกมนุษย์วานรทำพิธีบูชาเทพไม่มีผิด
เขาเผยเห็นภาพนี้มาก่อน ตอนที่พวกชนเผ่าหลุมใหญ่ทำพิธีบูชาทวยเทพ ลุคไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน
ในตอนนี้พวกที่มีพลังระดับ E ก็กลายเป็นระดับ D เทียม พวกที่เป็นระดับ F ก็เป็นระดับ E
“ตอนนี้พวกนายจะเป็นกองทัพเทพวานร”
พวกเขาพอได้รับชื่อกองกำลังก็พากันตื่นเต้นโดยเฉพาะเมื่อมีคำว่าเทพอยู่ในชื่อด้วย ลุคค่อนข้างคาดหวังกับพวกเขามาก
“ผู้นำของกองทัพเทพวานรคือไอริน และรองคือ เดน”
ลุคเลือกสองคนนี้ในทันที แม้ว่าไอรินจะไม่แข็งแกร่งเท่า แต่ว่าเธอเรียนรู้ได้เร็วและยังเป็นมนุษย์วานรที่ศรัทธาและภัคดีต่อเขาเป็นคนแรกด้วย แถมเธอเคยช่วยชีวิตเขาไว้
ลุคไม่มีเหตุผลที่ต้องไม่เลือกเธอ
ไอรินค่อนข้างตกใจ เธอรู้พลังของตัวเอง ‘ท่านเทพเลือกข้า’
“ข้ายินดีติดตามท่านไปจนวันตาย ยินดีเป็นดาบเพื่อฆ่าทุกสิ่งที่ขวางทางท่าน” ไอรินกล่าวเสียงดัง
เดนเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กันเขารีบกล่าวตามไอริน
“ลุกขึ้น”
ทุกคนนั้นลุคขึ้นยืนตามคำสั่ง แต่ว่าท่าทางพวกมนุษย์วานรไม่ได้เป็นระเบียบแม้แต่นิดเดียว ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับทหารได้
‘คงต้องค่อย ๆ ฝึกฝนกันไป’ ลุคเชื่อว่าเขาสามารถฝึกพวกนี้ได้ แค่ไหนถ้าฝึกบ่อย ๆ ก็ทำตามคำสั่งได้ เขามีประสบการณ์ไม่การจัดการกับหน่วยพิฆาตมอนสเตอร์มาก่อน ดังนั้นลุคเลยเริ่มแบ่งกองกำลังของมนุษย์วานรทันที
“แบ่งกลุ่มกันเป็นหน่วยละ 20 คนรวม 5 หน่วยมีหัวหน้าหน่วย 1 และรอง 1 ในหนึ่งหน่วยจะมี 2 ทีมย่อยหัวหน้าทีม 1 คนรอง 1 คน โดยหัวหน้าแต่ละทีมเลือกมาจากหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วยของหน่วยนั้น ๆ ส่วนรองทีมเลือกได้ตามต้องการ”
ในอนาคตกองทัพเทพวานรเพิ่มจำนวนมากขึ้น ถึงตอนนั้นก็มีกำลังมากขึ้นตามไปด้วย ค่อยปรับเปลี่ยนในภายหลังได้ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป
หลังจากสั่งไปพวกเขาก็เริ่มแบ่งกลุ่มกัน ไม่นานก็เสร็จสิ้น จากการแบ่งตามที่ลุคบอกก็ได้ละกับ D 8 คนระดับ E 12 คนในแต่ละหน่วย ส่วนทีมย่อยก็แบ่งครึ่งหนึ่งในหน่วยคือ ระดับ D 4 คนและระดับ E 6 คน
“หลังจากนี้แต่ละหน่วยจะต้องผลัดกันลาดตระเวนรอบ ๆ” ลุคเริ่มอธิบายรายละเอียดการลาดตระเวนและหน้าที่ เพื่อเริ่มฝึกพวกเขาตั้งแต่ตอนนี้เลย
การลาดตระเวนถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดรองจากการจัดรูปขบวน แต่สิ่งนั้นยังไม่ค่อยจำเป็นไว้ค่อยฝึกฝนในคราวหลัง
มนุษย์วานรตั้งใจฟัง พวกเขาไม่ถึงกับโง่แค่กรอบความคิดมีจำกัด พอได้รับการอธิบายอย่างละเอียดก็เข้าใจแล้ว แต่ว่าเรื่องการแบ่งกะค่อนข้างยากเพราะว่าพวกเขาไม่มีนาฬิกาคอยจับเวลา
ลุคคิดถึงปัญหานี้เหมือนกัน
ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ เข้าไปที่ห้องทดลองแบกเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมา เป็นเครื่องที่อยู่ในห้องทดลองและมีข้อมูลก่อนหน้านั้น
ลุคติดตั้งมันไว้บนรถไฟและก็ให้ระบบแหวนเครือข่ายไกอาเข้าไปตั้งค่าตัวจับเวลาในเครื่องที่มีอยู่แล้ว จนกระทั่งได้ระบบแบบนาฬิกาที่จะแจ้งเตือนมาเป็นเสียง
“เราจะแบ่งกะออกเป็น 5 รอบด้วยกันและรอบคือ 3 ชั่วโมง”
ที่ลุคต้องแบ่งแบบนี้ เพราะว่าเวลากลางคืนของโลกนี้มากกว่าโลกปกติถึง 16 ชั่วโมงต่อ 8 ชั่วโมง แบ่งแบบนี้จะลงตัวที่คนละ 3 ชั่วโมงพอดีและที่เหลืออีก 1 ชั่วโมงถึงตอนนั้นทุกคนก็ตื่นกันหมดแล้ว
พอเรื่องเวลาแก้ได้แล้วกองทัพเทพวานรหน่วยหนึ่งก็ออกลาดตระเวนทันที ถึงจะมีแค่ 20 คนที่ลาดตะเวนต่อรอบ แต่ชุมชนนี้ก็ไม่ได้กว้างมากนัก ถือว่ากำลังพลแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
...