ตอนที่แล้วบทที่ 81 – ข้าต้องโลภเพื่อประโยชน์ของราษฎร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 83: ข้าเข้าใจความยากลำบากของเจ้า ตัวข้าจะไม่เลือกปฏิบัติต่อเจ้า!

บทที่ 82: ข้าเป็นผู้ให้อันมากมายแก่องค์จักรพรรดินี แก่อาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่และแก่ราษฎรทั่วไป เหตุไฉนข้าจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่ข้าควรได้รับ


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 82: ข้าเป็นผู้ให้อันมากมายแก่องค์จักรพรรดินี แก่อาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่และแก่ราษฎรทั่วไป เหตุไฉนข้าจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่ข้าควรได้รับ

อารมณ์ของโม่หรูซวงรุนแรงยิ่งขณะที่นางเอ่ยถามอย่างเสียงดัง “ท่านหลิน เช่นนั้นท่านสามารถให้เหตุผลแก่จักรพรรดินีผู้โปรดปรานท่าน ให้เหตุผลแก่ราษฎรที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ให้เหตุผลแก่เหล่าทหารที่เสียชีวิตในชายแดนได้หรือไม่?”

“ข้าทำได้แน่นอน!” หลินเป่ยฟานหัวเราะออมาอย่างแผ่วเบา “ไม่มีผู้ใดในโลกนี้ที่สามารถให้เหตุผลกับจักรพรรดินี ให้เหตุผลต่อราษฎรและทหารที่เสียชีวิตในชายแดนได้มากกว่าข้าอีกแล้ว!”

โม่หรูซวงมองไปทางหลินเป่ยฟานด้วยความตกใจ นางไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดเช่นนี้จะออกมาจากปากของเขา เขาขายอาณาจักรออกไป ยังข้ากล้าพูดด้วยความมั่นใจเช่นนี้อีกหรือ?

หลินเป่ยฟานถามขณะกำลังเขียน “สินทดแทนสามล้านตำลึงของดาร์โรถือเป็นจำนวนเงินที่มากหรือไม่?”

"มาก!" โม่หรูซวงพยักหน้าโดยไม่ลังเล

“เท่าที่ข้ารู้มา อาณาจักรดาร์โรเป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆ บนขอบของอาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่ มีที่ดินน้อยนิด ทรัพยากรที่ขาดแคลนและประชากรเพียงสิบล้านคน รายได้ประจำปีของคลังของพวกเขามีเพียงแปดล้านเหรียญตำลึงเท่านั้น! หากเกิดหน้าแล้ง รายรับยิ่งลดลงไปอีก! เพียงสินทดแทนสามล้านตำลึงก็คิดเป็นครึ่งหนึ่งของเงินในคลังแล้ว!”

หลินเป่ยฟานพยักหน้า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่โง่เขลานัก เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าคิดว่าอาณาจักรดาร์โรจะหาเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ทุกปีได้ยังไง?”

“อย่างแรกก็ผ่านเงินทุนสำรองของอาณาจักร! หากมีเงินไม่เพียงพอ ก็จะถูกเก็บผ่านภาษีและวิธีการอื่นๆ จากราษฎร!” โม่หรูซวงกล่าวโดยไม่ลังเล

หลินเป่ยฟานถามอีกว่า “เช่นนั้นชาวดาร์โรจะต้องทุกข์ทรมานหรือไม่?”

"ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น!" โม่หรูซวงพยักหน้า “สภาพของพวกเขารุนแรงมากจนแทบจะเพาะปลูกไม่ได้เลย กระทั่งเราเองก็ยังมีปัญหาเรื่องอาหาร ทว่าพวกเขาได้แต่ต้องพึ่งพาฟ้าดินให้มอบอาหารให้!”

หลินเป่ยฟานถามอีกครั้งว่า “ถ้าพวกเขาต้องจ่ายเพิ่มอีกสามล้านตำลึงต่อปี ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้นงั้นหรือ?”

“ใช่ พวกเขาย่อมต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นและก็อาจไม่รอดเลย!” โม่หรูซวงพยักหน้าอีกครั้ง

หลินเป่ยฟานจึงถามเป็นครั้งที่สาม “ถ้าเจ้าเป็นพวกเขาและไม่อาจทนได้อีกแล้ว เจ้าจะทำเช่นไร?”

“แน่นอนว่าข้าจะต้องกบฏ!” โม่หรูซวงกล่าวโดยไม่ลังเล

ในยามนั้น โม่หรูซวงถึงกับตกตะลึง!

หลินเป่ยฟานยิ้มออกมาเล็กน้อย “ดูเจ้าสิ เมื่อเจ้าไม่สามารถทนได้ เจ้าก็เลือกจะก่อกบฏ เช่นนั้นราษฎรของดาร์โรเล่า? หากพวกเขากบฏ พวกเขาก็จะต่อสู้กับเราอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่เป็นทั้งผู้แบกรับภาระของพวกเขาและทำลายความหวังของพวกเขาไปจนหมดสิ้น!”

โม่หรูซวงยังคงเงียบ

“สินทดแทนนี้เปรียบเสมือนกับการประกาศสงครามอย่างแท้จริง!” หลินเป่ยฟานถอนหายใจ “ชาวดาร์โรคงไม่สามารถทนได้และจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ พวกเราอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่คือคนที่ต้องรับผิดชอบ! หากเป็นเช่นนั้น มันคงจะมีสงครามอีกครั้งในเขตชายแดนที่จะเกิดขึ้นภายในสามปีข้างหน้า!”

“ความสงบสุขที่เราต่อสู้เพื่อทหารหลายหมื่นคน ความสงบสุขที่สร้างขึ้นด้วยความยากลำบากนี้กลับต้องถูกทำลายด้วยเงินเพียงสามล้านตำลึง เจ้าคิดว่ามันคุ้มค่าหรือไม่?”

“ไม่คุ้มอยู่แล้ว!” เสียงของโม่หรูซวงดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา “มันไม่คุ้มค่าเลย ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง!”

“การทำสงครามย่อมต้องใช้ทรัพยากรและเงินหลายล้านตำลึง นี่เป็นเพียงการกระทำโดยเสียเปล่า รังแต่จะสูญเสียมากขึ้นไปเท่านั้น จำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้คงจะอยู่หลักพัน ครอบครัวนับไม่ถ้วนต้องล้มหายตายจาก ผู้คนที่เหลือรอดก็พลัดถิ่นกันไป ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในอาณาจักรและส่งผลกระทบต่อชีวิตของราษฎรทั่วไป อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่โกลาหลมากพอแล้ว คงไม่สามารถทนความไร้เสถียรภาพเช่นนี้ได้อีก นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการยกเลิกเรื่องสินทดแทนนี้ เพื่อจักรพรรดินี เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรและเพื่อประโยชน์ของปวงประชา เจ้าคิดว่าข้าพูดผิดไหม?”

“เจ้าไม่ผิดเลย! เจ้าทำถูกแล้ว!” โม่หรูซวงกล่าวด้วยความละอายใจ

“ในที่สุดเจ้าก็พูดเหมือนมนุษย์เสียที” หลินเป่ยฟานกล่าว

โม่หรูซวงจึงถามอีกว่า “แต่ทำไมต้องเปิดท่าเรือการค้าและอนุญาตให้พ่อค้าจากทั้งสองอาณาจักรทำธุรกิจกันด้วย? อีกทั้งทางอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ยังส่งอาจารย์ไปสอนที่นั่น สิ่งนี้ไม่เท่ากับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอาณาจักรของพวกเขาหรือ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาใช้พลังที่ฟูมฟักขึ้นมาของพวกเขากับเรากัน?”

“นั่นก็เป็นเพียงเรื่องด้านเดียว เจ้ายังไม่รู้อีกด้านหนึ่งของเรื่อง” หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะ

“การค้าระหว่างสองอาณาจักรเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองอาณาจักร แต่เพียงแค่มากกว่ากับทางดาร์โร ทว่าพวกเขามีคนแต่ขาดทรัพยากรมากมาย เราจึงสามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับแรงงานของพวกเขาได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เราให้อาหาร เงินและทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่พวกเขาต้องทำงานให้เรา ด้วยเหตุนี้ ผู้คนในอาณาจักรดาร์โรย่อมถูกบังคับให้ทำงาน และพวกเขาก็จะไม่มีพลังมากพอที่จะต่อสู้ในสงคราม นอกจากนี้ ด้วยความมั่งคั่งที่ได้รับจากอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ ชีวิตของพวกเขาก็จะดียิ่งขึ้นจนพวกเขาพึงพอใจ เช่นนั้นพวกเขาจะต้องการทำสงครามด้วยหรือ? เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ชีวิตของพวกเขาจะถูกทำลายและพวกเขาคงไม่คิดเต็มใจที่จะต่อสู้อีกแน่”

โม่หรูซวงพยักหน้า “พวกเขาคงจะไม่ทำอย่างแน่นอน”

"ถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องอาจารย์ที่ส่งไปสอนอยู่ที่นั่น…”

“เพียงเพื่อให้ความรู้แก่พวกเขาเรื่องวิถีของขงจื้อและเม่งจื๊อ วิธีการคิดของนักปราชญ์ เพื่อให้พวกเขาทุกคนมีความรู้และมีเหตุผล! เมื่อมีความขัดแย้ง ทุกคนย่อมสามารถนั่งที่โต๊ะเจรจาและพูดคุยกันแทนที่จะใช้ความรุนแรงได้!”

หลินเป่ยฟานกางมือออก “เห็นไหม ข้าเสนอเงื่อนไขเหล่านี้ออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามในอีกหลายทศวรรษหรือหลายร้อยปีข้างหน้า! สิ่งนี้เทียบเท่ากับการช่วยชีวิตครอบครัวและราษฎรนับสิบล้านคน วางรากฐานที่มั่นคงเพื่อสันติภาพในระยะยาวของทั้งสองอาณาจักร และสร้างเงื่อนไขที่ดีที่จะเพิ่มความมั่นคงของจักรวรรดิอู๋ที่ยิ่งใหญ่!”

“เจ้าบอกได้ไหมว่าข้าพูดอะไรผิดไป?”

“จ…เจ้าไม่ได้พูดอะไรผิดเลย!” โม่หรูซวงก้มหน้าลงด้วยความละอายอีกครั้ง

“ในเมื่อข้าไม่ได้ทำพูดอะไรผิด แล้วเจ้าจะมากล่าวหาว่าข้าทรยศต่ออาณาจักรของข้าได้ยังไง?” หลินเป่ยฟานตะโกน

โม่หรูซวงพลันตื่นตระหนก “ข้าแค่ได้ยินมาจากคนทั่วไปเท่านั้นเอง…”

“เจ้าควรรู้ว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่ล้วนมีสายตาสั้นและใจแคบ สนใจแต่ผลประโยชน์ในทันทีและไม่สามารถพิจารณาเรื่องผลประโยชน์ระยะยาวได้!” หลินเป่ยฟานกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“ถ้าข้าทรยศต่ออาณาจักรของข้าจริงๆ ทั้งราชสำนักและเหล่าทหารจะไม่สังเกตเห็นเลยหรือ? จักรพรรดินีจะทรงไม่สังเกตเห็นหรือ? พวกเขาเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก ความมั่นคงของอาณาจักรขึ้นอยู่กับพวกเขา! ในเมื่อกระทั่งคนทั่วไปยังคิดได้ ทำไมคิดว่าพวกเขาจะไม่คัดค้านเรื่องนี้ล่ะ? เช่นนั้นคนในราชสำนักทั้งหมดล้วนโง่เขลาหรือ?”

"เอ่อ ท่านพูดถูก!" โม่หรูซวงกล่าวออกมาเสียงเบาอย่างไม่เต็มใจนัก

“ดังนั้นแล้วในอนาคต เมื่อเจ้าพบสถานการณ์เช่นนี้ จงต้องคิดอย่างรอบคอบและศึกษาเรื่องราวให้ดีเสียก่อน อย่าเพียงตัดสินตามผู้อื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า มิฉะนั้นเจ้าอายถูกขายไปโดยผู้ใดก็ไม่รู้!” หลินเป่ยฟานเตือน

“แต่เจ้าเองก็รับเงินจากทูตดาร์โรด้วย…”

“แล้วมันผิดตรงไหนกัน?” หลินเป่ยฟานถามกลับไปอีกครั้ง ข้าเป็นผู้ให้อันมากมายแก่องค์จักรพรรดินี แก่อาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่และแก่ราษฎรทั่วไป เหตุไฉนข้าจะไม่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่ข้าควรได้รับ? มันไม่ยุติธรรมตรงไหนกัน?”

โม่หรูซวงรู้สึกละอายใจและหวังว่านางจะหายตัวไปได้

ในท้ายที่สุด นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกไป

“ท่านหลิน ข้าขอโทษด้วยที่รบกวนท่าน ข้ารู้ว่าข้าเข้าใจผิดไปเอง เช่นนั้นข้าขอตัวไปพักผ่อนที่ห้อง”นางกล่าวบอก ก่อนจะออกจากห้องไป

เมื่อเห็นร่างของนางจากไปแล้ว หลินเป่ยฟานก็หัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา “เจ้านี้จัดการได้ง่ายกว่าสุนัขจิ้งจอกชราในราชสำนักนัก!”

เขาก้มศีรษะลงและฝึกคัดลายมือต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ซือซือก็มาพร้อมกับซุปรังนกถ้วยหนึ่งพร้อมกับพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ท่านสามี ซุปรังนกมาถึงแล้ว! ดื่มก่อนแล้วค่อยเขียนต่อเถิด!”

"ยอดเยี่ยมเลย!" หลินเป่ยฟานพยักหน้า เขาวางพู่กันลง เดินไปและนั่งลงข้างๆ หลี่ซือซือที่ตักซุปรังนกมาให้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “รสชาติมันแปลกไป! ไม่ใช่ฝีมือของเจ้ากับเสี่ยวกุ้ยหรอกหรือ!”

“อันที่จริงไม่ใช่ทั้งข้าหรือเสี่ยวกุ้ยเลย เป็นฝีมือของแม่นางหรูซวงต่างหาก!” หลี่ซือซือยิ้มและกล่าวตอบ “นางรู้ถึงสถานการณ์ของท่านแล้ว นางจึงรู้สึกผิดมาก ด้วยเหตุนี้นางจึงทำซุปรังนกนี้เป็นพิเศษเพื่อขอโทษท่าน!”

“อืม” หลินเป่ยฟานพยักหน้าและซดซุปรังนกต่อ

หลี่ซือซือกล่าวด้วยความชื่นชมและหลงใหล “ท่านสามี ท่านช่างเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์และความเอาใจใส่ต่อผู้คนนัก ท่านเป็นคนเดียวที่คิดลึกลงไปถึงแก่น ทั้งหมดเพื่อความผาสุกของอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่และราษฎร กระทั่งคนในราชสำนัก!”

หลังจากกล่าวจบ นางก็จับมือหลินของเป่ยฟานแน่นและกล่าวออกมาเปี่ยมด้วยอารมณ์ว่า “ท่านสามี ไม่ว่าผู้คนจะมองท่านเช่นไร ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ข้าก็จะอยู่และตายไปพร้อมกับท่าน!”

หลินเป่ยฟานรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก! เมื่อมีภรรยาเช่นนาง เขาจะกล้าขออะไรจากฟ้าดินอีก? เขาดื่มซุปรังนกเสร็จภายในสามจิบ แล้วก็เข้าไปกอดหลี่ซือซือ “ซือซือ มันก็ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนเถิด!”

“อืม ท่านสามีโปรดอ่อนโยนกับข้าด้วย!” หลี่ซือซือหน้าแดงและก้มศีรษะลง

ทั้งสองรีบกลับไปที่ห้อง โดยไม่จุดโคมไฟและเข้านอนกัน

ในอีกด้านหนึ่ง โม่หรูซวงไม่อาจจะหลับลงได้เลย นางคิดถึงตนเองที่ตั้งคำถามกับหลินเป่ยฟานอย่างกล้าหาญในวันนี้ ตัวนางรู้สึกอับอายจนอยากฝังใบหน้าของนางไว้ในหมอน

"ตัวข้ามันโง่เขลานัก! ข้าไม่ได้คิดให้ดีก่อนและยังมีหน้าไปถามท่านหลินอีก ในตอนนั้นเขาคงคิดว่าข้าโง่เขลามากเลยใช่ไหม?”

ยิ่งนางคิดมากเท่าไร นางก็ยิ่งอายมากขึ้นเท่านั้น! แต่นางก็ไม่เสียใจเลย เพราะการกระทำของนาง นางจึงได้เห็นความจริงของเรื่องนี้และยังเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลินเป่ยฟาน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกดีขึ้นมาก

“ท่านหลินไม่ใช่คนทรยศ เขาไม่เคยทรยศต่ออาณาจักรของเขา!”

“ทุกสิ่งที่เขาทำไปล้วนเป็นประโยชน์แก่อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่และราษฎร! ทว่าคนนอกไม่อาจเข้าใจเขา ทำให้เขาต้องทนรับคำดูหมิ่นมากมาย!”

“แม้ว่าเขาจะฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เขาก็เพียงรับเงินจากพวกขุนนางโกงกิน และไม่คิดจะรับเงินจากประชาชนทั่วไปเลย!”

“ความโลภของเขาไม่ได้ไร้หลักการ…”

ในยามนั้นเอง องค์ชายแฮมที่อยู่ไกลออกไปในอาณาจักรดาร์โรก็จามออกมาคล้ายถูกนินทา

ซุปรังนก 燕窝 (yàn wō) เป็นอาหารจีนประเภทหนึ่งที่ทำจากรังที่กินได้ของนกกระจิบ นิยมใช้ในอาหารจีนและถือเป็นวัตถุดิบอาหารชั้นสูง เนื่องจากราคาที่แพงมาก มักถูกปรุงในซุปหรือของหวาน

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด