บทที่ 16 หว่านความขัดแย้ง
“เจ้าหมายความว่าอะไร?” หนานหยูเทียนกดเสียงต่ำลงเล็กน้อย “เจ้าเคยบอกข้าว่านางไว้ใจเจ้ามาก และเชื่อในคำพูดเจ้าทุกอย่าง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนางถึงโกรธเจ้า?”
หากไม่เป็นเพราะความสัมพันธ์ที่ดีของซูมันรูกับเฟิ่งหยินซวง เขาคงไม่ยอมให้นางเข้ามาวุ่นวายในแผนการครั้งนี้ด้วย เขารู้ดีว่านางสนใจในตัวเขาและเขาสามารถใช้ประโยชน์จากนางได้ ไม่เช่นนั้นองค์ชายสามผู้สูงศักดิ์และสง่างามคงจะไม่ลดตัวลงมาใกล้ชิดกับลูกสาวเจ้าหน้าที่เขตอย่างนี้แน่นอน
ทุกอย่างเป็นแผนที่ผ่านการคิดมาแล้วอย่างดี
และวันไหนที่เฟิ่งหยินซวงไม่เชื่อมั่นในตัวซูมันรูแล้ว นางก็ไม่จำเป็นกับเขาอีกต่อไปเช่นกัน!
“ข้าไม่รู้…แต่ข้าไม่โทษนางดอก เมื่อไรที่นางอารมณ์ดีขึ้น ข้าก็จะขอโทษและอยู่เคียงข้างนางเหมือนเดิม” เมื่อเห็นว่าหนานหยูเทียนมีท่าทีอย่างนั้น ซูมันรูก็กลับคำพูดในทันที
นางไม่กล้าบอกว่าเฟิ่งหยินซวงที่นางเจอในวันนี้เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด ราวกับคำพูดของนางมีนัยยะสำคัญบางอย่างซ่อนอยู่ และนางคงไม่กล้าเข้าไปหานางอีกสักพัก
แน่นอนว่าองค์ชายสามจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้
ซูมันรูรู้ดีถึงเหตุผลที่เขาใจดีกับนาง เขาต้องการใช้ประโยชน์นางจากความเชื่อใจของเฟิ่งหยินซวง และหากนางไม่สนิทใจกับนางอีกต่อไปแล้ว เขาก็คงจะเฉดหัวส่งนางอย่างไม่ใยดี
นางจะด้อยค่าไปว่านี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แม้ว่าวันหนึ่งนางจะเป็นได้เพียงนางบำเรอในตำหนักของเขา แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับความภาคภูมิใจของนาง
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ สีหน้าของซูมันรูก็ดูน่าสงสารมากขึ้นเรื่อย ๆ และหนานหยูเทียนก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนให้นาง
“เจ้ารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร รูเอ๋อร์…เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แน่นอนว่าหยินซวงต้องรู้สึกทุกข์และหวาดกลัว ความโศกเศร้าคงทำให้นางดูแปลกไป เจ้าอย่าน้อยใจไปเลย หากเรื่องนี้จะมีคนผิด คน ๆ นั้นคือกษัตริย์ชิงผิงเพียงผู้เดียว”
“ท่านกำลังบอกว่านางกำลังอยู่ในภาวะเศร้าหรือ?” นางแสร้งทำสีหน้าประหลาดใจ
“ท่านบอกว่าท่านพี่ของข้าแปลกไปเพราะกำลังโศกเศร้า แต่ทำไมข้าไม่เห็นสีหน้าเศร้าของนางเลยสักนิดเดียว ข้าเพียงอยากปลอบนางและยืนยันกับนางว่าองค์ชายสามจะช่วยนางได้อย่างแน่นอน แต่ท่านพี่ของข้ากลับบอกว่ากษัตริย์ชิงผิงนั้นมีตำแหน่งสำคัญในราชสำนักและมีการอำนาจทางทหารอย่างมาก องค์ชายสามคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยนางได้ ข้าเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่นางพูดแบบนั้น”
หนานหยูเทียนโกรธมากเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาคว้าคอเสื้อของซูมันรูให้เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วก่อนจะถามนางอย่างดุเดือด
“นางพูดอย่างนั้นจริงรึ!?”
“เพคะ รูเอ๋อร์จะกล้าหลอกลวงองค์ชายสามได้อย่างไร”
“นังผู้หญิงหยำฉ่า! หลับนอนกับชายอื่นมาทั้งคืนแล้วยังมีหน้ามาดูแคลนข้าอีกรึ หน้าไม่อาย!”
ซูมันรูตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางไม่รู้เรื่องที่เฟิ่งหยินซวงและกษัตริย์ชิงผิงได้ ‘หลับนอน’ กันแล้ว คงเพราะฮ่องเต้ไม่อยากเสียพระพักตร์ต่อคนทั้งอาณาจักรจึงไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่หากเฟิ่งหยินซวงไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไป นางจะกลับมาแต่งงานกับองค์ชายสามอีกครั้งได้อย่างไร?
“ขออภัยเพคะ เป็นความผิดของข้าเองที่คำพูดของข้าทำให้เกิดความเข้าใจผิด องค์ชายสาม…ท่านพี่ของข้าเป็นคนที่ท่านรักที่สุด ได้โปรด อย่าถือโทษโกรธนางเลยเพคะ”
ยิ่งนางพูดแบบนั้น หนานหยูเทียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม ซูมันรูเพิ่งเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ
“นางปฏิบัติต่อเจ้าขนาดนี้ แต่เจ้าก็ยังคุกเข่าวิงวอนเพื่อนาง รูเอ๋อร์…เจ้าช่างเป็นคนดีจริง ๆ หากเฟิ่งหยินซวงดีได้เพียงหนึ่งในสิบของเจ้าได้ ข้าจะไม่ขออะไรอีกเลย”
“หามิได้เพคะองค์ชายสาม ข้าไม่อาจเทียบสถานะกับท่านพี่ของข้าได้ ท่านพี่ของข้าเป็นหลานสาวคนเดียวของท่านเฟิ่งไท่ซือ เป็นอัญมณีแสนเลอค่าของตระกูลเฟิ่ง นางถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กจึงมีนิสัยค่อนข้างหยิ่งยโส ได้โปรดท่านอย่านำคำที่นางไม่ตั้งใจพูดมาใส่ใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจรึ?” หนานหยูเทียนบีบคางของซูมันรู และนางทำได้เพียงขมวดคิ้วด้วยความเจ็บ
ถึงนางจะทำท่าทีเหมือนอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ถ้อยคำที่พูดออกมากลับเต็มไปด้วยการกล่าวโทษ และทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นกว่าเดิม นางช่างเป็น ‘น้องสาวที่แสนดี’ ของเฟิ่งหยินซวงจริง ๆ
หนานหยูเทียนรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เฟิ่งหยินซวง ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป เพราะต่อให้นางทำอะไรที่รุนแรงยิ่งกว่านี้ เขาก็ยัง ‘ต้องให้อภัย’ นาง
และแม้ว่าเฟิ่งหยินซวงจะเป็นคนค่อนข้างหยิ่งยโสในคราแรก แต่หลังจากที่เขาเริ่มต้นความสัมพันธ์กับนาง ความรู้สึกของนางที่มีต่อเขานั้นก็ชัดเจนมาโดยตลอด สายตาที่นางมองมายังเขานั้นเต็มไปด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ในท้องพระโรงจึงทำให้ความมั่นใจของเขาที่มีต่อเฟิ่งหยินซวงเริ่มสั่นคลอน และเรื่องนี้คงจะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากกษัตริย์ชิงผิงคนเดียวเท่านั้น!
หนานหยูเทียนกำหมัดแน่น ดวงตาของเขาดูเย็นชาและดุร้าย ลบภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนออกไปจนหมดสิ้น จินตนาการไม่ออกเลยว่าหากเฟิ่งหยินซวงเลิกรักเขาและไปรักคนอื่น เขาจะมีสภาพเป็นอย่างไร
ซูมันรูเองก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเช่นกัน แต่นางก็ต้องรีบปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ และอธิบายต่อ
“องค์ชายสามโปรดวางใจเถิด เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านพี่ของข้าจะหวั่นไหวให้กับกษัตริย์ชิงผิง แม้ว่าเขาจะมีอำนาจและได้รับความนับถืออย่างมากมาย แต่เขาก็เคยผ่านการเข้าหอกับผู้หญิงมาแล้วถึงเจ็ดคน และหญิงสาวเหล่านั้นก็เสียชีวิตลงอย่างทารุณในไม่กี่วัน อีกอย่าง ข้าเคยได้ยินมาว่ากษัตริย์ชิงผิงมีใบหน้าที่อัปลักษณ์ และเป็นโรคน่ารังเกียจ เขากินและดื่มเลือดมนุษย์ ท่านพี่ของข้าคงไม่คิดสั้นเอาคนแบบนั้นมาแทนที่ท่านแน่”
นางรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นองค์ชายสามจะยกโทษให้เฟิ่งหยินซวงอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่านางจะเปลี่ยนใจไปรักใครใหม่ คน ๆ นั้นต้องไม่ใช่กษัตริย์ชิงผิง เว้นเสียแต่ว่านางต้องการเป็นหญิงสาวคนที่แปดที่ถูกเขาฆ่าตาย
ซูมันรูยังคงคุกเข่าอยู่หน้าหนานหยูเทียน ร่างกายบอบบางของนางขดลงเหมือนแมวบ้านที่เชื่องและน่ารัก องค์ชายสามช่วยพยุงตัวนางให้ลุกขึ้น เขาดึงนางเข้ามากอด และเคลื่อนฝ่ามือไปโอบที่เอวของนางอย่างรวดเร็ว
มือบางยกขึ้นผลักไปที่อกของเขาเบา ๆ เป็นการปราม ขณะเดียวกัน แก้มของนางก็ซับสีแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย นางก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ไม่ทันตั้งตัว หนานหยูเทียนก็ก้มลงจูบเข้าที่ริมฝีปากของนางแผ่วเบา
“รูเอ๋อร์ วันนี้เจ้าสวยเหลือเกิน ข้าควรทำอย่างไรดีเมื่อข้าเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังชอบเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ”
“อย่าเพคะ ท่านเป็นว่าที่สามีของพี่สาวข้า เราสองคนไม่ควร…”
“ข้าไม่สนใจ” หนานหยูเทียนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ในเมื่อตอนนี้นางสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว นางจะคู่ควรกับข้าได้อย่างไร ข้ามีเหตุผลของข้าที่ยังต้องช่วยนางให้พ้นจากความยากลำบาก รูเอ๋อร์…เจ้าต่างหาก หญิงสาวผู้มีจิตใจดีและอ่อนโยนอย่างเจ้าต่างหากที่คู่ควรกับข้า”
ดูเหมือนว่าการมาเข้าเฝ้าเขาในวันนี้จะไม่เปล่าประโยชน์ ตราบใดที่องค์ชายสามค่อย ๆ เกลียดเฟิงหยินซวงและสนใจนางมากขึ้น เท่านั้นมันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่นางทุ่มเทมาตลอดแล้ว
“องค์ชายสาม ท่านไม่ควรพูดเช่นนี้เลย มันไม่ใช่สิ่งที่พี่สาวของข้าควรได้รับ ในเมื่อเรื่องกลายเป็นแบบนี้แล้วนางก็กลายเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด”
“ได้สิรูเอ๋อร์ ข้าสามารถให้โอกาสพี่สาวของเจ้าได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าสามารถทำให้ข้าพอใจได้มากเท่าไร”
หนานหยูเทียนเป็นพวกมั่นใจในตัวเองจนลืมไปว่าสิทธิ์ในการตัดสินใจอยู่ในมือของเฟิ่งหยินซวง หากสุดท้ายแล้วนางเลือกกษัตริย์ชิงผิง เขาก็จะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งอาณาจักรอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้น... รูเอ๋อร์ขอบพระทัยองค์ชายสามมากสำหรับโอกาสที่มีให้ท่านพี่ของข้า” ซูมันรูโค้งคำนับเขาช้า ๆ จากนั้นจึงโน้มตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเขินอาย “รูเอ๋อร์รู้ตัวดีว่ามีสถานะต่ำต้อยเพียงใด ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้รับความเอ็นดูจากองค์ชายสาม ไม่ว่าองค์ชายสามจะมีรับสั่งใด รูเอ๋อร์ก็ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้”
หนานหยูเทียนพึงพอใจกับคำพูดของนางอย่างมาก เขาชอบผู้หญิงที่ฉลาด มีมารยาท เจียมเนื้อเจียมตัว และซูมันรูก็ตอบสนองเขาได้เป็นอย่างดี
“ดีมากรูเอ๋อร์ ต่อจากนี้เจ้าต้องจับตาดูเฟิ่งหยินซวงให้ดี และหากมีอะไรผิดปกติ จงรีบกลับมารายงานข้า โดยเฉพาะเรื่องระหว่างนางกับกษัตริย์ชิงผิง เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าสั่งใช่หรือไม่”
“เข้าใจเพคะ”
“วันนี้เจ้ากลับไปก่อนเถิด ระหว่างนี้เจ้าก็อย่ามาที่วังบ่อยนัก เดี๋ยวคนอื่นจะจับสังเกตเอาได้ ถ้ามีเหตุด่วนก็ให้ส่งคนมารายงานข้าแทน ตราบเท่าที่เจ้ายังอุทิศตนเพื่อข้า ข้าจะไม่ลืมความดีของเจ้าแน่นอน และทันทีที่ข้าได้เฟิ่งหยินซวงกลับมา เจ้าก็จะได้แต่งตั้งเป็นนางสนมของข้าอีกคน”
ซูมันรูยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเขาอย่างรวดเร็ว