ตอนที่แล้วบทที่ 150 หลินเฉิน VS เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 152: มลายหายในวันโลกาวินาศ

บทที่ 151: ข้อเสียของสายเลือดซูเปอร์ไซย่าและการไปยังจักรวาล 228


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 151: ข้อเสียของสายเลือดซูเปอร์ไซย่าและการไปยังจักรวาล 228

"หา? ฝ่าบาท ท่านกลายร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าแล้วหรือยัง?”

“ดูเหมือนว่าจะยัง…” หลินเฉินกล่าวออกมาด้วยความสับสน

ไทต์เองที่เฝ้าดูอยู่ก็กล่าวขึ้นมาว่า “หลินเฉิน พวกเขาทั้งห้ามีร่างกายส่องสว่างเป็นแสงสีทอง แต่ท่านไม่ เป็นไปได้ไหมว่าท่านไม่มีจิตใจที่ชอบธรรมอยู่?”

"นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก!"

“ใช่! ความยิ่งใหญ่ของเขาได้นำเราชาวไซย่าไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เขาจะไม่มีจิตใจอันชอบธรรมได้ยังไงกัน?”

บาร์ดัคและคนอื่นๆ ก็ส่ายศีรษะทันที

หลินเฉินก็คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน

ถึงแม้ภายนอกเขาจะเป็นชายไซย่า แต่เนื้อในเขาคือชาวโลก เมื่อเขามาถึงจักรวาลนี้ หลินเฉินก็ไม่เคยทำอะไรที่ชั่วร้ายเลย

แต่ทำไมเขาถึงแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าไม่ได้กัน?

"ติ้ง!"

ทันใดนั้นหลินเฉินก็ได้ยินเสียงในใจของเขาจากระบบ

“อย่าลืมว่าผู้ใช้มีสายเลือดของซูเปอร์ไซย่าในตำนานที่เป็นสายเลือดของปีศาจ หลังจากรวมเข้ากับหัวใจของผู้ใช้แล้ว ผู้ใช้ไม่อาจมีหัวใจแห่งความชอบธรรมได้ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเป็นเทพซูเปอร์ไซย่าได้ผ่านการฝึกฝนของท่านเองเท่านั้น!”

"โอ้!"

หลินเฉินรู้สึกประหลาดใจพอสมควร “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ล่ะเจ้าระบบ?”

“ผู้ใช้ไม่ได้ถาม”

"บัดซบ!" หลินเฉินยกนิ้วกลางให้กับระบบในใจของเขา

“ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ข้าเกรงว่าข้าคงจะไม่สามารถแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้”

“แล้วต่อจากนี้จะให้เราทำเช่นไรกันต่อหรือ?” เมื่อเห็นว่าแม้แต่หลินเฉินก็ไม่สามารถแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้ ทุกคนก็ค่อนข้างรู้สึกแย่นิดหน่อย

ทว่าหลินเฉินคิดต่างออกไป ระบบเพิ่งกล่าวว่าสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานเพียงจำกัดเขาจากการแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าผ่านการผสานห้าคน

แต่ไม่ใช่แค่วิธีนี้ที่จะสามารถแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้

ในงานต้นฉบับ เบจิต้าได้รับการฝึกฝนจากวิส และในที่สุด เขาก็เชี่ยวชาญความสามารถในการแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า

ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่ามันย่อมมีวิธีอื่นในการแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีการ์ดประสบการณ์พลังพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลย

“บาร์ดัค ราชาเบจิต้าและพารากัส ตอนนี้เราได้ยืนยันอย่างคร่าวๆ แล้วถึงวิธีการแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า ซึ่งอีกไม่นานข้าคงจะต้องจากไป เจ้าควรเริ่มตรวจสอบและค้นหาว่ามีชาวไซย่ากี่คนบนดาวที่สามารถแปลงร่างเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้”

“นอกจากทาร์เบิลแล้ว มันควรจะต้องมีชาวไซย่าจำนวนมากที่มีจิตใจที่ชอบธรรมอยู่ ถ้าเราสามารถมีเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้มากขึ้น ดาวเคราะห์เบจิต้าก็จะไม่ต้องกลัวผู้ใดอีกต่อไป!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิน บาร์ดัคและคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ไม่เพียงแต่เราจะไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไป แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่หลินเฉินกล่าวมา ถ้าเกิดมีเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าบนดาวเคราะห์เบจิต้าจำนวนมากมาย ต่อให้พิชิตจักรวาลก็คงจะทำได้!

ไม่มีผู้ใดสงสัยความสามารถของร่างนี้อีกไปต่อแล้ว

……

ไม่กี่วันถัดมา หลังจากทุกอย่างลงตัวแล้ว หลินเฉินก็ออกเดินทางไปยังจักรวาล 228

เมื่อมาถึงบริเวณใกล้เคียงกับหลุมดำครั้งที่แล้ว หลินเฉินก็ตรวจสอบสภาพปัจจุบันของเขา

ผู้ใช้: หลินเฉิน

ระดับพลัง: 8.1 ล้าน

สายเลือด: สายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนาน

ทักษะ: เคลื่อนย้ายพริบตา พรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ขั้นเริ่มต้น ทักษะข้ามเวลา และอื่นๆ...

วิชา: วิชาหมัดเจ้าพิภพ พลังคลื่นเต่า และอื่นๆ...

คะแนนเวลา: 2

ในช่วงหนึ่งปีนี้เมื่อเขากำลังตามหาลูกแก้วมังกรในจักรวาลที่ 6 หลินเฉินก็ได้ต่อสู้กับฮิตโตะหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่เขาก็สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างมาก

810,000 คือระดับพลังของร่างปกติและในร่างสูงสุดของเขา ระดับพลังของหลินเฉินแทบจะเกิน 800 ล้านไปแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งนี้ ตราบใดที่มันไม่ใช่จักรวาลที่อันตรายมากไป หลินเฉินก็พอจะมีพลังในการปกป้องตัวเองอยู่

ปัญหาเดียวคือเขาแทบไม่เหลือแต้มเวลาแล้ว หลังจากใช้มันไปครั้งนี้ เขาก็คงจะไม่มีมันเหลือสักแต้มเดียว

ถ้าหากมีโอกาสในอนาคต เขาคงจะต้องสะสมมันให้มากขึ้นอีก

หลังจากเก็บความคิดทุกอย่างทิ้งไป หลินเฉินก็พูดกับระบบทันที “ระบบ ตอนนี้ข้าสามารถกำหนดปลายทางของประตูกาลอวกาศได้หรือยัง?”

"ติ้ง! ขอตอบกลับผู้ใช้ โปรดยืนยันเส้นเวลาที่ท่านต้องการไป!”

“ข้าอยากไปจักรวาล 228!”

ครู่ต่อมาภาพที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นอีกครั้ง พลังที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันได้พวยพุ่งออกมาจากร่างของหลินเฉินกระแทกหลุมดำที่อยู่ห่างไกล

หลังจากนั้นไม่นานประตูกาลอวกาศสีแดงโลหิตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

สีของประตูเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องและในที่สุด มันก็กลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม

"ติ้ง! ประตูกาลอวกาศได้ล็อกไว้ที่จักรวาล 228 โปรดข้ามไปโดยเร็ว!”

หลินเฉินไม่ได้จากไปในทันที แต่กลับถามออกมาว่า “ระบบ คราวนี้ข้าใช้คะแนนเวลาไป 2 จุด เมื่อข้ากลับมาข้าสามารถกลับไปที่จุดเวลาปัจจุบันได้หรือไม่?”

"ติ้ง! ขอตอบกลับผู้ใช้ อัตราการไหลของเวลาของทั้งสองจักรวาลนั้นเท่ากัน ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้เวลาเท่าไรในโลกนั้น เวลาก็จะผ่านเท่ากันเมื่อท่านกลับมา

“แล้วทำไมครั้งก่อนที่ข้ากลับมา เวลาถึงผ่านไปหกปี?”

“ครั้งนั้นมีคนเข้ามาแทรกแซงประตูกาลอวกาศ แต่เมื่อใช้คะแนนเวลา 2 แต้ม ผู้ใช้ก็สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ไปได้”

“ขอให้เป็นไปตามที่แกพูดแล้วกัน!”

หลังจากพูดจบ เฉินก็กระโดดเข้าไปในประตูกาลอวกาศ

จากนั้นประตูกาลอวกาศก็หายไปอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วที่ทิ้งจุดพิกัดไว้ในจุดเดิม

ไม่นานหลังจากที่หลินเฉินจากไป จู่ๆ ก็มีคนสองคนปรากฏตัวขึ้นที่สถานที่แห่งนี้

ร่างสูงคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความสงสัย “ท่านขอรับ นี่มันมันแปลกมาก ทำไมถึงความผิดปกติในห้วงเวลามิติอยู่ที่นี่อีกครั้งกัน?”

ร่างหนึ่งที่เตี้ยก็ได้กล่าวตอบไปว่า “มันคงจะเป็นผลมาจากหลุมดำ ดูสิ ปฏิกิริยาที่นี่มันหายไปแล้ว”

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นแสงสีสันสดใสก็ส่องสว่างในพื้นที่แห่งนี้และรังสีแสงจำนวนมากก็เข้ามารวมตัวกัน

เมื่อแสงหายไป เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่มีผมสีส้มก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา

เมื่อเห็นนาง ทั้งสองคนก็สะดุ้งตกใจชั่วครู่ ก่อนที่จะโค้งคำนับอย่างรวดเร็วด้วยความเคารพ “ข้าไคโอชินแห่งจักรวาลที่ 7 …”

“ข้าผู้ดูแลคิบิโตะ…”

“ขอเคารพท่านไคโอชินแห่งกาลเวลา!”

“อืม ไม่ได้เจอกันนานเลยนะทั้งสองคน!”

ไคโอชินแห่งกาลเวลาที่ดูเหมือนเด็กสาวตัวเล็กๆ เผยรอยยิ้มร่าเริงออกมาและถามว่า “ทำไมพวกเจ้าสองคนถึงมาอยู่ที่นี่กัน? ปฏิกิริยาของกาลอวกาศที่เกิดขึ้นมาจากพวกเจ้างั้นเหรอ?”

"ม-ไม่ขอรับ" ไคโอชินส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว “เรามาที่นี่เพราะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในห้วงกาลอวกาศ อย่างที่ท่านเห็น ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติแล้ว”

“น่าแปลก…” ไคโอชินแห่งกาลเวลาทำหน้ามุ่ย “ข้าสาบานได้ว่ามีคนใช้พลังแห่งกาลอวกาศอยู่ที่นี่…”

"พลังแห่งกาลอวกาศ? มีผู้อื่นที่ใช้พลังแบบนี้ในจักรวาลของเราได้ด้วยงั้นเหรอ?" ไคโอชินถามด้วยความประหลาดใจ

“อืม…ไม่หรอก ข้าคงน่าจะแค่คิดไปเอง เช่นนั้นก็ลาก่อนนะไคโอชินจักรวาลที่ 7 ไว้เจอกันใหม่!”

แสงสีสันฉูดฉาดของไคโอชินแห่งกาลเวลาได้ปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ทิ้งไว้เพียงไคโอชินทั้งสองที่กำลังยืนนิ่งด้วยความสับสน

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด