นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 90
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 90
ราอนกลับมาที่ห้องของตัวเองหลังจากทำความสะอาดสวนเสร็จเรียบร้อย
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สกปรกเสร็จแล้ว
"เข้ามาได้เลย”
จูเดียลเปิดประตูเข้ามาแล้วโค้งให้เขา
"รายงานมาสิ”
"ค่ะ ตอนที่พวกเรากับคุณผู้หญิงกำลังจัดสวนกันอยู่ พ่อบ้านเมอร์คินก็มาหาพวกเรา เขาบอกว่าเขาได้ส่งจดหมายมาแล้วว่าจะมาเยี่ยมพวกเราและถามเรื่องความพร้อม..."
เธอรายงานว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่พลาดรายละเอียดเลย
"...แล้วท่านราอนก็มาถึงตอนที่ท่านราเดนกำลังจะเหยียบคุณเฮเลน”
จูเดียลก้มคำนับทันทีที่เธอพูดจบ
"อย่างนี้นี่เอง"
ราอนพยักหน้า มันไม่ต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้มากนัก
"คือว่า...”
จูเดียลเงยหน้าขึ้นและเรียกชื่อราอน
"มีอะไร?"
"ฉันไม่อยากจะพูดอย่างนี้เลยนะคะ แต่ท่านราอนไม่ควรจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย ราเดนกับบิดาของเขาไม่ยอมปล่อยมือจากพวกเราแน่นอนเลยค่ะ”
สีหน้าของเธอตึงเครียด
"ฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะต้องเข้ามาก่อเรื่องที่อาคารเสริมและหาเรื่องท่านราอนอีกแน่นอนค่ะ และพวกเราก็เป็นสายรอง คนทั้งตระกูลคงไม่เข้าข้างพวกเราแน่ค่ะ"
“……”
ราอนรอให้จูเดียลพูดเสร็จ
"ถ้าท่านคิดว่าดิฉันล้ำเส้น..."
"ไม่เป็นไร"
ราอนส่ายหัว
"ขอบใจนะ”
"คะ?"
"เธอจะรับเท้าของราเดนแทนเฮเลนนี่”
จูเดียลอยู่ข้างๆ แม่ของเขาและเฮเลนตลอด
เธอกำลังจะเอาตัวไปบังตอนที่เขากำลังจะเหยียบเฮเลน แม้แต่จูเดียลเองก็ไม่คิดว่าเธอจะทำอย่างนั้น
"นั่นมันช่วยไม่ได้นี่คะ..."
จูเดียลก้มหน้าด้วยความเขิน การสูญเสียตัวตนสายลับเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะ
'แต่...'
ผู้คนในอาคารเสริมเป็นคนเพียงกลุ่มเดียวที่ปฏิบัติต่อเธอเหมือนมนุษย์ แม้ว่าเธอยังกลัวราอนแต่เธอก็รู้สึกถึงความรักที่มีต่อทุกคนที่นี่
"เธอพูดถูก เราไม่ควรไปตอบโต้เขาแต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกเพราะฉันมีแผน”
"..รับทราบค่ะ”
เมื่อราอนบอกแบบนั้น เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
แต่เธอยังคงเป็นสับสนอะไรบางอย่าง
ดูเหมือนว่าเธอจะชอบอาศัยอยู่ในอาคารเสริมมากกว่าที่เธอคิด
"มีอะไรที่ฉันต้องทำอีกไหมคะ?”
"รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรเดนและบัลเดอร์มาให้ฉัน แบบพวกนิสัยส่วนตัวกับผลงานอะไรพวกนั้นน่ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
เธอโค้งคำนับแล้วออกจากห้อง
“อืม...”
ราอนเลียริมฝีปาก
'ไม่คิดเลยแฮะ’
ดูเหมือนจูเดียลจะชอบที่นี่แล้ว แต่เธอยังคงไม่มั่นใจเท่าไหร่
อีกไม่นานเขาก็คงสามารถไว้วางใจเธอได้เต็มร้อย
เขาแอบรู้สึกผิดนิดหน่อยเกี่ยวกับการโกหกเธอในตอนแรกๆ
"แต่มันยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
ราอนยกกำปั้นขึ้นมา ตอนแรกเขาไม่ได้วางแผนที่จะเผชิญหน้ากับราเดน
เขาวางแผนไว้ว่าจะค่อยๆ ขยี้เขาด้วยคำพูดอย่างเดียว
แต่เมื่อซิลเวียและเฮเลนถูกดูหมิ่นทำร้าย เขาก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่
'ความโกรธ...'
ใช่แล้ว
อารมณ์ของเขาในตอนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ
ส่วนที่ตลกคือการที่เขามีสมาธิกับการต่อสู้มากกว่าปกติ มันเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อน
"ส่วนผสมของความโกรธและเหตุผล...”
เจ้าเข้าใจแล้วสินะ
ราธออกมาจากสร้อยข้อมือด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
"แกทำอะไร?”
เจ้าพูดถึงอะไร?
"ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้”
ไม่ ไม่ นั่นมันความผิดของเจ้าเองต่างหาก
ราธยิ้มอยู่ภายในเปลวไฟสีน้ำเงิน
"ฮะ?"
มันเป็นผลของค่าความโกรธ
"แต่ฉันไม่น่าจะ..."
เจ้าเคยโกรธเป็นบ้าขนาดนี้ไหมล่ะ?
"ไม่แน่นอน”
ก็เหมือนกับข้า ถ้าความโกรธเจาะผ่านเข้าไปก็จะทำให้รู้สึกโกรธ
"ให้ตายสิ..."
ราอนกัดริมฝีปากของเขา การแลกเปลี่ยนกับราชาปีศาจเป็นอันตรายมากกว่าที่เขาคิด เขาจะไม่ยอมรับอารมณ์ของมันอีกเป็นอันขาด
เจ้าคิดว่าจะทำได้จริงหรือ?
ราธยิ้ม
มนุษย์ทุกคนมีด้านที่อ่อนแอ เจ้าเองก็เหมือนกัน
"แกพยายามพูดอะไร?”
เจ้าจะไม่ขออะไรจากข้าอีกใช่ไหมล่ะ? น่าหัวเราะสิ้นดี เจ้าจะได้มาขอแลกเปลี่ยนกับข้าอีกแน่นอน ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่นก็ตาม…
ราธยิ้มกว้าง ราอนรู้เจตนาของมันทันที
"ฉันจะไม่ให้ร่างกายกับแกแน่นอน”
ราชาแก่นแท้สามารถมองเห็นอนาคตที่เจ้ามาร้องขอแลกเปลี่ยนกับข้า... มันสายไปแล้ว
“เฮ้อ…”
รอนหายใจออกและใช้'วงแหวนไฟ' ความรู้สึกของน้ำได้ชำละล้างหลอดเลือดดำในใจของเขา
การยอมรับค่าความโกรธเป็นอันตรายมากกว่าการโจมตีของราธเสียอีก เขาต้องรักษาความใจเย็นของตัวเองให้ได้
ฮืมม
ราอนสงบสติอารมณ์ของตัวเองโดยใช้วงแหวนไฟ
'วงแหวนไฟ' มีความสำคัญมากจริงๆ ’
สิ่งที่เขาต้องการในการปกป้องตัวเองจากความโกรธคือ 'วงแหวนไฟ' เขาต้องรีบยกระดับมันขึ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ราอนฝึกฝน'วงแหวนไฟ'ตลอดทั้งคืนจนมีเสียงเคาะประตู
"นี่คือรายงานค่ะ”
จูเดียลยื่นเอกสารบางๆ มาให้เขา เธอคงเขียนมันเองเพราะหมึกยังไม่แห้งดี
"ทำได้ดีมาก”
"ค่ะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ"
จูเดียลโค้งคำนับและจากไป
ราอนนั่งอ่านเอกสารของเธอตั้งแต่ต้นจนจบ
'นี่มันค่อนข้าง...'
ราอนอุทาน
เนื้อหาถูกเรียบเรียงมาอย่างดี มีข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ รวมทั้งข้อมูลของราเดนกับบัลเดอร์
"ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์มาก”
ถ้าเธอเลิกเป็นสายลับก็คงเป็นคนรวมข่าวได้
ราอนอ่านเอกสารซ้ำแล้วซ้ำอีกในขณะที่หมุน'วงแหวนไฟ'
เวลาผ่านไปอีกคืนแล้วก็มีเสียงเคาะประตูอีกครั้ง
เมื่อเขาเปิดประตูเขาก็พบซิลเวียที่มีท่าทางเลิกลั่ก และโรเอ็น
"ร-ราอน”
"ขออภัยที่มารบกวนยามเช้านะครับคุณชาย”
โรเอ็นโค้งคำนับพร้อมกับสีหน้าปกติของเขา
"ท่านหัวหน้าตระกูลได้เรียกคุณชายเข้าพบครับ”
* * *
* * *
ราอนเดินทางไปที่คฤหาสน์ของหัวหน้าตระกูลตามหลังโรเอ็น
"คุณชายครับ"
โรเอ็นหันมาหาเขาก่อนที่่จะเข้าไปในคฤหาสน์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้
"คุณชายน่าจะรู้เหตุผลที่หัวหน้าตระกูลเรียก คุณชายไม่กังวลเหรอครับ?”
"แน่นอนว่าผมรู้ แต่ผมไม่ได้กังวลเลยครับ”
ราอนส่ายหัว
"ครับ"
โรเอ็นยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้าคฤหาสน์ เขาดูพึงพอใจกับคำตอบ
เมื่อเข้ามาก็เจอกับบรรยากาศหนักๆ เช่นเคย เหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย
ราอนหายใจเข้าออกช้าๆ เหมือนกับตอนที่นั่งทำสมาธิ แรงกดดันที่ไหล่ของเขาลดลงเล็กน้อย
นักดาบกับขุนนางมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย
"พวกเขามาถึงที่นี่ก่อนแล้วครับ พร้อมหรือยังครับ?”
ราอนพยักหน้า
"ขออนุญาตครับ”
นักดาบคนนึงเป็นคนเปิดประตู
มีคนสามคนอยู่ในห้องโถง
เกล็นซีกฮาร์ทนั่งบนบัลลังก์และมีแรงกดดันอย่ามหาศาล ชายสองคนที่ยืนอยู่ใต้เขาคือราเดนซีกฮาร์ท และบัลเดอร์ซีกฮาร์ท
บัลเดอร์มีร่างกายที่่หนากับไหล่กว้างแตกต่างจากราเดน ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน เพียงแต่เขามีสายตาที่น่ารังเกียจเช่นเดียวกับลูกชายของเขา
ราเดนจ้องมองราวกับว่าต้องการที่จะฆ่าเขา บัลเดอร์ขมวดคิ้วมองเขาอย่างดูถูก
"สวัสดีครับท่านหัวหน้าตระกูล"
ราอนไม่สนใจสายตาของพวกเขา
"ลุกขึ้น”
"ครับ"
เขาก้าวกลับไปยืนอยู่ในแถวเดียวกับบัลเดอร์และราเดนแล้วมองขึ้นไปที่เกล็น
"ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แล้ว”
เกล็นมองลงมาที่ทุกคนด้วยสายตาที่เมินเฉย
"ท่านครับ! ผมจะอธิบายเองครับ!”
ราเดนก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่า
“พูดมา”
"ครับ!”
เมื่อได้รับการอนุญาตจากเกล็น ราเดนมองกลับไปที่ราอนและยิ้ม
"เมื่อกลับมาถึงตระกูลผมก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับราอน และเพราะผมไม่เคยพูดกับเขามาก่อนผมจึงส่งจดหมายไปยังอาคารเสริม แล้วพอผมไปที่อาคารเสริมตามวันที่กำหนดก็พบว่าพวกเขาไม่ได้เตรียมการใดๆ เลย ราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจผม...”
ราเดนย่นจมูกราวกับว่าเขารู้สึกเสียใจจริงๆ
"ผมรู้สึกขมขื่นและเผลอขึ้นเสียงเล็กน้อย สาวใช้ของอาคารเสริมก็เริ่มจับผิดพฤติกรรมของผมทันที เมื่อเสียงเริ่มดังขึ้นราอนก็ปรากฏตัวและเหวี่ยงดาบทันทีโดยไม่ฟังที่ผมพูดเลย เขาพยายามจะฆ่าผมจริงๆ นะครับ เขาเล็งดาบมาที่คอของผมตลอดและผมก็ต้องป้องกันตัวเอง”
เสียงของราเดนฟังดูน่าเชื่อถือพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าเขาเป็นเหยื่อ
“ราอน ซีกฮาร์ท”
สีหน้าของเกล็นไม่ได้เปลี่ยนไป เขาเรียกราอนด้วยเสียงปกติ
"ครับ"
"จริงหรือเปล่า?"
"ไม่จริงครับ”
ราอนส่ายหัว
"มันไม่จริงเลยสักอย่างครับ โดยเฉพาะที่เขาบอกว่าควบคุมอารมณ์ได้ เสียงที่เขาตะโกนด่าผมยังคงติดอยู่ในหัวเลย”
"ฮึ! แก!”
ราเดนจับไหล่ของเขาแต่ราอนไม่ได้หันไป
"คุณชายราเดน”
โรเอ็นที่ยืนอยู่ด้านซ้ายพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"คุณอาจจะลืมว่าคุณกำลังยืนอยู่ต่อหน้าใคร”
"อึก!”
ราเดนกลืนนำ้ลายและเอามือออกจากไหล่ของราอน
"ถ้าทั้งสองคนพูดไม่เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องเรียกพยาน”
เกล็นสะบัดนิ้ว ร่างกายของชายคนหนึ่งปรากฏที่ด้านหน้าราอน
"ราคาเอลจากหน่วยดาบสวรรค์ทักทายท่านลอร์ดครับ!”
"รายงานเรื่องเมื่อวานมา”
"ครับ!”
เขาคือคนที่ขัดขวางดาบของราอนเมื่อวานนี้ เขายืนขึ้นแล้วเริ่มพูด
"คุณชายราเดนกล่าวว่าเขาได้ส่งจดหมายไปล่วงหน้าแต่ไม่เคยมีจดหมายใดๆ ส่งมาถึงอาคารเสริม คุณหญิงซิลเวียจัดสวนด้วยกันกับสาวใช้...."
ราอนหรี่ตามอง ราคาเอลเล่าความจริงออกไปทุกอย่าง
"ราเดน ซีกฮาร์ท”
เกล็นขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากราคาเอล
"อ้า! ครับ ครับ!”
ราเดนตัวสั่นและกระแทกหัวของเขาลงบนพื้น
"มันไม่ค่อยเหมือนกับที่เธอพูดเลยนะ”
"น-นั่นมัน..."
"ท่านพ่อครับ”
ขณะที่ราเดนตัวสั่น บัลเดอร์ขมวดคิ้วและก้าวออกมา
"นั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญนะครับ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเรื่องนี้คือสายรองเหวี่ยงดาบของเขาที่สมาชิกสายตรง นี้เป็นอันตรายสำหรับลำดับขั้นของตระกูลเรานะครับ!”
"ช-ใช่แล้วครับ! เขาพยายามจะฆ่าผมด้วยดาบของเขา!”
ราเดนพยักหน้า
"อืม มันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของมารยาทที่ไม่ดี แต่ว่า"
เกล็นพยักหน้าและยืนขึ้นจากบัลลังก์
"แกคิดว่าความแตกต่างระหว่างสายตรงและสายรองคืออะไร?”
"อะไรนะครับ? ค-คือ..."
"ความรับผิดชอบไงล่ะ สายตรงของซีกฮาร์ทต้องแบกรับความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของที่แท้จริงของตระกูลนี้”
พลังงานสีเหลืองไหลออกมาจากไหล่ของเขา
"จงจำไว้ว่าแกคือเจ้าของซีกฮาร์ท เหมือนกันกับตอนที่จะรังแกสายรอง ถ้าจะเหยียบย่ำก็ควรเหยียบจนกว่าเขาจะจมดิน แต่ตอนนี้กลับถูกเด็กสายรองที่อายุน้อยกว่าข่มขู่”
"มไม่จริงนะครับ" ถ้าผมตั้งใจจริงๆ เขาคงจะไม่รอดแน่นอน!”
"อายบ้างเถอะ! ถูกคนอื่นช่วยไว้ตั้งสองครั้งยังจะกล้าพูด”
"อึ่ก...”
ราเดนกัดฟัน
“ราอน ซีกฮาร์ท”
"ครับ"
"ดูเหมือนจะยังไม่รู้สถานะของตัวเองสินะ เธอเป็นสายรอง,ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับพฤติกรรม การชี้ดาบไปที่สายตรงก็เหมือนกับหมาที่จะกัดเจ้าของ ถ้าเธอได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมก็ควรจะแจ้งอาคารหลัก แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
"ผมขอโทษครับ”
ราอนก้มหัวลง
"ฉันจะลงโทษแต่ละคนตามความผิดของตัวเอง”
"ท่านพ่อ! ลงโทษอย่างเดียวไม่ได้นะครับ! ท่านไม่ควรปล่อยให้เขารอด เขาอาจจะลอบกัดสายตรงในวันใดวันหนึ่ง! ท่านต้องประหารเขาทันที!”
บัลเดอร์ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง เขาขึ้นเสียงและชี้นิ้วที่ราอน
"เงียบ”
"ถ้าท่านพ่อมองข้ามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โครงสร้างระหว่างสายตรงและสายรองจะหายไปและตระกูลนี้ก็จะ..."
"ฉันบอกให้เงียบไงบัลเดอร์”
"อึ่ก!”
"ท่านครับ”
ในท่ามกลางบรรยากาศที่หนักอึ้ง ราอนยกศีรษะของเขาขึ้นก่อนที่จะมองไปที่เกล็น
"อะไรล่ะ?"
"ผมจะยอมรับการลงโทษใดๆ ก็ตามที่คุณเห็นว่าเหมาะสม แต่ก่อนหน้านั้นผมยังมีบางอย่างที่ต้องทำ”
"ทำอะไร?”
" ราเดนซีกฮาร์ทดูถูกแม่ของผมและใช้ความรุนแรงกับสาวใช้ ผมยังไม่ได้เอาคืนเขาเลย”
"ไอ้บ้าเอ๊ย!" เหมือนกันแหละ! แกก็ควงดาบต่อหน้าฉันเหมือนกัน! ฉันจะตัดหัวแกออกแน่!”
"ราอนซีกฮาร์ท ราเดนซีกฮาร์ท”
เกล็นเรียกชื่อด้วยสายตาที่จริงจัง แรงกดดันทั้งหมดถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา
"ฉันพึ่งบอกว่าให้ดูสถานะ”
"เพราะงั้นไงครับ”
ราอนกัดฟันกรอด
"ท่านหัวหน้าตระกูลเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าเป็นดินแดนของนักดาบ ดังนั้นผมจึงคิดว่านักรบควรพิสูจน์คุณค่าด้วยดาบ”
เสียงของราอนดังก้องไปทั่วคฤหาสน์
"ผมขอดวลดาบกับเขาครับ!”