ตอนที่ 27 พัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มขนาดกองทัพ
หลังจากนั้นไม่นาน หลินเป่ยฟานก็ถูมือที่บวมเป่ง ขณะที่เหอเซินยังรายงานต่อ
เหอเซินพูด“ฝ่าบาท แผ่นดินไหวไม่ได้ทำร้ายคนของเราเลย แต่ยังช่วยให้เราค้นพบทรัพยากรมากมาย ท่านรู้ไหมว่านี่หมายความว่ายังไง?”
“เหออ้ายชิง นี่หมายความว่าอย่างไรรึ?”ใบหน้าของหลินเป่ยฟานกลายเป็นจริงจัง
“นี่หมายความว่า..”เหอเซินพูดด้วยความหลงใหล“ฝ่าบาท ท่านคือบุตรแห่งสวรรค์ตัวจริง นั่นทำให้ท่านเปลี่ยนจากร้ายเป็นดีได้!”
หลินเป่ยฟานทนการเลียเช่นนี้ไม่ไหวอีก เขาหัวเราะลั่น“เหออ้ายชิง เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าคือบุตรแห่งสวรรค์ ข้าคือคนที่สวรรค์เลือก!ข้าคือลูกรักของพระเจ้าตัวจริงเสียงจริง ฮ่าๆ!”
ผายลม!
เหยาเหยาโกรธจนคว้ามือหลินเป่ยฟานมากัดอีก
หลินเป่ยฟาน“โอ้ย มันเจ็บนะ เจ็บ..”
เหอเซินกระแอมและเบือนหน้าหนีอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน เหยาเหยาก็ปล่อยมือที่บวมแดงของหลินเป่ยฟาน
หลินเป่ยฟานเอามืออีกข้างไปวางบนไหล่ของเหอเซิน “อ้ายชิง เจ้าทำงานหนักมากตลอดหลายวันมานี้ การทำงานหนักของเจ้าจะไม่สูญเปล่า ข้าจะจดจำไว้ในใจ!”
เหอเซินดีใจ“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ทำไมเขาถึงเฝ้าทำงานหนักมาตลอดนะเหรอ?
มันเพราะตำแหน่งกำลังรอเขาอยู่ไง!
เช้าตรู่ของวันต่อมา มันถึงเวลาประทานรางวัล
ต่อหน้าขุนนางและทหารของราชวงศ์ หลินเป่ยฟานประกาศเสียงดัง“เหอเซิน ก้าวมาข้างหน้า!”
“ผู้น้อยอยู่นี่!’เหอเซินยืนขึ้นอย่างมีความสุขและก้าวไปข้างหน้า รับราชโองการ
“ตลอดหลายวันมานี้ เหออ้ายชิงนำทัพไปสู้รบ ปลอบโยนประชาชนระหว่างที่บ้านเมืองโกลาหล ทำให้บ้านเมืองกลับเป็นปกติ ข้าขอชื่นชมเจ้าสำหรับความภักดีและความกล้าหาญ เจ้ามีความสามารถโดดเด่น ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงขอแต่งตั้งเจ้าให้เป็นเสนาบดีฝ่ายครัวเรือน!”(รับผิดชอบครัวเรือน เก็บภาษีและบริหารรายจ่ายแผ่นดิน ดูแลกิจการบ้านเมือง)
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
“เหออ้ายชิง เจ้าจะรับผิดชอบฝ่ายครัวเรือนนับจากนี้ไป!เรายังมีที่ดินว่างเปล่าอีกมาก จงจัดการคนให้ไปขุดและหว่านเมล็ดพันธุ์โดยเร็วที่สุด ใช้ดินแดนทั้งหมดให้เกิดผล ทำให้ทุกคนมีอาหารกิน!”
“นอกจากนี้ เพราะขาดบุคลากรในฝ่ายอุตสาหกรรม ทรัพยากรแร่เหล่านั้นจะถูกมอบให้เจ้าจัดการชั่วคราว จงจัดการกำลังคนให้เร็วที่สุด และใช้ทรัพยากรทั้งหมดโดยไม่ให้เสียเปล่า!”
“ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเงิน ข้าจะสนับสนุนเจ้าเต็มที่!”
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง จงทำทุกสิ่งเพื่อให้เศรษฐกิจของบ้านเมืองเราฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด!”
เหอเซินรู้สึกถึงความรับผิดชอบและในเวลาเดียวกันก็รู้สึกว่าหลินเป่ยฟานเชื่อใจเขามาก!
“โปรดวางใจ ฝ่าบาท ผู้น้อยจะทำสุดความสามารถ!’เหอเซินคำนับและถอยหลังไป
“อันลู่ซาน ก้าวมาข้างหน้า!”
“ผู้น้อยอยู่นี่!’อันลู่ซานยืนขึ้น ก้าวออกมาและเชิดหน้าสูง
“อันอ้ายชิงได้นำทัพขึ้นเหนือและปราบทัพของอาณาจักรโม่เป็นครั้งที่สอง มีความสามารถโดดเด่นและคุณงามความดีสูง เช่นนั้น ข้าจึงขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นแม่ทัพใหญ่ นำทัพสองแสนนาย!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”อันลู่ซานพูดอย่างมีความสุข
แม่ทัพใหญ่คือขุนนางขั้นสองของราชสำนัก และเขาก็ถือเป็นหมายเลขสองในหมู่ระบบขุนนางทหารทั้งห้าขั้น
บุคคลหมายเลขหนึ่งคือแม่ทัพใหญ่ไช่หยูหลาง แต่เขาโดนปลดออกไปแล้วจากราชสำนัก ดังนั้น ตอนนี้เขาจึงเป็นหมายเลขหนึ่งไปโดยปริยาย(ไช่หยูหลางน่าจะถือครองตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหมด้วย)
และเขายังนำทัพสองแสนนาย คำพูดของเขามีน้ำหนักสูง
“อันอ้ายชิง ข้ามีงานมอบหมายให้เจ้า!ในเมื่อกรมกลาโหมขาดบุคลากร ข้าจึงได้แต่มอบงานนี้ให้เจ้า!”
“โปรดพูดมาได้เลย ฝ่าบาท!”
“งานที่ข้าจะมอบหมายให้เจ้าคือการเพิ่มจำนวนทหาร!”หลินเป่ยฟานถอนหายใจ”เราเอาชนะอาณาจักรโม่ไปถึงสองครั้งติด!แต่จำนวนทัพเราน้อยไปและไม่มีทางปกครองดินแดนที่ยึดได้ เราจึงต้องยอมแพ้!ดังนั้น เราต้องรับสมัครคนมาเข้าร่วมกองทัพเพื่อเสริมพลังของบ้านเมืองเรา!’
“ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้ว!”อันลู่ซานพยักหน้า“ฝ่าบาท เราควรเพิ่มกำลังทัพของเรามากแค่ไหนกัน?”
“เพิ่มอีกสามแสนก่อน!”หลินเป่ยฟานพูด
อันลู่ซานตกใจ.“ฝ่าบาท สามแสนไม่มากเกินไปหรือ?จำนวนประชากรรวมของอาณาจักรเราแค่สามล้านและก็มีทหารสูงถึงสามแสนแล้ว ท้องพระคลังของเราไม่น่าจะสนับสนุนไหว ถ้าเรารับสมัครเพิ่มอีกสามแสน ข้าเกรงว่า…”(กองทัพสองแสน แล้วก็ทัพเฝ้าเมืองหลวงอีกแสน)
“ไม่ต้องห่วง บ้านเมืองเรามีอาหารและเงินพอจะสนับสนุนทหารหกแสนนาย!’หลินเป่ยฟานหัวเราะ”สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำตอนนี้คือรับสมัครทหารและฝึกทหารชั้นยอด!”
“ขอรับ ฝ่าบาท!”
ในเมื่อฝ่าบาทพูดเช่นนั้น เขาก็ต้องทำตาม
ต่อไป หลินเป่ยฟานก็ตบรางวัลต่อ
คนที่สร้างผลงานโดดเด่นได้รับการเลื่อนยศหมด
และพวกที่ไม่ได้เรื่องก็โดนไล่หมด
เช่นนั้น ทั้งราชสำนักจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
แต่ พอมองราชสำนัก หลินเป่ยฟานก็ยังรู้สึกว่ามีน้อยคนที่ใช้งานได้
เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยโต๊ะทรายจักรวรรดิ เขาจะต้องขยายออกไปและต้องการคนมีพรสวรรค์มากกว่านี้
แต่เขายังเป็นอาณาจักรขนาดเล็ก และยังมีชื่อเสียงไม่ดีบนหลัง ใครเล่าจะอยากอุทิศตัว?
ครั้งนี้ หลินเป่ยฟานคิดถึงอัครเสนาบดีและแม่ทัพใหญ่ที่ไม่เพียงมีความสามารถ แต่ยังภักดี
“เอาพวกเขากลับมา?”
ทันทีที่ความคิดนี้ผุด เขาก็ดับมัน
“มันยังไม่ถึงเวลา!พวกเขาเก่ง แต่หลักการปกครองขัดแย้งกับข้า และการดึงตัวพวกเขากลับมาก็ไม่ตรงกับการพัฒนาบ้านเมือง!เวลาสุกงอมแล้วค่อยไปคุย!”