1124 - ภัยพิบัติแห่งการเกิดใหม่
1124 - ภัยพิบัติแห่งการเกิดใหม่
ในหุบเขาเทพ ความตายปรากฏขึ้นทุกที่ สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งหมดถูกปราบปราม ในเวลานี้แม้แต่ศีรษะของราชาบรรพชนก็ยังถูกร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณทุบเป็นชิ้นๆ
นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยโบราณที่เผ่าพันธุ์มนุษย์กล้าที่จะพิชิตดินแดนบรรพชนของเผ่าพันธุ์โบราณ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือพวกเขาประสบความสำเร็จอีกด้วย
“จี้”
ในความว่างเปล่า ระหว่างเลือดเนื้อที่แตกสลายมีแสงที่บานสะพรั่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะมีทักษะเช่นนี้!” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
เขาต่อสู้กับจื่อเทียนตูและรู้ว่าเผ่าพันธุ์นี้มีศิลปะโบราณที่แปลกประหลาด พวกเขาเพียงครอบครองร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นชั่วคราวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงความแข็งแกร่งทั้งหมดของพวกเขาซุกซ่อนอยู่ในวิญญาณ!
สิ่งมีชีวิตในหุบเขาเทพมุ่งเน้นขัดเกลาวิญญาณของตัวเองจนทำให้วิญญาณกลายเป็นอมตะ เมื่อไปถึงสภาวะสูงสุดพวกเขาสามารถทอดทิ้งร่างกายเพื่อใช้วิญญาณต่อสู้ได้
ในฐานะราชาบรรพชนผู้ทรงอำนาจ ฐานการบ่มเพาะของเขาไปถึงขอบเขตระดับสูงสุดแล้ว วิญญาณนี้ทรงพลังยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะใดๆ ทั้งสิ้น
การฝึกฝนของเขาอยู่ในขอบเขตที่น่าสะพรึงกลัว ขอเพียงมันทะลวงเข้าสู่อาณาจักรต่อไป วิญญาณของเขาจะแข็งแกร่งเทียบเท่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ และไม่จำเป็นต้องพึ่งพากายเนื้ออีกต่อไป
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่โง่เขลา วันนี้กายเนื้อร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณนั้นจะกลายเป็นร่างใหม่ของข้า”
ภายใต้แสงอันเจิดจ้า ราชาบรรพชนโบราณยืนอยู่ในความว่างเปล่า เมื่อกายเนื้อของเขาแตกสลาย ร่างวิญญาณที่แท้จริงของเขาก็ปรากฏขึ้น
ลักษณะของร่างวิญญาณราชาบรรพชนโบราณผู้นี้แตกต่างจากกายเนื้อของเขาโดยสิ้นเชิง เพราะเขามีรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากายเนื้อที่เขาเคยครอบครองอยู่นั้นจะต้องมาจากเผ่าพันธุ์อื่นอย่างแน่นอน
วิญญาณของราชาบรรพชนโบราณเปล่งประกายสดใส เขาพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านด้วยความเร็วเกินกว่าที่เย่ฟ่านจะหลบหลีกพ้น
นี่คือวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอมตะ ต่อให้เย่ฟ่านเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากกว่านี้ถึงสองเท่าเขาก็ไม่มีทางหลบหนีจากการไล่ล่าของฝ่ายตรงข้ามได้
ร่างกายของเย่ฟ่านคือร่างของสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่ความเชี่ยวชาญในทักษะเต๋าของเขากลับอยู่ในระดับผู้สูงสุดเท่านั้น
เขาจำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์อีกหลายปีกว่าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะได้
ในขณะที่วิญญาณของราชาบรรพชนโบราณพุ่งเข้ามาเย่ฟ่านเลือกที่จะไม่ขัดขืนและปล่อยให้วิญญาณของฝ่ายตรงข้ามทะลวงเข้าสู่ร่างกายของเขาโดยตรง
“ยอมแพ้แล้วหรือ? เช่นนั้นก็มอบร่างกายนี้ให้ข้าเถอะ ด้วยการครอบครองร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณนี้ข้าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน”
ราชาบรรพชนโบราณหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนหน้านี้ร่างกายที่เขาครอบครองมานานหลายล้านปีได้ถูกทำลายไปแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้ครอบครองร่างกายที่ทรงพลังยิ่งกว่า
แต่ในเวลาต่อมาสีหน้าของราชาบรรพชนโบราณมีความผิดปกติเล็กน้อย
สิ่งมีชีวิตอมตะทุกคนล้วนมีสติปัญญาสูงส่งจึงจะสามารถบรรลุเต๋าได้สำเร็จ เมื่อเขามองเห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย่ฟ่านวิญญาณของเขาก็หักเลี้ยวกลางอากาศและพยายามถอยห่างออกไปทันที
อย่างไรก็ตามทุกอย่างสายเกินไปแล้ว ในขณะนั้นมีหลุมดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่หน้าอกเย่ฟ่าน มันดึงดูดวิญญาณของราชาบรรพชนโบราณเข้าไปข้างในด้วยพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้
“อา... ไม่!”
ราชาบรรพชนโบราณกรีดร้องด้วยความสยดสยองราวกับว่าเขาได้ค้นพบสิ่งที่น่ากลัวที่สุด มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่เขากำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
ความหวาดกลัวนั้นหลอกหลอนจนทำให้เขาไม่กล้าขยับตัว นั่นคือช่วงปลายยุคของสมัยโบราณ เขาเดินทางไปที่เหมืองโบราณต้นกำเนิดเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วซานผู้ปกครองเผ่าพันธุ์โบราณทั้งปวง
ในตอนนั้นมีสิ่งมีชีวิตอมตะผู้แข็งแกร่งต้องการท้าทายตำแหน่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ การต่อสู้ครั้งนั้นเต็มไปด้วยความดุเดือด เพียงคลื่นพลังที่แผ่ออกมาก็ทำให้ราชาบรรพชนโบราณของหุบเขาเทพต้องคุกเข่าลงด้วยความกลัว
ระดับพลังของสิ่งมีชีวิตอมตะทั้งสองไม่ใช่ตัวตนที่ตัวเขาจะต้านทานได้ ราชาโบราณผู้ทรงพลังที่คิดจะท้าทายตำแหน่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สุดท้ายถูกตัดศีรษะอย่างโหดร้าย
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วซานยังคงตราตรึงตรึงอยู่ในใจของราชาบรรพชนโบราณแห่งภูเขาเทพมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อวิญญาณของราชาบรรพชนโบราณแห่งหุบเขาเทพถูกดึงดูดเข้าไปในหลุมดำ คลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากหลุมดำนั้นทำให้เขาเกิดความสยดสยองราวกับยืนอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วซานอย่างไม่ผิดเพี้ยน
กล่าวให้ถูกต้องคือสิ่งที่ดึงดูดเขาเข้าไปตอนนี้คือหม้อดินที่มีลักษณะเก่าคร่ำคร่าคล้ายกับว่ามันถูกสร้างมาตั้งแต่เมื่อหลายแสนปีก่อน
และไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คืออาวุธเต๋าสุดขั้วของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณได้ขุดหลุมพลางไว้และรอให้เขากระโดดลงไปสู่ความตายด้วยตัวเอง
“อา…”
ภายใต้เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวด วิญญาณของราชาบรรพชนโบราณถูกดูดเข้าไปในหม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่ตั้งอยู่กลางหน้าอกของเย่ฟ่าน
ผู้คนมากมายมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วยความตกตะลึง ยอดฝีมือที่เหลือเพียงน้อยนิดของหุบเขาเทพเริ่มหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด สถานการณ์ตอนนี้ขอเพียงราชาบรรพชนเว่ยถูกฆ่าตาย หุบเขาเทพก็จะล่มสลายทันที
หม้ออสูรกลืนสวรรค์เป็นอาวุธของจักรพรรดิโบราณ อำนาจของมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้อมตะทั่วไปจะเปรียบเทียบได้ แม้กระทั่งดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวมันก็สามารถกลืนกินได้อย่างง่ายดาย นับประสาอะไรกับวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอมตะตัวหนึ่ง
“ตาย…”
ราชาบรรพชนเว่ยคำรามด้วยความโกรธ ปราณอสูรแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขาและกวาดไปทั่วสนามรบ
เขาพุ่งเข้าหาปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ในการเคลื่อนไหวเพียงก้าวเดียว ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยปราณอสูรที่แข็งแกร่ง ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความโกรธแค้น
พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบตัวของเขามีร่องรอยของเต๋าผู้ยิ่งใหญ่แผ่ซ่านออกมาอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับราชาบรรพชนโบราณที่พ่ายแพ้ให้กับเขาเมื่อครู่ เย่ฟ่านค่อนข้างมั่นใจว่าต่อให้เขาใช้หม้ออสูรกลืนสวรรค์ก็ไม่มีทางฆ่าราชาบรรพชนเว่ยผู้นี้ได้อย่างแน่นอน
“บูม!”
ราชาบรรพชนเว่ยสะบัดแขนเสื้ออย่างรุนแรง ปราณอสูรของเขาครอบคลุมไปทั่วทั้งหุบเขาเทพและสังหารลูกหลานของตัวเองทั้งหมดอย่างโหดร้าย
ในขณะนี้เขาสังเวยชีวิตของลูกหลานตัวเองนับพันคนเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังการต่อสู้ครั้งสุดท้าย!
จิตใจของสิ่งมีชีวิตโบราณตนนี้โหดเหี้ยมจนน่าหวาดหวั่น ดวงตาของเย่ฟ่านปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวอย่างชัดเจน เขาไม่เคยคิดเลยว่าในโลกนี้จะมีคนชั่วร้ายอย่างราชาบรรพชนเว่ยเป็นคนที่สอง
ดวงตาของราชาบรรพชนเว่ยมีความผันผวนของพลังชีวิตที่ไม่สิ้นสุดปรากฏออกมา จากนั้นเขาก็แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับส่งเสียงคำรามดังกึกก้อง
“ภัยพิบัติแห่งการเกิดใหม่! เต๋าความทุกข์ยากจงสังหารศัตรูให้ข้า”
“ครืน!”
ทันใดนั้นกงล้อสีดำขาวที่มีขนาดใหญ่โตนับหมื่นวาก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า มันฉีกทำลายมิติ ตัดเหตุัดผลและบดขยี้กาลเวลาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้
เมื่อเผชิญกับกงล้ออันน่าสะพรึงกลัวนี้ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่ห้าไม่รอช้าอีกต่อไป เขาดึงปราณมังกรทั้งหมดออกมาจากใต้ดินก่อนจะเริ่มยัดมังกรเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่มือของเขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด เขาดึงมังกรขนาดเล็กหลายหมื่นตัวออกมาจากพื้นดินและใช้พวกมันเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตัวเองด้วยความบ้าคลั่ง
ในขณะนี้ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีเงินสว่างไสว ปราณมังกรที่ทรงพลังทำให้กลิ่นอายของเขาเต็มไปด้วยความดุร้ายและน่าหวาดหวั่นอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
ทั้งสองฝ่ายต่างระดมพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ร่างกายของตัวเองโดยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าในการต่อสู้ครั้งต่อไปมันจะเป็นศึกตัดสินสงครามครั้งนี้
ท่ามกลางความปั่นป่วนของคลื่นพลังในสนามรบ แสงศักดิ์สิทธิ์จากท้องฟ้าพุ่งเข้าหาร่างของราชาบรรพชนเว่ยราวกับทะเลคลั่ง
ในทางตรงกันข้ามปราณมังกรในพื้นดินก็ถูกปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รวบรวมพวกมันขึ้นมาด้วยพลังทั้งหมด
ในขณะนี้ร่างกายของสิ่งมีชีวิตอมตะผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายเต๋าหลากสีสัน กลิ่นอายของความดุร้ายที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของพวกเขาทำให้เย่ฟ่านต้องถอยกลับด้วยความหวาดกลัว
………….