ตอนที่แล้วบทที่ 13 ไม่คู่ควรกับการยืนหยัดอย่างเท่าเทียม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 เชื่อมต่อ

บทที่ 14 รักจอมปลอม


ซูมันรูพยายามอย่างมากในการระงับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเอง เพราะนางรอเฟิ่งหยินซวงอยู่ตรงนี้มานานถึงสองชั่วโมงเต็มแล้ว

นางมาที่บ้านตระกูลเฟิ่งตั้งแต่เช้า แต่ตอนนี้ในเวลาเกือบเที่ยงวัน นางยังไม่ได้เจอคนที่นางมาหาแม้แต่เงา

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่นางมาจะมีคนนำน้ำชามาต้อนรับนางในทันที แต่วันนี้กลับไม่มีใครสนใจดูแลนางสักคน ซูมันรูรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าการปฏิบัติต่อนางจากตระกูลเฟิ่งนั้นไม่เหมือนเดิม

แล้วทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านนอกประตู ซูมันรูรีบจัดการอารมณ์ของนางในทันทีก่อนจะปั้นสีหน้าให้อ่อนโยนและไร้เดียงสาอย่างที่ทำมาเสมอ

เฟิ่งหยินซวงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ชุดสีแดงปักด้ายทองที่สวมอยู่ขับให้ผิวขาวราวหิมะของนางดูสง่างามขึ้นกว่าเดิมราวกับเจ้าหญิง เครื่องประดับทองและเพชรแสนหรูหราที่ประดับอยู่บนผมของนางก็ทำให้นางดูมีสง่าราศีมากกว่าเดิม

สีแดงเป็นสีที่เข้ากับเฟิ่งหยินซวงมากที่สุด

สวยงามและสูงส่งราวกับนกฟีนิกซ์ที่กำลังสยายปีกท่ามกลางเปลวเพลิง

ซูมันรูดูตกตะลึงเล็กน้อย นางรู้มาตลอดว่าเฟิ่งหยินซวงเป็นคนสวย แต่นางก็ไม่เคยดึงความสวยของนางออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง

แต่ก่อนตอนที่เฟิ่งหยินซวงอยู่กับนาง นางมักจะสวมเสื้อผ้าง่าย ๆ สบาย ๆ และไม่แต่งหน้า นางไม่เคยสวมเสื้อผ้าหรูหราและงดงามเช่นนี้มาก่อน ผิดกับนางที่ทุกครั้งเมื่อต้องมาเจอนาง นางมักจะแต่งหน้าแต่งตัวอย่างพิถีพิถันเสมอ เพื่อที่เวลานางติดตามนางออกไป สายตาขององค์ชายและเหล่าขุนนางจะได้จับจ้องมาที่นางเพียงคนเดียว

โดยเฉพาะในตอนที่นางได้เจอองค์ชายสามเป็นครั้งแรก ทันทีที่เห็นเขาจ้องมองมายังนาง นางก็ตื่นเต้นจนเกือบจะนอนไม่หลับ และนั่นก็ทำให้นางรู้ว่านางไม่ได้ด้อยกว่าเฟิ่งหยินซวงเลยสักนิด

แต่เมื่อนางได้เห็นเฟิ่งหยินซวงในตอนนี้ ปมด้อยในใจก็เหมือนถูกขุดขึ้นมาตั้งประจานอีกครั้ง

‘ลูกสาวคนเดียวของตระกูลเฟิ่งนั้นสง่างามมากจริง ๆ ’

ซูมันรูกำหมัดแน่นจนมือสั่น ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเล็บแหลม ๆ ของตนกำลังจิกลงบนฝ่ามือตัวเอง

“ตายจริง! เจ้าช่างสะเพร่าจริง ๆ รัวซุ่ย ทำไมไม่บอกข้าก่อนว่าเป็นน้องซูที่มารอ ปล่อยให้นางนั่งรอตั้งนานสองนานได้อย่างไร” เฟิ่งหยินซวงแสร้งหัวเราะออกมาด้วยความสะใจเล็ก ๆ

“ข้าขออภัยจริง ๆ เจ้าค่ะคุณหนู ข้าเพียงคิดว่าเมื่อคืนนี้ท่านคงจะนอนดึกและต้องการพักผ่อนข้าจึงไม่กล้าปลุกท่าน รัวซุ่ยนี่มันแย่จริง ๆ” แน่นอนว่ารัวซุ่ยร่วมแสดงละครไปกับนางด้วย

ซูมันรูรีบส่ายหน้า นางยิ้มกว้างอย่างอารีย์ก่อนจะเข้ามารวบมือพี่สาวของนางไปจับอย่างห่วงใย

“ไม่เป็นไรหรอกท่านพี่ ข้าก็เพิ่งมาถึงได้ไม่นานเท่าไร ท่านพี่...เมื่อเช้านี้ข้าเพิ่งรู้ข่าวว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับท่าน ข้าเป็นห่วงท่านมากจึงได้รีบมาหา ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้ได้? กษัตริย์ชิงผิงคงไม่ทำอะไรให้ท่านพี่ลำบากใจใช่หรือไม่?”

เฟิ่งหยินซวงยกยิ้มมุมปาก นางมองอีกคนด้วยสายตาคาดคั้นก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบ

“น่าแปลกเหลือเกินที่ข้ากลับมาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อวาน แต่น้องสาวสุดที่รักของข้ากลับโผล่หน้ามาในวันนี้ คงเป็นเพราะความเป็นห่วงอย่างสุดซึ้งกระมังถึงทำให้เจ้าเพิ่งรู้สึกตัว”

นางตั้งใจพูดฉีกหน้าซูมันรูอย่างชัดเจน

“การแต่งงานที่เจ้าสาวถูกสลับเกี้ยว ทั้งยังเกี่ยวข้องกับกษัตริย์แห่งชิงผิงผู้สร้างประโยชน์ให้ราชสำนักมานับครั้งไม่ถ้วน และองค์ชายสามบุตรของฮ่องเต้ แค่ข่าวแต่งงานก็คงเพียงพอที่จะทำให้คนทั้งเมืองเกิดความสนใจ ยิ่งเมื่อเกิดความผิดพลาดเรื่องเกี้ยวเจ้าสาวแบบนี้ก็ยิ่งทำให้คนแตกตื่นกันไปใหญ่ ข้าว่ามันคงเกินจริงไปสักหน่อยที่เจ้าจะบอกว่าเพิ่งรู้ข่าวเอาเมื่อเช้านี้”

ใบหน้าของซูมันรูซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาของนางแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเจ็บใจ

“ท่านพี่กำลังตำหนิน้องสาวของท่านที่มาช้าใช่หรือไม่…ข้าขอโทษนะท่านพี่…ข้าผิดเอง”

นางคุกเข่าลงกับพื้นและทำทีเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้น

“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ และข้าก็เป็นห่วงท่านพี่มาก ข้าอยากมาหาท่านใจจะขาด แต่ท่านพ่อ...ท่านพ่อของข้าสั่งห้ามไม่ให้ข้าออกไปไหน ท่านก็รู้นิสัยของพ่อข้าดี หากข้าดึงดัน ท่านจะจับข้าขังไว้ในบ้านและทุบตีอย่างที่เคยทำ”

นางพูดไปก็ถลกแขนเสื้อขึ้นไป แน่นอนว่ารอยฟกช้ำที่ปรากฏบนแขนล้วนแต่เป็นแผลเป็นเก่า ๆ

เฟิ่งหยินซวงหรี่ตาลงเล็กน้อย นางยื่นมือออกไปกดรอยแผลที่แห้งแล้วนั้น เพียงเท่านั้นซูมันรูก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

นางช่างแสดงละครได้เก่งเหลือเกิน ‘แผนแกล้งเจ็บ’ ของนางคล้ายกับหนานหยูเทียนอย่างแยกไม่ออก พวกเขาช่างมีรสนิยมที่คล้ายกันจริง ๆ

“พ่อของเจ้าช่างใจร้ายเหลือเกิน ที่เจ้าต้องบาดเจ็บแบบนี้ก็เพราะข้า ข้ารู้สึกผิดต่อเจ้าจริง ๆ รัวซุ่ย เจ้าไปเอาครีมบัวหิมะที่ดีที่สุดมาให้แม่นางซูที อย่าให้นางต้องเกิดรอยแผลเป็นเพราะข้า”

เฟิ่งหยินซวงหันไปขยิบตาให้รัวซุ่ย และสาวใช้คู่ใจก็เข้าใจความต้องการขอนางได้ในทันที

ซูมันรูกังวลมากว่าร่างกายของนางจะมีรอยแผลเป็น นางรู้ว่าเฟิ่งไท่ซือมียาที่ดีที่สุดสำหรับรักษาแผล และเฟิ่งหยินซวงต้องมอบมันให้นางอย่างแน่นอน

เฟิ่งหยินซวงคุกเข่าอยู่บนพื้นกับนางเป็นเวลานานราวกับไม่อยากให้นางลุกขึ้น นางจึงคิดเอาเองว่าเป็นเพราะนางยังไม่หายโกรธ นางจึงเพิ่มการแสดงของนางให้น่าสงสารมากขึ้นกว่าเดิม

“อย่าเห็นใจข้าเลยท่านพี่ ในตอนที่เกิดเรื่องใหญ่กับท่านพี่ขนาดนั้น ข้ากลับไม่ได้อยู่เคียงข้างท่านเลย ข้าละอายใจเหลือเกิน ข้าจะรับสิ่งดี ๆ จากท่านพี่ไว้ได้อย่างไร”

“เจ้าเป็นน้องสาวที่ดีของข้า เจ้าสมควรจะได้รับมัน”

เฟิ่งหยินซวงจับมือนางเพื่อช่วยพยุงให้ลุกขึ้น เพียงเท่านั้นซูมันรูก็คิดว่านางยกโทษให้แล้ว

“ท่านพี่ เหตุใดเกี้ยวของท่านถึงถูกพาไปที่วังชิงผิงได้ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานที่ท้องพระโรง กษัตริย์ชิงผิงคว้าตัวท่านพี่ไว้ไม่ยอมปล่อย เขาทำเกินไปจริง ๆ แม้เขาจะมีอำนาจมาก แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าท่านพี่เป็นเจ้าสาวขององค์ชายสาม เขาก็ยังกล้าที่จะเพิกเฉยต่อราชสำนักและปล้นเจ้าสาวอย่างเปิดเผยได้อย่างไร การกระทำแบบนี้ก็ไม่ต่างกับโจร ข้าเชื่อว่าองค์ชายสามจะไม่ปล่อยให้ท่านพี่ถูกรังแกเป็นอันขาด” ซูมันรูมองนางด้วยสีหน้ากังวล

“เจ้าจำสิ่งที่เจ้าเล่าให้ข้าฟังเมื่อวันที่แต่งงานได้หรือไม่ เจ้าบอกว่าความสำคัญของกษัตริย์ชิงผิงต่อราชสำนักนั้นมีมากเพียงใด และผลงานทางทหารของเขานั้นน่าประทับใจจนแม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังนับถือเขา เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เจ้าคิดว่าองค์ชายสามจะสามารถปกป้องข้าได้จริง ๆ หรือ?” เฟิ่งหยินซวงมองนางอย่างเฉียบขาด และซูมันรูก็รีบหลบสายตานางในทันที

ทุกคนรู้ว่าองค์ชายสามเป็นเพียงองค์ชายปลายแถวที่แทบจะไม่มีอำนาจใด ๆ ในราชสำนักเลย เขาไม่มีทางที่จะกล้าลุกขึ้นมาต่อกรกับกษัตริย์ชิงผิง เขาไม่ได้มีความสามารถมากถึงขนาดนั้น

“โธ่ท่านพี่...ข้าเพียงพูดเผื่อเอาไว้ ถึงแม้ท่านพี่จะไม่มีองค์ชายสาม แต่ก็ยังมีฮ่องเต้และท่านปู่เฟิ่งไท่ซือ พวกเขาจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับท่านพี่ และไม่มีวันปล่อยให้ท่านพี่ตกอยู่ในวังชิงผิงกับมนุษย์กินคนแบบนั้นอย่างแน่นอน”

ซูมันรูเริ่มเหงื่อตก นางรู้สึกว่าเฟิ่งหยินซวงในตอนนี้นั่นยากที่จะรับมือเหลือเกิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด