ตอนที่แล้ว1122 - ตัวแทนของจักรพรรดิอู่ซือ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1124 - ภัยพิบัติแห่งการเกิดใหม่ 

1123 - การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของวีรบุรุษ 


1123 - การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของวีรบุรุษ

แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุออกมาจากร่างของราชาบรรพชนเว่ยกวาดไปทั่วท้องฟ้า เครื่องหมายเต๋าพลุ่งพล่านกลายเป็นพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว

เย่ฟ่านถอยกลับ เขาไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎแห่งเต๋าระดับผู้อมตะ แสงโบราณและกฎศักดิ์สิทธิ์แบบนี้หาที่เปรียบมิได้และจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่อวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขา

“ปัง!”

เย่ฟ่านรีบวิ่งไปอีกฝั่งและกวาดกระบี่เหล็กในมือออกไป เปลือกเนื้อระดับเซียนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งราวกับการโจมตีของอุกาบาตลูกใหญ่ ไม่ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ หรือทักษะลับใดๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกบดขยี้อย่างง่ายดาย!

เลือดสาดกระเซ็น กระดูกหักปลิวว่อน เนื้อและเลือดกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง นี่เป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด

ในเวลาเดียวกัน ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่ห้าได้ละทิ้งคู่ต่อสู้ของตัวเองโดยพุ่งตัวเข้าหาราชาบรรพชนเว่ยแทน

“อ่า…”

ตอนนี้เวลาแห่งชีวิตของเขาเหลือไม่มากแล้ว เขาจำเป็นต้องทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อสังหารราชาบรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดคนนี้ให้ได้

“บูม”

หุบเขาเทพสว่างไสวไปด้วยอักขระเต๋าที่กระจายไปทั่วท้องฟ้าแสงศักดิ์สิทธิ์ของต้นกำเนิดสวรรค์ที่ปะทุออกมาสาดส่องออกไปทุกทิศทางและเปลี่ยนให้ดินแดนแห่งนี้สว่างไสวราวกับเป็นเวลากลางวัน

เส้นผมสีแดงของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์โบกสะบัด เปลวเพลิงสีแดงเข้มโอบล้อมร่างกายของเขาอย่างแน่นหนา จากนั้นมังกรหลายพันตัวก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดินและพุ่งเข้าหาราชาบรรพชนซึ่งเหลือแขนเพียงข้างเดียว

“ปัง”

“ปัง!”

ราชาบรรพชนเกือบจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เขาพาร่างกายที่พังยับเยินของตัวเองบินไปในอากาศโดยมีเลือดสาดกระจายออกไปทุกทิศทาง

ในคืนพระจันทร์อันเหน็บหนาว บนหน้าผาอันเดียวดายในระยะไกล มีสาวงามในชุดขาวเป่าขลุ่ยด้วยความเศร้าโศก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา

หยางอี้รู้ดีว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะมีโอกาสได้เห็นความสง่างามของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้า

หลังจากคืนนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาจะกลายเป็นเพียงเศษฝุ่นละอองที่กระจายไปในอากาศและนางจะไม่มีโอกาสมองเห็นเขาอีกต่อไป

นางมองดูปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ด้วยความหลงใหล วีรบุรุษผู้สง่างามหมื่นปีที่แล้วยังคงเป็นชายคนเดิมที่นางหลงรัก

การพนันหินในเมืองศักดิ์สิทธิ์ การต่อสู้ในเหมืองโบราณต้นกำเนิด การผนึกท้องฟ้าในดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะนับสิบคนเพียงลำพัง ความองอาจกล้าหาญของเขาจะยังคงตราตรึงอยู่ในใจของนางเสมอ

ในชั่วพริบตา ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นกลายเป็นเพียงสิ่งสูญเปล่า เขาถูกครอบงำโดยความชั่วร้ายและกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดำรงชีวิตมากว่าหมื่นปี

ครึ่งอสูรครึ่งมนุษย์ที่ร่างกายปกคลุมด้วยเส้นขนสีแดง เขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งไม่มีจิตใจที่สงบนิ่งเหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็นชายผู้หยิ่งยโสที่ยอมใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อปราบปรามความสงบให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นครั้งสุดท้าย

นี่คือปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งสวรรค์พิภพ!

ดวงตาของหยางอี้เต็มไปด้วยน้ำตา ขลุ่ยหยกวางอยู่บนริมฝีปากและนางก็บรรเลงเพลงที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเป็นครั้งสุดท้าย

เสียงคำรามของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ดังก้อง ผมสีเลือดปลิวว่อน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่วีรบุรุษผู้สง่างามเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่สิ่งที่เขาทำยังคงเป็นความเสียสละอันยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่มีมนุษย์คนใดเคยทำได้

วิชาศักดิ์สิทธิ์ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อยู่ในมือของเขา ไม่เพียงแต่พวกมันจะเป็นทักษะการค้นหาต้นกำเนิดเท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะทำลายล้างที่สามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอมตะได้โดยไม่เป็นรอง

ในโลกแห่งการบ่มเพาะนั้นมีเส้นเลือดมังกรกระจายอยู่ทุกที่ หากเป็นคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์สามารถหยิบยืมพลังของสวรรค์พิภพมาใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

“บูม”

ราชาบรรพชนเว่ยโบราณคำราม ปีกทั้งหมดที่อยู่ด้านหลังของเขาสั่นสะเทือน ปล่อยคลื่นทำลายล้างออกมาทีละเส้น เขาต้องการเจาะทะลุร่างกายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสามารถสร้างความเสียหายได้อีกต่อไป

“ปัง”

กระแสแสงที่เต็มไปด้วยลวดลายเต๋าไหลทะลักออกมาจากมือของราชาบรรพชนเว่ย จากนั้นภายใต้เสียงคำรามแห่งความโกรธเกรี้ยวเขากดฝ่ามือลงด้านล่างและทำให้เปลวเพลิงที่กำลังเผาไหม้หุบเขาเทพดับสนิทลงทันที

“อา...”

ราชาบรรพชนเว่ยผู้นี้มีร่างกายสูงใหญ่เหมือนภูเขาลูกเล็กๆ ปีกที่เหมือนค้างคาวสี่สิบเก้าคู่ของเขาปกคลุมด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์หลายร้อยวง

ร่างกายของเขาผอมแห้งแต่เต็มไปด้วยพลัง คำพูดของเขาดังก้องกังวาลไปทั่วภาคเหนือทำให้ผู้คนมากมายตื่นขึ้นจากการหลับไหล

“เจ้ามาจากภูเขาม่วงและเป็นบริวารของอู๋ซือหรือ?”

“ใช่ เราคือบริวารในสังกัดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อู่ซือ เรามาที่นี่ตามโองการสวรรค์เพื่อทำลายหุบเขาเทพและคืนความสงบสุขสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์!”

จากนั้นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ก็หันไปมองเย่ฟ่านและกล่าวว่า “เวลาเป็นสิ่งมีค่า ฆ่าพวกมันให้หมด”

เย่ฟ่านพยักหน้าและโบกกระบี่ในมือ มีเทพแห่งความตายอยู่ทุกหนทุกแห่ง เทพแห่งความตายเหล่านี้คือบริวารที่แท้จริงของจักรพรรดิอู่ซือ

ต่อให้เป็นเทพแห่งความตายที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นซากศพของเซียนเทียมระดับสองแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซากศพของผู้อมตะที่แท้จริงซึ่งมีมากกว่าร้อยตัว

“ตั้งแต่สมัยโบราณนี่เป็นครั้งแรกที่มนุษย์กล้าต่อต้านหุบเขาเทพ อย่างไรก็ตามในเมื่อเจ้านายของเจ้าไม่ได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง ข้าก็อยากรู้นะว่าพวกเจ้าจะฆ่าทุกคนได้อย่างไร!”

ราชาบรรพชนเว่ยส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ปีกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่สิบเก้าคู่โบกสะบัดและปลดปล่อยอักขระเต๋าสีทองให้ปรากฏออกมาเพื่อปราบปรามโลก

“พวกเจ้าก็เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานเท่านั้น มีอะไรที่คนอย่างข้าจะฆ่าไม่ได้!”

“อา…”

ทันใดนั้นราชาบรรพชนที่ได้รับบาดเจ็บเป็นคนแรกก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาถูกควบคุมโดยมังกรตัวเล็กๆ หลายหมื่นตัว

พวกมันเปลี่ยนตัวเองเป็นอักขระเต๋ามากมายนับไม่ถ้วนที่แทรกซึมไปทั่วผิวหนังของราชาบรรพชนโบราณผู้นั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ร่างกายของเขาจึงไม่ได้อยู่ในการควบคุมของตัวเองอีกต่อไป

“อา...”

เขาร้องตะโกนและดิ้นรนอย่างหนักแต่ไม่มีทางขยับตัวได้ ในอีกด้านหนึ่งบรรพชนโบราณอีกคนคำรามด้วยความโกรธและพยายามช่วยเหลือเขาโดยญาณวิเศษอันแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตามทักษะเต๋าของเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ในขณะนี้มังกรเล็กๆ หลายหมื่นตัวกำลังสูบเลือดเนื้อของราชาบรรพชนโบราณด้วยความหิวกระหาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในอีกไม่กี่ลมหายใจข้างหน้าเขาจะเป็นราชาบรรพชนคนแรกที่ถูกฆ่าตายในการต่อสู้ครั้งนี้

นี่คือทักษะลับที่ไม่มีใครเทียบได้ของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ พวกเขาใช้ปราณมังกรที่แข็งแกร่งดูดกลืนพลังศักดิ์สิทธิ์ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย!

“อา…”

ด้วยเสียงกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย ราชาบรรพชนโบราณผู้นั้นร่างกายถูกฉีกกระชากออกจากกันเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้คนมากมาย

เย่ฟ่านมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด เขาไม่รู้ว่าเมื่อใดที่ตัวเขาจะมีความสามารถในระดับนี้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทักษะที่เขาเห็นอยู่นั้นคือหนึ่งในทักษะเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน

บนหน้าผาอันห่างไกล หยางอี้ยังคงหลั่งน้ำตาออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นความองอาจกล้าหาญของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่น 5 นางยิ่งเกิดความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด นั่นก็เพราะหลังจากคืนนี้ผ่านไปนางจะไม่มีโอกาสได้เห็นเขาอีก

“ข้าจะไม่ได้เจอเจ้าอีก...” นางร้องไห้อย่างเงียบๆ

เสียงขลุ่ยที่เหมือนเสียงร้องไห้ดังขึ้นอีกครั้ง ในสนามรบกระดูกของสิ่งมีชีวิตอมตะแห่งหุบเขาเทพถูกดูดกลืนจนกลายเป็นฝุ่นผง

ในตอนนี้เย่ฟ่านรับหน้าที่ปิดกั้นการโจมตีของราชาบรรพชนโบราณที่อ่อนแอที่สุด ในขณะที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่น 5 กำลังต่อสู้กับราชาบรรพชนเว่ยเป็นครั้งสุดท้าย

ในหุบเขาเทพ เลือดของราชาบรรพชนสาดกระเซ็นไปทั่ว ไม่ว่าเลือดของสิ่งมีชีวิตอมตะจะไปตกลงที่ใดร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มีระดับต่ำกว่าจะแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผงทันที

นี่คือสิ่งมีชีวิตอมตะ ทั้งร่างกายของเขามีพลังจำนวนมหาศาล เลือดเนื้อเพียงเล็กน้อยของเขาสามารถดับพลังชีวิตของเซียนเทียมระดับสามได้อย่างง่ายดาย

เต๋าอมตะนั้นอยู่ห่างไกลจากเต๋าสามัญอย่างไม่อาจจินตนาการได้ หากไม่ใช่ว่าโลกอำพรางสวรรค์มีข้อจำกัดที่น่ารังเกียจ ว่ากันว่าผู้ที่บรรลุเต๋าอมตะเหล่านั้นจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปโดยไม่มีวันดับสูญ

…….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด