1122 - ตัวแทนของจักรพรรดิอู่ซือ
1122 - ตัวแทนของจักรพรรดิอู่ซือ
ในเวลานี้เย่ฟ่านลงมือร่วมกันกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้าอย่างเงียบๆ เขาแกะสลักค่ายกลโบราณอันยิ่งใหญ่ลงไปด้านล่างเพื่อทำการระเบิดต้นกำเนิดสวรรค์ที่อยู่ด้านล่างของหุบเขาเทพเพื่อบดขยี้ดินแดนนี้ให้แหลกเป็นจุล
หลังจากที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ดวงตาที่เย็นชาและโหดเหี้ยมของราชาบรรพชนโบราณทั้งสองคนก็ตื่นขึ้น พวกเขาก้าวออกมาจากห้องทำสมาธิของตัวเองและกวาดสายตาเป็นทิศทางของกลุ่มเย่ฟ่านทันที
…
“พร้อมแล้ว” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“บูม!”
เทือกเขาขนาดใหญ่พร่างพราวไปด้วยแสงที่สว่างจ้า แสงศักดิ์สิทธิ์อันไม่มีที่สิ้นสุดส่องประกายทะลุท้องฟ้า และเผาไหม้ราวกับเตาศักดิ์สิทธิ์อันเป็นนิรันดร์
แสงศักดิ์สิทธิ์เผาไหม้ไปทั่วหุบเขาเทพโดยไม่เปิดโอกาสให้สิ่งมีชีวิตใดหลบหนีออกไปได้ ค่ายกลต้องห้ามของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์แสดงพลังของมันออกมาอย่างเต็มที่และปิดกั้นทุกทิศทางเพื่อตัดหุบเขาเทพออกจากโลกภายนอก
“ฆ่า!”
เย่ฟ่านคำรามจากนั้นเขาก็นำกำลังของเทพแห่งความตายหลายร้อยคนบุกเข้าสู่หุบเขาเทพและลงมือสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เขามองเห็น
“โฮก!!!”
เสียงคำรามของสัตว์อสูรดุร้ายดังออกมาจากปากของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ เส้นขนสีแดงเจริญเติบโตของมาจากร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องทำให้เขามีลักษณะไม่แตกต่างจากวานรสีแดงตัวใหญ่
เขาพุ่งเข้าไปในหุบเขาเทพเป็นคนแรกและเปิดฉากสังหารสิ่งมีชีวิตระดับเซียนเทียมขั้นสองหลายสิบคนอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเปลวไฟที่ร้อนแรงจะระเบิดขึ้นกลางหุบเขาเทพอย่างต่อเนื่อง แต่แรงระเบิดเท่านี้ย่อมไม่อาจสร้างผลกระทบอะไรต่อราชาบรรพชนทั้งสองของหุบเขาเทพได้
ฝ่ามือของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์กวาดลงไปด้านล่างและลากเอามังกรขนาดเล็กหลายร้อยตัวให้บินขึ้นมาที่พื้น จากนั้นเขาก็โยนมังกรขนาดเล็กเข้าไปในกลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณและกระตุ้นให้มันระเบิดขึ้นทันที
“บูม!”
เปลวไฟอันน่าสะพรึงกลัวลุกลามไปทุกที่ ร่างกายของสิ่งมีชีวิตโบราณนับร้อยถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดโดยไม่มีโอกาสส่งเสียงกรีดร้องด้วยซ้ำ
“ตาย! …”
ราชาบรรพชนโบราณคำรามด้วยความโกรธ กรงเล็บที่แข็งแกร่งของเขาตกลงมาจากท้องฟ้าและปิดกั้นสวรรค์พิภพอยู่ภายในอุ้งมือนี้
ปัง!
ภายใต้เสียงระเบิดดังกึกก้อง คลื่นที่เกิดจากการปะทะกวาดไปทั่วท้องฟ้าและทำให้สวรรค์พิภพสั่นไหวอย่างรุนแรง
“เจ้าเป็นใคร?”
หลังจากปะทะกับฝ่ายตรงข้ามร่างของราชาบรรพชนโบราณปลิวกระเด็นกลับไปทางด้านหลัง ความแข็งแกร่งของผู้บุกรุกนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“ตัวแทนของจักรพรรดิอู่ซือ มาที่นี่เพื่อฆ่าเจ้า!” ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ลงมืออีกครั้ง
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเย่ฟ่าน!” เย่ฟ่านก็ตะโกนเช่นกัน
เขาอยู่ในร่างกายของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตอมตะ ดังนั้นเขาจึงไม่มีความหวาดกลัวต่อสิ่งมีชีวิตอมตะของหุบเขาเทพแม้แต่น้อย
กำปั้นที่แข็งแกร่งของเขากระแทกไปเบื้องหน้า พลังปราณสีทองกวาดออกไปรอบทิศทางและบดขยี้สิ่งมีชีวิตโบราณมากมายนับไม่ถ้วนในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในเวลาเดียวกันเทพแห่งความตายหลายร้อยคนก็กระจายตัวไปทั่วหุบเขาเทพ พวกเขาลงมือสังหารสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในสายตา
หยางอี้นั่งอยู่บนหน้าผาที่สูงตระหง่าน ในขณะนี้นางกำลังบรรเลงเพลงขลุ่ยที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเพื่อกระตุ้นเทพแห่งความตายให้ลงมืออย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
เสียงกรีดร้องแห่งการฆ่าฟันภายในหุบเขาเทพดังขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด ไม่มีใครเคยคิดว่าราชวงศ์โบราณจะถูกโจมตีอย่างดุเดือดเช่นนี้
นี่คือหนึ่งในมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาถูกจู่โจมอย่างกระทันหัน และเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าต้องการกวาดล้างพวกเขาออกจากแผ่นดินนี้อย่างราบคาบ
ในคืนที่แสงจันทร์ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า กลุ่มเทพแห่งความตายบุกไปข้างหน้าราวกับเครื่องบดเนื้อขนาดใหญ่ ทุกที่ที่พวกเขาปรากฏตัวจะมีสิ่งมีชีวิตโบราณมากมายล้มตายลง
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่ว เย่ฟ่านควงกระบี่ในมือตัดศีรษะของสิ่งมีชีวิตโบราณระดับเซียนเทียมขั้นสองหลายสิบคน ภายใต้เปลือกเนื้อของสิ่งมีชีวิตอมตะนี้ พลังการโจมตีของเขารุนแรงอย่างที่ไม่มีผู้ใดต้านทานได้
ในสงครามที่บ้าเลือดเช่นนี้การพูดคุยกันเป็นสิ่งที่ไร้ความจำเป็น ทั้งสองฝ่ายต่างตะโกนด้วยความโกรธและบุกเข้าห้ำหั่นกันจนมืดฟ้ามัวดิน
“อา”
ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่ห้ากลายเป็นสัตว์อสูรโดยสมบูรณ์แล้ว ในเวลานี้เขาฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งทุกครั้งที่กรงเล็บสีแดงสดของเขากวาดออกไปจะมีสิ่งมีชีวิตโบราณล้มตายลงอย่างต่อเนื่อง
สิ่งมีชีวิตอมตะของหุบเขาเทพพยายามต้านทานการโจมตีของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ แต่ว่าความแข็งแกร่งของเขายังเป็นรองฝ่ายตรงข้ามอยู่เล็กน้อย ดังนั้นสถานการณ์ของเขาจึงเริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ
“บูม!”
ในการต่อสู้ครั้งนี้ต้นกำเนิดสวรรค์ในเส้นเลือดมังกรยังคงระเบิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด เปลวไฟสีขาวพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเผาผลาญทั้งเทพแห่งความตายและสิ่งมีชีวิตโบราณจนล้มตายลงอย่างต่อเนื่อง!
แน่นอนว่าผลกระทบที่เกิดจากการระเบิดของต้นกำเนิดสวรรค์นั้นเทพแห่งความตายหลายร้อยคนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงไปพิบัติได้
อย่างไรก็ตามพวกเขามีชีวิตเพียงวันเดียวเท่านั้น ต่อให้ตายเร็วสักหน่อยมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อสถานการณ์โดยรวม
ปีกหลายสิบคู่ของราชาบรรพชนโบราณปลดปล่อยหมอกสีดำเข้มให้พุ่งเข้าหาปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์เพื่อผลักดันฝ่ายตรงข้ามให้กระเด็นออกไป
ในการต่อสู้กันครั้งนี้แขนข้างหนึ่งของเขาถูกฉีกกระชากออกจากร่างไปแล้ว
นี่คือการต่อสู้ระดับเซียน ในทุกๆการปะทะกันของพวกเขาจะทำให้เทพแห่งความตายและสิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่โดยรอบล้มตายลงเป็นอย่างมาก
แม้ว่าราชาบรรพชนโบราณคนนี้จะได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังคงทรงพลังอย่างยิ่ง กรงเล็บขนาดใหญ่คู่หนึ่งทะลุผ่านม่านแสงที่ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์และทะลวงผ่านหน้าอกของอีกฝ่ายไปทันที
อย่างไรก็ตามทันทีที่เลือดเน่าเสียสาดกระจายไปทุกทาง กรงเล็บที่หน้าสะพรึงกลัวของราชาบรรพชนโบราณก็ถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เขารีบชักมือออกมาจากหน้าอกของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์และถอยกลับด้วยความกลัว
นี่คือการต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตาย ราชาบรรพชนโบราณพยายามปกป้องตัวเองอย่างสุดกำลัง ในขณะที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้มีเพียงลากฝ่ายตรงข้ามให้ตายไปด้วยเท่านั้น
ราชาบรรพชนโบราณแห่งหุบเขาเทพรู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ในโลกนี้ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะด้วยกันเองก็ยากยิ่งที่จะสังหารเขาได้
แต่ภายใต้การต่อสู้กันกับศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าเขากลับพ่ายแพ้ซ้ำๆซ้อนๆ สาเหตุที่สถานการณ์ของเขาเลวร้ายเช่นนี้ก็เพราะอีกฝ่ายไม่มีความตั้งใจที่จะป้องกันร่างกายของตัวเองตั้งแต่แรก
ทุกการโจมตีของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์เพียงปรารถนาจะทำร้ายเขาให้ได้รับบาดเจ็บมากที่สุดเท่านั้น
ภายใต้ลมหนาวที่พัดผ่าน เย่ฟ่านรับหน้าที่ต่อสู้กับราชาบรรพชนโบราณอีกคน
แน่นอนว่าทักษะเต๋าของเขาไม่มีทางเปรียบเทียบกับทักษะเต๋าของราชาบรรพชนโบราณได้ แต่เขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
หน้าที่ของเขาคือถ่วงเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และเมื่อปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้าสังหารราชาบรรพชนโบราณอีกคนเสร็จสิ้นแล้ว ราชาบรรพชนโบราณคนนี้ก็ยากที่จะรอดชีวิตเช่นกัน
ราชาบรรพชนโบราณอ้าปากและพลดอกไม้เต๋าเจ็ดกลีบออกมาข้างนอก ดอกไม้เต๋านี้ประกอบไปด้วยสีสันที่แตกต่างกันเจ็ดสี ลักษณะของมันสุกใสเปล่งประกายแวววาว
และทันทีที่มันปรากฏออกมา ต่อให้เป็นหมัดหกสังสารวัฏของเย่ฟ่านก็ไม่สามารถสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้ปรากฏขึ้นบนกลีบของดอกไม้นี้ได้
“บูม”
เย่ฟ่านต่อสู้กับราชาบรรพชนโบราณด้วยมือซ้าย ในขณะที่มือขวาของเขาประสานอินและควบคุมให้เส้นเลือดมังกรที่อยู่ใต้ดินระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“บูม”
หุบเขาเทพก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หากไม่ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้มีค่ายกลอันแข็งแกร่งปกป้องอยู่มันคงล่มสลายตั้งแต่แรกแล้ว
“พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
ในที่สุดราชาบรรพชนเว่ยก็ตื่นขึ้นจากการหลับไหล ภายใต้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ปรากฏภาพธรรมของทะเลโลหิตอันยิ่งใหญ่ครอบคลุมไปทั่วหุบเขาเทพ
จากนั้นซากศพของสิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นจากทะเลโลหิตและพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง
………