บทที่ 81 ปรมาจารย์ยิป
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 81 ปรมาจารย์ยิป
"เผิงไหล? ยิปมัน?"
คำตอบของแดนนี่ได้ให้ข้อมูลมามากมาย โดยเฉพาะชื่อของยิปมัน
มันทำให้แมตต์นึกถึงสิ่งที่อาซิงเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายเคยพูดอะไรบางอย่างถึงเรื่องของ 'ปรมาจารย์ยิป'
'ตามที่คาดไว้ พวกฮีโร่นี้ช่างสังเกตเสียจริง ไม่ผิดหวังเลย'
เวสลีย์มองดูปฏิกิริยาของแมตต์อย่างเงียบๆ เมื่อชายคนนั้นขมวดคิ้วและดูสับสน เขาก็รู้ว่าการเตรียมการก่อนหน้านี้ของเขาไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว
"ทำไมเหรอ? พวกนายก็เคยได้ยินชื่อเขาเหรอ?” แดนนี่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของแมตต์จึงถามออกมา
"..."
พอได้ยินคำถาม แมตต์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปว่า "เพื่อนคนหนึ่งจากเผิงไหลของเราเคยพูดถึงชื่อปรมาจารย์ยิปหนึ่งครั้ง"
"แล้วตอนนี้เขาไปอยู่ไหนกันล่ะ?” แดนนี่ถามตรงๆ ขณะที่เขาเหลือบมองไปที่กลุ่มดีเฟนเดอร์สที่อยู่ตรงหน้าเขา
คำถามของแดนนี่ทำให้บรรยากาศในร้านเงียบไปชั่วขณะ
เจสซิก้าหันหน้าหนีไป ลุคปิดหน้าอกของเขาที่ถูกเทพเมฆาอัคคีโจมตีและตอบด้วยน้ำเสียงเสียงแผ่วเบา "เขาเสียชีวิตในการซุ่มโจมตี ระหว่างการต่อสู้ครั้งก่อนของเรากับเดอะแฮน"
เมื่อเห็นสีหน้าของดีเฟนเดอร์ส แดนนี่ก็พูดทันทีว่า "ฉันขอโทษที"
ทว่าหลังจากนั้น เขาก็นึกถึงบทสนทนาที่เขาคุยกับยิปมัน "เข้าใจแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปรมาจารย์ยิปบอกว่าเขามาที่นิวยอร์กเพราะศิษย์ของเผิงไหลได้พบกับอุบัติเหตุที่โชคร้าย เขาเองก็เป็นคนบอกฉันเรื่องเทพเมฆาอัคคีด้วย”
เมื่อสังเกตเห็นบางอย่างในคำพูดของแดนนี่ ในที่สุดสัญชาตญาณนักสืบเอกชนของเจสซิก้าที่หายไปนานก็เริ่มกลับมา เธอมองไปที่ดีเฟนเดอร์ส ซึ่งทุกคนต่างก็กำลังกังวลกันอยู่ "พวกเรา ฉันไม่คิดว่าฉันคงจะต้องบอกพวกนายว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้หรอกนะ เราถูกจัดการด้วยคนที่ถูกเรียกว่าเทพเมฆาอัคคี กระทั่งแมตต์ก็เกือบถูกฆ่า"
"เธอตั้งใจที่จะพูดอะไร??" ลุคถาม
เจสสิก้า "ฉันหมายความว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้ ทำไมเราไม่ไปหาคนที่สามารถจัดการกับเทพเมฆาอัคคีได้ล่ะ? อย่างปรมาจารย์ยิปที่เขาพูดถึงไง? เขาก็เหมือนกับอาซิง มาจากเผิงไหลและเขามาที่นี่เพื่อตามหาคนๆ นั้น เขาน่าจะรู้เรื่องเทพเมฆาอัคคีมากกว่าเราเสียอีก"
'ทำได้ดีมาก เจสซิก้า!'
ด้วยคำพูดของเธอ เจสซิก้าก็จึงสามารถนำทางบทสนทนาไปยังเรื่องของยิปมันได้
มันช่วยประหยัดเวลาให้ไรอันได้พอสมควร
ไรอันพยักหน้าและพูดผ่านเวสลีย์ "ผมเห็นด้วย เทพเมฆาอัคคีนั้นอันตรายเกินไป ถ้าหากเราไม่ต้องการจะถูกไล่ต้อนอย่างนี้ เราก็ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม"
เจสซิก้าและเวสลีย์พยายามเกลี้ยกล่อมแมตต์ จนเขาหันไปถามแดนนี่ "คุณรู้ไหมว่าปรมาจารย์ยิปอยู่ที่ไหน?"
...
"งั้นบอกฉันมาทีว่าพวกเดอะแฮนกำลังทำอะไรกันอยู่?"
ที่ฐานของเดอะแฮน...
เทพเมฆาอัคคีนั่งบนเก้าอี้สูงอย่างไม่สนใจอะไรนัก เขาเท้าคางด้วยมือข้างหนึ่งและมองลงไปที่มาดามเกากับผู้นำทั้งสามที่เหลือของเดอะแฮน
ส่วนทั้งสี่ก็แหงนหน้ามองไปยังเทพเมฆาอัคคี เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำกับมุราคามิและความสามารถอันยิ่งใหญ่ที่อีกฝ่ายแสดงออกมา มาดามเกาและคนอื่นๆ ก็จึงไม่กล้าแสดงท่าทีหุนหันพลันแล่นออกไป อีกทั้งพลังความเป็นอมตะในร่างกายของพวกเขาเริ่มเสื่อมถอยไปเนื่องจากพลังของกระดูกมังกรลดลง พวกเขาในยามมนี้จึงอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด
"เรากำลังตามหาไอรอนฟิสต์ ผู้ชายที่โจมตีคุณก่อนหน้านี้ เราต้องการพลังของเขาในการเปิด 'ประตู' ที่ปิดผนึกเพื่อพลังในการรักษาความเป็นอมตะของเรา"
เมื่อมาดามเกาพูดถึงความเป็นอมตะ เธอก็มองไปยังสีหน้าของเทพเมฆาอัคคี เธอไม่เห็นร่องรอยความประหลาดใจใดปรากฏบนใบหน้าของเขาเลย
“ความเป็นอมตะเหรอ? เช่นเดียวกับพวกเฒ่าเผิงไหลสินะ?”
เทพเมฆาอัคคีเปลี่ยนท่านั่งแล้วเงยหน้าขึ้น มองมาดามเกาและคนอื่นๆ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "แต่เห็นได้ชัดว่าความอมตะที่พวกแกพูดขึ้นมานั้นเทียบไม่ได้กับพลังอมตะของพวกเฒ่าเผิงไหลเลย เพราะพวกแกกำลังพึ่งพาพลังจากภายนอกอยู่"
"แกน่ะไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพลังนี้"
หลังจากได้ยินคำดูถูกของเทพเมฆาอัคคี ผู้นำคนอื่นๆ ของเดอะแฮนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เพราะพวกเขาเป็นผู้นำ พวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะถูกควบคุมโดยเทพเมฆาอัคคีเด็ดขาด "นี่คือพลังที่สามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงโลกได้ เราได้เห็นสงครามครั้งแล้วครั้งเล่ามานานนับศตวรรษ เห็นการฟื้นฟูและการล่มสลายของอารยธรรมนับครั้งไม่ถ้วน เวลาคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถหลีกหนีมันได้ยกเว้นพวกเรา"
"เวลาไม่สามารถไล่ตามพวกแกได้งั้นเหรอ?"
มุมปากของเทพเมฆาอัคคีโค้งงอขึ้นขณะที่เขามองไปที่ผู้นำของเดอะแฮนที่อยู่ตรงหน้าเขา
"มันก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ท้ายที่สุด ชัยชนะจะเป็นของเรา" ผู้นำคนหนึ่งตะคอกกลับมาอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ
จู่ๆ เทพเมฆาอัคคีก็ถอนสายตาออกมา และกล่าวขึ้นมาราวกับพูดกับตนเอง "ฉันคิดว่าเดอะแฮนมีผู้นำมากเกินไป พูดตามตรง ฉันต้องการเพียงคนเดียว คนที่เชื่อฟัง"
คำพูดของเทพเมฆาอัคคีทำให้สีหน้าของมาดามเกาและคนอื่นๆ เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ทว่าก่อนที่พวกเขาจะโต้ตอบได้ พวกเขาก็เห็นร่างของเทพเมฆาอัคคีกะพริบและทันใดนั้น ร่างของเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้ามาดามเกาและคนอื่นๆ ราวกับวิญญาณ
เมื่อเทียบกับมุราคามิที่ถูกเทพเมฆาอัคคีสังหารด้วยการตบเพียงครั้งเดียว ผู้นำที่เหลือก็พอจะต่อกรได้อยู่บ้าง
ความแข็งแกร่งของพวกเขาเกิดจากการใช้ชีวิตมาเป็นเวลานาน แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถเพียงเล็กน้อย แต่การฝึกฝนที่ยาวนานก็พอจะทดแทนได้อยู่
พวกเขาใช้พลังลึกลับที่คงความอมตะช่วยกันโจมตีใส่เทพเมฆาอัคคี
น่าเสียดายที่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
เมื่อเห็นคนพวกนี้พุ่งเข้ามาโจมตี เทพเมฆาอัคคีก็ไม่หลบเลยด้วยซ้ำ เขาฟาดฝ่ามือออกไปพร้อมกับท่องบทสวดออกมา
การต่อสู้จบลงในพริบตา
[คะแนนชื่อเสียงจากอเล็กซานดรา รีด +900]
[คะแนนชื่อเสียงจากบาคุโตะ +750]
[คะแนนชื่อเสียงจากโซวานเด +1,000]
เมื่อคะแนนชื่อเสียงที่ดังขึ้นมาหลายครั้งได้จบลง เทพเมฆาอัคคีก็กลับมาที่เบาะสูงของเขาและมองลงไปที่มาดามเกาที่เหลือเพียงคนเดียว เขากล่าวอย่างสุภาพว่า “เห็นไหม พอเป็นแบบนี้ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมาก บอกคนทั้งหมดให้ตามหาคนพวกนั้น”
เมื่อมองไปรอบๆ มาดามเกาก็เห็นร่างสหายที่เธอร่วมมือกันมานานหลายศตวรรษในสภาพที่เลวร้ายเพราะเทพเมฆาอัคคี เธอพยายามฝืนรักษาอารมณ์ของเธอพร้อมกับจับไม้เท้าที่อยู่ตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย และก้มศีรษะลง เธอกลัวเกินกว่าจะมองไปยังเทพเมฆาอัคคีที่อยู่ตรงหน้าด้วยซ้ำ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแหบห้าว "ฉันเข้าใจแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านบัญชา"