บทที่ 79 ถึงเวลาบ่มเพาะบักกี้
ตงหวงเป็นประเทศโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี มันเกิดอารยธรรมเร็วกว่าประเทศอื่นมาก
ในสมัยโบราณ ตงหวงมีหลายราชวงศ์ ทว่าพวกเขาทั้งหมดต่างก็ถูกทำลายด้วยเหตุผลต่างๆ
มีลักษณะที่เหมือนกันของราชวงศ์เหล่านี้กก็คือพวกเขาชอบสร้างเมืองหลวงในจุดเดียวกันเสมอ
จนกระทั่งพวกเขาเข้าสู่ยุคปัจจุบันซึ่งสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็ย้ายเมืองหลวงในที่สุด ศูนย์กลางของราชวงศ์ต่างๆ ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่อเมืองหลวงโบราณ
เมืองหลวงโบราณเคยเป็นสถานที่ซึ่งทหารต่อสู้อยู่เสมอ การต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วนเกิดขึ้นที่นี่ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีสถานที่หลายแห่งที่มีออร่าหยินมหาศาลในตงหวงซึ่งมีสัตว์อสูรอันเดตจำนวนนับมากรวมตัวกัน
ในที่ราบสนามรบเก่านอกเมืองโบราณของเมืองชั้นหนึ่ง…
เมฆดำลอยฟุ้ง และท้องฟ้าก็ดำมืด บนพื้นมีกระดูกนับไม่ถ้วน และทหารโครงกระดูกจำนวนมากกำลังเตรดเตร่
นอกจากนั้น ยังมีอันเดตจำนวนนับไม่ถ้วนแทรกอยู่ระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ
ดินแดนอันรกร้างไร้ซึ่งชีวิต มันเป็นสวรรค์สำหรับอันเดตอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ในสถานที่ดังกล่าว มีคนที่เดินทางข้ามผ่านท้องฟ้าอย่างเฉยเมย
“จิ๋ว!!!!”
มันเป็นนกยักษ์ที่มีสีเขียว ขนสีเขียวอันงดงาม และร่างกายสว่างไสว
ปีกของมันมีสีเขียวราวกับท้องฟ้า และแสงอันอ่อนโยนที่แผ่ออกมาจากมันได้ขับไล่ออร่าหยินออกไป ทำให้อันเดตด้านล่างหยุดโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
หากนักฝึกสัตว์อสูรที่มีความรู้อยู่ที่นี่ คนผู้นั้นจะตระหนักได้ว่านี่คือวิหคสายลมจิตวิญญาณเขียวที่มีสายเลือดฟินิกซ์
ยิ่งกว่านั้น อย่างน้อยมันก็เป็นวิหคสายลมจิตวิญญาณเขียวที่มีการเติบโตระดับราชันย์
บนนกยักษ์สีเขียว หญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาลและอยู่ในชุดนักวิจัยกำลังยืนอ่านข้อความในโทรศัพท์อย่างเงียบสงบ
“พืช คนสวน?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะถอดรหัสซากปรักหักพังได้แล้ว นั่นเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้มาก”
น่าเสียดาย นางมองไปรอบตัวและเห็นว่าไม่มีสัตว์อสูรประเภทพืชที่สามารถทำฟาร์มได้ แม้ว่าจะมีเพียงแค่กลุ่มทหารโครงกระดูกอยู่ที่นี่ก็ตาม
เมื่อเผชิญหน้ากับซืออวี๋ผู้ที่ไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นคนนอก นางต้องการส่งทหารโครงกระดูกไปช่วยซืออวี๋ทำฟาร์ม
ในขณะนี้ นางใช้นิ้วอันเรียวยาวถูขมับของนาง การเดินทางสู่ซากปรักหักพังนี้เหนื่อยล้าหยิ่งกว่าที่นางจินตนาการไว้ นางจะจัดการกับซืออวี๋ในภายหลัง
“รอเจ้าผ่านการประเมินมืออาชีพก่อนแล้วกัน” นางตอบกลับ
…
“เราต้องรอ…”
ในบ้านพักฝึกฝนในเขตผิงเฉิงของเมืองทุ่งน้ำแข็ง ซืออวี๋ดูข้อความบนโทรศัพท์ของเขาและบิดขี้เกียจ
เขาเอ่ยถามหลู่ชิงอี้เกี่ยวกับสัตว์อสูรประเภทพืชและคิดว่านางจะโยนตัวเลือกให้แก่เขาได้เลือก
อย่างไรก็ตาม การประเมินมืออาชีพก็เกิดขึ้นในไม่ช้า
ยังมีเวลาเหลืออีกสี่เดือนใช่ไหม?
เมื่อถึงเวลานั้น มิติฝึกสัตว์อสูรของเขาควรจะสามารถเข้าสู่ระดับสองได้ ในเวลาเดียวกัน อีเลฟเว่นก็ควรจะเกือบอยู่ในระดับเหนือธรรมชาติแล้ว
ในขณะนี้ หลังจากกลับบ้าน อีเลฟเว่นก็วิ่งไปฝึกฝนในทันที
การต่อสู้กับมังกรน้ำแข็งครั้งนี้ทำให้มันเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้ครั้งใหญ่!
ในเวลานั้น หากมันเป็นทารกมังกรน้ำแข็งตัวจริงและไม่ใช่ภาพมายา อีเลฟเว่นคงจะถูกทุบตี!
มันต้องพยายามให้หนักมากยิ่งขึ้น!
“จิ๋!”
หนอนไหมเขียวเข้ามาหาซืออวี๋ ต้องการที่จะเติม ‘ตัวเลือกอาชีพ’ อีกสองสามอย่าง
“ไม่ สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกแรก”
“เจ้าจะเปลี่ยนมันเพียงเพราะเจ้าต้องการได้ยังไงกัน?”
ซืออวี๋วางโทรศัพท์ของเขาและไล่หนอนไหมเขียวออกไปในขณะที่เขาเล่าประสบการณ์ในการตอบคำถามปรนัยของเขาให้กับหนอนไหมเขียวฟัง
สิ่งเหล่านี้… ยิ่งเปลี่ยนใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งผิดพลาดมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น เจ้าตัวเล็กนี่… ทักษะและวัสดุเกือบจะพร้อมแล้ว หากหนอนไหมเขียวบอกว่ามันต้องการที่จะวิวัฒนาการเส้นทางอื่นอย่างกะทันหัน นั่นคงไม่ใช่เรื่องน่าปวดใจหรอกเหรอ?
ซืออวี๋รู้สึกว่านี่ค่อนข้างดีอยู่แล้วสำหรับใช้เส้นทางผีเสื้อความฝัน
“จิ๋ จิ๋”
หนอนไหมเขียวดูเสียใจมาก จากนั้น มันก็เงียบไปสักพักหนึ่งและมองไปที่ร่างที่จากไปของอีเลฟเว่น
ผ่านไปสักพักหนึ่ง มันก็คลานไปหาอีเลฟเว่น ต้องการที่จะฝึกฝนร่วมกับอีเลฟเว่น
ซืออวี๋อธิบายอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเลือกทั้งหมดมีไว้สำหรับการวิวัฒนาการไปสู่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
หากนั่นเป็นในอดีต หนอนไหมเขียวอาจไม่เข้าใจความหมาย แต่ตอนนี้สติปัญญาของมันตื่นขึ้นเล็กน้อย มันจึงเข้าใจ
การวิวัฒนาการเป็นตัวแทนของโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
ในฐานะหนอนน้อยที่สามารถพบเห็นได้ทุกหนแห่ง มันอยู่จุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร จากวิธีที่มันหลบหนีมายังบ้านของซืออวี๋เพื่อหลีกเลี่ยงศัตรูตามธรรมชาติของมัน ทุกคนก็สามารถบอกได้ว่ามันต่ำต้อยมากเพียงใด
อย่างไรก็ตาม จากการชอบฝันและฝันว่ามันกำลังโบยบินบนท้องฟ้าในร่างต่างๆ นั่นหมายความว่าหนอนไหมเขียวไม่พอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
มันต้องการที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของมัน ทว่าเพราะมันไม่มีสติปัญญามาก่อน มันมีเพียงสัญชาตญาณ มันสันบสนมากและไม่รู้ว่าจะทำอะไร
หรือแม้ว่ามันจะรู้ มันก็อาจจะไม่ทำอะไรเลย มันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
แม้ว่าเงื่อนไขการวิวัฒนาการของหนอนไหมเขียวจะเรียบง่ายมาก แต่นั่นก็เป็นเงื่อนไขสำหรับหนอนไหมเขียวที่ทำสัญญากับนักฝึกสัตว์อสูร ความน่าจะเป็นที่หนอนไหมเขียวป่าจะวิวัฒนาการอาจน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น
“จิ๋ จิ๋”
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ในตอนนี้หนอนไหมเขียวน้อยมีสติปัญญาแล้ว มันรู้ว่ามันควรทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของมัน
ฝึกฝนอย่างหนักและเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของมัน!
กล่าวตามตรง นี่ไม่ใช่แนวคิดที่ซืออวี๋ส่งไปยังหนอนไหมเขียวที่เพิ่งมีสติปัญญา แนวคิดแรกที่ส่งมาหามันก็คืออีเลฟเว่น…
หมีที่คลั่งไคล้การฝึกฝนและมีระเบียบวินัยในตัวเองได้บอกกับหนอนไหมเขียวถึงประโยชน์ของการฝึกฝนในตอนที่มันอ่อนแอ
นี่เป็นวิธีเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ทว่าในเวลานั้น หนอนไหมเขียวไม่เข้าใจเลย มันถูกบังคับให้ฝึกฝนเท่านั้น
ทว่าในปัจจุบัน หนอนไหมเขียวเข้าใจแล้วว่าการแข็งแกร่งขึ้นหมายความว่าอะไร ยิ่งกว่านั้น มันยังได้รับอิทธิพลจากอีเลฟเว่นและการล่อลวงของการวิวัฒนาการที่กล่าวถึงโดยซืออวี๋ มันตัดสินใจที่จะริเริ่มการฝึกฝนร่วมกับอีเลฟเว่น
นี่เป็นไปไม่ได้สำหรับหนอนไหมเขียวที่เพียงแค่อยากกินและนอนก่อนหน้านี้
“จิ๋ จิ๋…” ในชั่วพริบตา หนอนไหมเขียวก็จากไป
ในขณะที่ซืออวี๋เฝ้าดู เขาก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
บักกี้เติบโตขึ้นและมีสติปัญญามากขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะลืมบอกบักกี้ไปว่าเส่นทางการวิวัฒนาการที่เขาเตรียมไว้ให้ก็คือผีเสื้อความฝัน มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้หลังจากหลับและฝัน ดังนั้นมันจัไปทรมาณกับอีเลฟเว่นทำไมกัน?!!
หากมันมีเวลา มันต้องนอนให้มากยิ่งขึ้น
เรียนรู้วิธีควบคุมความฝันและมีความฝันที่ชัดเจน
ความฝันที่ชัดเจนไม่ใช่ทักษะ นี่เป็นปรากฎการณ์ทางฟิสิกส์ในการรักษาสถานะมีสติในระหว่างฝัน
ในสถานะนี้ ผู้ฝันสามารถมีสติในระหว่างนอนหลับ แม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงความฝัน
แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเรียนรู้มันได้ตราบใดที่พวกเขาได้รับการฝึกฝน
ก่อนที่ซืออวี๋จะถูกส่งข้ามโลก เขาได้พยายามทำในสิ่งที่คล้ายกัน ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีพรสวรรค์ เขาประสบความสำเร็จเพียงหนึ่งหรือสองครั้งหลังจากลองพยายามเป็นเวลานาน
นั่นคือบน ‘โลก’ ที่ไม่มีพลังพิเศษ ในโลกนี้ ความฝันที่ชัดเจนเป็นเรื่องธรรมดามาก ท้ายที่สุด มีสัตว์อสูรความฝัน
โดยทั่วไปแล้ว สัตว์อสูรความฝันสามารถควบคุมความฝันได้อย่างง่ายดาย ความฝันของพวกมันและความฝันของสิ่งมีชีวิตอื่น
พวกมันเกิดมาเป็นนักฝัน ซืออวี๋หวังว่าหนอนไหมเขียวจะทำในสิ่งที่คล้ายกันได้ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับการสร้างความฝันในอนาคต
“ลืมไปเถอะ ให้มันฝึกฝนกับอีเลฟเว่นไปสักพักหนึ่งก่อน การใช้อีเลฟเว่นเป็นต้นแบบก็ไม่เลวเลย”
“เมื่อมันเหนื่อยล้าจากการฝึกฝน มันคงจะนอนเอง”
วันนี้เป็นวันที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง ซืออวี๋เตรียมหยุดหนึ่งวัน เขาไม่ได้เพิ่มแต้มด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ต้องพยายามอย่างหนักและพักผ่อนเป็นครั้งคราว
กล่าวตามตรง เขาวางแผนที่จะศึกษาลูกปัดซากปรักหักพังนี้และวิธีเปลี่ยนหินไร้ตัวตนเป็นวัสดุวิวัฒนาการ
สำหรับหนวดมังกร ซืออวี๋คิดถึงเรื่องนี้และตัดสินใจที่จะลืมมันไปชั่วคราว เขาจะเก็บมันไว้ก่อน
หากว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นซากปรักหักพังมังกรน้ำแข็งนั้นจะเป็นยังไงกัน? นั่นคงจะแย่มากหากมันถูกเขาทำลาย
ยิ่งกว่านั้น หนอนไหมเขียวในปัจจุบันก็ไม่ต้องการวัสดุนี้เพื่อเสริมพลังให้แก่ไหมหนอนเลย
ท้ายที่สุด ไหมหนอนของมันก็ยังไม่ถึงขั้นเหนือธรรมชาติ
นี่เป็นเป้าหมายต่อไปของซืออวี๋
ในช่วงเวลาต่อไป ซืออวี๋วางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะหนอนไหมเขียว เขาสามารถเลิกเพิ่มแต้มให้แก่อีเลฟเว่นไว้ชั่วคราวและปล่อยให้มันฝึกฝนทักษะผสานของมัน
ทักษะผสาน แม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญทักษะเป็นตัวรับประกัน แต่ก็จำเป็นต้องฝึกฝนและใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องนี้ไม่สามารถพึ่งพาสารบัญทักษะได้อย่างสมบูรณ์
กล่าวกันว่าในการต่อสู้ระดับมืออาชีพ พวกเขาแข่งขันดดยใช้ทักษะผสานเป็รหลัก
ในการต่อสู้ระดับปรมจารย์ ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรถูกกำหนดไว้แล้ว
ทักษะผสานและการสร้างความล้ำลึกได้ทดสอบจินตนาการและสติปัญญาของนักฝึกสัตว์อสูร
ทักษะเหล่านี้ฝึกฝนได้ยากยิ่งกว่าทักษะธรรมดา สัตว์อสูรมักจะต้องพยายามอย่างหนักยิ่งกว่าการฝึกฝนทักษะธรรมดา
ทั้งหมดที่ซืออวี๋ทำได้ก็คือช่วยอีเลฟเว่นในการสร้างรากฐานก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆ ศึกษาทักษะผสานที่แปลกประหลาดและสร้างความล้ำลึก
ถึงเวลาที่เขาจะต้องมุ่งเน้นไปที่บักกี้แล้ว…
นอกจากนี้ ซืออวี๋ยังสงสัยมากเช่นกัน เขาต้องสอนกี่ครั้งก่อนที่ทักษะขั้นสมบูรณ์จะกลายเป็นขั้นเหนือธรรมชาติ?
ไหมหนอนในตอนนี้มีเวลาคูลดาวน์น้อยกว่าแปดชั่วโมง นั่นไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับซืออวี๋ ทักษะนี้เหมาะสำหรับการทดลองอย่างมาก
หลังจากที่ไหมหนอนถึงขั้นเหนือธรรมชาติ มันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
นั่นคือการเปลี่ยนแปลงในคุณสมบัติ
หนอนไหมเขียวสามารถใช้ไหมหนอนขั้นสมบูรณ์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันขึ้นอยู่กับอาหารที่กินในช่วงเวลาหนึ่ง
หากมันกินทรัพยากรธาตุสายฟ้าได้สักพักหนึ่ง ไหมหนอนจะพัฒนาเป็นไหมหนอนที่มีสายฟ้าซึ่งมีผลอัมพาตเล็กน้อย
หากมันกินทรัพยากรประเภทน้ำแข็งสักพักหนึ่ง ไหมหนอนจะเปลี่ยนเป็นไหมหนอนประเภทน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งศัตรูได้หลังจากมัดพวกมัน
นั่นดูแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ทว่ามันยังคงเป็นเพียงเส้นไหม ท้ายที่สุด ไหมหนอนในเวลานี้เทียบได้กับทักษะระดับต่ำขั้นชำนาญ
กล่าวโดยย่อแล้ว นั่นเป็นเพราะธรรมชาตินี้ที่ซืออวี๋คิดว่าหนวดมังกรสามารถเสริมพลังให้แก่ไหมหนอนของมันได้อย่างมหาศาล
หรือหินไร้ตัวตนจะสามารถเสริมพลังให้แก่ไหมหนอนได้มากเพียงใดกัน?
เส้นไหมที่สามารถตัดผ่านมิติได้?
เขาคิดมากอีกครั้ง…
“ลูกปัดได้ยินข้าไหม?” ในที่สุดซืออวี๋ก็มองไปที่ลูกปัดซากปรักหักพังในมือของเขาและกระตุ้นพรสวรรค์กระแสจิตของเขา หวังว่าจะได้ยินร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน