บทที่ 78 วิชา
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 78 วิชา
"เดี๋ยวก่อน!"
เทพเมฆาอัคคียกมือขึ้น นินจาและสมาชิกแก๊งที่อยู่รอบๆ ที่ตั้งใจจะล้อมรอบกลุ่มสี่คนก็ได้หยุดลงทันที เทพเมฆาอัคคีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ในเมื่อฉันมาถึงที่นี่ ฉันจะขยับตัวสักหน่อยช่วยพวกแกแล้วกัน”
"ฉันเห็นด้วยกับที่เธอบอก คนนี้ดูธรรมดามาก" ลุคเห็นด้วยกับคำพูดของเจสซิก้า ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของเทพเมฆาอัคคี บูลส์อายก็ไม่สงสัยในความสามารถของอีกฝ่ายเลย เขาพูดทันทีว่า "เชิญเลยครับท่านเทพเมฆาอัคคี ตราบใดที่เราสามารถจัดการคนพวกนี้ได้ คิงพินพร้อมจะให้รางวัลท่านมากมายมหาศาลแน่นอน"
"เทพเมฆาอัคคี"
ในอีกด้านหนึ่ง แมตต์ก็สังเกตเห็นว่าบูลส์อายเรียกชายผู้นี้ว่าอะไร ความไม่สบายใจในใจของเขาพลันเพิ่มขึ้นมา "คุณชื่อว่าเทพเมฆาอัคคีงั้นเหรอ?"
"โอ้ แกรู้จักฉันด้วยเหรอ?" เมื่อได้ยินคำถามของแมตต์ รอยยิ้มก็ได้ผุดขึ้นบนริมฝีปากของเทพเมฆาอัคคี
'คุ้มค่าเสียจริงที่เราพยายามวางเนื้อเรื่องต่างๆ ไว้มากมาย'
[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +130]
[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +95]
"เทพเมฆาอัคคี? นั่นใครกันน่ะ?"
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักชื่อนี้ คิ้วเรียวของเจสซิก้ายกสูงขึ้นขณะที่เธอถามแมตต์และลุคที่มองไปทางชายคนนั้นด้วยความตกใจ
"เขาคือตัวตนอันตรายที่มีสมญานามว่าสุดยอดราชามือสังหาร อาซิจากเผิงไหลมาที่นิวยอร์กเพราะเขากำลังตามหาตัวอีกฝ่าย" ลุคอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"อาซิง..."
เมื่อลุคพูดชื่ออาซิง ดวงตาของเจสซิก้าก็เปลี่ยนไปชั่วขณะ เธอมองไปที่เทพเมฆาอัคคีที่อยู่ไม่ไกลนัก
"นั่นหมายความว่าเขาเป็นตัวตนอันตราย"
"พวกแกรู้จักเผิงไหลด้วยงั้นเหรอ?" เมื่อได้ยินเผิงไหลหลุดออกมาจากปากของลุค สีหน้าสบายๆ ของเทพเมฆาอัคคีก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจัง "ดูเหมือนฉันคงต้องเอาจริงสักหน่อย จะได้รู้ว่าพวกแกรู้จักเผิงไหลจากที่ไหน"
"พวกคุณระวังตัวด้วย ผมคิดว่าเขาเป็นตัวตนอันตรายยิ่งกว่าศัตรูทุกคนที่เราเคยเจอมาเสียอีก"
เมื่อได้ยินคำพูดของเทพเมฆาอัคคี ลางสังหรณ์ของแมตต์ก็ร้องเตือนมาอย่างต่อเนื่อง เขาจึงรีบเตือนทุกคนทันที
"นายไม่จำเป็นต้องบอกฉันก็รู้สึกได้" สีหน้าของเจสซิก้าไม่ได้ผ่อนคลายลงเลยสักนิดเดียว เพราะชายตรงหน้าพวกเขาเป็นตัวตนที่เกี่ยวข้องกับเผิงไหล
"ผมคิดว่าเราควรจะถอยกันก่อนนะ"
หากเขาต้องเอาร่างแยกของตนเองมาสู้กับร่างแยกเวสลีย์ มันคงจะน่าขันพอควร ดังนั้นเขาจึงใช้ร่างแยกให้เสนอที่จะถอยออกมาด้วยใบหน้าที่แข็งค้างคล้ายดั่งก้อนหิน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพเมฆาอัคคีก็หัวเราะ "ถอย? เมื่อฉันมาที่นี่ ไม่มีใครจะออกไปได้เด็ดขาด"
ในขณะที่เสียงของเขาเงียบไป ทันใดนั้นร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าแมตต์และคนอื่นๆ
"เขาเร็วมาก!"
เมื่อเห็นเทพเมฆาอัคคีปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ทีมดีเฟนเดอร์สก็ตกตะลึง
สีหน้าของแมตต์ยิ่งตกใจเป็นพิเศษ แม้แต่ประสาทสัมผัสชั้นยอดของเขาก็ไม่สามารถตรวจจับวิถีการเคลื่อนไหวของเทพเมฆาอัคคีได้เลย
แม้ว่าจะตกใจกับความเร็วของเทพเมฆาอัคคี แต่ดีเฟนเดอร์สก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน ลุครีบไปยืนข้างหน้าและเวสลีย์ก็ยิงไปที่เทพเมฆาอัคคีขณะที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
อืม...ไหงเราต้องมายิงตัวเองกันนะ
กระสุนโค้งได้ผ่านแผ่นหลังกว้างของลุคและพุ่งตรงไปยังจุดบอดของเทพเมฆาอัคคี
ทว่าการโจมตีที่ลึกลับและคาดเดาไม่ได้นี้ เทพเมฆาอัคคีกลับเพียงเอื้อมมือออกไปอย่างไม่ใส่ใจและคว้ากระสุนที่พุ่งเข้ามา เขาหันฝ่ามือไปมองกระสุนอุ่นๆ ที่ยังคงมีกลิ่นเหมือนผงดินปืน เขากล่าวออกมาอย่างดูถูก "เอาของจริงมาหน่อย กระสุนน่ะไม่มีประโยชน์หรอก"
[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +75]
[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +60]
[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +55]
เมื่อเห็นชายคนนั้นรับกระสุนได้ต่อหน้า กระทั่งทีมดีเฟนเดอร์สก็ยังรู้สึกตกใจ
เมื่อเห็นคะแนนชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไรอันในร้านขายของเก่าก็รู้สึกมีความสุขยิ่ง ทว่าเขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เพราะเวสลีย์เป็นเพียงร่างแยกของเขา ถ้าเขาเห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยตาของเขาเอง มันจะเจ๋งแค่ไหนกันนะ?
แม้ว่าจะรู้สึกเสียดาย แต่การแสดงก็ต้องดำเนินต่อไป
เมื่อความตกใจในใจสงบลง หมัดของลุคก็ถูกเหวี่ยงออกมา เขายกกำปั้นขนาดเท่ากระสอบทรายขึ้นและทุบมันไปที่เทพเมฆาอัคคีตรงหน้าเขา
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่หนักหน่วงนี้ เทพเมฆาอัคคีก็เพียงแค่ยิ้ม เขายกมือขึ้นและมันก็ปะทะกับร่างลุค
หลังจากได้รับการโจมตีจากเทพเมฆาอัคคีแล้ว ลุคก็รู้สึกแน่นหน้าอกเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมีพลังป้องกันที่อยู่ยงคงกระพัน แต่เขาก็ยังต้องถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อผ่อนแรงที่พุ่งเข้ามา
“หือ? ผสานวรยุทธ์เคลือบภายนอกเหรอ?”
เมื่อรู้สึกถึงพลังแปลกๆ ในร่างกายของลุค เทพเมฆาอัคคีก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ในวินาทีต่อมา เทพเมฆาอัคคีก็ก้าวไปหาลุคอย่างรวดเร็ว เทพเมฆาอัคคีโจมตีอย่างไม่ลังเล "มาดูกันว่าร่างกายของแกแข็งแกร่งแค่ไหน"
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยฝ่ามืออย่างต่อเนื่องจากเทพเมฆาอัคคี ลุครู้สึกเหมือนเป็นกระสอบทรายขนาดใหญ่ที่ไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กลับ เขาพยายามยกแขนขึ้นมาป้องกัน ทว่าเขาไม่สามารถตามความเร็วของอีกฝ่ายได้ทันเลย
ตู้ม--
เสียงกระแทกได้ดังขึ้น ร่างสูงของลุคชนเข้ากับกำแพงก่อนที่จะล้มลง
"งั้นก็ไม่ใช่วรยุทธ์สินะ แค่มีผิวหนังที่หนากว่าคนอื่นก็เท่านั้น"
เทพเมฆาอัคคีมองไปทางลุคและพูดออกมาอย่างแผ่วเบา
ในทางกลับกัน ลุคที่ล้มลงกับพื้นพยายามลุกขึ้นมา เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วร่างกาย มีกระทั่งเลือดไหลออกมาจากมุมริมฝีปากของเขา
[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +225]
"ลุค!"
ลุคที่เคยเป็นอมตะมาโดยตลอดกลับมีเลือดไหลออกมาเพราะการโจมตีของเทพเมฆาอัคคี
เจสซิก้าตกใจมากเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ เธอมองไปทางเทพเมฆาอัคคีที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอกระชับกำปั้นแล้วลอยพุ่งเข้าใส่
"เจสซิก้า อย่า!"
เมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเจสซิก้า แมตต์จึงพยายามหยุดเธออย่างรวดเร็ว แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจคำเตือน
"น่าสนใจ...น่าสนใจมาก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ฝึกฝนวิชายุทธ์สวรรค์ แต่กลับบินได้งั้นเหรอ?"
เทพเมฆาอัคคีเงยหน้าขึ้นมองเจสซิก้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาพูดขึ้นมาด้วยความสนใจ
"เออ อีกเดี๋ยวสิ่งที่น่าสนใจที่แกต้องการก็จะเข้าไปซัดแกนี้แหละ"
เมื่อได้ยินคำพูดของเทพเมฆาอัคคี เจสซิก้าก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ด้วยความสามารถในการบิน เธอหยิบของหนักขึ้นมาจากบนพื้นและพุ่งเข้าใส่พร้อมกับฟาดมันลงไปบนตัวของเทพเมฆาอัคคี