ตอนที่แล้วบทที่ 75: ข้าเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยและจะหาทางแก้แค้นทุกเมื่อ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 77: โลกไม่สามารถปล่อยให้ผู้ที่มีอำนาจเช่นนี้มีอยู่จริงได้!

บทที่ 76: เหล่าขุนนางขอโทษหลินเป่ยฟาน?


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 76: เหล่าขุนนางขอโทษหลินเป่ยฟาน?

พูดตามตรง จักรพรรดินีต้องการลดระดับหลิวฮัวเย่จนหมด

แต่สถาบันจักรพรรดิจะขาดผู้อำนวยการใหญ่ไม่ได้

หลังจากลดขั้นเขาแล้ว นางจะต้องจัดหาคนใหม่เข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่

เหล่าขุนนางพลเรือนและทหารในราชสำนักต่างก็เป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ละคนล้วนมีความโลภและเจ้าเล่ห์ไม่มากก็น้อย เช่นนั้นจะเลือกใครมาแทนเล่า?

ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้หลิวฮัวเย่รับหน้าที่เดิมต่อไป

อย่างน้อยเขาก็ยังมีจิตสำนึก ไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหายต่อการปกครองและส่งผลกระทบต่อสถาบันจักรพรรดิ

“ส่วนพวกเจ้าทุกคน!”

ดวงตาวิหคเพลิงของจักรพรรดินีนีมองเหล่าเสนาบดี สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“เจ้าได้ใส่ร้ายขุนนางที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ ทั้งยังกล่าวหาเขาอย่างผิดๆ! ถ้าไม่ใช่เพราะท่านหลินพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้ เกรงว่าตำแหน่งขุนนางและชื่อเสียงของเขาคงจะถูกทำลาย คิดหรือยังว่าพวกเจ้าควรถูกลงโทษเช่นไร?”

"พวกเราเป็นเพียงขุนนางที่ต่ำต้อย ไม่มีความรู้และถูกชักนำให้หลงกลโดยคนชั่วร้าย ฝ่าบาทโปรดร้องโทษพวกข้ากระหม่อมด้วยขอรับ!” เหล่าขุนนางโค้งคำนับและพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน

ด้วยความที่อยู่ในราชสำนักมานาน พวกเขาก็ก้มศีรษะลงเพื่อยอมรับความผิดทันที

กฎหมายไม่ได้มีข้อบัญญัติว่าจะลงโทษแบบกลุ่ม ดังนั้นนางจะทำอะไรพวกเขาได้กันล่ะ?

อีกไม่นานนางก็คงจะลืมไปเอง ไม่มีผู้ใดต้องถูกลงโทษ

ทว่าจักรพรรดินีเองก็รู้กลอุบายของพวกเขา

ดังนั้นจักรพรรดินีย่อมไม่คิดจะลงมือทำด้วยตัวเองอยู่แล้ว

“เช่นนั้นในเมื่อพวกเจ้ารู้ความผิดพลาดของตนเองและร้องขอการลงโทษ ข้าจะลงโทษเจ้า…จงขอโทษท่านหลินเสีย!” นางตะโกนออกมา

พวกขุนนางถึงกับตกตะลึง!

พวกเขาถูกสั่งให้ไปขอโทษไอ้สารเลวหลินเป่ยฟานเนี่ยนะ?

ขุนนางระดับสูงของราชสำนักถูกขอให้ขอโทษขุนนางระดับหกที่ต่ำต้อย?

พวกเขาจะกล้าอยู่ต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

หลินเป่ยฟานเองก็ถึงกับตะลึง!

ขุนนางพวกนี้จะขอโทษเขางั้นหรือ?

น...นี่มัน...

ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!

จักรพรรดินีทรงใจดีกับเขาเสียเหลือเกิน!

หลินเป่ยฟานลุกขึ้นยืนทันที เพื่อให้เหล่าขุนนางขอโทษเขาได้ง่ายขึ้น

เมื่อเห็นเหล่าขุนนางที่ลังเล น้ำเสียงของจักรพรรดินีก็พลันเย็นเหยียบในทันที “มีอะไรกัน…พวกท่านไม่เต็มใจเหรอ? ข้าแค่ขอให้พวกท่านขอโทษท่านหลิน กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ก็ทำไม่ได้เหรอ? หรือว่าพวกท่านไม่คิดว่าตนกระทำผิด? พวกท่านกำลังพยายามหลอกลวงจักรพรรดินีอยู่หรือ?”

เหล่าขุนนางถึงกับตื่นตระหนก “พวกข้ากระหม่อมมิกล้าฝ่าบาท!”

“ในเมื่อพวกท่านกล่าวเช่นนั้น ก็จงรีบไปขอโทษซะ ข้าคงจำเป็นต้องเตือนพวกท่านหรอกนะ?” จักรพรรดินีกล่าวอีกครั้ง

"คือว่า..."

ยามนั้นเอง หลินเป่ยฟานได้กระแอมไอออกมา “ข้าราชบริพารทั้งหลาย เราต่างเป็นผู้ซื่อสัตย์ขององค์จักรพรรดินี เราควรแบ่งปันความกังวลของฝ่าบาท ไม่ควรทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้น! ไม่ว่าองค์จักรพรรดินีจะสั่งอะไร เราก็จะต้องทำ นี่คือหน้าที่ของเราในฐานะขุนนางราชสำนัก! ข้าพร้อมแล้ว พวกท่านพร้อมกันหรือยัง? รีบกล่าวขอโทษข้าเร็วเข้าสิ!”

เหล่าขุนนางทุกคนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธยิ่ง!

ก็ใช่สิที่เจ้าจะไม่กังวล เพราะเจ้าไม่ใช่คนที่ต้องขอโทษสักหน่อย

เจ้าไม่ใช่คนที่เสียหน้า!

ตอนนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาแล้ว “ท่านขุนนางทั้งหลาย เวลาใกล้จะหมดลงแล้ว พวกท่านจะมาทีละคนหรือทั้งหมดในครั้งเดียว? ข้าจะได้รับถูก!”

ขุนนางทุกคนแทบจะพูดไม่ออกเลย

เจ้ารับได้ แต่พวกข้ารับไม่ได้!

เจ้าสารเลวบัดซบ!

เหล่าขุนนางมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง

ในที่สุดหัวหน้าเจ้ากรมผู้หนึ่งก็โค้งคำนับและกล่าวขอโทษอย่างไม่เต็มใจนัก "ต้องขอโทษด้วยท่านหลิน!”

“อ่า ~” หลินเป่ยฟานหลับตาลงด้วยความปลาบปลื้มใจ

เสียงขอโทษช่างน่ารื่นหูยิ่งนัก ทั้งสวยงามและอบอุ่นหัวใจ!

รู้สึกราวกับเขากำลังเพลิดเพลินด้วยการถูกนวดเท้าตั้งแต่หัวจรดเท้า!

มันรู้สึกดีมาก!

เมื่อรู้สึกถึงมันแล้ว เขาก็รั้งใจไม่ไหวจนต้องกล่าวออกไปว่า “ข้าไม่ได้ยินเสียงที่ท่านกล่าวเมื่อครู่เลย ท่านช่วยพูดอีกทีได้ไหม?”

ขุนนางผู้นั้นถึงกับเงียบกริบไป

จักรพรรดินีที่กำลังมองดูด้วยสายตาเย็นชาก็เกือบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

หลินเป่ยฟานช่างชั่วร้ายเกินไปจริงๆ!

ขุนนางระดับสูงพวกนี้กำลังก้มหัวลงเพื่อขอโทษเจ้า แต่เจ้ากลับยังต้องการฟังคำขอโทษซ้ำสองเนี่ยนะ?

เจ้าจงใจที่จะยั่วยุพวกเขางั้นหรือ?

“พอเถิดท่านหลิน พวกเราเหล่าขุนนางที่ฟ้องเรื่องท่านได้ขอโทษไปแล้ว อย่าทำให้พวกเขาต้องลำบากใจอีกเลย”จักรพรรดินีกล่าวขณะที่กลั้นหัวเราะ

“ขอรับฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานรีบถอยกลับอย่างรวดเร็ว

เหล่าขุนนางถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็รู้สึกขุ่นเคืองมากเช่นกัน

เขาทุบตีบุตรชายของเรา โกงเงินเราไปมากมายและยามนี้เราต้องขอโทษเขาอีก...

ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน?

ความเป็นธรรมอยู่แห่งหนใด?

หลังจากเป็นขุนนางมาหลายปี วันนี้พวกเขาเสียหน้าเป็นที่สุด!

ในยามนั้นเอง เสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือน เกาเทียนเย่าก็ลุกขึ้นยืนและรายงานต่อจักรพรรดินีเสียงดัง “ในช่วงที่ท่านหลินเป่ยฟานดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันจักรพรรดิ เขาได้เสริมสร้างระเบียบวินัยและการฝึกฝนทางศีลธรรม สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงบวกที่ส่งผลต่อการเรียนของบัณฑิตให้ดีขึ้น! นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขายังนำเหล่าบัณฑิตให้ศึกษาการวิจัยและประดิษฐ์เครื่องมือมากมายที่เป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรและราษฎร เป็นตัวอย่างให้ขุนนางทุกคนและเป็นเสาหลักของประเทศ! ราชสำนักไม่สามารถปิดซ่อนพรสวรรค์นี้ได้ ดังนั้นข้าจึงขอให้ท่านหลินได้รับการเลื่อนขั้นอีกระดับหนึ่ง ได้โปรดเมตตาด้วยฝ่าบาท!”

เหล่าขุนนางรู้สึกสับสนยิ่ง

เกิดอะไรขึ้นกับเกาเทียนเย่ากัน?

เขาเสนอให้จักรพรรดินีเลื่อนตำแหน่งหลินเป่ยฟานจริงหรือ?

เขาโมโหมากจนพูดเรื่องไร้สาระแล้วเหรอ?

จากนั้นเสนาบดีผู้หนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดังออกมาเช่นกัน “สิ่งที่เสนาบดีเกาพูดนั้นถูกต้อง! ข้าเองก็ขอให้ท่านหลินได้เลื่อนขั้นอีกหนึ่งขั้น ได้โปรดเมตตาด้วยฝ่าบาท !”

จากนั้นเสนาบดีเจ้ากรมโยธาธิการก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “ข้าขอให้ท่านหลินได้รับการเลื่อนขั้นอีกระดับหนึ่งเช่นกัน ได้โปรดเมตตาด้วยเถิดฝ่าบาท!”

เสนาบดีคนที่สี่ก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน

เสนาบดีคนที่ห้าก็กล่าวเช่นกัน

พวกเขาทั้งหมดล้วนเสนอที่จะเพิ่มระดับของหลินเป่ยฟาน

เหล่าขุนนางคนอื่นค่อยๆ เข้าใจและลุกขึ้นยืนตามกันไป

พวกเขาทั้งหมดกล่าวว่า “ข้าขอให้หลินได้รับการเลื่อนขั้นอีกระดับหนึ่งเถิด ได้โปรดเมตตาด้วยฝ่าบาท!”

ภาพนี้มันช่างสุดยอดยิ่ง!

เหล่าบัณฑิตและอาจารย์ที่อยู่รอบๆ ต่างก็สับสนเป็ฯอย่างมาก!

เสียงของขุนนางทุกคนดังสอดประสานกัน ราวกับต้องการให้เกียรติแก่หลินเป่ยฟาน!

เรื่องราวนี้อาจต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ!

หลินเป่ยฟานก็ประหลาดใจมาก!

ทว่าอีกด้านหนึ่ง เขาก็ไม่ค่อยสุขใจสักเท่าไร

สุนัขจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์พวกนี้!

หากพวกเขาไม่สามารถนำเขาลงมาได้ พวกเขาก็ต้องการย้ายเขาออกจากสถาบันจักรพรรดิ

ปัจจุบันเขาเป็นผู้อำนวยการสถาบันจักรพรรดิ ซึ่งเป็นขุนนางระดับหก เหนือตำแหน่งของเขาในสถาบันจักรพรรดิคือผู้อำนวยการใหญ่ที่เป็นขุนนางชั้นสี่

หากเขาได้รับการเลื่อนขั้นอีกเพียงระดับเดียว เขาจะกลายเป็นขุนนางระดับห้า แต่มันไม่มีตำแหน่งระดับนี้อยู่ในสถาบันจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ต้องย้ายออกไปเท่านั้น

ถ้าเขาออกจากสถาบันจักรพรรดิ บุตรชายของพวกเขาก็คงไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีก

พวกเขาคงรู้สึกยินดีมากที่ไม่ต้องถูกหลินเป่ยฟานหลอกลวงอีกต่อไป

แต่หลินเป่ยฟานไม่ต้องการออกจากสถาบันจักรพรรดิ!

เขาทนไม่ได้ที่จะต้องแยกทางกับเหล่าเด็กรุ่นหลังผู้มากความสามารถ!

เขายังอยากได้เงินสักสิบล้านหรือร้อยล้านตำลึงจากพวกเขาทุกเดือนอยู่นะ!

เขาจะไปหาบ่อเงินบ่อทองเหมือนกับเด็กพวกนี้ได้จากที่ไหนกัน?

ดังนั้นหลินเป่ยฟานจึงกล่าวอย่างกังวลว่า “ทุกท่าน ท่านประเมินข้าที่เป็นเพียงขุนนางผู้ต้อยต่ำผู้นี้มากเกินไปแล้ว! ข้าเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่เดือนและมีประสบการณ์ที่ตื้นเขิน ความสามารถที่จำกัด มันยากนักที่จะแบกรับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้! ดังนั้นขุนนางผู้ต่ำต้อยอย่างข้าจึงคิดว่ามันคงดีเสียกว่าที่จะฝึกฝนทักษะในสถาบันจักรพรรดิอีกสองสามปี!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าขุนนางก็รู้สึกไม่สบายใจ!

เจ้าต้องการที่จะอยู่ในสถาบันจักรพรรดิอีกสองสามปีหรือ?

เราคงล้มละลายกันแน่!

การเป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว เจ้าปล่อยเราไปไม่ได้เหรอ?

แม้ว่าเราจะรวย แต่มันก็ยังได้มาจากการทำงานและความเหนื่อยยากนะ

แต่พวกมันทั้งหมดกลับถูกไถ่ออกไปโดยเจ้า!

เหล่าขุนนางคิดมากขึ้นและรีบกระตุ้นเขา “ผู้อำนวยการหลิน ท่านถ่อมตนเกินไปแล้ว ความสามารถของท่านต่างเห็นได้ชัดจากทุกคน!”

“การเป็นผู้อำนวยการที่สถาบันจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่รังแต่จะเสียฝีมือท่านไปเสียเปล่าๆ! ท่านควรมีเวทีที่กว้างขึ้น โอกาสที่มากขึ้น แทนที่จะมาจมปลักกับที่นี่!”

“ผู้อำนวยการหลิน ถ้าท่านต้องการรับใช้ฝ่าบาทจริงๆ อย่าปฏิเสธเลย!”

……

หลินเป่ยฟานปฏิเสธอย่างนอบน้อมอีกครั้ง

จักรพรรดินีที่ยืนอยู่ตรงกลางของพวกเขาทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับฉากอันไร้สาระนี้

นางได้แต่คิดขึ้นในใจ

ขุนนางพวกนี้ไม่อาจจัดการง่ายเลยสักนิดเดียว!

เมื่อพบคนที่สามารถหลอกลวงและมีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนหลินเป่ยฟาน พวกเขาก็ทำได้เพียงเลื่อนตำแหน่งเขาและส่งเขาออกไป!

“อืม ไม่ต้องถกเถียงกันล้ว!” จักรพรรดินีกล่าวและเหล่าขุนนางก็เงียบลงทันที

“เจ้าทุกคนพูดถูก!”

จักรพรรดินียิ้มและกล่าวว่า “ในช่วงที่ผู้อำนวยการหลินดำรงตำแหน่งที่สถาบันจักรพรรดิ ไม่เพียงแต่ศีลธรรมของสถาบันจะดีขึ้น แต่ผลการเรียนของบัณฑิตก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้เขายังส่วนคิดค้นเครื่องมือมากมายที่เป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรและประชาชน ดังนั้นจึงสมควรได้รับการเลื่อนขั้นหนึ่งระดับ!”

เหล่าขุนนางดีใจมากและตะโกนอย่างพร้อมเพรียงว่า “ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!”

“แต่อย่างที่ผู้อำนวยการหลินกล่าวไป เขาไม่ได้เป็นขุนนางมานานและประสบการณ์ของเขาตื้นเขิน ความสามารถของเขามีจำกัดและเขาควรฝึกฝนทักษะของเขาที่สถาบันจักรพรรดิสักระยะหนึ่ง นอกจากนี้หากไม่ใช่เพราะการกำกับดูแลของเขา เครื่องมือเหล่านี้ที่เป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรและราษฎรก็คงไม่ปลอดภัย !”

หลินเป่ยฟานดีใจมากและกล่าวออกมา “ขอฝ่าบาททรงพระเจริญ!”

“ดังนั้นข้าจึงคิดอย่างหนักและในที่สุดตัดสินใจได้!”

จักรพรรดินีกลั้นยิ้มและกล่าวว่า “ก่อนอื่นเราจะเลื่อนระดับหลินเป่ยฟานเป็นขุนนางระดับห้า แต่เขาจะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการที่สถาบันจักรพรรดิ เมื่อเขามีความสามารถมากพอ เขาจะถูกย้ายไปยังตำแหน่งอื่น นั่นไม่ใช่สถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรอกหรือ?”

เหล่าขุนนางต่างสับสนและหวาดกลัว พวกเขาคิดในใจว่า “นี่มันได้เลื่อนขั้นแล้ว แต่ไอ้บัดซบบ้านี้ยังไม่ออกจากสถาบันจักรพรรดิอีก มันจะยุติธรรมตรงไหนกัน?”

พวกเขาจึงโต้เถียงทันที “ฝ่าบาท สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้! มันขัดกับแบบอย่างที่ทำกันมามาก!”

จักรพรรดินีโบกมือและตอบว่า “แม้ว่าจะไม่มีแบบอย่าง แต่เราก็สามารถสร้างได้ สถานการณ์ของท่านหลินนั้นไม่เหมือนใครและพรสวรรค์ของเขาก็หายาก เหตุใดราชสำนักจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้? นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านต้องการหรอกหรือ?”

เหล่าขุนนางยังคงโต้เถียงกันต่อไป ส่วนทางหลินเป่ยฟานก็แอบหัวเราะ

เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งและยังสามารถทำเงินต่อไปได้ กำไรงามอะไรขนาดนี้! จักรพรรดินีดีใจดีกับเขามากเกินไปแล้ว!

ทันใดนั้น จักรพรรดินีก็กล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด “พอแล้ว! เราได้ทำการตัดสินใจของเราแล้ว ท่านหลิน ออกมาข้างหน้าและรับตำแหน่งของท่านเสีย!” เราทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นออกมากันหมดแล้ว เจ้าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งหนึ่งระดับเป็นขุนนางระดับห้าและจะยังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการที่สถาบันจักรพรรดิรับใช้ประเทศต่อไป”

หลินเป่ยฟานขอบคุณเหล่าขุนนางอย่างซาบซึ้ง ส่วนทางด้านพวกเขาก็ทำหน้าบูดบึ้งออกมาด้วยความหงุดหงิด

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด