ตอนที่แล้วบทที่ 148: ล็อคเป้าหมายและตำแหน่งของลูกแก้วมังกรซูเปอร์ลูกที่เจ็ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150 หลินเฉิน VS เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า

บทที่ 149 เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 149 เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า

เนื่องจากหลินเฉินต้องไปยังจักรวาลคู่ขนานอื่นเพื่อค้นหาลูกแก้วมังกรซูเปอร์ เขาจึงต้องจัดการเรื่องล่วงหน้าก่อน

แม้ว่าครั้งนี้เขาจะมีแต้มเวลา 2 จุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาเพิ่ม แต่เขาก็ยังต้องจัดการทุกอย่างไว้เผื่อเสียก่อน

“หลินเฉิน เจ้าจะไปจักรวาลอื่นหรือ? น่าสนใจมาก! ข้าเองก็อยากไปด้วย!”

คนแรกที่รู้ข่าวนี้คือภรรยาทั้งสองของหลินเฉิน

ไทต์ที่สีหน้าตื่นเต้นและฮานาเซียก็อยากไปเช่นกัน

แต่ครั้งนี้หลินเฉินปฏิเสธ “ข้าขอโทษด้วย ความสามารถของข้าทำให้ข้าไปยังจักรวาลคู่ขนานได้เพียงตัวข้าเท่านั้น ข้าไม่สามารถพาเจ้าไปด้วยได้”

"อา...!"

ใบหน้าของไทต์เศร้าเป็นอย่างมาก

ฮานาเซียเองก็เช่นกัน “ฝ่าบาท ได้โปรดระมัดระวังและหากมีอันตรายก็รีบหนีออกมาทันทีนะเพคะ”

"อืม"

หลินเฉินพยักหน้าและหลังจากบอกบางอย่างกับพวกนางแล้ว เขาก็เรียกบาร์ดัคและคนอื่นๆ เพื่อให้คำแนะนำแก่พวกเขา

เมื่อพวกเขารู้ว่าหลินเฉินกำลังจะเดินทางไปอีกครั้ง พวกเขาก็รู้สึกสับสนยิ่ง

“ฝ่าบาท ท่านรออีกหน่อยไม่ได้หรือ? เมื่อเร็วๆ นี้เผ่าปีศาจน้ำแข็งทั้งสองเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ตอนนี้เรามีซูเปอร์ไซย่าเพียงสองคนเท่านั้น ข้าเกรงว่าความแข็งแกร่งของเราจะไม่เพียงพอ” บาร์ดัคกังวลยิ่ง

"ถูกต้อง" ราชาเบจิต้ากล่าวต่ออีกว่า “ฝ่าบาท ด้วยความแข็งแกร่งของบาร์ดัคและราชินีฮานาเซีย พวกเขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้เร็วนัก หากเผ่าปีศาจน้ำแข็งทั้งสองเข้ามาพร้อมกัน พลังการต่อสู้ของเราอาจขาดหายไป”

“ไม่เป็นไร ข้ามีวิธีอยู่” หลินเฉินยิ้มออกมาอย่างลึกลับ

จากนั้นเขาก็หยิบวัตถุห้าชิ้นที่เปล่งแสงสีแดงอบอุ่นออกมา มันดูเหมือนลูกกวาดเป็นอย่างยิ่ง

ของทั้งห้านี้เป็นหัวใจอันชอบธรรมห้าดวงที่หลินเฉินได้รับมาเมื่อเขาทำภารกิจของทางเลือกได้เสร็จสิ้น

“พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าหรือเปล่า?”

เทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า?

บาร์ดัค ราชาเบจิต้าและคนอื่นๆ รู้สึกสับสนยิ่ง เพราะพวกเขาไม่รู้จักมันเลย

พวกเขารู้แค่เรื่องซูเปอร์ไซย่า แล้วไอ้เจ้าเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่ามันคือสิ่งใดกัน? กระทั่งราชาเบจิต้า ซึ่งเป็นอดีตราชาชาวไซย่าก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

เมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของพวกเขา หลินเฉินก็ยิ้มออกมาและเล่าตำนานของเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าให้พวกเขาฟัง

หลังจากฟังแล้ว บาร์ดัคและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่รู้ว่านอกเหนือจากการกลายร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าและลิงยักษ์แล้ว ชาวไซย่ายังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการแปลงร่างแบบอื่นได้ด้วย

“แต่ฝ่าบาท …” บาร์ดัคขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “ท่านบอกว่าการจะเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าต้องมีจิตใจที่ชอบธรรม… แต่ขออภัยที่ข้าต้องพูดตรงไปตรงมา ข้าเกรงว่าทั่วทั้งดาวเคราะห์เบจิต้าไม่มีคนหกคนที่มีจิตใจที่ชอบธรรมหรอกขอรับ”

ราชาเบจิต้าและคนอื่นๆ ต่างพยักหน้า

แม้ว่าตอนนี้ชาวไซย่าจะละทิ้งวิถีชั่วร้ายของพวกเขาแ ต่การไม่ทำความชั่วร้าย ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านี้มีจิตใจที่ชอบธรรม

ใช่ว่าผ่านไปหลายปี จะทำให้สามารถกลับใบไม้ให้ผลัดกลายเป็นใบใหม่ได้

ดูที่เบจิต้าสิ เพื่อเป้าหมายของเขา เขายังทำถึงขั้นลักพาตัวโกฮังที่เป็นลูกชายของโกคูเลย

คนที่มีจิตใจชอบธรรมย่อมไม่มีวันทำอะไรแบบนี้แน่

ปัญหานี้จึงค่อนข้างลำบากพอสมควร

"ไม่ต้องห่วง!"

หลินเฉินคิดเรื่องปัญหานี้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเอาหัวใจแห่งความชอบธรรมทั้งห้าออกมา

“ข้ามีเจ้านี้อยู่ห้าชิ้น ตราบใดที่เจ้ากินมันลงไป แม้แต่คนชั่วร้ายก็สามารถสร้างพลังแห่งจิตใจที่จำเป็นในการกลายเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้” หลินเฉินอธิบายถึงความสามารถของหัวใจแห่งความชอบธรรม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ บาร์ดัคและคนอื่นๆ ก็มีความสุขมาก พวกเขารับมันไปกินทันที

แต่หลินเฉินรีบหยุดพวกเขาทันทีและกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน ฟังข้าก่อน หลังจากกินหัวใจแห่งความชอบธรรมแล้ว เจ้าจะไม่สามารถเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่าได้ด้วยตนเองอีก!”

“ฝ่าบาท ข้าฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ในชีวิตนี้คงไม่มีวันแปรเปลี่ยนจิตใจของตนให้กลายเป็นผู้ชอบธรรมได้อีก” ราชาเบจิต้าหัวเราะและกินมันลงไปทันที

บาร์ดัคและคนอื่นๆ ก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนที่มีจิตใจดีได้แล้ว ดังนั้นจึงกินมันลงไปทีละคน

ฮานาเซียก็อยากกินเหมือนกัน แต่ก็ถูกหลินเฉินหยุดไว้

นางแตกต่างจากบาร์ดัคและคนอื่นๆ งานของฮันเซียก่อนที่นางจะได้พบกับหลินเฉินเป็นเพียงการดูแลทารกชาวไซย่า นางจึงไม่ได้ออกไปห้ำหั่นกับผู้ใดสักเท่าไร ในอนาคตนางอาจกลายเป็นผู้ที่มีจิตใจดีถึงแก่นลึกได้

จากนั้นหลินเฉินก็ให้อีกสองอันกับลูกน้องของราชาเบจิต้า ตอนนี้มีชาวไซย่าห้าคนที่มีจิตใจอันชอบธรรม

สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการใส่พลังแห่งหัวใจของทั้งห้าคนนี้เข้าไปในชาวไซย่าคนที่หกผู้มีหัวใจอันชอบธรรม

จากนั้นหลินเฉินก็พยายามคิดหาชาวไซย่าบนดาวเคราะห์เบจิต้าที่มีจิตใจที่ชอบธรรม

ครู่ต่อมา ชาวไซย่าผู้นั้นก็ถูกพามาที่นี่

เมื่อเห็นเขา ราชาเบจิต้าก็รู้สึกอายมาก “ฝ่าบาท ชาวไซย่าที่ท่านกล่าวถึงคือเขาหรือ?”

"ถูกต้องแล้ว"

หลินเฉินพยักหน้าและมองไปที่ทาร์เบิลที่กำลังสับสน

“เขาแตกต่างจากเบจิต้า ทาร์เบิลเป็นผู้ที่ใจดีและเขาก็มีจิตใจอันชอบธรรมอย่างแน่นอน”

ราชาเบจิต้ากลืนน้ำลาย

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าลูกชายตัวน้อยของเขาที่เขาดูถูกมาตลอดจะเป็นผู้ที่เหมาะแก่การเป็นร่างต้นของเทพเจ้าชาวไซย่ามากที่สุด

หลินเฉินมองไปที่ทาร์เบิลและไม่ให้พวกเขาเริ่มหลอมรวมร่างกันทันที

เพราะความแข็งแกร่งในปัจจุบันของทาร์เบิลยังอ่อนแอเกินไป

ในแง่ของอายุ ทาร์เบิลอายุน้อยกว่าเบจิต้าเพียงไม่กี่ปี แต่ระดับพลังของพวกเขากลับแตกต่างกันอย่างมาก

จนถึงตอนนี้ ระดับพลังของเขายังน้อยกว่า 10,000 อยู่เลย ด้วยระดับพลังที่ต่ำเช่นนี้ แม้ว่าจะกลายเป็นเทพพระเจ้าซูเปอร์ไซย่า แต่พลังที่เพิ่มขึ้นมาก็คงจะน้อยนิดมาก

ดังนั้นหลินเฉินจึงใช้วิชาปลดพลังแฝงกับทาร์เบิลก่อน จากนั้นจึงให้ผลของต้นไม้แห่งชีวิตแก่เขา

ด้วยสองอย่างนี้ ระดับพลังของเขามันก็เพียงแค่ 50,000

ราชาเบจิต้าที่เป็นกังวลก็รีบพูดว่า “ข้าขอโทษด้วยฝ่าบาท ฝีมือของเด็กคนนี้แย่เกินไป มันทำให้ความเมตตาของท่านเสียเปล่าหมดเลย”

หลินเฉินจึงตอบไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ในอนาคตเรายังสามารถฝึกฝนเขาได้อีก”

ตามคำแนะนำของหลินเฉิน ชาวไซย่าห้าคนรวมถึงบาร์ดัคก็เข้าแถวกันมา เริ่มถ่ายโอนพลังของพวกเขาไปยังทาร์เบิล

แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะถ่ายพลังแห่งใจของพวกเขาไปได้ยังไง

ตอนแรกไม่มีใครเข้าใจ หลินเฉินเองก็ไม่ต่างกัน แต่เขาพอคิดวิธีขึ้นมาได้เลย

ให้พวกเขาทุกคนจับมือกันและผสานจิตใจกันเป็นหนึ่งเดียว

พวกเขาทำเช่นนี้ไว้ประมาณสิบนาที ก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่างขึ้นพร้อมกับฟ้าร้อง ประกายแสงสีทองจากฟากฟ้าพลันผ่าลงมา

ทันใดนั้น ตัวของทาร์เบิลและอีกห้าคนก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทอง

"สำเร็จ!"

เมื่อเห็นฉากที่คุ้นเคยเช่นนี้ หลินเฉินก็ตะโกนออกมาแล้วมองไปทางทาร์เบิลด้วยความคาดหวัง

ในขณะที่แสงสีทองได้ส่องสว่างเป็นประกาย ร่างของทาร์เบิลก็ลอยขึ้นมา ออร่าลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ได้ห่อหุ้มร่างของเขาไว้ จากนั้นแสงสีฟ้าแผ่วเบาก็คล้ายถูกจุดประกายขึ้นรอบร่างกายเขา

ท่ามกลางแสงเหล่านี้ รูปลักษณ์ของทาร์เบิลก็เปลี่ยนไป

ผมสีดำของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงและออร่าบนร่างกายของเขาก็หายไป เฉกเช่นมนุษย์ที่ไร้ซึ่งพลัง

ทว่าเมื่อเห็นร่างกายของเขา ทุกคนที่นี่แทบจะอยากก้มลงโค้งคำนับให้เขา

ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวกระจ้อยร่อยที่ได้พานพบกับพระเจ้า

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด