ตอนที่แล้ว1120 - ข้าแค่ต้องการให้เจ้ามีชีวิตที่ดี 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1122 - ตัวแทนของจักรพรรดิอู่ซือ 

1121 - บุกหุบเขาเทพ 


1121 - บุกหุบเขาเทพ

หยางอี้ค่อยๆ ยื่นมือที่อ่อนละมุนลูบคลำใบหน้าของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์อย่างแผ่วเบาและกล่าวด้วยความรักว่า

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร เจ้ายังคงเป็นชายผู้สง่างามคนนั้นเสมอ ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นตัวอะไร ข้ายังคงรักเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง”

“เวลาใกล้จะหมดแล้ว ข้าจะหายไปตอนรุ่งสาง”  เสียงแหบห้าวดังขึ้นอีกครั้ง

“ข้าจะไปกับเจ้า” หยางอี้กล่าว

“ไม่” ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นที่ห้าส่ายหน้า

“ทำไม เจ้ามีชีวิตอยู่ได้เพียงคืนเดียว ทำไมเจ้าไม่ให้ข้าตามเจ้าไปล่ะ” หยางอี้หลั่งน้ำตาและมองเขาอย่างว่างเปล่า

เย่ฟ่านก็สับสนและมองไปข้างหน้า

“เพราะข้าไม่ต้องการให้เจ้าเห็นตอนที่ข้าจากไป!”  เสียงแหบแห้งดังออกมาจากปากของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้า

หยางอี้น้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด อย่างไรก็ตามมือที่หยาบกระด้างข้างหนึ่งก็เช็ดน้ำตาของนางอย่างแผ่วเบา

หยางอี้จับมือของเขาแล้ววางลงบนใบหน้าของนางโดยไม่สามารถพูดอะไรได้

“ข้าเป็นหนี้เจ้ามากเกินไป...” ผ่านไปนาน สุดท้ายปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้าก็กล่าวด้วยความเศร้าโศก

พวกเขาอยู่บนถนนอีกครั้ง และในบรรดาเทพแห่งความตายที่สวมชุดดำก็มีหญิงงามสวมชุดสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่ในกลุ่มของพวกเขา

หมอกสีดำม้วนตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า น่าขนลุก น่าสะพรึงกลัว บดบังดวงดาวและดวงจันทร์ เปรียบเสมือนภูตผีจากนรก เมื่อรุ่งเช้ามาถึงเงาดำอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้จะหายสาบสูญไปตลอดกาล

พวกเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

นี่เป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัว มังกรตัวใหญ่ยาวหลายร้อยหลายพันวากลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์คว้าจับพวกมันเข้ามาในมืออย่างง่ายดาย

จากนั้นในฐานะสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งเขาก็ท่องไปทั่วภาคเหนือด้วยความเร็วอันน่าทึ่งและไล่ล่าจับกุมเส้นเลือดมังกรที่อยู่ใต้พื้นดินหลายพันตัวราวกับไล่จับมดแมลงตัวเล็กๆ

เย่ฟ่านตกตะลึง ขอบเขตของเขาในปัจจุบันอยู่ห่างจากปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้าแสดงออกมานั้นเขาสำนึกตัวดีว่าไม่มีทางที่เขาจะทำได้

“พลังนี้เกิดจากการที่ข้าสามารถใช้เส้นทางแห่งปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์เพื่อบรรลุความเป็นอมตะ เต๋าแห่งต้นกำเนิดของพวกเรานั้นมีความแข็งแกร่งไม่แพ้เต๋าใดๆ ขอเพียงเจ้ามีความอดทนเพียงพอเจ้าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะได้อย่างแน่นอน”

ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้ารู้ดีว่าเย่ฟ่านมีความปรารถนาที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะมากเพียงใด

เมื่อเสร็จสิ้นการไล่ล่าเส้นเลือดมังกรแล้วเขาก็จี้นิ้วไปที่หน้าผากของเย่ฟ่านเพื่อถ่ายทอดความรู้ที่เขาสั่งสมมาตลอดหลายหมื่นปีให้กับเย่ฟ่าน

“นี่คือทักษะที่ข้าตระหนักได้ในทุกครั้งที่ฟื้นคืนสติกลับมาตลอดหลายพันปีนี้ มันเป็นทักษะที่จะช่วยให้เจ้ากลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะและปกป้องไม่ให้เจ้าประสบชะตากรรมเดียวกันกับพวกเรา น่าเสียดายที่ข้าตระหนักถึงมันได้หลังจากที่ตัวเองกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว”

หยางอี้เดินเคียงข้างกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์และดูเขาเก็บเกี่ยวเส้นเลือดมังกรทั่วภาคเหนืออย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร

พวกเขากำลังจะโจมตีหุบเขาเทพซึ่งเป็นที่รวมตัวของสิ่งมีชีวิตอมตะถึงสามตน ต่อให้ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์มั่นใจมากกว่านี้ก็ยากที่จะสังหารสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้นได้ทั้งหมด

ดังนั้นเขาจึงเริ่มเก็บเกี่ยวเส้นเลือดมังกรหลายพันเส้นเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังการโจมตีในการบดขยี้หุบเขาเทพในครั้งเดียว

หุบเขาเทพตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหลายพันลูก เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนที่ตายไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยทะเลทรายสีแดงแห้งผาก

แต่ในปัจจุบันด้วยการตื่นขึ้นของราชาบรรพชนโบราณ พลังชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาจากต้นกำเนิดและเปลี่ยนให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนอันงดงามที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์สีเขียว

ราชาบรรพชนเว่ยคือสิ่งมีชีวิตร่างกายใหญ่โตมโหฬารของหุบเขาเทพ เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ตรงกลางโดยไม่พูดอะไร ดวงตาที่เปล่งประกายสดใสของเขากวาดมองไปทั่วภาคเหนือคล้ายกับกำลังตรวจตราสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

ที่ด้านข้างทั้งสองฟากของเขานั้นมีบัลลังก์ขนาดเล็กอีกสองตัวตั้งอยู่ บนบัลลังก์มีสิ่งมีชีวิตอมตะแห่งหุบเขาเทพอีกสองคนคอยให้คำปรึกษาราชาบรรพชนเว่ย พวกเขาทั้งสามคนคือสิ่งมีชีวิตอมตะที่เป็นบรรพชนของหุบเขาเทพนั่นเอง

“บรรพชนผู้เฒ่าเราได้พบว่าเทพสงครามคนเถื่อนแห่งหนานหลิงคือบรรพชนรุ่นที่สิบเจ็ดของพวกเขา คนผู้นี้ทรงพลังอย่างยิ่งแต่น่าเสียดายที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขาประสบความล้มเหลวในการทำให้เต๋าอมตะของเขาสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่หากเขาปรากฏตัวออกมาจากต้นกำเนิดสวรรค์เมื่อใดร่างกายของเขาจะกลับคืนสู่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ทันที”

ราชาโบราณที่ดุร้ายซึ่งมีสี่หัวและแปดแขนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“การฆ่าคนเถื่อนหนานหลิงนั้นจะไม่สิ้นเปลืองพลังงานมากนัก เราสามารถบรรลุผลได้อย่างง่ายดายโดยการทำลายล้างพวกพวกมันในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว”

ราชาโบราณอีกตัวหนึ่งกล่าว เขามีสถานะที่สูงมากและที่นั่งของเขาอยู่ต่ำกว่าราชาบรรพชนเว่ยเล็กน้อยเท่านั้น

“ภูเขาสีม่วงน่าจะถูกกระตุ้นขึ้นมาจากมหาอำนาจเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น ไม่มีพลังของสิ่งมีชีวิตอมตะรั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ตายสนิทแล้วจริงๆ” สิ่งมีชีวิตโบราณอีกตัวหนึ่งกล่าว

“เช่นนั้นยังรออะไรอยู่ ฆ่าคนเถื่อนให้หมด ฉีกร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณผู้นั้นออกเป็นชิ้นๆ” สิ่งมีชีวิตโบราณที่นั่งอยู่ในห้องโถงเริ่มตะโกนเสียงดัง

“ใช่ นำศีรษะของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณออกมาสังเวยกับสิ่งที่มันทำ” ไกลออกไปมีสิ่งมีชีวิตโบราณบางตัวที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งอยู่ในห้องโถง ทุกคนส่งเสียงร่ำร้องตะโกนและเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

บนแท่นบูชาราชาบรรพชนเว่ยเหลือบมองผู้ที่ออกความเห็นนั้นโดยไม่พูดอะไร เมื่อเผชิญกับท่าทีเช่นนี้ทุกคนก็เงียบสนิทและทำได้เพียงรอคอยเท่านั้น

“คนที่ต้องฆ่าต้องฆ่าอย่างแน่นอน แต่ข้าต้องรอและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยก่อนที่จะดำเนินการ” ราชาบรรพชนเว่ยกล่าว

“ส่งคนออกไปตรวจสอบภูเขาสีม่วงด้วยตัวเอง หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆก็ให้นำกำลังเข้ากวาดล้างกลุ่มคนเถื่อนและอสูรแห่งหนานหลิงให้ราบคาบ!”

ราชาบรรพชนเว่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม ปีกหลายสิบคู่กางออกด้านหลังเขา และปราณอสูรก็ปะทุออกมาราวกับกระแสน้ำ

ในคืนเดือนหงายอันเงียบสงบและหนาวเย็น กลุ่มเทพแห่งความตายเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ ราวกับเงาของก้อนเมฆ ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์และหยางอี้เดินนำหน้าสุด

ภูเขาขนาดใหญ่มากมายหลายพันลูกทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ในเทือกเขากลาง แสงแห่งจิตวิญญาณส่องถึงท้องฟ้าซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนั้นคือวังศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเขาเทพ

“นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ …” เย่ฟ่านถอนหายใจ

สถานที่แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยปราณมังกรที่ทรงพลัง เส้นเลือดมังกรบนพื้นดินทอดยาวอย่างไม่สิ้นสุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภายในเส้นเลือดมังกรเหล่านั้นจะมีต้นกำเนิดสวรรค์ถูกฝังไว้มากมายเพียงใด

“เมื่อหมื่นปีก่อน ข้าเคยมาที่นี่และพบราชาโบราณคนหนึ่งนอนหลับไหลอยู่ใต้พื้นดิน ในตอนนั้นข้ายังไม่เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะดังนั้นจึงไม่กล้ารบกวนการหลับไหลของเขา”

ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์กล่าว จากนั้นมือของเขาก็โบกสะบัดไปข้างหน้าก่อนจะลากเส้นเลือดมังกรมากมายนับว่าถ้วนออกมาจากพื้นดิน

ทักษะของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์นั้นมหัศจรรย์มาก มังกรตัวน้อยนับพันตัวบินออกมาจากฝ่ามือของเขาและหมุนวนอย่างไม่สิ้นสุด

เย่ฟ่านรู้ว่าหุบเขาเทพจบลงแล้ว ต่อให้วันนี้พวกเขาจะสังหารสิ่งมีชีวิตอมตะของที่นี่ได้หมดหรือไม่ แต่ด้วยการดึงเส้นเลือดมังกรทั้งหมดออกมาแบบนี้หุบเขาเทพย่อมไม่อาจดำรงชีวิตต่อไปได้

เมื่อปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์มาที่นี่ด้วยตัวเอง ท้ายที่สุดเขาย่อมมีอำนาจเพียงพอที่จะเผาผลาญต้นกำเนิดสวรรค์ทั้งหมดที่ฝังอยู่ใต้ดินเพื่อเปลี่ยนให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นทะเลเพลิงขนาดใหญ่ที่จะเผาไหม้ไปนานนับร้อยปี!

“วันนี้หุบเขาเทพจะต้องถูกลบออกไปจากโลก เชื้อสายของปรมาจารย์สวรรค์ของเราจะปราบปรามภาคเหนือและคืนความสงบสุขให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์!” เสียงของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ดังก้องสวรรค์พิภพ

หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดจะต้องสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เมื่อหุบเขาเทพถูกกวาดล้าง สถานที่เช่นรังหมื่นมังกร สันเขาเสิ่นคานและภูเขาหงส์ร่วงหล่นเกรงว่าคงยากที่จะปิดกั้นความกลัวที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลกให้

พายุใหญ่ที่กวาดล้างโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์คือใคร? เขาคือผู้ที่ครอบครองศาสตร์อันนั้นสะพรึงกลัวมากที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันเขากลายเป็นอมนุษย์ผู้แข็งแกร่งไปแล้ว ด้วยฐานการบ่มเพาะในระดับผู้อมตะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์รุ่นห้าในปัจจุบันนี้คือยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างแน่นอน

………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด