ตอนที่ 22 มังกรดินพลิกตัว
“ฝ่าบาท ทำไมท่านถึงคิดจะถอย?”อันลู่ซานถาม
“มีคำกล่าวในตำราพิชัยสงครามว่า : ให้พวกมันพยายามครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ถอย พอครบสาม พวกมันจะหมดแรง!”
หลินเป่ยฟานยิ้มมั่นใจ”ครั้งนี้ กองกำลังของศัตรูแข็งแกร่งกว่าเราถึงสองเท่า และขวัญกำลังใจก็สูง มันไม่ฉลาดที่จะสู้ซึ่งๆหน้า!มันดีกว่าที่จะถอยชั่วคราว พอขวัญกำลังใจสลาย เราจะสู้ใหม่.
เหล่าทหารตกตะลึง
เจ้ากำลังพูดกับเราเรื่องตำราพิชัยสงคราม?
แต่ตำราพิชัยสงครามไม่ได้มีเขียนไว้แบบนี้เลยโว้ย!
ครั้งนี้ สองชาติกำลังทำสงครามกัน ซึ่งแสดงถึงหน้าตาของชาติ ผู้แข็งแกร่งกว่าจะชนะ ไม่มีทางถอย!
เมื่อถอย ความมั่นใจจะหาย เจ้าจะแพ้!
ได้โปรดฝ่าบาท อย่ามาปัญญาอ่อนในเวลานี้!
เรื่องการศึกไม่ใช่เรื่องเล่นๆ!
“่ฝ่าบาท ท่านจะถอยไม่ได้!’
“เมื่อเราถอย เราจะจบสิ้น!”
“ตอนนี้เราต้องทุ่มสุดตัวและสู้ซึ่งๆหน้า!”
..
“แม่ทัพที่รักของข้า ข้าเข้าใจความคิดของเจ้า แต่มีอีกคำพูดในตำราพิชัยสงคราม เวลาถูก สถานที่ถูกและคนถูก!”
หลินเป่ยฟานยิ้มอย่างมั่นใจอีกครั้ง“ไม่ต้องพูดถึงสภาพอากาศ พวกมันมีมากกว่า เราจึงต้องสู้ในตำแหน่งที่เราได้เปรียบถึงมีหวังจะชนะ!นั่นทำให้ข้าอยากถอย ตราบเท่าที่พวกมันเข้าดินแดนเรา เราก็จะได้เปรียบเรื่องชัยภูมิและเอาชนะกองทัพอาณาจักรโม่ได้!”
เหล่าทหารเหนื่อยกันมากแล้ว ได้โปรดเถอะฝ่าบาท อย่าเรียนรู้กลยุทธ์สงครามแล้วเอามาใช้ส่งเดช!
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาอวดภูมิ!
“ฝ่าบาท เราจะถอยไม่ได้!”
“เวลานี้ เราควรสู้!”
“ฝ่าบาท โปรดคิดทบทวนด้วย!”
…
หลินเป่ยฟานโกรธ“หี่ม!เจ้าหรือข้ากันแน่ที่บัญชาการ?ข้าขอสั่งให้ถอย ถ้าไม่ทำตาม เจ้าจะถูกตัดสินด้วยกฎหมายทหาร จะไม่มีความเมตตา!”
ทุกคนไม่มีทางเลือกนอกจากฟังคำสั่ง
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ถอย ถอยเดี๋ยวนี้!”
เหล่าทหารเซี่ยที่ได้รับคำสั่งรู้สึกสับสน แต่ก็ยังหมุนตัวและวิ่งกลับ
ทั้งหมดนี้ดูน่าอายมาก
กองทัพอาณาจักรโม่ดีใจมากตอนเห็นเช่นนี้
“ดูสิขอรับ ฝ่าบาท กองทัพอาณาจักรเซี่ยหนีไปแล้ว พวกมันกลัวเรา!”
จักรพรรดิโม่หัวเราะเสียงเย็น“สิ่งที่พวกเจ้าพูดเป็นความจริง!เรามีกองทัพสี่แสนนาย ทุกคนเหมือนพยัคฆ์ และแม่ทัพก็เหมือนมังกร เราไร้เทียมทาน มีเหตุผลอะไรที่อาณาจักรเซี่ยจะมาต่อกรเราได้?”
พอเขาพูด เขาก็ยกดาบยาวในมือและตะโกนอย่างตื่นเต้น“ตามพวกมันไป!หนึ่งหัวเท่ากับหนึ่งตำลึง!ฆ่าได้สามหัว รับไปสิบตำลึง!ฆ่าสิบ เอาไป50ตำลึง!”
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ไล่ตามเต็มกำลัง!”
“ฆ่าหนึ่งได้หนึ่งตำลึง!”
“ฆ่าสามได้สิบตำลึง!”
“ฆ่าสิบได้ห้าสิบตำลึง และได้ยศเป็นนายกอง!”
…
ทหารและม้าของอาณาจักรโม่กลายเป็นตื่นเต้น กู่ร้องและวิ่งไปข้างหน้า
ครั้งนี้ หลินเป่ยฟานที่กำลังวิ่งยิ้มเยาะ“ดี ข้าจะจัดให้!”
ความคิดของเขาเชื่อมต่อกับโต๊ะทรายจักรวรรดิในหัว
บูม!
พื้นดินสั่นสะเทือน ขยับขึ้นและลง
สองกองทัพตกตะลึง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“แผ่นดินไหว?”
“มังกรพลิกตัว?”
…
พูดไม่ทันขาดคำ พื้นดินก็ระเบิดอย่างแรงและรอยปริแตกขนาดมหึมาก็ลุกลาม
โดยบังเอิญ รอยแยกนี้ดันปรากฏที่แนวชายแดนที่สองกองทัพกำลังจะปะทะกัน ต่อหน้ากองทัพอาณาจักรโม่ที่ไล่ตามเต็มกำลัง
ทหารอาณาจักรโม่ที่ไม่ทันระวังตกลงไปในรอยแยก
“ช่วยข้าด้วย!”
“ข้ากำลังจะตก!”
“ช่วยด้วย!”
เสียงร้องโหยหวนดังระงม
แต่ตอนนี้ คนอื่นยุ่งกับการเอาชีวิตตัวเองให้รอด พวกเขาไม่มีแรงจะไปช่วยคนอื่น
แค่รอยแยกนี้ก็กลืนกินคนไปนับหมื่นในพริบตาเดียว!
จักรพรรดิโม่ที่อยู่ไม่ไกลตาเหลือก ดวงตาแดงก่ำ“ไม่!!!”
แต่ ตอนนั้นเอง พื้นดินยังสั่นไม่หยุด
เหมือนโดนค้อนทุบ เหมือนมีคนเอามือมาเขย่า มันเขย่าทหารทั้งหมดของอาณาจักรโม่ลงไปในรอยแยก
“ช่วยด้วย ข้าไม่อยากตาย!”
เสียงร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังดังก้อง
จักรพรรดิโม่ตาแทบถลน“เร็วเข้า!รีบช่วยพวกเขา!เร็ว…”
“ฝ่าบาท มีเยอะเกินไป เราช่วยพวกเขาไม่ได้!”
พอเขากำลังจะพูด พื้นใต้เท้าของจักรพรรดิโม่ก็สั่นอย่างแรงและรอยแยกก็เริ่มลุกลาม คนและม้าตกลงไปอย่างรวดเร็ว
“ระวัง ฝ่าบาท!”
ทันใดนั้น นักรบก่อกำเนิดสองคนก็รีบกระโจนลงไปคว้าตัวจักรพรรดิโม่ไว้
แต่ม้าไม่อาจช่วยได้ มันตกลงไปอย่างน่าสงสาร
แผ่นดินไหวมาและไปอย่างรวดเร็ว มันกินเวลาไม่ถึงหนึ่งช่วยชา
ทว่า มันกลับพรากชีวิตไปมาก
รอยแยกขนาดใหญ่แยกอาณาจักรโม่และอาณาจักรเซี่ยออกจากกัน กองทัพทั้งหมดสี่แสนนายของอาณาจักรโม่โดนฝังที่นี่ มีเพียงจักรพรรดิโม่และแม่ทัพที่แข็งแกร่งถึงรอด
จักรพรรดิโม่คุกเข่าข้างรอยแยก มองกองทัพอาณาจักรโม่ใต้ร่องลึก ตัวของเขาสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตา“กองทัพของข้าจบสิ้นแล้ว!อาณาจักรโม่ของข้าจบสิ้นแล้ว!”