บทที่ 145: ซูเปอร์ดราก้อนบอลเจ็ดที่หายไปและการปรากฏตัวของวาโดส...
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 145: ซูเปอร์ดราก้อนบอลเจ็ดที่หายไปและการปรากฏตัวของวาโดส...
เมื่อเห็นท่าท่างที่แน่วแน่ของเบจิต้า บาร์ด็อคก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ฉุดรั้งฝืนพาเขาไปด้วย
ส่วนทางด้านราดิช เขาไม่ได้มีความเห็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นการอยู่บนโลกหรือกลับไปที่ดาวเคราะห์เบจิต้า เขาจะอยู่ไหนก็ได้
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บาร์ดัคจึงมอบหมายหน้าที่ให้เขาเฝ้าดูเบจิต้า
หากเบจิต้ามีแรงจูงใจแอบแฝง ราดิชต้องแจ้งให้เขาทราบทันที
หลังจากยืนยันจัดเตรียมเรื่องเบจิต้าและราดิชแล้ว บาร์ดัคก็พูดคุยกับโกคูครั้งสุดท้าย ก่อนจากไป
ส่วนหนึ่งคือการบอกลา อีกส่วนคือการสั่งสอนเรื่องบางอย่าง
“คาคารอท ข้าขอแนะนำให้เจ้าปล่อยให้ผู้อื่นช่วยชี้ทางให้โกฮัง”
"หืม? ทำไมท่านพ่อถึงกล่าวเช่นนั้นล่ะ?"
“เจ้าใจดีเกินไป ถ้าเป็นชาวโลก บางทีนี่อาจไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับโกฮังความเมตตาของเจ้าจะขัดต่อการฝึกของเขา แม้ว่าโกฮังจะอายุเพียงสี่ขวบ แต่ศักยภาพของเขามีมากมายมหาศาล! ข้าจำได้ว่าราชาลิงค์พูดถึงว่าลูกผสมของชาวไซย่าและชาวโลกมีแนวโน้มที่จะสร้างสุดยอดนักรบ บางทีโกฮังอาจเป็นหนึ่งในนั้น!”
บาร์ดัคอธิบาย “นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าควรจะฝึกฝนโกฮังอย่างเข้มงวด แนะนำเขาอย่างเหมาะสมแทนที่จะปกป้องเขาอยู่ใต้ปีกของเจ้าและปล่อยให้เขาร้องไห้ทั้งวันเช่นนี้”
“แต่การทำเช่นนั้นจีจี้จะไม่โกรธเอาเหรอ?” โกคูเกาศีรษะของเขา
“ข้าจะคุยกับจีจี้ให้เอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ!” บาร์ดัคกล่าว
แม้ว่าจีจี้จะแข็งกร้าวกับโกคูมาตลอด แต่เธอก็ไม่สามารถขัดบาร์ดัคได้
เพราะหลังจากที่บาร์ดัคสัญญาว่าจะจัดการอนาคตที่ดีให้กับโกฮัง จีจี้ก็ตกลงที่จะปล่อยให้เขาออกจากบ้านไปฝึกเป็นเวลาครึ่งปี
ด้วยเหตุนี้ โกคูจึงได้ส่งโกฮังไปให้พิคโกโร่ฝึก
ในบรรดาคนที่เขารู้จัก คงมีเพียงพิคโกโร่ที่ไม่ใจดีกับโกฮังอย่างแน่นอน
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย บาร์ดัคก็กลับไปที่ดาวเคราะห์เบจิต้าเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้...
…
ณ เวลาเดียวกัน
บนจักรวาลที่ 6
หลินเฉินกำลังรู้สึกสับสน
นับตั้งแต่ได้รับลูกแก้วมังกรลูกที่หก หลินเฉินและทั้งสองก็ได้ค้นหาลูกแก้วมาครึ่งเดือนกันแล้ว
ทว่าน่าแปลกที่พวกเขาไม่พบเบาะแสของลูกแก้วมังกรลูกสุดท้ายเลย
เป็นผลให้หลินเฉินเริ่มสงสัยว่าเรดาร์ลูกแก้วมังกรของเขาพังหรือเปล่า?
แต่หลังจากยืนยันหลายครั้งโดยใช้การเคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อตรวจสอบทุกมุมของจักรวาลที่ 6 หลินเฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับว่าลูกแก้วมังกรที่เจ็ดดูเหมือนจะไม่อยู่ในจักรวาลที่ 6
“ไม่ได้อยู่ในจักรวาลที่ 6 เหรอ? มันอยู่ในจักรวาลที่ 7 หรือเปล่านะ?” ไทต์กล่าวขึ้นมาด้วยความสงสัย
“แต่เราได้ค้นหาจักรวาลที่ 7 ไปทั้งหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ที่นั่นมีแค่สามลูกเอง!” ฮานาเซียกล่าว
หลินเฉินยามนี้มีสีหน้าสิ้นหวังมาก เขาเอามือไขว้หน้าหน้าอกของเขาและพยายามครุ่นคิดอย่างหนัก
เขาจำได้ว่าในงานต้นฉบับ ลูกแก้วมังกรซูเปอร์ลูกสุดท้ายดูเหมือนจะอยู่ในพื้นที่ที่อันเป็นกลางระหว่างจักรวาลที่ 6 และจักรวาลที่ 7
ลูกแก้วมังกรจระอยู่ที่นั่นหรือเปล่านะ?
แต่พื้นที่ที่เป็นกลางนั้นมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ? เราจะไปที่นั่นยังไงกัน?
นี่คือสิ่งที่ทำให้หลินเฉินรู้สึกหงุดหงิดมาก
ในยามนั้นเอง สัญญาณเตือนภัยบนยานอวกาศดังขึ้นอีกครั้งและทั้งสามคนก็รู้ได้ทันทีว่าฮิตโตะกำลังจะมา
“เจ้าคนผู้นี้ทำไมเขาถึงดื้อรั้นมากนักนะ? มันนานขนาดนี้ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?” ฮานาเซียกล่าวพร้อมกับกุมหัวของนาง
หลินเฉินลุกขึ้นยืน
ณ จุดนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว หากเขาอยู่ในจักรวาลที่ 6 เขาจะยังคงถูกฮิตโตะตามล่าตลอด การกลับไปยังจักรวาลที่ 7 และไปหาซูโนเพื่อยืนยันตำแหน่งของลูกแก้วมังกรลูกสุดท้ายคงจะดีกว่ามานั่งงมเช่นนี้
เมื่อคิดได้ หลินเฉินจึงตัดสินใจทันที เขาบอกให้หญิงสาวทั้งสองคนเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นเขาก็พาพวกเธอออกไปนอกยานอวกาศ เก็บยานอวกาศและใช้เคลื่อนย้ายพริบตาทันทีเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังจักรวาลที่ 7
แต่น่าแปลกที่ไม่นานหลังจากที่หลินเฉินและทั้งสองหายตัวไปจากจุดนั้น เวลาก็ดูเหมือนจะหยุดลงและถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็วเป็นเวลาเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
หลินเฉินและทั้งสองที่ควรจะไปยังจักรวาลที่ 7 กลับปรากฏตัวอีกครั้งในจักรวาลที่ 6 บนยานอวกาศลำเดิม
จากนั้นเวลาก็เริ่มไหลตามปกติอีกครั้ง เสียงเตือนบนยานอวกาศพลันดังขึ้น
“เจ้าคนผู้นี้ทำไมเขาถึงดื้อรั้นมากนักนะ? มันนานขนาดนี้ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?” ฮานาเซียกล่าวพร้อมกับกุมหัวของนาง
หลินเฉินลุกขึ้นยืนและกำลังจะพูด ทันใดนั้นสายตาของเขาก็หยุดนิ่ง
“นี่มันอะไรกัน...?”
ทันใดนั้นหลินเฉินก็ตระหนักว่าการไหลเวียนของเวลารอบตัวเขาผิดปกติ!
นับตั้งแต่เขาได้รับพรสวรรค์ข้อมูลการเวลามา หลินเฉินก็มีความรู้สึกอ่อนไหวต่อพลังที่เกี่ยวข้องกับเวลามากขึ้น
มันทำให้เขารู้ตัวว่าการไหลเวียนของเวลารอบตัวเขาผิดปกติ!
ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังบงการเวลาอยู่!
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
แม้แต่วิชาข้ามเวลาของฮิตโตะก็สามารถจัดการเวลาได้ในพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น
แต่สิ่งที่หลินเฉินเห็นในตอนนี้คือพื้นที่ทั้งหมดรอบตัวเขา รวมถึงเวลาในจักรวาลภายนอกกำลังเริ่มผิดปกติ!
“หลินเฉิน เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เมื่อเห็นหลินเฉินหยุดนิ่ง ไทต์จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
หลินเฉินขมวดคิ้วและดึงไทต์และฮานาเซียเข้ามาหาเขา จากนั้นก็เคลื่อนย้ายออกไปข้างนอก
เขาเปิดโล่พลังงานปกป้องทันที พร้อมกับมองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง
“หลินเฉินเกิดอะไรขึ้นกัน? เป็นฮิตโตะหรือ?”
“มันไม่ใช่ฮิตโตะ แต่เป็นคนที่ทรงพลังมากกว่า!”
คนเดียวในจักรวาลที่ 6 ที่น่าจะสามารถควบคุมเวลาและทำให้มันไหลย้อนกลับได้เท่าที่หลินเฉินรู้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“วาโดส ได้โปรดแสดงตัวด้วย! ข้ารู้ว่าเมื่อครู่ท่านทำให้เวลาไหลย้อนกลับไปจนถึงในตอนนี้!”
“วาโดส?”
"ผู้ใดกัน?"
ทันใดนั้นก็ปรากฏแสงสีสดใสที่ส่องสว่างอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสาม
เมื่อแสงจางลง เด็กสาวผมสีเงินในชุดคลุมศักดิ์สิทธิ์สีเขียวก็โผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า
เป็นวาโดส เทวดาแห่งจักรวาลที่ 6!
“ว้าว เจ้ารู้ด้วยว่าเป็นฝีมือของข้า ช่างน่าทึ่งจริงเชียว” วาโดสถือคฑาขณะที่นางยิ้มให้หลินเฉิน
“แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือไฉนเจ้าถึงรู้จักข้าได้?”
“ข้าเคยได้ยินตำนานของเทวดามาก่อน ข้าย่อมรู้เกี่ยวกับท่านวาโดสและท่านวิสเป็นอย่างดี”
“วิสงั้นหรือ? แสดงว่าเจ้าก็มาจากจักรวาลที่ 7 สินะ” ในที่สุดสิ่งที่เป็นปริศนาที่วาโดสพยายามไขก็ถูกเฉลยแล้ว
"ถูกต้อง" หลินเฉินพยักหน้าและถามว่า “ท่านวาโดส บอกข้าได้ไหมว่าทำไมถึงพยายามห้ามไม่ให้ข้ากลับไปยังจักรวาลที่ 7? เป็นเพราะลูกแก้วมังกรซูเปอร์หรือเปล่า?”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่คิดจะแย่งลูกแก้วมังกรซูเปอร์ของจักรวาลที่ 6 จากเจ้า ข้าแค่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้ามากกว่านี้ และต้องการพบเจ้าด้วยตัวเองก่อนที่เจ้าจะจากไป” วาโดสยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง หัวใจที่ตึงเครียดของหลินเฉินก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือวาโดสจะหยุดพวกเขาและแย่งลูกแก้วมังกรซูเปอร์ของจักรวาลที่ 6 ไป ต่อหน้าเทวดา ไม่มีทางที่หลินเฉินจะสามารถต่อต้านได้เลย