ตอนที่ 593 กฎแห่งหมอกอสูร
ตอนที่ 593 กฎแห่งหมอกอสูร
คนส่วนใหญ่รู้สึกโชคดีที่พวกเขาได้ผ่านการประเมินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะไม่ว่าพวกเขาจะได้ 0 คะแนนหรือคะแนนติดลบ แต่มันก็ดีกว่าการได้พบกับสัตว์อสูรที่มีความใกล้เคียงกับอสูรเทวะอย่างปีศาจสายลมอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรตัวนี้มันก็ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องคะแนนอีกต่อไป เพราะมันคือสัตว์อสูรที่สามารถคุกคามชีวิตของผู้สมัครทุกคนในที่นี้ได้เลย
การปรากฏตัวของปีศาจสายลมทำให้กลุ่มผู้สมัครกลุ่มสุดท้ายหน้าซีดลงอย่างฉับพลัน เพราะพวกเขากลัวว่าตัวเองจะถูกส่งไปภายในกรงของอสูรร้ายตัวนั้น
“ปีศาจสายลม! ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าใครจะโชคร้ายถูกส่งไปเจอกับสัตว์อสูรตัวนั้น”
“ถึงแม้ว่าฉันจะได้ 0 คะแนน แต่อย่างน้อยฉันก็ดีใจที่ฉันไม่ได้เจอกับปีศาจสายลม”
“การเอาปีศาจสายลมมาเข้าร่วมบททดสอบมันไม่ถือว่าผิดกฎงั้นเหรอ?”
“มันจะผิดกฎได้ยังไง แม้ว่าปีศาจสายลมจะแข็งแกร่งมากแต่มันก็ยังถือว่าเป็นราชาสัตว์อสูรอยู่ดี”
ถัดจากเซี่ยเฟยไปไม่ไกลมีหญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งกำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่เธอได้ฟังบทสนทนาของทุกคน
“ฉันจะทำยังไงดี? คนที่ถูกส่งไปในกรงของอสูรตัวนั้นคงจะไม่ใช่ฉันใช่ไหม?” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา
ในปัจจุบันเซี่ยเฟยไม่ได้ให้ความสนใจกับความวุ่นวายรอบ ๆ ตัวของเขาเลย ซึ่งสายตาของเขายังคงจับจ้องมองไปยังอสูรตัวเขียวภายในกรง และสมองของเขาก็กำลังพยายามประมวลสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
จู่ ๆ มันก็ได้มีราชาสัตว์อสูรระดับสูงสุดปรากฏตัวขึ้นมาและไม่ว่าเขาจะพยายามใช้วิชามนตราอสูรอันทรงพลังเข้าไปหาสัตว์อสูรตัวนี้มากแค่ไหน แต่พลังของเขาก็จะถูกตัดขาดในทันที ราวกับว่ามันได้มีพลังอะไรบางอย่างขวางกั้นวิชามนตราอสูรเอาไว้
“มันคือสัตว์อสูรที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้ฉันสินะ” เซี่ยเฟยสรุปสถานการณ์ภายในใจอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวของสัตว์อสูรตัวนี้ หรือการที่วิชามนตราอสูรของเขาไม่สามารถใช้การได้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีทางเป็นความบังเอิญ และมันจะต้องเป็นแผนการของใครบางคนที่กำลังคิดจะท้าทายเขาอย่างแน่นอน
แว้บ!
ผู้สมัครในรอบสุดท้ายถูกส่งเข้าไปภายในกรงสัตว์อสูรทีละคน และเนื่องจากเซี่ยเฟยนำพลังของวิชามนตราอสูรกลับมาแล้ว เหล่าบรรดาสัตว์อสูรจึงไม่ได้ตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งอีกต่อไป ผู้ที่ผ่านการประเมินไปในก่อนหน้านี้จึงต่างก็ล้วนแล้วแต่มองไปยังกรงของสัตว์อสูรด้วยความอิจฉา
เซี่ยเฟยหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ แล้วมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจสายลมจะต้องพบกับความยากลำบากอย่างแน่นอน
แว้บ!
ในที่สุดป้ายประกาศตัวบนหน้าอกของเซี่ยเฟยก็ส่องแสงสว่างออกมาอย่างเจิดจ้า ก่อนที่ในวินาทีต่อมาร่างของเขาจะไปปรากฏตัวในกรงของสัตว์อสูร
“ฮ่า ๆ ๆ ดูนั่นสิ คนซวยที่ต้องเจอกับปีศาจสายลมคือเซี่ยเฟย”
เมื่อร่างของเซี่ยเฟยได้ไปปรากฏในกรงของปีศาจสายลม มันก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะเยาะจากผู้สมัครคนอื่น ๆ ได้ในทันที ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะดูถูกเหยียบย่ำผู้อื่นให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี
“ก่อนหน้านี้คะแนนของเซี่ยเฟยก็อยู่อันดับบ๊วย แล้วเขายังต้องเผชิญหน้ากับปีศาจสายลมอีก ฉันคิดว่าคะแนนของเขาคงจะลงไปเป็นอันดับบ๊วยอีกรอบแน่ ๆ”
“ไอ้หมอนี่เป็นคนที่โชคร้ายจริง ๆ ความวุ่นวายในวันนี้มีโอกาสจะทำให้เขาเพิ่มคะแนนขึ้นมาได้แล้วแท้ ๆ แต่เขาดันซวยมาเจอกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดภายในงานอีก”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องคะแนนแล้วมั้ง ขอแค่เขารอดชีวิตกลับมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
“นั่นสินะ ถึงยังไงปีศาจสายลมก็มีความแข็งแกร่งเกือบจะเทียบเท่ากับอสูรเทวะ มันคงจะเป็นเรื่องที่โชคดีมากแล้วหากเซี่ยเฟยสามารถรอดชีวิตกลับมาได้”
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่ได้ตั้งใจฟังแต่เขาก็รู้ดีว่าในตอนนี้เขาจะต้องตกเป็นเป้าของคำเยาะเย้ยจากคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คะแนนจากการประเมินในครั้งนี้เลย และการที่พวกเขาได้เห็นคนที่ดวงซวยกว่าพวกเขา มันก็คงจะทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้ได้กลายเป็นเรื่องช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดภายในใจของทุกคน
ติ๊ด!
ไฟสีเขียวเริ่มนับถอยหลังเป็นเวลา 3 วินาที ซึ่งถ้าหากเซี่ยเฟยไม่สามารถปราบปีศาจสายลมได้ภายใน 3 นาทีนี้ เขาก็จะถือว่าเป็นฝ่ายที่ได้รับความพ่ายแพ้
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็รู้ดีว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเผชิญหน้าระหว่างเขากับปีศาจสายลม แต่มันเป็นการเผชิญหน้าระหว่างเขากับปรมาจารย์ที่กำลังควบคุมปีศาจสายลมตัวนี้อยู่ต่างหาก
จะบอกว่าวิชามนตราอสูรที่สามารถปราบอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่สามารถปราบราชาอสูรที่มีความใกล้เคียงกับอสูรเทวะได้เนี่ยนะ?!
ไม่ว่าจะมองยังไงเรื่องนี้มันก็ผิดปกติมากเกินไป!!
แม้ว่าในตอนที่เขาทำพันธสัญญากับขนอุยจะเป็นตอนที่เจ้าตัวเล็กยังเด็กมาก แต่สภาวะความซับซ้อนในจิตใจของขนอุยในตอนนั้นย่อมแข็งแกร่งกว่าปีศาจสายลมในตอนนี้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไงหากเป็นสถานการณ์ปกติเขาก็ควรที่จะต้องใช้วิชามนตราอสูรกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ แต่ถ้าหากว่ามันมีปรมาจารย์ลึกลับคอยแทรกแซงการเผชิญหน้าในครั้งนี้อยู่อย่างลับ ๆ มันก็จะทำให้สถานการณ์แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
เมื่อเวลาเริ่มนับถอยหลังเซี่ยเฟยก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันโดยการใช้หมัดชกลงไปใส่พื้นอย่างรุนแรง
กฎการประเมินระบุว่าห้ามทำร้ายสัตว์อสูรแต่ไม่มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้เขาทำลายพื้น เซี่ยเฟยจึงใช้ช่องว่างของกฎนี้เพื่อพยายามพิชิตปีศาจสายลมโดยเร็วที่สุด
ตูม!
การจู่โจมอันทรงพลังของชายหนุ่มทำให้พื้นโลหะผสมบิดเบี้ยวในทันที และทำให้ปีศาจสายลมที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตันกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ แสดงให้เห็นว่าการโจมตีของเซี่ยเฟยทรงพลังมากเพียงใด
เนตรมนตรา!!
เซี่ยเฟยตั้งใจที่จะควบคุมอสูรตัวนี้ด้วยการจ้องมองในระยะประชิด ซึ่งมันก็ทำให้เนอร่าที่อยู่ห่างออกไปรู้สึกตกใจขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากโดยไม่ได้ตั้งใจ
‘แยบยลมาก! นี่ถึงขนาดวางแผนต่อยพื้นให้ร่างของสัตว์อสูรลอยขึ้นไปในอากาศแล้วสบสายตากับสัตว์อสูรโดยตรงเลยงั้นเหรอ? แม้ว่ามันจะเป็นกลอุบายที่ดี แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของนายในครั้งนี้คือฉัน!!’ เนอร่าคิดกับตัวเองภายในใจ
“มาลองดูกันดีกว่าว่าวิชาของนายกับวิชาของฉัน วิชาของใครมันจะแข็งแกร่งกว่ากัน ๆ แน่?”
สบตา!
ดวงตาทั้งสี่ของปีศาจสายลมสบสายตาเข้ากับดวงตาของเซี่ยเฟยอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นกระแสพลังที่มองไม่เห็นก็ได้เคลื่อนที่เข้าไปภายในร่างของสัตว์อสูรในทันที ซึ่งการส่งพลังงานในครั้งนี้มีความราบรื่นมากจนเกินไป จนทำให้แม้แต่ตัวเซี่ยเฟยก็เริ่มรู้สึกสงสัยว่าเหตุการณ์ดูคล้ายจะมีอะไรผิดปกติ
มันง่ายเกินไป!!
ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับมีพลังงานอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาจับพลังงานของเขาภายในร่างของปีศาจสายลมเอาไว้ และมันก็ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ควบคุมสัตว์อสูรทั้งสองคน
“ฉันอยากจะรู้อยู่พอดีเลยว่าแกเป็นใครกันแน่?”
เซี่ยเฟยยกขนอุยขึ้นมาวางไว้บนไหล่ ก่อนที่จะสะบัดมือและออกคำสั่งออกไปอย่างฉับพลัน
“ทำลายมันซะ!”
เมื่อได้รับคำสั่งขนอุยก็สูดลมเข้าไปจนตัวพอง ก่อนที่มันจะส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างสุดแรง
อิ้ววววว!
เสียงร้องคำรามในครั้งนี้ทำให้ผู้สมัครทุกคนและสัตว์อสูรทุกตัวค้นพบตัวตนของขนอุยในทันที และมันก็ทำให้ผู้สมัครบางคนที่รู้จักสัตว์อสูรตัวนี้ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง
“มารขาว!! นั่นมันอสูรศักดิ์สิทธิ์!!!”
“อสูรศักดิ์สิทธิ์?! เจ้าตัวน้อยนั่นคืออสูรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ งั้นเหรอ?”
“มันคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ทำลายดาวในตำนาน ว่ากันว่าการโจมตีของมันเพียงครั้งเดียวสามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งดวงให้พังพินาศจนไม่เหลือแม้แต่ผงธุลี”
“แล้วมันมาอยู่ในมือของเซี่ยเฟยได้ยังไง? อย่าบอกนะว่ามันคืออสูรในพันธสัญญาของเขา”
การประเมินที่แต่เดิมก็วุ่นวายอยู่แล้วเข้าสู่สภาวะวุ่นวายถึงขีดสุดในทันที เมื่อมันได้มีสัตว์อสูรกึ่งเทวะกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
“แค่วันนี้ฉันได้เห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วยตาตัวเอง การเดินทางในรอบนี้ก็เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าแล้ว”
“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าการแข่งขันครั้งนี้ใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ”
“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเซี่ยเฟยที่เป็นเจ้าของอสูรศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นฝ่ายชนะอยู่แล้ว”
“นั่นสินะ ถึงแม้ว่าปีศาจสายลมจะมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับอสูรเทวะ แต่มันก็ไม่ใช่อสูรที่ฉลาดมากนัก แล้วสัตว์อสูรแบบนั้นมันจะกล้าเผชิญหน้ากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง”
“เดี๋ยวก่อน! ทุกคนอย่าลืมว่าปีศาจสายลมไม่มีสติปัญญามันเลยไม่รู้จักความกลัว และการแข่งขันในครั้งนี้ยังมีกฎที่ไม่ให้เราจู่โจมใส่สัตว์อสูรฝั่งตรงข้าม แต่ให้เราพยายามกำราบมันด้วยแรงกดดันเพียงอย่างเดียว ไม่แน่เซี่ยเฟยอาจจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ก็ได้”
ปีศาจสายลมขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์อสูรที่โง่มากถึงขนาดที่ว่ามันกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอสูรศักดิ์สิทธิ์โดยไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนิสัยแบบนี้ต่างก็มีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเอง แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันนิสัยของมันกลับทำให้เซี่ยเฟยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม
‘สมแล้วที่มันเป็นเสียงคำรามของอสูรศักดิ์สิทธิ์ นี่มันเกือบที่จะทำให้ฉันควบคุมสติไม่ได้ไปแล้วไหมล่ะ’ เนอร่าคิดกับตัวเองภายในใจ และถึงแม้ว่าเบื้องหน้าขนอุยจะพยายามส่งเสียงร้องคำรามใส่ปีศาจสายลม แต่เบื้องหลังเซี่ยเฟยต้องการที่จะขู่เขาที่แอบควบคุมปีศาจสายลมอยู่อย่างลับ ๆ มากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นในระหว่างที่เนอร่ากำลังจะส่งกระแสจิตเข้าไปจู่โจมกระแสจิตของเซี่ยเฟย ขนอุยก็ระเบิดเสียงร้องคำรามของมันออกมาอย่างไม่คาดคิด ทำให้กระแสจิตของเขาที่อยู่ภายในร่างของปีศาจสายลมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน
การส่งเสียงร้องคำรามของขนอุยในครั้งนี้ทำให้สัตว์อสูรภายในกรงทุกตัว นอกเหนือจากปีศาจสายลมต่างก็ทิ้งตัวหมอบลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว
เมื่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ประกาศตัวเองออกมาเหล่าบรรดาราชาสัตว์อสูรก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ
มนตราอสูร!!
เซี่ยเฟยอาศัยช่วงเวลาที่เนอร่ากำลังชะงักค้างทำการปลดปล่อยกระแสจิตออกไปอย่างเต็มที่
การพยายามฝืนใช้พลังออกไปในครั้งนี้ทำให้เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาทั่วทั้งใบหน้าของชายหนุ่ม แล้วมันก็ทำให้ใบหน้าของเขาในตอนนี้ดูค่อนข้างที่จะน่ากลัวอยู่เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามปรมาจารย์ก็ยังคงเป็นปรมาจารย์อยู่วันยังค่ำ และถึงแม้ว่าเนอร่าจะเสียสมาธิไปชั่วครู่หนึ่ง แต่เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
กฎแห่งหมอกอสูร!
โฮก!!
เมื่อถูกจู่โจมด้วยพลังของกฎปีศาจสายลมก็เริ่มเกิดอาการคลั่ง และมันก็เริ่มมีความคิดที่จะจู่โจมทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า
สายลมกรด!!
พลังพิเศษของปีศาจสายลมถูกกระตุ้นขึ้นมาโดยฉับพลัน ก่อให้เกิดสายลมสีดำสนิทพุ่งตรงเข้าใส่เซี่ยเฟยและขนอุย แต่เนื่องจากการจู่โจมในครั้งนี้มีความรุนแรงมากจนเกินไป แม้แต่ผู้สมัครที่อยู่นอกกรงก็ได้รับผลกระทบจากการจู่โจมเข้าไปด้วย
เหล่าบรรดาผู้สมัครจำเป็นจะต้องใช้พลังของกฎปกป้องร่างของตัวเองเอาไว้ ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปหลายวินาทีสายลมสีดำก็หยุดลงในที่สุด
อย่างไรก็ตามภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้เหล่าบรรดาผู้สมัครมองไปยังกรงสัตว์อสูรด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะสภาพกรงในครั้งนี้เหมือนกับมันถูกราดด้วยกรดความเข้มข้นสูง จนทำให้กรงละลายไม่สามารถกักขังสัตว์อสูรเอาไว้ได้อีกต่อไป
ร่างของเซี่ยเฟยในปัจจุบันถูกล้อมรอบด้วยชุดเกราะโลหะเหลว และถึงแม้ว่าพลังของสัตว์อสูรตัวนี้จะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้ แต่ชุดเกราะทั่วทั้งร่างของเขาก็กำลังถูกกัดกร่อนอย่างต่อเนื่อง
การเผชิญหน้าระวังผู้ฝึกสัตว์อสูรทั้งสองคนในรอบแรก เซี่ยเฟยได้รับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง!!
***************
ขี้โกงงงงงงงงงง!! นี่กะจะฆ่ากันเลยเหรอ? ไหนบอกผู้ฝึกสัตว์อสูรต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์ไงอาจารย์!