ตอนที่ 158 ไอเทมยาสภาวะไม่ยอมตาย(อ่านฟรี)
ตอนที่ 158 ไอเทมยาสภาวะไม่ยอมตาย
ไอรินไม่สนใจแต่เริ่มสวดภาวนาต่อลุคไม่หยุด เธอหมอบกราบไปกับพื้นแล้ว
“หยุด ฉันบอกว่าให้หยุดยังไง” ลุคเข้าไปห้ามเธอ
ไอรินหยุดในทันที แต่ไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นมา
“เธอสวดแบบนั้นทำไม”
“ท่านเทพเอแจ็กซ์ ท่านคือเทพแห่งเผ่าสามารถควบคุมและปิดผนึกผู้ตายไม่ยอมตายได้” ไอรินพูดกลับลุคด้วยความสุภาพ คราวนี้ไม่หลงเหลือท่าทางของเจ้านายที่คิดว่าเขาคือสัตว์เลี้ยงอีกแล้ว
เทพ...เทพบ้าบออะไรกัน!
หลังจากลุคคิดถึงเหตุผลสักพักก็เหมือนจะเข้าใจ ที่แท้พอเห็นเขาดูดซับเอาซากของซอมบี้ที่พวกมนุษย์วานรเรียกว่าผู้ตายไม่ยอมตายไป ไอรินก็เข้าใจผิดว่าเป็นเทพ เพราะตามความเชื่อเทพเอแจ็กซ์ของพวกเขานั้นสามารถผนึกผู้ตายไม่ยอมตายได้
แถมเธอก็ไม่เคยเห็นพลังแบบนี้เลยเชื่อไปแบบนั้น เรียกได้ว่าเข้าใจผิดไปแบบสุดโต่งเลย
“ฉันไม่ใช่เทพเอแจ็กซ์”
“ท่านเทพเป็นเทพองค์อื่นเหรอ” ไอรินเงยหน้าขึ้นมาด้วยความยินดี “เผ่ามนุษย์วานรมีเทพองค์อื่นคุ้มครอง ได้รับการสังเวยจากข้าด้วย”
พูดจบเธอก็คิดจะชักมีดแทงตัวเอง
“หยุด” ลุครีบเข้าไปห้ามเธอ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะฆ่าตัวตายสังเวยจริง ๆ
“ฉันไม่ใช่เทพและต่อให้จะใช่ก็ไม่ชอบการให้ใครมาสังเวยด้วยชีวิตด้วย” ลุคกล่าวห้าม
“ท่านเทพไม่ชอบการสังเวย ข้าเข้าใจแล้ว” เธอก้มกราบอีกตามเคย
ดูเหมือนว่าไอรินจะจำฝังหัวไปแล้วว่าเขาคือเทพ มันคล้ายกับก่อนหน้าที่เธอจำได้แค่เขาคือสัตว์เลี้ยง มันเป็นความเชื่อที่เชื่อแล้วเชื่อเลยจนกว่าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่ามาหักล้าง เรียงว่าสุดโต่งของแท้
ลุคเองก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะขืนเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี เพราะไอรินเอาแต่ก้มกราบแบบนั้น
เอาวะเล่นตามน้ำไปก่อน
“นี่ถ้าเธอเรียกฉันว่าเทพ ต่อไปพวกนั้นจะมาตามฆ่าฉัน ตอนนี้ฉันซ่อนตัวอยู่ ให้เรียกว่า ลุคพอเข้าใจไหม”
“ซ่อนตัว” ไอรินทำสีหน้างง ๆ ก่อนจะพยักหน้าคล้ายกับเธอไขความกระจ่างได้
“เข้าใจแล้ว ท่านกำลังปลอมเป็นสัตว์เลี้ยงของข้านี่เอง”
“เออ...ช่างเถอะ เทพก็เทพ” ลุคหมดคำจะกล่าว แต่เป็นเทพก็ดีกว่าไปเป็นสัตว์เลี้ยง
...
ลุคกลับมาตรวจสอบไอเทมที่ได้จากพวกซอมบี้ร่างเมื่อครู่
“คุณได้รับไอเทมยาสภาวะไม่ยอมตาย ระดับ E เกรดสีส้ม ผลพิเศษทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะไม่ยอมตาย ไม่ได้รับผลจากอาการบาดเจ็บชั่วคราว ไม่เจ็บปวด ไม่เหนื่อยล้า ยกเว้นสมองโดนทำลาย ในสภาวะไม่ยอมตายมีผลในการต้านทานเชื้อไวรัสซอมบี้ชั่วคราว สภาวะอยู่ได้ 1 ชั่วโมง”
ไอเทมที่ลุคได้มาใหม่นี่มันสุดยอดมาก ผลของมันก็ตามที่อธิบายข้างต้น แต่ว่าในแง่มุมหนึ่งนี่คือไอเทมที่ใช้ตัดสินเป็นตายได้ ถ้าคนหนึ่งทรงพลังไม่ยอมตาย กับอีกคนอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ มันก็ต้องแน่นอนว่าคนที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องจะเป็นฝ่ายชนะ
แต่ดูแล้วก็มีสิ่งที่จำกัดอยู่ เช่นการโดนทำลายสมองก็จะตาย อากาศบาดเจ็บก็ด้วยมันไม่ได้รักษา แต่แค่ทำให้ไม่รู้สึกและสู้ต่อไปได้ ถ้ายาสภาวะไม่ยอมตายหมดแล้ว หลังจากนั้นอากาศบาดเจ็บก็ยังอยู่ มีโอกาสตายได้
เพราะเมื่อเราไม่รู้สึกก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าตัวเองบาดเจ็บแค่ไหน ร่างกายรับได้แค่ไหน
นี่คือเหตุผลที่ร่างกายมนุษย์สร้างความรู้สึกเจ็บ เพื่อเตือนถึงอันตราย เช่นถ้าไม่รู้สึกเจ็บ แล้วเกิดมีแผลเลือดไหล แต่ไม่รู้ พอปล่อยไปเรื่อย ๆ เลือดก็ไหลหมดตัวได้ ถือว่าเป็นอันตรายมาก
แต่สำหรับฮันเตอร์ที่เสี่ยงตายมันเป็นสุดยอดไพ่ตายชั้นดีอีกอย่าง
นอกจากเรื่องนี้ผลพิเศษสุดท้ายทำให้ลุคต้องชะงักไม่น้อย
“ในสภาวะไม่ยอมตายมีผลในการต้านทานเชื้อไวรัสซอมบี้ชั่วคราว” สิ่งนี้หมายความว่าพวกผู้ตายไม่ยอมตายสามารถแพ้เชื้อได้จริง ๆ ซึ่งมันเป็นซอมบี้จริง ๆ
เขาต้องระวังมากขึ้น ยานี่ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการต้านในสภาวะไม่ยอมตาย หมายถึงถ้าโดนภายหลังอาจจะตายได้
แต่ถ้าโดนกัดก่อนแล้วกินตามอันนี้ลุคก็ไม่มั่นใจเพราะไม่เคยลองเหมือนกัน
...
3 วันผ่านไป
ตอนนี้เลยมาสองวันแล้วได้ครบกำหนด 14 วันที่ทีมสำรวจที่ 1 เข้ามาและจะมีทีมสำรวจที่สองเตรียมเข้ามาที่โลกยุคโบราณ
ตอนนี้ลุคดันมาอยู่ที่โลกล่มสลายแล้วและก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นเป็นยังไง
แต่เขาก็คาดการณ์ไว้ 3 อย่างที่มีโอกาสเป็นไปได้ในตอนนี้
อย่างแรกคือมนุษย์วานรคงบุกข้ามประตูมิติไปที่โลกมนุษย์ ถ้าทหารพวกนั้นที่อยู่อีกฝั่งจัดการไม่ได้ก็อาจจะเกิดเป็นสงครามของสองโลกแบบที่เกิดกับประตูมิติโลกสมบูรณ์ที่ 1 อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าทางทหารสหพันธรัฐมีประสบการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ถึงได้มีมาตรการสร้างฐานทัพล้อมรอบระยะ 50 กิโลเมตรรอบป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ไว้
แต่ว่าพวกเขาจะต้านได้หรือไม่อันนี้ลุคไม่แน่ใจ ถ้าไม่ได้ก็คงเกิดเป็นสงครามจริง ๆ
แบบที่สองที่เขาคิดคือเกิดการต่อสู้ปะทะแย่งชิงการควบคุมประตูกัน โดยเกิดขึ้นที่ฝั่งของโลกยุคโบราณ แต่ก็ยังเป็นสงครามอยู่ดีและอาจจะเกิดต่อจากเหตุการณ์แรกก็เป็นไปได้ เพราะไม่ว่ายังไงมนุษย์ก็ไม่มีทางยอมให้ชนพื้นเมืองต่างโลกมาควบคุมอยู่แล้ว เพราะถ้าทำแบบนั้นพวกมนุษย์จะรู้สึกไม่มั่นคง
และที่เป็นไปได้น้อยสุดคือ เผ่ามนุษย์วานรที่โจมตีครั้งนั้นไม่สนใจประตูมิติและไม่มีการต่อสู้ทันที เพียงแค่ถอยกลับมาหลังจากฆ่าทุกคนได้แล้ว แต่ภายหลังมีแน่นอนถ้ามนุษย์ข้ามมาเพิ่ม
ยังไงก็เกิดการต่อสู้เพื่อแก้แค้นให้กับทีมสำรวจที่ 1 แบบนี้จะผูกกันเป็นความแค้นไม่จบสิ้น เป็นสงครามแน่นอน นี่คือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างผู้มาเยือนกับผู้ครอบครองอยู่ก่อน
นอกจากสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ลุคก็ห่วงอีกเรื่องคือไม่รู้ว่าพวกเซล่าและริโอน่ายังรอดไหม แต่ด้วยความเห็นหุ้นทางความร่วมมือเขาก็อยากให้พวกเธอยังคงรอดอยู่
ตอนนี้ลุคยังกลับไปไม่ได้และไม่รู้ว่าจะอยู่ที่โลกล่มสลายนี้นานแค่ไหน เขาพยายามจะไม่ให้เกิน 1 เดือนจะต้องหาทางกลับไปให้ได้ อย่างแรกเลยคือเขามีสารเหลวหุ้มปอดที่จำกัด ส่วนเรื่องที่สองคือเม็ดยาโอสถผู้หิวโหย
เรื่องเม็ดยาโอสถผู้หิวโหยเขายังไม่ต้องกังวลไปสัก 2 เดือน เพราะตอนมาที่นี่ก็มีการสำรองของไว้แล้ว ถ้าเขายังไม่กลับเคยแจ้งให้เอาพวกนั้นส่งให้หอการค้าหีบสมบัติไปก่อน ซึ่งหอการค้าก็จะส่งไปที่สามบริษัทใหญ่พวกนั้นเอง
อยู่ที่นี่มา 3 วันลุคไม่ได้นิ่งเฉยเขาค้นหาสถานที่สำคัญที่พอจะมีแผนที่หรือข้อมูลของโลกนี้ได้ แต่เขาก็ยังไม่พบ เพราะส่วนใหญ่มีแต่ซากที่ผุพังไปจนหมด
แต่ว่าก็รู้เรื่องของโลกใบนี้มากขึ้นจากซากอาคารและสถาปัตยกรรมที่ทิ้งไว้
อารยธรรมที่เจริญยิ่งกว่ามนุษย์ไม่มากก็น้อยเป็นเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก สังเกตได้จากซากรถ อาคาร กลไกจากโลหะและอีกหลายอย่าง
เช่นพวกรถไม่มีล้อแต่จากแหวนที่สแกนมันคล้ายกับตัวต้านแรงโน้มถ่วงแบบยานเหาะ ลุคได้มาลำหนึ่งจากบริษัทมังกรฟาร์มฟู้ด กรุ๊ปตามข้อตกลงเรื่องที่ดิน ซึ่งมันคล้ายกัน แต่ก็ไม่ได้อาศัยพลังงานต่างมิติ แต่อาศัยอะไรนั้นเขาคงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอีกครั้งจากข้อมูลที่มี
เขาให้แหวนสแกนเครือข่ายไกอาสแกนโครงสร้างพวกมันเท่าที่จำหาได้เก็บไว้เผื่อกลับไปแล้วอาจจะเอาไปวิจัยต่อได้ อย่างไรซะก็เป็นเทคโนโลยีต่างโลก
แน่นอนว่าส่วนใหญ่ของพวกมันพังหมดแล้ว เนื่องจากผ่านมาหลายปีแล้ว เลยมีหลงเหลือไม่มากเท่าไหร่
ส่วนที่ว่าทำไมเขาไม่เก็บมันเข้าช่องเก็บของมิติ ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่ขนาดมันใหญ่และเปลืองพื้นที่มากเกินไป
มีสิ่งหนึ่งที่ลุคเจอแถวใจกลางของเมืองล่มสลายนี้มันเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ผ่านกาลเวลามานาน อาจจะเป็นวีรบุรุษหรือบุคคลสำคัญของโลกแห่งนี้ในยุคก่อนที่จะล่มสลาย แม้ตัวรูปปั้นมันแทบจะทรุดโทรมไปมาก แต่ให้ได้แหวนเครือข่ายไกอาช่วยวิเคราะห์และจำลองขึ้นมาใหม่จากร่องรอยที่เหลืออยู่ก็พอจะเห็นเคล้าโครงที่สมบูรณ์กลับมาได้บ้าง
รูปปั้นนี้ช่วยให้ลุคเห็นถึงหน้าตาที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาเจ้าของอารยธรรมโลกใบนี้ มีโครงสร้างร่างกายที่คล้ายมนุษย์ แต่มีนิ้วมือเท้าแต่ละข้าง 6 นิ้วรวมแล้วมี 24 นิ้ว แขนและขาค่อนข้างยาวแต่ไม่ถึงกับประหลาด
และก็มีดวงตา 3 ดวงสองข้างนั้นปกติเหมือนมนุษย์ แต่จะมีอีกหนึ่งที่กลางหน้าผาก นอกนั้นก็เหมือนกันหมด
ลุคนิยายให้พวกเขาว่าเผ่า 3 ตา แต่ดูจากที่นี่แล้วเผ่า 3 ตาคงสูญพันธุ์ไปจนหมดสิ้นแล้ว
ตุ้ม!
ขณะที่ลุคลุคตรวจสอบรูปปั้นอยู่ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังสนั่นมาจากไม่ไกลมากนัก
“เจ้าตัวนั้นอีกแล้ว” ลุครีบหาที่หลบ ไอรินก็รีบวิ่งตามไปหลบด้วย
ทั้งสองหลบซ่อนตัวไม่กล้าส่งเสียงออกมา ขณะที่เสียงดังเริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ มันมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สูงพอ ๆ กับตึกรอบ ๆ นี้
ลุคเรียกมันว่าพวกกลายพันธุ์ ซอมบี้ไททัน
เจ้านี่คล้ายกับซอมบี้ แต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หน้า หนาขนาดที่ว่าโจมตีไม่เข้า เพราะเขาลองดูแล้ว แต่มันไม่ฉลาดมากนักเลยหนีซ่อนได้ห้ามให้มันเห็นตัวเป็นพอ เขาคาดการว่าถ้าจะรับมือคงต้องให้ระดับ C อาจจะพอจัดการมันได้ แน่นอนว่านี่เป็นแค่การคาดเดา เนื่องจากมันมีหลายขนาดและก็ทรงพลังต่างกัน
อย่างเจ้าตัวนี้ต้องให้ขนาด B จัดการ
พวกไททันที่ลุคพบมีไม่มาก ถ้าเทียบกับพวกซอมบี้ธรรมดาที่เขาเจออยู่บ่อย ๆ และฆ่าพวกมันไปหลายตัว แต่มีน้อยใช้ว่าจะไม่เจอ กลับกันเลยเขาพบเจอมันบ่อยมาก มันน่าจะสัมผัสได้ถึงเขาเลยมารวมกันแถวนี้
นี่ทำให้ลุคต้องเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ไม่สามารถหลบซ่อนได้นานนัก
ขณะที่ซ่อนตัวอยู่เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าซอมบี้ไททันมันจะให้ไอเทมแบบไหนเหมือนกัน
...
หลังจากรอผ่านไปสักพัก เจ้าตัวใหญ่หาไม่เจอก็เดินทางไป
“เราควรออกจากที่นี่ได้แล้ว”
ซากเมืองที่อยู่ตอนนี้มีขนาดไม่ใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็มีพวกที่พังลงจนแทบไม่เหลือ ลุคตรวจที่นี่และไม่มีสิ่งที่น่าสนใจ เขาคิดว่าจะขึ้นเหนือไปดูอีกด้านของร่องลึกที่เห็นอยู่ไกล ๆ