1119 - องค์ชายสวรรค์
1119 - องค์ชายสวรรค์
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา มีสิ่งมีชีวิตโบราณบางส่วนได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาพยายามติดต่อกับมหาอำนาจเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างลับๆ
อย่างไรก็ตามเผ่าพันธุ์โบราณจะต้องพบกับความผิดหวัง ไม่มีใครรู้สถานการณ์ของภูเขาม่วงและไม่สามารถหาเหตุผลได้เลย
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เผ่าพันธุ์มนุษย์ตื่นเต้นมากที่สุด มีผู้คนมากมายหลั่งไหลไปยังทิศทางของภูเขาสีม่วงเพื่อแสวงบุญจากระยะไกล
“เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แม้กระทั่งจักรพรรดิอมตะก็ยังไม่อาจเป็นอมตะได้อย่างแท้จริง ปราศจากจุดเริ่มต้นจะมีชีวิตอย่างยาวนานถึงขนาดนี้ได้อย่างไร!”
ในหุบเขาแห่งเทพ ราชาผู้น่าสะพรึงกลัวคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำให้สิ่งมีชีวิตโบราณในหุบเขาเทพทั้งหมดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสียงคำรามของเขาทำให้สวรรค์พิภพสั่นไหวอย่างรุนแรง
“นี่คือการสมรู้ร่วมคิด ข้าไม่เชื่อว่าจักรพรรดิมนุษย์คนใดจะสามารถมีชีวิตอย่างยืนยาวถึงขนาดนี้!”
เสียงกระซิบของราชาบรรพชนโบราณที่น่าสะพรึงกลัวอีกคนทำให้หุบเขาเทพสั่นสะเทือนอีกครั้ง
“ราชาบรรพชน เหตุใดเราไม่ส่งคนออกไปทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์สักแห่งเพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องนี้?” สิ่งมีชีวิตโบราณแนะนำ
ดวงตาของบรรพชนโบราณมีประกายของความโกรธปรากฏขึ้นวูบหนึ่ง
ปัง!
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตโบราณที่เสนอความคิดเห็นนั้นถูกเตะกระเด็นออกจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนกองอยู่บนพื้น
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม แม้ว่าพวกเขาจะมีข้อสงสัยอย่างมาก แต่หากจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ ต่อให้เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดร่วมมือกันก็ไม่อาจต้านทานได้
ต้องเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตโบราณนั้นอย่างมากสุดพวกเขาก็มีราชาโบราณที่เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะระดับสูงสุดเท่านั้น
แต่ขอบเขตของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อยู่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะทั่วไปถึงหนึ่งอาณาจักรใหญ่เต็มๆ การท้าทายสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่แตกต่างอะไรจากการรนหาที่ตายอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่หุบเขาเทพเท่านั้น แต่เผ่าพันธุ์โบราณอื่นๆ ก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าเมื่อนับรวมราชาโบราณของพวกเขาแล้วจะมีสิ่งมีชีวิตอมตะหลายสิบตนก็ตาม
แต่จำนวนเพียงเท่านี้ยังไม่อาจต้านทานการสะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียวของจักรพรรดิโบราณได้ด้วยซ้ำ
“เป็นไปได้อย่างไรที่จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวมาถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าอู่ซือจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ควรจะตายไปตั้งแต่เมื่อสองแสนปีก่อน!”
หลังจากสงบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดก็มีข้อสงสัย อย่างไรก็ตามต่อให้พวกเขามีความกล้ามากกว่านี้ก็ไม่มีใครเดินทางไปสำรวจความจริงในภูเขาสีม่วงได้!
“ไม่มีใครในโลกนี้สามารถรั่นระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นได้นานสามเดือน ต่อให้พวกเขาครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วก็ตาม”
ราชาบรรพชนโบราณเหล่านั้นไม่ใช่คนโง่ ในอดีตมียอดฝีมือเผ่าพันธุ์โบราณมากมายนับไม่ถ้วนเดินทางไปที่ภูเขาสีม่วงเพื่อปลดปล่อยเผ่าพันธุ์โบราณซึ่งถูกระฆังปราศจากจุดเริ่มต้นกักขังไว้
การที่เสียงระฆังดังขึ้นถึงสามเดือนติดต่อกันพวกเขารู้ดีว่ามันจะต้องเกิดจากการกระทำของผู้ที่มีพลังชีวิตอันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งพลังชีวิตรูปแบบนี้มันเกินกว่าขอบเขตของผู้สูงสุดไปไกลอย่างไม่อาจจินตนาการได้
ในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า ดินแดนทางเหนือเงียบงัน แต่ในความมืดมิดนี้เผ่าพันธุ์โบราณมากมายเริ่มติดต่อกันเพื่อค้นหามาตรการรับมือการตื่นขึ้นของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
ในเวลาเดียวกันยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายหลายแสนคนก็หลั่งไหลเข้าสู่ภูเขาสีม่วง หากสถานการณ์ยังคงดำเนินไปในทิศทางนี้เกรงว่าสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าพันธุ์โบราณจะต้องเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
“เป็นไปไม่ได้ที่อู่ซือจะยังคงอยู่ในโลกนี้ เขาตายไปหลายพันปีแล้ว!”
ในที่สุดก็มีใครบางคนประกาศเสียงดัง เขาเรียกระดมยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดให้มารวมตัวกันเพื่อปราบปรามผู้ที่ลั่นระฆังปราศจากจุดเริ่มต้น
นี่คือองค์ชายสวรรค์หยวนกู่ บุตรของจักรพรรดิอมตะแห่งเผ่าพันธุ์โบราณ เขาไม่ได้กล่าวคำพูดนี้กับใครเป็นการส่วนตัว แต่เป็นการออกคำสั่งถึงสิ่งมีชีวิตอมตะเผ่าพันธุ์โบราณทุกคน
เมื่อคำสั่งนี้ถูกถ่ายทอดออกไป ดินแดนทางเหนือที่เคยสงบสุขก็กลับมาเดือดพล่านอีกครั้ง
ในบรรดาเผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดเขามีศักดิ์ศรีเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำมากที่สุด แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงผู้สูงสุดแต่เขาก็เป็นถึงทายาทของจักรวรรดิอมตะ และยังมาจากภูเขาจักรพรรดิอีกด้วย
หลังจากปรึกษากันนานหลายวันเผ่าพันธุ์โบราณก็ได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีมหาอำนาจของเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นคนลั่นระฆังนี้ขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ในช่วงเวลาหนึ่ง คลื่นของพายุลูกใหม่ก็ก่อตัวขึ้นในภาคเหนือ
ในโลกนี้หากมีใครที่เกลียดอู่ซือมากที่สุด ผู้นั้นจะต้องเป็นองค์ชายสวรรค์นั่นเอง เหตุก็เพราะจักรพรรดิอมตะคือบิดาของเขา ในขณะเดียวกันภูเขาจักรพรรดิที่เป็นบ้านของเขาก็ถูกยึดครองโดยอู่ซือ
นี่เป็นการไม่เคารพและดูถูกบิดาของเขาเป็นอย่างมาก ในเผ่าพันธุ์โบราณหลายเผ่า จักรพรรดิอมตะถือเป็นเทพสูงสุด การดูถูกจักรพรรดิอมตะย่อมไม่แตกต่างอะไรจากการดูถูกเผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมด
“อู่ซือตายแล้ว หากในโลกนี้จะมีใครบางคนเป็นเทพจริงๆ ก็มีเพียงบิดาของข้าเท่านั้น”
องค์ชายสวรรค์เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าในโลกใบนี้ไม่มีใครเป็นอมตะที่แท้จริง อู่ซือก็ไม่ได้ยืนอยู่ในจุดจุดนั้น หากจะมีใครสามารถมีชีวิตได้อย่างยืนยาวโดยไม่สิ้นสุด คนผู้นั้นจะต้องเป็นบิดาของเขาเพียงคนเดียว
องค์ชายสวรรค์เป็นเพียงเซียนเทียมขั้นสอง ตามปกติแล้วเขาไม่ควรได้รับความเคารพจากสิ่งมีชีวิตอมตะของเผ่าพันธุ์โบราณ อย่างไรก็ตามเผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดนับถือจักรพรรดิอมตะเป็นเทพสูงสุด
ดังนั้นแม้ว่าราชาบรรพชนโบราณหลายคนจะเคลือบแคลงในสถานะของเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์โบราณทั้งโลก
เมื่อองค์ชายสวรรค์ยืนยันว่าจักรพรรดิอู่ซือตายไปแล้ว ก็มีเผ่าพันธุ์โบราณมากมายที่เชื่อคำพูดนี้
ดังนั้นมหาอำนาจของเผ่าพันธุ์โบราณหลายแห่งจึงเริ่มระดมกำลังกันเพื่อเตรียมจะทำลายคนเถื่อนแห่งหนานหลิงเป็นการท้าทายจักรพรรดิอู่ซือโดยตรง
“มันไร้สาระ จักรพรรดิอมตะตายมาหลายปีแล้ว ตัวตนอย่างหยวนกู่มีคุณสมบัติใดที่จะตั้งตัวเป็นเทพ จักรพรรดิอู่ซือแย่งชิงหลุมศพบิดาเจ้า นี่เป็นความแค้นส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้อื่น หากจักรพรรดิอู่ซือยังมีชีวิตอยู่จริงๆ หยวนกู่จะสามารถรับผิดชอบเรื่องนี้ได้อย่างไร”
ในที่สุดก็มีใครบางคนจากเผ่าพันธุ์โบราณไม่อาจทนได้ จักรพรรดิอมตะนั้นตายไปหลายล้านปีแล้ว เรื่องนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง
แต่สำหรับจักรพรรดิอู่ซือเป็นสิ่งมีชีวิตเมื่อไม่กี่แสนปีเท่านั้น หากจะบอกว่าเขายังมีชีวิตจนถึงปัจจุบันแม้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออยู่บ้างแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นการเรียกระดมพลขององค์ชายสวรรค์ย่อมทำให้เกิดความขัดแย้งมากมายในกลุ่มของเผ่าพันธุ์โบราณ
“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเจ้าจะเป็นคนแรกที่ต้องตาย!”
ราชโองการของหยวนกู่ถูกถ่ายทอดไปไกลหลายล้านลี้ ภาคเหนือของตงหวงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“องค์ชายสวรรค์เจ้าเป็นเพียงลูกแตงโมเท่านั้นตอนที่ข้าทำคลอดเจ้าขึ้นมา บุญคุณนี้เจ้าไม่เพียงไม่สำนึกเท่านั้นยังคิดจะเป็นศัตรูกับข้าด้วย แต่หากเจ้าคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งก็เข้ามาเถอะ บิดาคนนี้จะทุบตีเจ้าให้ร่ำร้องหาบิดามารดาเอง!”
คำพูดของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณดังก้องไปทั้งสวรรค์พิภพทำให้ผู้คนเกิดความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
ภาคเหนือของตงหวงไม่สามารถสงบลงได้อีกต่อไป
ตัวตนขององค์ชายสวรรค์คืออะไร? ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณคืออะไร?
การเผชิญหน้ากันระหว่างพวกเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างอนาคตของทั้งสองเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอำพรางสวรรค์นี้
“หยวนกู่ออกมารับความตายได้แล้ว เจ้าจะหดหัวหดหางอีกนานแค่ไหน!”
ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณประกาศเสียงดังเพื่อท้าทายองค์ชายสวรรค์ให้ออกมาต่อสู้อีกครั้ง
เกิดความโกลาหลขึ้นในสวรรค์แดนเหนือ เผ่าพันธุ์มนุษย์รู้สึกประหลาดใจแเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณจะมีความหยิ่งผยองถึงขนาดนี้
“ข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ ด้วยมือของข้าเอง!” องค์ชายสวรรค์ลุกขึ้นยืนและคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
“อย่าลืมเอาแตงโมของเจ้ามาด้วย ข้าจะตุ๋นพวกเจ้าไปพร้อมกัน!” ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณตะโกน
จี้จื่อเยว่และสหายคนอื่นๆ รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย พฤติกรรมที่ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณในตอนนี้ไม่คล้ายกับนิสัยของเย่ฟ่านเลย
หุบเขาเทพโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก พวกเขาส่งยอดฝีมือหลายร้อยคนออกไปไล่ล่าเย่ฟ่านทันที แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่พบสิ่งใดเลย
“ปีศาจเฒ่าจากหุบเขาเทพพวกเจ้าระวังตัวให้ดี เมื่อข้าตัดศีรษะของพวกเจ้าแล้ว ลูกหลานทั้งหมดของหุบเขาเทพจะเป็นรายต่อไป”
สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งหมดสาปแช่งด้วยความโกรธ แต่ผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์กลับตกตะลึงอย่างถึงที่สุด พฤติกรรมของร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณออกจากอันธพาลและไร้สาระเกินไปแล้ว
…….