ตอนที่แล้วบทที่ 76 สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 78 ทักษะการเพาะปลูกพืช

บทที่ 77 เจ้าของซากปรักหักพัง


ซืออวี๋ตกตะลึงเป็นเวลานานก่อนที่จะตอบสนอง

เขารู้แล้ว ต้องมีผู้บงการที่ควบคุมทุกอย่างในซากปรักหักพักนี้

มิฉะนั้น สัตว์อสูรมายาทุกประเภทจะปรากฏตัวในจุดเดิมตลอดได้ยังไงกัน?

แม้ว่าซืออวี๋จะไม่รู้ว่าเปลือกหอยในสารบัญทักษะเป็นสัตว์อสูรประเภทไหน แต่เขาก็เดาได้ว่ามันไม่อ่อนแอ

ท้ายที่สุด เจ้าของมิติฝึกสัตว์อสูรนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักฝึกสัตว์อสูรตำนาน

สำหรับนักฝึกสัตว์อสูรตำนานแล้ว พวกเขาเป็นตัวตนที่มีคุณสมบัติในการควบคุมสัตว์อสูรระดับผู้ปกครอง

เขาแค่ไม่รู้ว่าเปลือกหอยเป็นภาพมายาหรือว่ามันอยู่ที่ไหนสักแห่งในซากปรักหักพังนี้

หากมันเป็นสัตว์อสูร นั่นน่าประทับใจมาก มันต้องมีชีวิตอยู่มาแล้วอย่างน้อยสองสามพันปี

และหากเปลือกหอยเป็นภาพมายาและได้รับป้องกันในซากปรักหักพังโดยเจตจำนงของนักฝึกสัตว์อสูร มันก็ทรงพลังมากเช่นกัน

มันถูกตัดสินว่าเป็น ‘สัตว์อสูร’ โดยสารบัญทักษะและหายไปหลังจากที่เขาผ่านซากปรักหักพัง นี่หมายความว่าอย่างน้อยเปลือกหอยนี้ก็ฝึกฝนทักษะนั้นจนถึงขั้นสมบูรณ์แล้วใช่ไหม?

ซืออวี๋หันความสนใจของเขาไปที่ [ภูติมายา] นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทักษะสองคุณสมบัติ

หลังจากที่ได้เห็นหมายเหตุของทักษะแล้ว ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าระดับสูงนั้นต่ำเกินไปสำหรับทักษะนี้

ทักษะอันทรงพลังดังกล่าวเป็นเพียงระดับสูงงั้นเหรอ?

คลื่นสัตว์อสูรและแม้กระทั่งมังกรน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาทำให้ซืออวี๋ปวดหัวอย่างมาก ในความคิดของเขา อย่างน้อยที่สุด มันก็ต้องเป็นทักษะระดับสุดยอดหรือแม้กระทั่งระดับเทวะ

ท้ายที่สุด หากเขาสามารถสร้างสัตว์์อสูรเทวะขึ้นมาได้สองสามตัว เขาก็คงจะอยู่ยงคงกระพัน

ทว่าเมื่อเขาเห็นครึ่งหลังของหมายเหตุ ซืออวี๋ก็เข้าใจได้ว่าทำไมทักษะนี้จึงอยู่เพียงระดับสูงเท่านั้น

ทักษะนี้มีเงื่อนไขมากเกินไป และไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เขาสร้างสิ่งที่เขาต้องการได้

มันไม่ได้สร้างจากอากาศอันบางเบา หลักการพื้นฐานของทักษะนี้ก็คือ ‘การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม’

ผู้ใช้สามารถจินตนาการได้อย่างกล้าหาญ ทว่าหากเขาต้องการทำให้จินตนาการเป็นจริง เขาจะต้องจ่ายในราคาที่เหมาะสม

ตัวอย่างเช่น แม้กระทั่งเปลือกหอยก็ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรน้ำแข็งได้โดยตรง มันต้องใช้หนวดของมังกรน้ำแข็งแท้จริงเป็นสื่อกลาง

ยิ่งกว่านั้น มันก็ไม่มีร่างกายที่สมบูรณ์ของมังกรน้ำแข็ง อย่างน้อยที่สุด มังกรน้ำแข็งที่เชี่ยวชาญแค่กรงเล็บหักเหน้ำแข็งและพลังแห่งมังกรนั้นอ่อนแอเกินไป

ถึงกระนั้น อีเลฟเว่นก็เกือบพ่ายแพ้…

กล่าวโดยย่อแล้ว เมื่อเทียบกับทักษะในระดับเดียวกันแล้ว ทักษะนี้มีเงื่อนไขในการใช้งานสูงมากยิ่งกว่า มันฝึกฝนยากกว่าเช่นกัน ทว่าข้อดีของมันก็คือความสามารถของมันยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์

“ทักษะนี้ดูจะเหมาะสมกับหนอนไหมเขียวมาก”

นี่เป็นเหตุผลที่ซืออวี๋เลือกที่จะจำลองมัน

เมื่อเขามอบทางเลือกให้แก่หนอนไหมเขียว มันได้เลือกทั้งหมดสามคุณสมบัติ : มิติ จิตวิญญาณ และมังกร

เดิมทีแล้ว ซืออวี๋วางแผนที่จะหาหนึ่งหรือสองคุณสมบัติ

อย่างไรก็ตาม ทักษะใหม่นี้ดูเหมือนจะเข้ากับเจตจำนงและนิสัยของหนอนไหมเขียวได้อย่างสมบูรณ์!

มันชอบฝันและกลายเป็นสิ่งต่างๆ ในความฝันเหล่านั้นไม่ใช่เหรอ?

หลังจากเรียนรู้ภูติมายา มันยังสามารถทำให้จินตนาการในความฝันเป็นจริงได้

จินตนาการที่กลายเป็นความจริงก็คือพลังของคุณสมบัติมิติ

และมังกร… เปลือกหอยนั่นเพิ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีสร้างมังกรมายา

แม้ว่ามันจะไม่ได้กลายเป็นมังกรแท้จริงและไม่สามารถจำลองทักษะระดับสุดยอดของเผ่าพันธุ์มังกรได้… แต่ด้วยทักษะนี้และวัสดุพิเศษบางอย่าง มันอาจสามารถยืม ‘คราบ’ ของมังกรเพื่อสวมใส่ได้ชั่วคราว

ในชั่วพริบตา ทางเลือกทั้งสามก็ได้สำเร็จแล้ว

มิติและจิตวิญญาณเป็นรากฐาน และมังกรจะถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการโดยใช้ทักษะนี้

“เหมาะมาก ทักษะนี้เหมาะกับหนอนไหมเขียวมาก…”

นี่เป็นทักษะที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก ซืออวี๋รู้สึกว่าหากเขาสามารถเพิ่มแต้มทักษะนี้จนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ ผลลัพธ์ที่ได้จะสร้างความประหลาดใจ

ท้ายที่สุด มันก็มีคุณสมยบัติมิติ

หากทักษะนี้ถูกใช้เป็นแกนหลักและพัฒนาไปในทิศทางแห่งคุณสมบัติมิติและจิตวิญญาณ หนอนไหมเขียวจะวิวัฒนาการไปเป็นอะไร?

ผีเสื้อความฝันที่สามารถสร้างทุกอย่างได้?

ซืออวี๋จำไม่ได้เลยว่ามีสัตว์อสูรที่คล้ายกันในธรรมชาติหรือไม่

“อู๋!!!”

“อู๋!!!”

บางทีอาจเป็นเพราะซืออวี๋เสียสมาธินานเกินไป อสูรกินเหล็กจึงไมาสามารถรอได้อีกต่อไป

“อู๋!!” ทำไมนักฝึกสัตว์อสูรของมันจึงจ้องมองจุดที่ภาพมายาหายไปล่ะ? ยังคงมีไข่มุกหินอยู่ที่นั่น

“ใช่แล้ว ลูกปัดหิน…”

ซืออวี๋รู้สึกตัวและมองไไปที่ลูกปัดหินในเปลือกหอย

นี่อาจเป็นไข่มุกของเปลือกหอย? บางทีมันอาจจะสามารถทุบเป็นผงและกินได้?

เขาหยิบลูกปัดหินขึ้นมา จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ในขณะที่เขาหยิบลูกปัดหินขึ้นมา สมองของซืออวี๋ก็ดังกึกก้อง การมองเห็นของเขาดูราวกับจะสามารถมองอเห็นทั้งมิติของซากปรักหักพังได้

ที่อื่นในซากปรัดกหักพัง…

นักฝึกสัตว์อสูรทหารในชุดลายพรางมองดูยักษ์เกราะน้ำแข็งที่หายไปตรงหน้าเขาด้วยความสับสน

เขาและสัตว์อสูรของเขามองหน้ากัน คู่ต่อสู้หายไปไหนกัน

ในตอนนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับยักษ์เกราะน้ำแข็งอยู่อย่างเห็นได้ชัด ทำไมคู่ต่อสู้ถึงหายไปจากสายตาของพวกเขาอย่างกะทันหันล่ะ?

ราวกับว่าพวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว ทว่าสถานการณ์จริงก็คือไม่มีค่ายกลเทเลพอร์ตสำหรับการไปสู่ด่านต่อไป

สถานการณ์นี้ยังปรากฎขึ้นกับนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นที่กำลังพยายามผ่านด่าน

พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อภาพมายาของสัตว์อสูรตรงหน้าพวกเขาหายไปอย่างกะทันหัน

“นี่คือ…”

ในขณะนี้ ซืออวี๋ดูเหมือนจะยืนอยู่ในมุมมองพระเจ้าและเห็นทุกอย่างในซากปรักหักพัง

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ซืออวี๋ตกตะลึงอย่างแท้จริง

ราวกับว่าเขาผู้ที่ถือไข่มุกหินสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงในซากปรักหักพังได้

ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่างภายในซากปรักหักพัง ตัวอย่างเช่น ในขณะนี้ นอกจากนักฝึกสัตว์อสูรเช่นพวกเขาแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นในซากปรักหักพัง ไม่มีร่องรอยของเปลือกหอยเลย ราวกับว่ามันหายไปจากซากปรักหักพังนี้อย่างสมบูรณ์

นอกจากนั้น ซืออวี๋ยังค้นพบคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็งและหินไร้ตัวตนจำนวนมากในบางพื้นที่ จำนวนของพวกมันมหาศาลจนทำให้เขาตกตะลึง

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากผ่านทุกด่านแล้ว ข้าจะกลายเป็นเจ้าของซากปรักหักพังและได้รับสิทธิ์ในการควบคุมซากปรักหักพัง?”

ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ภายในซากปรักหักพังเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง

ที่โลกภายนอก…

ภายใต้สีหน้าอันตกตะลึงของทุกคน รูปปั้นหินตัวที่หกสว่างขึ้น

“มันสว่าง รูปปั้นหินตัวที่หกสว่าง ซืออวี๋ต้องผ่านด่านที่หกแล้ว!” ผู้บัญชาการเหอตะโกนจากข้างนอก

“ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน!”

ข้างเขา ประธานเฟิงมีความสุขมาก

เขาผ่านได้อย่างแท้จริง

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่เากิดอะไนรขึ้นข้างใน ทว่าซืออวี๋ก็ยอดเยี่ยมมากก

ในขณะนั้นเอง รูปปั้นหินก็สว่างขึ้น มันเทียบเท่ากับการตะโกนบอกทุกคนข้างนอกว่าซืออวี๋ได้กวาดล้างหกด่านและถอดรหัสซากปรักหักพังแล้ว

“บัดซ*...”

นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนสิ้นหวัง

พวกเขาไม่ได้มีความสุขเช่นเดียวกับประธานเฟิง แต่พวกเขากลับรู้สึกผิดหวังและอิจฉาอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ทำไมไม่ใช่พวกเขาที่ผ่านซากปรักหักพัง…

ซืออวี๋ทรงพลังมากพอแล้ว เขาจะได้รับประโยชน์อะไรในด่านที่หกกัน?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็รู้สึกอิจฉามากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ฝูงชนรู้สึกอิจฉา รูปปั้นหินทั้งหกก็แตกสลาย และผู้คนข้างในก็ถูกเทเลพอร์ตออกมา

คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ท้าทายที่เข้ามาก่อนที่ซืออวี๋จะท้าทายด่านที่ห้า หลังจากที่ซืออวี๋เข้าไปก็ไม่มีใครตามเข้าไปอีก พวกเขาทุกคนต่างรออยู่ข้างนอกเพื่อดูผลลัพธ์การต่อสู้ของซืออวี๋

ในขณะนี้ คนกลุ่มนี้และสัตว์อสูรของพวกเขาต่างก็ถูกเทเลพอร์ตออกไปอย่างกะทันหันและยังคงตกตะลึงเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ทำไมข้าถึงถูกเทเลพอร์ตออกมาอย่างกะทันหันล่ะ?”

“ยักษ์เกราะน้ำแข็งหายไปไหนกัน?”

“สัตว์อสูรของข้าสามารถออกมาได้โดยไม่ต้องเข้าไปในมิติฝึกสัตว์อสูรได้ยังไงกัน?”

พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็ค้นพบกลุ่มคนที่รออยู่รอบนอก เช่นเดียวกับรูปปั้นหินทั้งหกที่สว่างไสวแต่แตกร้าว ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง

“ลงมาก่อน” ผู้บัญชาการเหอตะโกนออกมา

“บอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้าถึงออกมาพร้อมกันล่ะ?”

“ข้ากำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรดุร้าย อย่างไรก็ตาม มันกลับหายไปอย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าข้าจะถูกไล่ออกมาจากซากปรักหักพัง”

“ข้าเช่นกัน”

ผู้คนที่ถูกเทเลพอร์ตออกมากล่าวทีละคน

“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้น?” หนึ่งในพวกเขาเอ่ยถามผู้บัญชาการเหอเกี่ยวกับสถานการณ์

ทำไมรูปปั้นหินถึงสว่างและแตกร้าวล่ะ???

ผู้บัญชาการเหอเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะกล่าวว่า “ซืออว๊๋ได้เข้าไปในซากปรักหักพังต่อจากพวกเจ้าและผ่านด่านที่ห้า บางทีเขาอาจจะผ่านด่านที่หกไปแล้วก็ได้”

“แต่ไม่ว่ายังไง มารอดูว่าจะเป็นยังไง เราจะเข้าใจเองเมื่อเขาออกมา” เมื่อเขากล่าวจบ เหล่าทหารก็อ้าปากกว้าว

ทั้งโลกภายนอกต่างก็เงียบงัน ทุกคนมองไปที่ค่ายกลเทเลพอร์ต

ในซากปรักหักพัง

ซืออวี๋ผู้ที่ถือลูกปัดหินตกตะลึงเมื่อเขาตระหนักได้ว่าเขาสามารถบังคับให้คนอื่นเทเลพอร์ตออกไปได้

สิ่งนี้เป็นตัวควบคุมซากปรักหักพังนี้อย่างแท้จริง

ก่อนหน้านี้ มันอยู่ในมือของเปลือกหอยมายา แต่ตอนนี้ เมื่อเขาชนะมัน เปลือกหอยมายาจึงสลายไป… และลูกปัดหินก็กลายมาเป็นของเขาเหรอ?

ดังนั้นสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความจริงทางประวัติศาสตร์ของเมืองทุ่งน้ำแข็งเหรอ?

ร่องรอยทางประวัติศาสตณ์เหล่านั้นต้องการให้เขารู้อะไรผ่านซากปรักหักพังนี้กัน?

ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก ทว่าเขาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจคิดเรื่องนี้หลังจากผ่านไปสักพัก

“อีเลฟเว่น เข้ามาที่กระเป๋าของข้า”

ซืออวี๋เรียกอีเลฟเว่นผู้ที่ดูสับสน อีเลฟเว่นคลานเข้าไปในกระเป๋าของซืออวี๋ในทันที

ซืออวี๋ถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรนำอีเลฟเว่นกลับเข้าไปในมิติฝึกสัตว์อสูร… ในอนาคต อีเลฟเว่นสามารถอยู่ข้างนอกในรูปแบบนี้ได้ มันค่อนข้างน่ารัก

เขาไม่กลัวคนอื่นถามว่าทำไมอสูรกินเหล็กของเขาถึงทำเช่นนี้ได้

เขาจะบอกพวกเขาว่าไม่ต้องถาม นี่เกี่ยวกับการปลุกสายเลือดโบราณในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการและปลุกทักษะเผ่าพันธุ์ใหม่… หากพวกเขาต้งการทำแบบเดียวกัน พวกเขาสามารถไปที่นั่นและลองดูได้…

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด