บทที่ 77 เจ้าของซากปรักหักพัง
ซืออวี๋ตกตะลึงเป็นเวลานานก่อนที่จะตอบสนอง
เขารู้แล้ว ต้องมีผู้บงการที่ควบคุมทุกอย่างในซากปรักหักพักนี้
มิฉะนั้น สัตว์อสูรมายาทุกประเภทจะปรากฏตัวในจุดเดิมตลอดได้ยังไงกัน?
แม้ว่าซืออวี๋จะไม่รู้ว่าเปลือกหอยในสารบัญทักษะเป็นสัตว์อสูรประเภทไหน แต่เขาก็เดาได้ว่ามันไม่อ่อนแอ
ท้ายที่สุด เจ้าของมิติฝึกสัตว์อสูรนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักฝึกสัตว์อสูรตำนาน
สำหรับนักฝึกสัตว์อสูรตำนานแล้ว พวกเขาเป็นตัวตนที่มีคุณสมบัติในการควบคุมสัตว์อสูรระดับผู้ปกครอง
เขาแค่ไม่รู้ว่าเปลือกหอยเป็นภาพมายาหรือว่ามันอยู่ที่ไหนสักแห่งในซากปรักหักพังนี้
หากมันเป็นสัตว์อสูร นั่นน่าประทับใจมาก มันต้องมีชีวิตอยู่มาแล้วอย่างน้อยสองสามพันปี
และหากเปลือกหอยเป็นภาพมายาและได้รับป้องกันในซากปรักหักพังโดยเจตจำนงของนักฝึกสัตว์อสูร มันก็ทรงพลังมากเช่นกัน
มันถูกตัดสินว่าเป็น ‘สัตว์อสูร’ โดยสารบัญทักษะและหายไปหลังจากที่เขาผ่านซากปรักหักพัง นี่หมายความว่าอย่างน้อยเปลือกหอยนี้ก็ฝึกฝนทักษะนั้นจนถึงขั้นสมบูรณ์แล้วใช่ไหม?
ซืออวี๋หันความสนใจของเขาไปที่ [ภูติมายา] นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทักษะสองคุณสมบัติ
หลังจากที่ได้เห็นหมายเหตุของทักษะแล้ว ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าระดับสูงนั้นต่ำเกินไปสำหรับทักษะนี้
ทักษะอันทรงพลังดังกล่าวเป็นเพียงระดับสูงงั้นเหรอ?
คลื่นสัตว์อสูรและแม้กระทั่งมังกรน้ำแข็งที่ถูกสร้างขึ้นมาทำให้ซืออวี๋ปวดหัวอย่างมาก ในความคิดของเขา อย่างน้อยที่สุด มันก็ต้องเป็นทักษะระดับสุดยอดหรือแม้กระทั่งระดับเทวะ
ท้ายที่สุด หากเขาสามารถสร้างสัตว์์อสูรเทวะขึ้นมาได้สองสามตัว เขาก็คงจะอยู่ยงคงกระพัน
ทว่าเมื่อเขาเห็นครึ่งหลังของหมายเหตุ ซืออวี๋ก็เข้าใจได้ว่าทำไมทักษะนี้จึงอยู่เพียงระดับสูงเท่านั้น
ทักษะนี้มีเงื่อนไขมากเกินไป และไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เขาสร้างสิ่งที่เขาต้องการได้
มันไม่ได้สร้างจากอากาศอันบางเบา หลักการพื้นฐานของทักษะนี้ก็คือ ‘การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม’
ผู้ใช้สามารถจินตนาการได้อย่างกล้าหาญ ทว่าหากเขาต้องการทำให้จินตนาการเป็นจริง เขาจะต้องจ่ายในราคาที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น แม้กระทั่งเปลือกหอยก็ไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรน้ำแข็งได้โดยตรง มันต้องใช้หนวดของมังกรน้ำแข็งแท้จริงเป็นสื่อกลาง
ยิ่งกว่านั้น มันก็ไม่มีร่างกายที่สมบูรณ์ของมังกรน้ำแข็ง อย่างน้อยที่สุด มังกรน้ำแข็งที่เชี่ยวชาญแค่กรงเล็บหักเหน้ำแข็งและพลังแห่งมังกรนั้นอ่อนแอเกินไป
ถึงกระนั้น อีเลฟเว่นก็เกือบพ่ายแพ้…
กล่าวโดยย่อแล้ว เมื่อเทียบกับทักษะในระดับเดียวกันแล้ว ทักษะนี้มีเงื่อนไขในการใช้งานสูงมากยิ่งกว่า มันฝึกฝนยากกว่าเช่นกัน ทว่าข้อดีของมันก็คือความสามารถของมันยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์
“ทักษะนี้ดูจะเหมาะสมกับหนอนไหมเขียวมาก”
นี่เป็นเหตุผลที่ซืออวี๋เลือกที่จะจำลองมัน
เมื่อเขามอบทางเลือกให้แก่หนอนไหมเขียว มันได้เลือกทั้งหมดสามคุณสมบัติ : มิติ จิตวิญญาณ และมังกร
เดิมทีแล้ว ซืออวี๋วางแผนที่จะหาหนึ่งหรือสองคุณสมบัติ
อย่างไรก็ตาม ทักษะใหม่นี้ดูเหมือนจะเข้ากับเจตจำนงและนิสัยของหนอนไหมเขียวได้อย่างสมบูรณ์!
มันชอบฝันและกลายเป็นสิ่งต่างๆ ในความฝันเหล่านั้นไม่ใช่เหรอ?
หลังจากเรียนรู้ภูติมายา มันยังสามารถทำให้จินตนาการในความฝันเป็นจริงได้
จินตนาการที่กลายเป็นความจริงก็คือพลังของคุณสมบัติมิติ
และมังกร… เปลือกหอยนั่นเพิ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีสร้างมังกรมายา
แม้ว่ามันจะไม่ได้กลายเป็นมังกรแท้จริงและไม่สามารถจำลองทักษะระดับสุดยอดของเผ่าพันธุ์มังกรได้… แต่ด้วยทักษะนี้และวัสดุพิเศษบางอย่าง มันอาจสามารถยืม ‘คราบ’ ของมังกรเพื่อสวมใส่ได้ชั่วคราว
ในชั่วพริบตา ทางเลือกทั้งสามก็ได้สำเร็จแล้ว
มิติและจิตวิญญาณเป็นรากฐาน และมังกรจะถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการโดยใช้ทักษะนี้
“เหมาะมาก ทักษะนี้เหมาะกับหนอนไหมเขียวมาก…”
นี่เป็นทักษะที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก ซืออวี๋รู้สึกว่าหากเขาสามารถเพิ่มแต้มทักษะนี้จนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ ผลลัพธ์ที่ได้จะสร้างความประหลาดใจ
ท้ายที่สุด มันก็มีคุณสมยบัติมิติ
หากทักษะนี้ถูกใช้เป็นแกนหลักและพัฒนาไปในทิศทางแห่งคุณสมบัติมิติและจิตวิญญาณ หนอนไหมเขียวจะวิวัฒนาการไปเป็นอะไร?
ผีเสื้อความฝันที่สามารถสร้างทุกอย่างได้?
ซืออวี๋จำไม่ได้เลยว่ามีสัตว์อสูรที่คล้ายกันในธรรมชาติหรือไม่
“อู๋!!!”
“อู๋!!!”
บางทีอาจเป็นเพราะซืออวี๋เสียสมาธินานเกินไป อสูรกินเหล็กจึงไมาสามารถรอได้อีกต่อไป
“อู๋!!” ทำไมนักฝึกสัตว์อสูรของมันจึงจ้องมองจุดที่ภาพมายาหายไปล่ะ? ยังคงมีไข่มุกหินอยู่ที่นั่น
“ใช่แล้ว ลูกปัดหิน…”
ซืออวี๋รู้สึกตัวและมองไไปที่ลูกปัดหินในเปลือกหอย
นี่อาจเป็นไข่มุกของเปลือกหอย? บางทีมันอาจจะสามารถทุบเป็นผงและกินได้?
เขาหยิบลูกปัดหินขึ้นมา จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ในขณะที่เขาหยิบลูกปัดหินขึ้นมา สมองของซืออวี๋ก็ดังกึกก้อง การมองเห็นของเขาดูราวกับจะสามารถมองอเห็นทั้งมิติของซากปรักหักพังได้
…
ที่อื่นในซากปรัดกหักพัง…
นักฝึกสัตว์อสูรทหารในชุดลายพรางมองดูยักษ์เกราะน้ำแข็งที่หายไปตรงหน้าเขาด้วยความสับสน
เขาและสัตว์อสูรของเขามองหน้ากัน คู่ต่อสู้หายไปไหนกัน
ในตอนนี้พวกเขากำลังต่อสู้กับยักษ์เกราะน้ำแข็งอยู่อย่างเห็นได้ชัด ทำไมคู่ต่อสู้ถึงหายไปจากสายตาของพวกเขาอย่างกะทันหันล่ะ?
ราวกับว่าพวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว ทว่าสถานการณ์จริงก็คือไม่มีค่ายกลเทเลพอร์ตสำหรับการไปสู่ด่านต่อไป
สถานการณ์นี้ยังปรากฎขึ้นกับนักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นที่กำลังพยายามผ่านด่าน
พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อภาพมายาของสัตว์อสูรตรงหน้าพวกเขาหายไปอย่างกะทันหัน
“นี่คือ…”
ในขณะนี้ ซืออวี๋ดูเหมือนจะยืนอยู่ในมุมมองพระเจ้าและเห็นทุกอย่างในซากปรักหักพัง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ซืออวี๋ตกตะลึงอย่างแท้จริง
ราวกับว่าเขาผู้ที่ถือไข่มุกหินสามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงในซากปรักหักพังได้
ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทุกอย่างภายในซากปรักหักพัง ตัวอย่างเช่น ในขณะนี้ นอกจากนักฝึกสัตว์อสูรเช่นพวกเขาแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นในซากปรักหักพัง ไม่มีร่องรอยของเปลือกหอยเลย ราวกับว่ามันหายไปจากซากปรักหักพังนี้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนั้น ซืออวี๋ยังค้นพบคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็งและหินไร้ตัวตนจำนวนมากในบางพื้นที่ จำนวนของพวกมันมหาศาลจนทำให้เขาตกตะลึง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากผ่านทุกด่านแล้ว ข้าจะกลายเป็นเจ้าของซากปรักหักพังและได้รับสิทธิ์ในการควบคุมซากปรักหักพัง?”
ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ภายในซากปรักหักพังเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง
ที่โลกภายนอก…
ภายใต้สีหน้าอันตกตะลึงของทุกคน รูปปั้นหินตัวที่หกสว่างขึ้น
“มันสว่าง รูปปั้นหินตัวที่หกสว่าง ซืออวี๋ต้องผ่านด่านที่หกแล้ว!” ผู้บัญชาการเหอตะโกนจากข้างนอก
“ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน!”
ข้างเขา ประธานเฟิงมีความสุขมาก
เขาผ่านได้อย่างแท้จริง
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่เากิดอะไนรขึ้นข้างใน ทว่าซืออวี๋ก็ยอดเยี่ยมมากก
ในขณะนั้นเอง รูปปั้นหินก็สว่างขึ้น มันเทียบเท่ากับการตะโกนบอกทุกคนข้างนอกว่าซืออวี๋ได้กวาดล้างหกด่านและถอดรหัสซากปรักหักพังแล้ว
“บัดซ*...”
นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนสิ้นหวัง
พวกเขาไม่ได้มีความสุขเช่นเดียวกับประธานเฟิง แต่พวกเขากลับรู้สึกผิดหวังและอิจฉาอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ทำไมไม่ใช่พวกเขาที่ผ่านซากปรักหักพัง…
ซืออวี๋ทรงพลังมากพอแล้ว เขาจะได้รับประโยชน์อะไรในด่านที่หกกัน?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนก็รู้สึกอิจฉามากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ฝูงชนรู้สึกอิจฉา รูปปั้นหินทั้งหกก็แตกสลาย และผู้คนข้างในก็ถูกเทเลพอร์ตออกมา
คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ท้าทายที่เข้ามาก่อนที่ซืออวี๋จะท้าทายด่านที่ห้า หลังจากที่ซืออวี๋เข้าไปก็ไม่มีใครตามเข้าไปอีก พวกเขาทุกคนต่างรออยู่ข้างนอกเพื่อดูผลลัพธ์การต่อสู้ของซืออวี๋
ในขณะนี้ คนกลุ่มนี้และสัตว์อสูรของพวกเขาต่างก็ถูกเทเลพอร์ตออกไปอย่างกะทันหันและยังคงตกตะลึงเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ทำไมข้าถึงถูกเทเลพอร์ตออกมาอย่างกะทันหันล่ะ?”
“ยักษ์เกราะน้ำแข็งหายไปไหนกัน?”
“สัตว์อสูรของข้าสามารถออกมาได้โดยไม่ต้องเข้าไปในมิติฝึกสัตว์อสูรได้ยังไงกัน?”
พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็ค้นพบกลุ่มคนที่รออยู่รอบนอก เช่นเดียวกับรูปปั้นหินทั้งหกที่สว่างไสวแต่แตกร้าว ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง
“ลงมาก่อน” ผู้บัญชาการเหอตะโกนออกมา
“บอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเจ้าถึงออกมาพร้อมกันล่ะ?”
“ข้ากำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรดุร้าย อย่างไรก็ตาม มันกลับหายไปอย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าข้าจะถูกไล่ออกมาจากซากปรักหักพัง”
“ข้าเช่นกัน”
ผู้คนที่ถูกเทเลพอร์ตออกมากล่าวทีละคน
“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้น?” หนึ่งในพวกเขาเอ่ยถามผู้บัญชาการเหอเกี่ยวกับสถานการณ์
ทำไมรูปปั้นหินถึงสว่างและแตกร้าวล่ะ???
ผู้บัญชาการเหอเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะกล่าวว่า “ซืออว๊๋ได้เข้าไปในซากปรักหักพังต่อจากพวกเจ้าและผ่านด่านที่ห้า บางทีเขาอาจจะผ่านด่านที่หกไปแล้วก็ได้”
“แต่ไม่ว่ายังไง มารอดูว่าจะเป็นยังไง เราจะเข้าใจเองเมื่อเขาออกมา” เมื่อเขากล่าวจบ เหล่าทหารก็อ้าปากกว้าว
ทั้งโลกภายนอกต่างก็เงียบงัน ทุกคนมองไปที่ค่ายกลเทเลพอร์ต
ในซากปรักหักพัง
ซืออวี๋ผู้ที่ถือลูกปัดหินตกตะลึงเมื่อเขาตระหนักได้ว่าเขาสามารถบังคับให้คนอื่นเทเลพอร์ตออกไปได้
สิ่งนี้เป็นตัวควบคุมซากปรักหักพังนี้อย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ มันอยู่ในมือของเปลือกหอยมายา แต่ตอนนี้ เมื่อเขาชนะมัน เปลือกหอยมายาจึงสลายไป… และลูกปัดหินก็กลายมาเป็นของเขาเหรอ?
ดังนั้นสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความจริงทางประวัติศาสตร์ของเมืองทุ่งน้ำแข็งเหรอ?
ร่องรอยทางประวัติศาสตณ์เหล่านั้นต้องการให้เขารู้อะไรผ่านซากปรักหักพังนี้กัน?
ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก ทว่าเขาก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจคิดเรื่องนี้หลังจากผ่านไปสักพัก
“อีเลฟเว่น เข้ามาที่กระเป๋าของข้า”
ซืออวี๋เรียกอีเลฟเว่นผู้ที่ดูสับสน อีเลฟเว่นคลานเข้าไปในกระเป๋าของซืออวี๋ในทันที
ซืออวี๋ถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรนำอีเลฟเว่นกลับเข้าไปในมิติฝึกสัตว์อสูร… ในอนาคต อีเลฟเว่นสามารถอยู่ข้างนอกในรูปแบบนี้ได้ มันค่อนข้างน่ารัก
เขาไม่กลัวคนอื่นถามว่าทำไมอสูรกินเหล็กของเขาถึงทำเช่นนี้ได้
เขาจะบอกพวกเขาว่าไม่ต้องถาม นี่เกี่ยวกับการปลุกสายเลือดโบราณในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการและปลุกทักษะเผ่าพันธุ์ใหม่… หากพวกเขาต้งการทำแบบเดียวกัน พวกเขาสามารถไปที่นั่นและลองดูได้…
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน