บทที่ 62 คริสตัลสีแดงเพลิง
บทที่ 62 คริสตัลสีแดงเพลิง
หนึ่งวันต่อมา
เฉินเต้าหยวนมาถึงตลาดหยกขาวอย่างเงียบ ๆ และแลกเปลี่ยนรูปแบบป้องกันและค่ายลกับเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยาน
ครั้งนี้ทั้งคู่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าพวกเขาจะออกจากตลาดหยกขาวชั่วคราว
พวกเขาเพียงแต่สั่งให้เฉินเต้าหยวนระวังผู้คนจากศาลาสมบัติพิสุทธิ์ เมื่อคนเหล่านั้นก่อปัญหา พวกเขาก็ไม่ต้องยั้งมือ เขาสามารถเปิดใช้งานรูปแบบป้องกันและค่ายกลต่างๆในตลาดเพื่อสอนบทเรียนให้พวกเขาได้
แน่นอนว่าคงจะดีที่สุดถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
เฉินเต้าหยวนผจญภัยอยู่ข้างนอกมาตลอดหลายปี ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างฉลาดและรู้ทันในหลายๆสิ่ง เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้เขาก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมทันทีและพูดว่า "ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าจะทำอย่างไร"
“เอาล่ะ ข้าจะฝากเรื่องไว้ที่นี่ให้พี่เต้าหยวน”
…..
เมื่อพวกเขาทั้งสองมองหน้าที่ให้เฉินเต้าหยวนแล้ว พวกเขาก็ไม่อ้อยอิ่งอีกต่อไป หลังจากที่พวกเขาปลอมตัวแล้ว พวกเขาก็ออกจากตลาดหยกขาวและบินไปยังเหมืองทองคำสีแดงเข้ม
สองวันต่อมา
ณ ทางเข้าเหมือง
เจียงเฉิงซวน, เฉินหรู่หยาน, เฉินเต้าหมิงและซูเฉียนเหอรวมตัวกันที่นี่แล้ว
ในขณะนี้ทั้งสี่คนได้ตรวจสอบทางเข้าและสภาพแวดล้อมของเหมืองอย่างระมัดระวังแล้ว
หลังจากยืนยันว่าบริเวณรอบๆปลอดภัยแล้ว เฉินเต้าหมิงก็มองไปที่ทุกคนแล้วพูดว่า
"เอาล่ะ พวกเราเข้าไปสำรวจเหมืองด้วยกันกันเถอะ"
"ตกลง!"
เจียงเฉิงซวนและอีกสองคนไม่มีข้อโต้แย้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในเหมือง ซูเฉียนเหอก็หยิบแผ่นค่ายกลสองสามแผ่นออกจากกระเป๋าของเขาและวางไว้ที่ทางเข้าและพื้นที่โดยรอบ
เขาทำเช่นนี้เพื่อซ่อนเหมืองได้ชั่วคราว
หลังจากทำเสร็จ ทั้งสี่คนก็เข้าสู่เหมืองทองคำอย่างเป็นทางการ
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในเหมือง เจียงเฉิงซวนและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกถึงธาตุไฟที่ร้อนแรงและแผดเผาอยู่รอบๆตัวพวกเขา
แสงสีแดงเข้มกระเพื่อมอยู่ในอากาศ
และพวกเจียงเฉิงซวนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งด้านเหนือศีรษะ ด้านข้าง และแม้แต่ใต้เท้าของพวกเขา มีหินสีแดงที่มีเปลวไฟวูบเป็นประกายออกมาเป็นครั้งคราว
เมื่อประกายไฟกระทบกับพลังปราณแท้ที่ปกป้องรอบตัวพวกเขา มันก็ทำให้เกิดเสียงดังฉ่าทันที
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้
นี่เป็นเพียงเพราะพวกเขาเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง
แต่หากเป็นมนุษย์ธรรมดเข้ามาที่นี่ แม้แต่เป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามนุษย์ก็ยังกลายเป็นเถ้าถ่านทันทีด้วยเปลวไฟและอุณหภูมิที่ร้อนแรงนี้
พวกเขาเดินเข้าไปข้างหน้าเรื่อยๆ
ตอนนี้เจียงเฉิงซวนและคนอื่น ๆ มีหินสีแดงเข้มที่มีขนาดต่างกันอยู่ในมือพวกเขาไม่มากก็น้อย
หินนี้นอกจากอุณหภูมิที่สูงมากแล้ว พื้นผิวของหินเหล่านี้ยังถูกปกคลุมไปด้วยชั้นโลหะแวววาวอีกด้วย
มันเป็นสิ่งที่มีได้เฉพาะเหมืองนี้ ทองคำธาตุไฟสีแดงเข้ม!
อย่างไรก็ตาม คุณภาพของทองคำธาตุไฟสีแดงเข้มที่พวกเขาเก็บมานั้นไม่ดีนัก อย่างมากก็เป็นเพียงระดับ 1 ขั้นกลางเท่านั้น
แม้ว่ามันจะเป็นสมบัติที่ดีสำหรับผู้ฝึกตนระดับการปรับแต่งพลังปราณ แต่มันก็ไม่ใช่สมบัติสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน
พวกเขายังคงเดินไปข้างหน้าต่อไป
จากนั้นจู่ๆ ตรงหน้าเจียงเฉิงซวนและคนอื่นก็มีสัตว์อสูรหลายชนิดปรากฏตัวขึ้น พวกมันเป็นเหมือนงูเหลือม นกอินทรี เสือโคร่ง เสือดาว และมนุษย์
แต่อย่างไรก็ตาม พวกมันทุกตัวถูกล้อมรอบด้วยชั้นของเปลวไฟสีแดงเข้ม และเปล่งรัศมีที่เย็นชาพร้อมกันเจตนาสังหารออกมา
มันเป็นสัตว์อสูรที่ประจำเหมือง อสูรเพลิงสีแดง!
อสูรเพลิงสีแดงเหล่านี้ไม่มีสติปัญญามากนัก
ทันทีที่พวกมันเห็นเจียงเฉิงซวนและคนอื่น ๆ พวกมันก็กำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นสิ่งนี้เจียงเฉิงซวนและอีกสามคนก็โต้ตอบและต่อสู้กลับทันที
ในชั่วพริบตา พวกเขาก็สังหารอสูรเพลิงสีแดงระดับ 1 เหล่านี้จดหมด
จากนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็เดินหน้าต่อไป
ขณะที่พวกเขาเดินลึกเข้าไป คุณภาพของทองคำในเหมืองก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อกมับความแข็งแกร่งของอสูรเพลิงสีแดงที่ปรากฏตัวขึ้นขว้างทางพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
เมื่อถึงตอนที่พวกเขาสังหารอสูรเพลิงสีแดงระดับ 2 เจียงเฉิงซวนและอีกสามคนก็มาถึงพื้นที่หลักของเหมืองแห่งนี้แล้ว
พวกเขามองเห็นได้ว่าตรงบริเวณแกนกลางของเหมืองมีเนินดินสีแดงเข้มซึ่งสูงหลายร้อยฟุต
มีของเหลวคล้ายลาวาไหลอยู่รอบๆ เนินดิน ราวกับว่ามันยังมีชีวิตอยู่
“นั่นคือ…”
สีหน้าตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูเฉียนเหอ
เจียงเฉิงซวนและเฉินเต้าหมิงหันกลับมามองเขาทันที
เฉินเต้าหมิงกล่าวว่า “ผู้อาวุโสซู ท่านรู้ไหมว่าเนินดินนี้คืออะไร”
ซูเฉียนเหอพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เนินดินสีแดงเข้มตรงหน้าเราน่าจะเป็นภูเขาไฟสีแดงเพลิง”
“ภูเขาไฟสีแดงเพลิง?”
"ใช่"
ซูเฉียนเหอพยักหน้ายืนยัน
“ว่ากันว่าเหมืองทองคำสีแดงเข้มที่มีภูเขาไฟสีแดงเพลิงนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตเป็นเหมืองทองคำสีแดงเข้มขนาดใหญ่ในที่สุด
อย่างน้อยที่สุดก็สามารถกลายเป็นเหมืองทองคำขนาดกลางได้
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือ ด้วยภูเขาไฟสีแดงเพลิงนี้จะทำให้เหมืองสามารถหลอมกลั่นคริสตัสสีแดงเพลิงออกมาทุกๆ 300 ปี”
“คริสตัสสีแดงเพลิง?”
การแสดงออกของเจียงเฉิงซวนและเฉินเต้าหมิงเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินคำนี้จากซูเฉียนเหอ
เป็นที่รู้ดีว่า สิ่งของที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยผู้ฝึกตนบุกทะลวงเข้าสู่ระดับปราการม่วงนั้นไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากยาเมฆาม่วง
ซึ่งมันสามารถช่วยให้ผู้ฝึกตนเพิ่มความสำเร็จในการบุกทะลวงเข้าสู่ระดับปราการม่วงได้เกือบ 50%
ในขณะเดียวกัน ก็สามารถปกป้องร่างกายและจิตวิญญาณของผู้ฝึกตนได้ แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในการทะลวงขอบเขต เขาก็จะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก เขาแค่ต้องพักฟื้นอีกสักสองสามปีเพื่อพยายามครั้งที่สอง
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนั้นยังมีไอเทมจิตวิญญาณอีกห้ารายการที่เป็นประเภทเดียวกันแต่ต่างธาตุกัน ที่สามารถช่วยให้ผู้ฝึกตนบุกทะลวงเข้าสู่ระดับปราการม่วงได้
พวกมันได้แก่คริสตัลไม้มังกรฟ้าที่เป็นธาตุไม้, คริสตัลสีแดงเพลิงที่เป็นธาตุไฟ, คริสตัลวิญญาณปฐพีที่เป็นธาตุดิน, คริสตัลทองจักรพรรดิ์ขาวที่เป็นธาตุโลหะ และคริสตัลเต่าดำที่เป็นธาตุน้ำ
แม้ว่าพวกมันจะไม่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพเท่ากับยาเมฆาม่วง แต่พวกมันยังสามารถเพิ่มความน่าจะเป็นที่จะทำให้ผู้ฝึกตนสามารถบุกเข้าสู่ระดับปราการม่วงได้ 30%
แต่หากผู้ฝึกตนมีของทั้งห้าอย่างนี้พร้อมกันมียาเมฆาม่วง เขาสามารถบุกทะลวงเข้าสู้ระดับปราการม่วงได้สำเร็จเกือบ 90%
แม้ว่าเขาจะล้มเหลว แต่ด้วยการคุ้มครองของยาเมฆาม่วง เขาจะไม่ตายอย่างแน่นอน เพราะด้วยความแข็งแกร่งของระดับปราการม่วงถ้าล้มเหลวในการบุกทะลวงมีโอกาสตายสูงมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ไอเทมจิตวิญญาณที่แตกต่างกันของธาตุทั้งห้านี้ยังเป็นวัสดุที่ล้ำค่าอย่างยิ่งอีกด้วย
พวกมันสามารถใช้เป็นวัสดุหลักในการปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ระดับ 3 หรือแม้แต่ระดับสูงขึ้นไปได้
ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเจียงเฉิงซวน, เฉินเต้าหมิงและคนอื่นๆ ก็คือตระกูลเฉินกำลังจะร่ำรวยแล้วในครั้งนี้
ความคิดที่สองคือภูเขาสีแดงเพลิงของเหมืองนี้ต้องถูกเก็บเป็นความลับไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
คริสตัลสีแดงเพลิงเป็นไอเทมจิตวิญญาณระดับ 3 อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในบรรดาไอเทมจิตวิญญาณระดับ 3
แม้ว่าคนที่อยู่ในระดับปราการม่วงเมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็ต้องการที่จะฉกฉวยมันไปเป็นของตัวเองอย่างแน่นอน
ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ตระกูลเฉินจะต้องปกป้องเหมืองนี้ให้ได้