บทที่ 24 คำสาบาน
บทที่ 24 คำสาบาน
“ลุงลูโดล่อทหารเรือและหายตัวไปแล้ว พี่ชายอวนิชาเสียชีวิตไปพร้อมกับกลุ่มโจรสลัด และป้าอเมเลียเสียชีวิตด้วยน้ำมือของไซเฟอร์โพลแห่งรัฐบาลโลก”
“พวกเราทำอะไรผิดเหรอ? นับตั้งแต่วันที่เราเกิด เราก็เป็นส่วนหนึ่งของชาวลูนาเรีย เราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คนธรรมดาต้องการจับเราเพื่อเงินรางวัล และรัฐบาลโลกต้องการใช้เราเพื่อการวิจัย พวกเขาแค่ต้องการได้รับอำนาจมากขึ้น”
“โจรสลัดคนนั้นยังทนอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งในสี่ของชั่วโมงเท่านั้น แต่เชย์น่าและผมต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องแบบนั้นเป็นเวลาตั้งครึ่งปี!”
คิงพูดถึงสิ่งที่เขาประสบ และชื่อที่เขาพูดถึงซึ่งจากไปแล้วตอนนี้ก็มีญาติของเขาด้วย รวมถึงพ่อแม่ของเขาและเชย์น่าด้วย
การทรมานที่พวกมันทดสอบความอดทนของเขานั้นเจ็บปวดมาก ยาที่ไม่รู้จักไหลผ่านเลือดของเขาไปยังทุกเซลล์ของร่างกาย และความเจ็บปวดแบบเดียวกับการโดนเจาะกระดูกสามารถสัมผัสได้จากทุกส่วนของผิวหนัง เขาลืมไปแล้วว่าเขาอดทนมันได้อย่างไร และความคิดเดียวในใจก็คือเขาต้องการเอาชีวิตรอด
เขาต้องการแก้แค้น เขาต้องการหาดินแดนที่ชาวลูนาเรียสามารถอยู่ได้อย่างอิสระ
นี่คือสิ่งที่เขาได้ฝังอยู่ในใจของเขา โดยปกติแล้วเขามักจะอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก และเขามักจะเห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยและใบหน้าที่แสดงความเกลียดชังในความฝันของเขา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมองควีนด้วยแววตาที่ชั่วร้ายในตอนนั้น
เขาไม่มีความประทับใจที่ดีต่อนักวิจัยคนใดจากสถาบันนั้น แม้ว่าโครงการของควีนจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับพวกเขาก็ตาม
เปลวไฟที่อยู่ข้างหลังเขาลุกโชน และมีรอยแตกหลายจุดปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของเรือเนื่องจากแรงอันท่วมท้นจากฝ่ามือของเขา ภายใต้ลมทะเล คลื่นถูกพัดขึ้นไปบนท้องฟ้า และน้ำก็ตกลงมาที่เท้าของคิง สาดกระเซ็นไปทั่วดาดฟ้าเรือ
เขาเคยเห็นการทรยศและการสมรู้ร่วมคิดมานับไม่ถ้วน เห็นความน่าสะพรึงกลัวของความโลภ ประสบการณ์การต่อสู้และการหลบหนีนับไม่ถ้วน ซึ่งทำให้ผู้คนมองข้ามปัญหายิบย่อยได้ง่าย เช่น เรื่องอายุ
ปัจจุบันคิงอายุเพียงสิบสี่ปี และเชย์น่าอายุน้อยกว่าเขาสองสามเดือน เธอเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 14 ปีเมื่อไม่นานมานี้ และเธอใช้เวลานอนอยู่บนโต๊ะทดลองที่เย็นเหมือนน้ำแข็งในสถาบันวิจัยที่มีแต่กำแพงล้อมรอบเธอ
พวกเขาเป็นเพียงเด็กสองคน แต่พวกเขากลับต้องแบกรับสิ่งที่พวกเขาไม่ควรแบกรับไว้ตั้งแต่แรก
“ผมขอโทษครับ ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ผมปล่อยให้ท่านฟังเรื่องไร้สาระมากเกินไป ผมไม่ควรบ่นเกี่ยวกับมัน”
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะกังวลเรื่องต่างๆมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เชย์น่ามานี่สิ เจ้าแอบฟังมาตั้งนานแล้ว”
อาร์เซอุสไม่ได้หันกลับมา แต่พูดข้างหลังเขาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แม้ว่าเขาจะสูญเสียศิลาแห่งชีวิตไปเกือบหมด แต่ประสาทสัมผัสของเขาก็ยังคงเฉียบแหลมมาก
“ข้าไม่ได้แอบฟังนะ ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าแค่อยากจะเรียกคิงมากินข้าว”
“แล้วนั่นจำเป็นต้องร้องไห้เหรอ? และอัลเบอร์ เจ้าเองก็น้ำตาไหลอาบหน้าเช่นกัน”
“ส่วนผสมมีไม่มาก หนูก็เลยทำแกงอยู่ และนี่ก็เพราะว่าตอนหั่นหัวหอมมันมีกลิ่นฉุน”
“มันคือน้ำทะเล ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์”
ทั้งคู่ปฏิเสธทันที ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง แต่เมื่อมีใครก็ตามสูญเสียญาติไปทั้งหมดเมื่ออายุสิบสี่ปี จะไม่เสียใจเมื่อนึกถึงพวกเขาได้อย่างไร
“เชย์น่า อัลเบอร์ ฟังให้ดี หนี้เลือดต้องจ่ายด้วยเลือด และทุกสิ่งที่พวกเขาเป็นหนี้ชาวลูนาเรียจะต้องจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ข้าขอสาบานในนามอันศักดิ์สิทธิ์ของอาร์เซอุส เจ้าจะได้เห็นความรุ่งโรจน์ของชาวลูนาเรียที่ส่องสว่างบนท้องฟ้าของเรดไลน์อีกครั้ง”
ผู้คนบูชาต่อพระเจ้าและพระเจ้าก็ตอบรับการบูชานั้น ในตอนแรก เขาได้มอบอำนาจให้กับชาวลูนาเรียเพื่อจุดประสงค์ของเขาเอง แต่ชาวลูนาเรียได้ปกป้องเขาไว้จนถึงคนสุดท้าย แม้ว่าจะเหลือเพียงคิงและเชย์น่าเท่านั้น พวกเขาก็ไม่เคยยอมแพ้ การอุทิศตนนี้คุ้มค่ากับคำสัญญา
เปลวเพลิงที่อยู่ด้านหลังทั้งคู่ส่องสว่างบนดาดฟ้าเรือ และในขณะนี้ ไฟใหม่ที่มีชื่อว่าความหวังได้ถูกเพิ่มเข้าไปในเปลวเพลิงของชาวลูนาเรียทั้งสอง
อาร์เซอุสทำหน้าที่เป็นจิตแพทย์และช่วยให้ทั้งสองแสดงอารมณ์ออกมา แต่สิ่งต่างๆยังไม่จบสิ้นเนื่องจากสถานะของคิงไม่เหมาะกับเขา
บางครั้งฝันร้ายในวัยเด็กก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ตลอดชีวิต จึงไม่ถือว่ามันเป็นเพียงฝันร้ายอีกต่อไป เมื่อครั้งเยาว์วัยก็ได้เห็นความมืดมนของโลกใบนี้เสียแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้อนาคตของพวกเขามืดมนได้
“อัลเบอร์ เจ้ารู้สึกยังไงบ้างหลังจากที่ทรมานเขา”
“ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ แต่รู้สึกสบายใจมากหลังจากทำสิ่งนั้น”
โรคเครียดภายหลังเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ เห็นได้ชัดว่าหลังจากประสบกับสิ่งเหล่านี้ ฝันร้ายทางจิตใจบางส่วนก็ยังคงอยู่ในหัวใจของคิง และการนำความเจ็บปวดที่เขาประสบมาสู่ผู้อื่นผ่านการทรมานสามารถบรรเทาความเครียดในหัวใจของเขาได้
ตอนนี้สามารถอธิบายได้แล้วว่า ทำไมควีนในไทม์ไลน์ดั้งเดิมถึงเรียกคิงว่าเป็น "คนนิสัยเสียที่ชอบทรมาน"
หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอาร์เซอุส เชย์น่าคงเสียชีวิตในสถาบันวิจัยไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คิง ซึ่งสูญเสียคนในเผ่าไปทั้งหมดจะมีนิสัยที่บิดเบี้ยว
คิงใช้การกระทำเหล่านี้เพื่อระบายอารมณ์ของเขา
“การระบายอารมณ์ของเจ้าอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าจมอยู่กับความรู้สึกนั้น เจ้าต้องควบคุมร่างกายของตัวเองแทนที่จะถูกควบคุมโดยร่างกาย” นี่คือโลกที่น่าเศร้า และแม้แต่พระมารดาผู้ศักสิทธิ์ก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ได้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันไม่สำคัญว่าศัตรูที่ถูกจับจะลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมเพียงใด หากสามารถระบายอารมณ์ของคิงได้ด้วยวิธีนี้ มันก็คุ้มที่จะให้เขาทำ ตราบใดที่เขาไม่พัฒนาเป็นคนที่รู้สึกมีความสุขที่ได้ทรมานผู้อื่น
“ไปพักผ่อนเถอะ.. จากนี้ไปถ้าเจ้ามีอะไรอยากจะเล่ากับข้า ข้าก็พร้อมรับฟัง ใกล้ถึงเวลาแล้ว ข้าจะไปดูว่าไคโดและคนอื่นๆเป็นยังไงบ้าง”
หลังจากประสบกับการทรมานของคิงแล้ว ไรเลธก็เล่าทุกอย่างที่เขารู้
ฐานทัพเรือของเซาท์บลูถูกทำลายโดยจอห์นจริงๆ และเขาก็ไปที่เซาท์บลูจริงๆ แต่เขาจากไปนานแล้ว
ในความเป็นจริงฐานทัพเรือล้มเร็วกว่าที่หนังสือพิมพ์กล่าวถึง แต่เขาใช้ความสามารถของผลปีศาจของเขาจัดฉากมัน ซึ่งทำให้เวลาดูล่าช้า
“ฉันได้พบกับกัปตันจอห์นในหมู่เกาะซาบาโอดี เขาเห็นคุณค่าความแข็งแกร่งของฉัน ดังนั้นเขาจึงเชิญฉันเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดจอห์น และสั่งให้ฉันปลอมตัวเป็นเขาเพื่อรับสมัครลูกเรือที่นี่ และดึงดูดความสนใจของทหารเรือและโจรสลัดอื่นๆ ในขณะที่เขาจะมองหาสมบัติที่แท้จริง”
“เฮ้ ไอ้สารเลว เราไม่สนใจประสบการณ์ของแกกับจอห์น สิ่งที่เราต้องการถามคือจอห์นอยู่ที่ไหน แกเข้าใจไหม” ควีนมองดูในขณะที่เขาพูดอยู่พักหนึ่ง แต่เขาไม่ได้พูดอะไรที่เป็นประโยชน์เลย และควีนก็อดไม่ได้ที่จะใจร้อนเล็กน้อย
“แกอยากให้ฉันตามหาเด็กเลวคนนั้นแล้วให้เขากลับมาคุยกับแกไหม”
“ไม่ อย่านะได้โปรด! ใช่แล้ว กัปตันจอห์นให้อะไรบางอย่างกับฉัน และฉันจะตามหาเขาด้วยสิ่งนั้น มันเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในหมวกของฉัน!”
ควีนฉีกหมวกของเขาออก และข้างในมีกระดาษแผ่นหนึ่งชี้ไปทางทิศเหนือ
“นี่คือ…วีเวิ่ลการ์ดของจอห์นเหรอ? พี่ไคโด มันจะง่ายกว่ามากที่จะหาจอห์นด้วยสิ่งนี้”
ปุรุรุรุ ปุรุรุรุ ปุรุรุรุ ~
ปุรุรุรุ ปุรุรุรุ ปุรุรุรุ ~
ในเวลานี้แมลงสื่อสารซึ่งพวกเขาพบก่อนหน้านี้จากร่างกายของเขา ก็เริ่มส่งเสียงดัง