นักรบพันธุุ์ผสม บทที่ 254 - โจร
หลังจากที่ออกมาจากท่อระบายน้ำช่องทางเดียวกันกับที่เข้าไปเมื่อเช้านี้ เดวิดเลือกที่จะกลับไปยังโรงแรมแห่งเดิมก่อน ภารกิจครั้งนี้สำเร็จด้วยดี เหลือเพียงการกลับไปรายงานผล และส่งมอบป้ายประจำตัวของสมาชิกแกงค์เหยี่ยวดำให้กับหอภารกิจเท่านั้น แต่เมื่อตรวจสอบตารางการบินของเรือเหาะ พบว่ายังต้องรออีกหลายชั่วโมงกว่าจะมีเรือเหาะที่มุ่งหน้ากลับสถาบันบินผ่านเมืองนี้ นั่นทำให้เขาตัดสินใจเปิดห้องของโรงแรมเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายอีกครั้ง
เดวิดพักผ่อนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าออกไปยังลานโล่งนอกเมือง จุดรับส่งของเรือเหาะโดยสารจะเป็นจุดเดียวกัน เขาจ่าย 200 คะแนนจีโนเพื่อจองเที่ยวบินให้แวะมารับกลับสถาบันเอาไว้แล้ว ที่ต้องทำตอนนี้คือออกไปยังจุดนัดหมายให้ทันเวลาเท่านั้น และเดวิดเลือกที่จะเดินทางผ่านป่าดาร์กดอร์มไปด้วยเท้าเหมือนกับตอนขามา มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้เส้นทางอื่นเลยแม้แต่น้อย
เขาเคลื่อนที่ในป่าด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก พยายามใช้ความระมัดระวังหลบเลี่ยงไม่ให้เจอกับฝูงแมลงตัวเหม็นพวกนั้นอีก เดวิดไม่ต้องการที่จะนั่งดมกลิ่นแปลก ๆ นั่นไปตลอดการเดินทางบนเรือเหาะ ยังคงเหลือเวลาอีกพอสมควรก่อนที่เรือเหาะโดยสารจะมาถึงเขาไม่ได้เร่งรีบอะไรนัก
จนเมื่อมาถึงบริเวณที่มีก้อนหินใหญ่ตั้งอยู่ เดวิดชะงักฝีเท้าของตัวเองลง หันหน้ามองดูรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาลอย ๆ
“ฉันไม่ได้มีเวลามากนัก พวกแกจะออกมาเองหรือว่าจะให้ฉันลากคอออกมา?” หลังจากกล่าวจบ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างนึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาแอบซุ่มโจมตีแบบนี้ จากกลิ่นอายที่สัมผัสได้ น่าจะเป็นคนที่มาจากในเมืองซีดอร์มนี่เอง
ทั่วทั้งบริเวณยังมีแต่ความเงียบ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ร่างของชาย 3 คนก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากแนวป่า
“แกรู้ตัวได้ยังไง?” ชายวัยกลางคนร่างสูงเป็นคนเอ่ยถามออกมา น้ำเสียงฟังดูเยือกเย็น และแฝงอยู่ด้วยความดุร้ายไม่น้อย เขาเป็นคนที่เดินนำหน้าออกมา ชายอีก 2 คนที่อยู่ด้านหลังอายุน่าจะไม่เกิน 30 ปี คนหนึ่งไว้เครายาวจนถึงหน้าอก ส่วนอีกคนมีผมสีบลอนด์ยาวปิดลงมาถึงต้นคอ
ฝีเท้าของพวกเขาที่ก้าวย่างมานั้นเงียบกริบ ทั้ง ๆ ที่เดินผ่านป่าที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้อันรกทึบ มันแสดงถึงทักษะการเคลื่อนไหวที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
“พวกแกต้องการอะไร?” เดวิดไม่คิดที่จะตอบคำถามของพวกเขา แต่กลับยิงคำถามของตัวออกไปแทน อันที่จริงเขาจำชายคนหนึ่งกลุ่มนี้ได้ ชายคนนี้นั่งอยู่ที่บาร์ตอนที่เดวิดเข้าพักที่โรงแรมในวันแรกนั่นเอง
“หือ? พวกฉันต้องการอะไรอย่างนั้นหรือ? อืม?” ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะชี้มือไปที่ชายเคราดก
“บอกอย่างนี้ดีกว่า เพื่อนฉันคนนี้ชื่อ ‘โมวิลล์’ เป็นคนที่มีความสามารถบางอย่างที่น่าทึ่ง เขาสามารถรับรู้ได้ว่าเงินอยู่ที่ไหน เหมือนว่าเขาจะดมกลิ่นเหรียญดาวได้ แม้ว่ามันจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม” ชายคนนี้กล่าวออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับก้าวเดินแยกออกมาจากกลุ่ม แต่ไม่ได้ตรงมาหาเดวิดโดยตรง เขาเดินแยกออกมาทางซ้ายมือ คำพูดนั้นยังไม่หยุดลงง่าย ๆ
“ตอนที่เขาเห็นแกในโรงแรม เขารีบมาหาฉันและบอกบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อให้ฟัง” หลังจากที่เดินเยื้องออกไปถึงจุดที่อยู่ด้านหลังของเดวิด เขาก็หยุดยืนอยู่กันที่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการคุมเชิงไม่ให้เดวิดหนีออกไปได้
“เขาบอกว่าในตัวของแกน่าจะมีเหรียญดาวอยู่เป็นจำนวนมาก เท่าที่รู้สึกได้น่าจะมากกว่า 100,000 เหรียญเลยทีเดียว แน่นอน! ฉันไม่ได้เชื่อเขาเต็มที่หรอก เด็กอย่างแกจะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง แต่ในเมื่อเขายืนยันอย่างหนักแน่น ฉันก็ได้แต่คล้อยตามเท่านั้น ถ้าแกไม่รังเกียจช่วยส่งกระเป๋าเป้มาให้ตรวจดูหน่อยได้มั้ย ฉันอยากรู้ว่ามันมีเหรียญดาวอยู่เยอะขนาดนั้นจริงหรือไม่ เมื่อไม่นานมานี้เงินของพวกเราเพิ่งหายไป มันก็ประมาณ 100,000 เหรียญดาวพอดีเหมือนกัน” เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบแล้ว ชายวัยกลางคนก็เผยเจตนาออกมาด้วยใบหน้าที่ชั่วร้าย และคำพูดของเขาทำให้ชายอีก 2 คนหัวเราะออกมาเบา ๆ
เดวิดหันไปมองหน้าชายวัยกลางคนก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “อ้อ! พูดง่าย ๆ ก็คือจะปล้นฉันใช่มั้ย?” แต่ในใจนั้นเริ่มหงุดหงิด จอมโจรอย่างเขาโดนดักปล้น นี่มันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าจริง ๆ
“ไม่! ไม่ใช่เลย! พวกเราแค่จะขอตรวจสอบดูหน่อยว่ามันใช่เงินของเราหรือเปล่าเท่านั้นเอง ปล้น!? แกพูดเรื่องเลวร้ายแบบนั้นออกมาได้อย่างไร?” คำปฏิเสธถูกพ่นออกมาอย่างรวดเร็วและไหลลื่น ชายคนนี้ไม่ใช่ตัวดีแม้แต่น้อย
“เลิกพูดไร้สาระเถอะ ไม่มีทางที่พวกแกจะได้แตะกระเป๋าของฉันแน่!” เดวิดยังกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แขนทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมากอดกันเอาไว้ที่หน้าอกของตัวเอง
สีหน้าของชายวัยกลางคนกลายเป็นดำมืด สายตาของเขาดุร้ายมากขึ้น น้ำเสียงเริ่มดุดันและแข็งกร้าว “ทำไม? วิธีนุ่มนวลไม่ชอบ ต้องให้ใช้กำลังอย่างนั้นใช่มั้ย” ไม่ว่าจะมองแบบไหน นี่คือสถานการณ์ 3 ต่อ 1 ต่อให้เจ้าเด็กนี่เป็นอัจฉริยะแค่ไหน ก็ไม่มีทางเป็นเฟสเซอร์ 2 ยีนได้ด้วยอายุเท่านี้แน่ การปล้นครั้งนี้น่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องง่าย ๆ เท่านั้น
แม้ว่าท่าทางที่เฉยเมย และน้ำเสียงที่ราบเรียบของเดวิดจะทำให้รู้สึกสังหรณ์ถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างอยู่บ้าง แต่มันก็น่าจะเป็นแค่ความกังวลที่มากเกินไป ชายวัยกลางคนส่ายหัวช้า ๆ ก่อนจะกล่าวเสียงเข้มออกมา
“ตายไปก็จำเอาไว้ล่ะ แกเป็นคนหาที่ตายเอง ลงมือเลย!”
ชาย 2 คนที่ตอนนี้อยู่ด้านหลังกระจายตัวออกตั้งแต่ตอนที่เดวิดหันไปมองชายวัยกลางคนแล้ว ตอนนี้เขาตกอยู่ใจกลางของวงล้อมอย่างสมบูรณ์ และเมื่อมองกวาดตาไปที่ทั้ง 3 คน เดวิดก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
โจรกลุ่มนี้เป็นเฟสเซอร์ทั้งหมด และพวกเขาทุกคนยกระดับด้วยยีนชนิดเดียวกัน นิ้วของพวกเขายืดยาวออกมาเกือบ 10 เซนติเมตร ขนหนางอกปกคลุมทั่วร่างกาย หลังจากที่กระตุ้นยีนของตัวเองแล้ว พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวเป็นวงกลม ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่การลงมือพร้อมกันเป็นครั้งแรกเลย
เดวิดยังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว เขาไม่ได้ประมาทหรือดูถูกการโจมตีของเฟสเซอร์ 3 คน แต่กำลังให้อีกฝ่ายเริ่มลงมือเพื่อทำการโต้กลับ และมันก็ไม่ใช่การรอที่ยาวนานเลย หลังจากที่เร่งความเร็วของตัวเองจนเต็มที่แล้ว ร่างทั้ง 3 ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพร้อมกันจาก 3 ทิศทาง ไม่เปิดเส้นทางให้เดวิดหลบหนีได้เลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อไม่มีทางหลบ เดวิดก็ตัดสินใจก้าวเท้าสวนไปด้านหน้า เขาโยกหัวเพียงเล็กน้อย ปล่อยให้กงเล็บที่มีกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนของพิษร้ายเฉียดแก้มไป ก่อนที่จะฟาดฝ่ามือสวนเข้าไปหาหน้าอกของฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วปานสายฟ้า คลื่นความร้อนที่เผาผลาญแผ่กระจายออกจากฝ่ามือ มันบังคับให้ชายวัยกลางคนที่เป็นเป้าหมายของฝ่ามือที่ร้อนแรงนี้ต้องฝืนหยุดตัวเองลง และยกกงเล็บอีกข้างมาพยายามปัดป้องเอาไว้ ในใจได้แต่หวังว่าการโจมตีของอีก 2 คนนั้นจะเข้าเป้า
แต่นี่เป็นเพียงกระบวนท่าหลอกล่อของเดวิดเท่านั้น เขาใช้จังหวะนี้บิดตัวอย่างรวดเร็ว กระตุ้นใช้ท่าเท้าพายุหมุนอ้อมตัวฝ่ายตรงข้ามไปทางด้านหลัง ปล่อยให้กงเล็บที่เล็งมาที่หัวและเอวของเขานั้นตะกายได้เพียงอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น
เมื่อเดวิดหลุดออกมาจากวงล้อมได้ และตำแหน่งการยืนของอีกฝ่ายกำลังสับสน เพราะต้องหยุดยั้งตัวเองไม่ให้ชนใส่กัน เขาก็ทำการโจมตีกลับอย่างไม่รอช้าทันที
“ลูกเตะพายุหมุน!”
ปัง! ปัง! ปัง!
หลังจากเสียงดังสนั่นขึ้น 3 ครั้งติดต่อกัน ร่างของโจรกระจอกทั้ง 3 ก็ลอยละลิ่วออกไป ก่อนที่จะตกลงพื้นในเวลาที่ใกล้เคียงกัน และพากันกระอักเลือดออกมาคำโต
ไม่รู้ว่าพวกเขาส่งสัญญาณกันอย่างไร หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขาร่วมงานกันมาหลายครั้งจนรู้ใจแล้วก็เป็นได้ เมื่อพวกเขาลุกกลับมายืนได้อีกครั้ง ทั้งหมดก็กระโจนขึ้นพร้อมกัน... แยกย้ายกันหนีเข้าป่าไปอย่างไร้ร่องรอย ความเร็วนั้นเหนือกว่าตอนที่พุ่งเข้าโจมตีเดวิดเสียด้วยซ้ำ