นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 83
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 83
"ทำไมสภาพเป็นแบบนั้น?”
เกล็นมองริมเมอร์ที่กำลังคุกเข่าอยู่ด้านหน้า
"สมดุลร่างกายของแกแย่ลงกว่าเดิม คราวนี้ไปทำอะไรมาล่ะ?”
"มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ”
"...ช่างเถอะ”
เกล็นขมวดคิ้ว เขาปล่อยพลังขนาดเล็กๆ เข้าไปในร่างกายริมเมอร์
วืด!
ความเจ็บปวดที่เกิดจากการสร้างสนามดาบค่อยๆ บรรเทาลง
“โอ้ว….”
ริมเมอร์อ้าปากค้าง
'เขาแข็งแกร่งขึ้นอีกเหรอ?’
เขารักษาริมเมอร์โดยใช้เพียงพลังเล็กๆ เท่านั้น เกล็นคงจะอยู่ในระดับกึ่งเทพเจ้าแล้ว
'เขาไปถึงแล้วแน่ๆ’
เกล็นไม่เคยแสดงพลังที่แท้จริงของเขามากว่าสิบปี ที่ผ่านมาเขาแสดงพลังเพียงส่วนหนึ่งของตัวเองเท่านั้น
วืด!
หลังจากที่ริมเมอร์รู้สึกว่ากล้ามเนื้อ กระดูกและอวัยวะภายในผ่อนคลายแล้ว พลังออร่าของเกล็นก็หายไป ร่างกายของเขาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
“ขอบพระคุณครับ!”
ริมเมอร์ก้มหัว
"ช่างเถอะ ฉันแค่ไม่อยากเห็นแกทำตัวอ่อนแอกว่าเดิมก็แค่นั้น”
"ฮ่าๆ โอเคๆ เชื่อก็ได้”
"หยุดเล่นแล้วเข้าเรื่องได้แล้ว”
"อา จริงด้วย”
ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นและยิ้ม
"ฉันรู้ว่านายอยากได้ยินข่าวคราวของหลานชายจะแย่แล้ว”
“……”
เกล็นปรายตามองลงไปที่ริมเมอร์
"อยากให้ฉันบอกหรือยังเอ่ย?”
ริมเมอร์หัวเราะคิกคัก
"มีบางอย่างที่น่าสนใจเกิดขึ้นระหว่างการทำภารกิจด้วย”
"น่าสนใจ?”
"ใช่ อีเดนมาปรากฎตัวที่หมู่บ้านเซบู”
"หมายความว่าไง?”
ม่านตาของเกล็นขยายตัว ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้เรื่องนี้
"หน่วยบัญชาการย่อยที่ออกสำรวจล่วงหน้าไม่ได้หาพวกเขาเจอ ดังนั้นจะยังไม่รู้ก็ไม่แปลก”
"เข้าประเด็นสักที”
"ก็ได้ งั้นฉันจะเล่าตั้งแต่แรก ฉันล่วงหน้าไปก่อนแล้วก็เจอปีศาจตาแดง จากนั้นก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไว้ก่อนและสนใจเด็กๆ ต่อมาก็..."
ริมเมอร์บอกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเซบูทั้งหมด
"...พอฉันกลับไปถึงที่หมู่บ้านอีกครั้งก็เจอกับราอนที่กำลังต่อสู้กับปีศาจกระหายเลือดด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส”
"ปีศาจกระหายเลือด? เขาทำได้ยังไง..."
"ใช่มั้ยล่ะ มันไม่สมเหตุสมผลเลย เด็กฝึกหัดอายุสิบห้าฆ่าปีศาจนักรบแล้วเอาตัวรอดจากปีศาจกระหายเลือดมาได้ ใครๆ ก็คงไม่เชื่อ แต่ว่านะ!"
ริมเมอร์ชูนิ้วชี้ขึ้น
"มันเกิดขึ้นจริงๆ ฉันอยู่ในเหตุการณ์และเด็กฝึกหัดกับชาวบ้านก็เห็นมันด้วยกัน ฉันมั่นใจว่านายจะเข้าใจได้ทันทีเมื่อได้เห็นเขา เขาอยู่ในระดับเชี่ยวชาญแล้ว”
"แกบอกว่าเขารอดมาได้ แล้วร่างกายเขาเป็นไงบ้าง?”
สายตาของเกล็นก็เต็มไปด้วยคำถามและความกังวล
"ขนาดฉันบอกข่าวดีขนาดนี้ก็ยังไม่พูดชมเขาอีก ฉันล่ะสงสารเขาจริงๆ”
"เงียบ ตอบคำถามของฉันมา”
"แขนซ้ายหัก กล้ามเนื้อฉีกขาด ได้ยินมาว่าเขาโดนหมัดเพราะพยายามช่วยหัวหน้าหมู่บ้าน”
“อืม…”
"ไม่ได้เห็นสีหน้าแบบนี้มานานแล้ว คงจะทั้งภูมิใจและเป็นห่วงสินะ”
"แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”
"ฉันใช้น้ำเอลฟรินกับเขา เขาน่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เร็วๆ นี้”
"นั่น..."
เกล็นหรี่ตา เอลฟรินคือต้นไม้โลกต้นที่สอง ซึ่งน้ำจากต้นของมันมีค่าอย่างมาก
"เพราะว่าเขาบาดเจ็บหนักมากต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน จะทำไงได้ล่ะ? แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเลยนะ”
ริมเมอร์ยักไหล่ของเขา
"ตอนนี้เด็กฝึกหัดอยู่ที่ไหน?”
"น่าจะมาถึงในอีกหนึ่งหรือสองวัน”
"จัดประชุมทันทีที่พวกเขากลับมา เชิญพวกหัวหน้าหน่วยมาด้วย”
“เข้าใจแล้วครับ”
โรเอ็นที่ได้ยินก็รีบตอบรับ
'ราอน เราได้กำไรกันเห็นๆ เลยล่ะ'
ริมเมอร์ยิ้ม
"ริมเมอร์”
"อ๊ะ ครับ?”
เสียงของเกล็นก็พูดขึ้นมาเมื่อเขาคิดว่ามันจบลงแล้ว
"ทำไมแกถึงไปที่นั่นด้วยตัวเอง?”
"ฉ...ฉันแค่อยากจะเห็นพัฒนาการของเด็กๆ...”
"อืม…"
เกล็นเกาคางเล็กเล็กน้อย
“ทำได้ดีมาก”
"โอ้ะ? ชมฉันเหรอ? อ่า ไม่ได้ยินคำนี้มาตั้งยี่สิบปี..."
"ก็เลิกทำตัวโง่สิ”
"ฮ่าๆๆ!”
ริมเมอร์ระเบิดเสียงหัวเราะ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเขาหัวเราะพร้อมกับเกล็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เรื่องราวต่างๆ เปลี่ยนไปได้ก็เพราะราอน
* * *
* * *
ใช้เวลาสิบห้าวัน เกล็นและเด็กฝึกหัดก็มาถึงประตูทางเข้าซีกฮาร์ท
ครืน!
ประตูเงินเหล็กขนาดใหญ่กำลังเปิดออก
นักดาบผู้เฝ้าประตูยืนนิ่งอยู่ข้างหลังประตู
พวกเขาแสดงสีหน้าที่เรียบนิ่งเหมือนเคย
แต่สายตาของนักดาบที่เฝ้าประตูเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความอยากรู้อยากเห็น
"ยินดีต้อนรับกลับมา”
น้ำเสียงของหัวหน้ายามเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เขาปฏิบัติกับพวกเขาอย่างสุภาพมากขึ้น
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”
ราอนโค้งคำนับที่ยามเฝ้าประตู
'ริมเมอร์ปล่อยข่าวไปแล้วสินะ’
มีเพียงริมเมอร์ที่ทำเรื่องนี้ได้เพราะคนจากหน่วยย่อยยังคงอยู่ที่หมู่บ้านเซบู
"ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องการพักผ่อน แต่พวกเจ้าทุกคนต้องไปที่คฤหาสน์หลักเพื่อพบท่านหัวหน้าตระกูลเสียก่อน”
"อ-อะไรนะครับ?"
"คฤหาสน์ของท่านหัวหน้าตระกูล?”
"ท่านหัวหน้าตระกูลกำลังรอพวกเราเหรอ?”
เด็กฝึกหัดเบิกตากว้าง
"ไปตอนนี้เลย”
หัวหน้ายามชี้ไปที่คฤหาสน์หลักและสั่งให้ยามปิดประตู
"ไปกันเถอะ”
ราอนพยักหน้าและเดินนำเด็กคนอื่นไปที่คฤหาสน์หลัก
ระหว่างทางก็พบกับสายตามากมายที่มองมาทางพวกเขา
ด้วยการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นทำให้ราอนสามารถได้ยินถึงคำพูดของพวกเขาด้วย
"นั่นเขาใช่มั้ย? ราอน ซีกฮาร์ทไง"
"เขาเอาชนะปีศาจนักรบได้จริงๆ เหรอ?”
"ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันได้ยินมาว่าเขาทนการโจมตีของปีศาจกระหายเลือดได้ด้วย”
"ฉันไม่รู้สึกถึงพลังของเขาเลย เขาอยู่ระดับเชี่ยวชาญจริงๆเหรอ? ดูเหมือนจะเป็นระดับผู้ใช้งานช่วงปลายซะมากกว่า”
"บางทีมันอาจจะเป็นข่าวปลอมจากริมเมอร์?”
"ริมเมอร์ไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย เขาขี้เกียจแต่เขา...”
พวกเขาเถียงกันเรื่องริมเมอร์ต่อ
“เฮ้อ”
รอนถอนหายใจเบาๆและเดินเข้าคฤหาสน์หลักไป
"ขอแสดงความยินดีกับการทำภารกิจสำเร็จลุล่วงนะครับ”
โรเอ็นโค้งคำนับให้พวกเขา คนรับใช้คนอื่นๆ ก็โค้งให้พวกเขาเช่นกัน
'แน่นอน…'
พวกเขาปฏิบัติตัวเหมือนเดิมเพราะพวกเขาเป็นมืออาชีพพอ
"ตามผมมาทางนี้ครับ ทุกท่านกำลังรออยู่”
"'ทุกท่าน'เหรอครับ....?"
"นอกจากท่านหัวหน้าตระกูลก็ยังมีท่านหัวหน้าหน่วยต่างๆ มาที่นี่ด้วย”
“อา…”
"ห-หัวหน้าหน่วย?”
"โอ้ ไม่นะ..."
เด็กฝึกหัดคร่ำครวญและเริ่มมีท่าทีประหม่า
"ทุกคนไม่ต้องกังวล เราแค่ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้นแหละ”
"ใช่แล้วล่ะครับ พวกคุณแค่ต้องถ่ายทอดประสบการณ์และสิ่งที่เห็นในระหว่างการปฏิบัติภารกิจเพียงเท่านั้น”
โรเอ็นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส
'เขาโดดเด่นจริงๆ’
เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเด็กชายที่มีความสามารถขนาดนี้
แม้จะเป็นเพียงเด็กแต่ราอนไม่ได้แสดงท่าทีขี้ขลาดออกมา เขาเข้าใจทุกอย่าง แต่เขาสามารถแสดงท่าทีสงบและยังทำให้คนอื่นๆ คลายความกังวลได้
"ทางนี้ครับ”
โรเอ็นโค้งคำนับเล็กน้อยและผายมือไปทางโถงทางเดินกว้าง
"ไปกันเถอะ”
ราอนตามเขามุ่งหน้าไปยังห้องโถงหลัก ประตูห้องโถงเปิดอ้าอยู่และมีแรงกดดันมากมายออกมาจากภายใน
“เฮ้อ”
ราอนถอนหายใจแล้วก้าวเข้าไป นอกจากชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แล้ว ก็มีนักดาบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนกำลังยืนเรียงแถวอยู่ด้านข้าง
'พวกเขาคือผู้บัญชาการซีกฮาร์ทและหัวหน้าหน่วยสินะ’
แรงกดดันของพวกเขาทำเอาราอนรู้สึกขนลุก พลังงานและจิตวิญญาณที่พวกเขาครอบครองอยู่นั้นแตกต่างจากคนทั่วไป
'แล้วก็…'
เกล็น ซีกฮาร์ท
พลังงานของเขามหาศาลเกินไปจนไม่แน่ใจว่าว่าอยู่ในระดับไหน
'น่ากลัวอะไรขนาดนี้’
คนที่มีพลังมหาศาลได้มารวมตัวกันจนเหมือนว่าเขาเป็นตัวประหลาดเพียงคนเดียวในที่แห่งนี้
"ทักทายท่านลอร์ด"
ราอนคุกเข่าที่ตรงกลางห้องโถง
"ทักทายท่านลอร์ด!”
เด็กฝึกหัดก็ก้มลงตามเขา
"เงยหน้าขึ้น”
พวกเขาทำตามคำสั่ง
“ราอน ซีกฮาร์ท”
"ครับ"
"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ที่หมู่บ้านเซบูตอนเกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดมา”
“เข้าใจแล้วครับ”
ราอนยืนขึ้นและเรียบเรียงความคิดของตัวเอง
"ผมรู้สึกว่ามีคนตามเราในตอนที่เราไปถึงหมู่บ้านเซบู ตอนแรกผมคิดว่าเป็นอาจารย์แต่ว่าไม่ใช่แบบนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น..."
ราอนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาของทุกคน
"...ทั้งหมดก็เพราะอาจารย์ริมเมอร์ได้มาช่วยไว้”
“……”
ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบ
"ท่านครับ”
คารุน ซีกฮาร์ท หรือลูกคนที่สองของเกล็นและพ่อของเบอร์เรนเอ่ยขึ้น
"ท่านคิดว่ามันสมเหตุสมผลเหรอครับ? เขาอายุแค่สิบห้าหรือสิบหกขวบเท่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะทนการโจมตีของปีศาจกระหายเลือดได้! นั่นมันเรื่องโกหกชัดๆ!”
"แต่ท่านพี่... หน่วยย่อยของเราได้พบร่องรอยของอีเดนตั้งหลายอย่าง”
"ข้าบอกว่าข้าเห็นมันกับตา เจ้ายังไม่เชื่ออีกเหรอ?”
ริมเมอร์ถอนหายใจและยกนิ้วขึ้นแคะหู
"เจ้านั่นแหละปัญหา! จะให้ข้าเชื่อได้ยังไงว่าเอลฟ์พิการอย่างเจ้าจะเอาชนะปีศาจนั่นได้! เอาหลักฐานมาให้ข้าดู..."
แคร๊ง!
ราอนโยนของสองชิ้นลงบนพื้น
หมวกโลหะวางอยู่ด้านหน้าเขา มันเป็นหมวกเกราะของปีศาจนักรบและปีศาจกระหายเลือด
"ปีศาจนักรบกับปีศาจกระหายเลือด..."
"จริงเหรอเนี่ย?”
“อา…”
ดวงตาของเหล่าหัวหน้าหน่วยกว้างขึ้น
"นั่นไม่ใช่ปัญหา! วิธีฆ่ามันต่างหากล่ะ! หึ ลอบโจมตีงั้นเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเด็กนั่นไม่ได้เป็นนักฆ่าเสียหน่อย”
ราอนบอกไม่ได้ว่าเขาเคยเป็นนักฆ่า
"ท่านครับ”
ราอนเงยหน้าขึ้นมองไปที่เกล็น
"ผมขอแสดงดาบให้ดูได้หรือไม่?”
เกล็นพยักหน้าเบามาก
“ขอบคุณครับ”
ราอนโค้งคำนับและชักดาบออกจากเอว เปลวไฟสีแดงเข้มปรากฏขึ้นบนดาบสีเงิน
ฟรึ่บ!
เปลวไฟลุกโขนจนทำให้ทั่วทั้งห้องโถงสว่างขึ้นมา
"ดาบออร่ากับไฟขนาดนั้น..."
"เคยได้ยินว่าไฟของเขามันเล็กมากแต่...”
"เขาอยู่ระดับเชี่ยวชาญแล้วเหรอ? อายุแค่นี้?”
"ร-ไร้สาระน่า..."
"ระดับของเขาเพียงพอที่จะสู้กับปีศาจนักรบได้”
ทั่วทั้งห้องโถงประหลาดใจ
"ข้าบอกเจ้าแล้ว เด็กนั่นเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ ”
ริมเมอร์หัวเราะ
การแสดงออกของเกล็น ซีกฮาร์ทดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนไปเลย แต่คนที่รู้จักเขาดีจะสังเกตเห็นว่ามุมของปากของเขากระตุกเล็กน้อย
วูบ!
ราอนลดดาบลง
"เท่านี้เพียงพอสำหรับการอธิบายหรือเปล่าครับ?”
ไม่มีใครตอบคำถามของเขา