ตอนที่แล้วบทที่ 74 ทางเลือกของบักกี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 76 สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด

บทที่ 75 การท้าทายซากปรักหักพังอีกครั้ง


วันที่ 26 เดือนสิงหาคม

หลังจากการเคลือบแข็งถึงขั้นสมบูรณ์ ในที่สุดซืออวี๋ก็ตัดสินใจที่จะท้าทายซากปรักหักพังอีกครั้ง

เป้าหมายของเขาคือการผ่านด่านที่ห้าและด่านที่หกในคราวเดียว!

หลังจากแจ้งแก่ประธานเฟิงแล้ว ซืออวี๋ก็มาถึงบริเวณรอบนอกของหุบเขา

“โปรดแสดงบัตรประจำตัวของเจ้า!”

หลังจากซืออวี๋มาถึง คิ้วของทหารก็กระตุก

เขาคือมือใหม่สัตว์ประหลาดที่ผ่านสี่ด่านในคราวเดียวและเชี่ยวชาญทักษะผสานในระดับฝึกหัด ทำให้ปริมาณการฝึกของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!

เขาหายไปครึ่งเดือน ไม่สิ ไปเตรียมตัวมาครึ่งเดือน ในที่สุดเขาก็มาที่นี่เพื่อท้าทายซากปรักหักพังอีกครั้งใช่ไหม?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทหารทุกคนจะรู้จักซืออวี๋ แต่เขาก็ยังต้องทำตามขั้นตอน

หลังจากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยหลายชั้น ซืออวี๋ก็เข้าไปในหุบเขา

สภาพแวดล้อมที่นี่ยังคงเหมือนเดิม แต่ก็ค่ายก็มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น

เห็นได้ชัดว่านักฝึกสัตว์อสูรที่มาพร้อมกับซืออวี๋ในครั้งก่อนเลือกที่จะอยู่ที่นี่และเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้

แม้ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะมีอิสระน้องลงและจำเป็นต้องฝึกฝนพร้อมกับเหล่าทหาร แต่อย่างน้ออยพวกเขาก็สามารถกินและนอนได้ ด้วยคำแนะนำของจ่านักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพและผู้คนจำนวนมากที่อายุเท่ากับเขา ทุกอย่างก็คุ้มค่า

เมื่อซืออวี๋มาถึง เขาก็พบปรากฏการณ์แปลกประหลาด

ชายหนุ่มใบหน้าซีดเซียวและมีกระเล็กน้อยกำลังใช้พรสวรรค์เสริมพลังสายลมเพื่อฝึกฝนทักษะใบมีดสายลมของผีเสื้อคริสตัลสายลม

เขายังไม่ถึงระดับมืออาชีพเลย เนื่องจากพละกำลังที่จำกัดของนักฝึกสัตว์อสูร พรสวรรค์เสริมพลังนี้จึงยากที่จะใช้ในการต่อสู้จริง เขาจึงทำได้เพียงแค่ใช้มันทุกวันเพื่อช่วยสัตว์อสูรในการฝึกฝนทักษะประเภทสายลม

แต่ถึงกระนั้น การใช้มันก็ต้องกินพละกำลังของนักฝึกสัตว์อสูร และนั่นก็ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

เพื่อที่จะพิชิตซากปรักหักพัง นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับเขาที่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก ท้ายที่สุด ซืออวี๋เองก็พยายามอย่างหนักเช่นกัน เขาใช้สารบัญทักษะเพื่อช่วยสัตว์อสูรของเขาเพิ่มแต้ม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ซืออวี๋สับสนที่สุดก็คือนักฝึกสัตว์อสูรผู้นั้นได้นำยาที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีออกมาหลังจากฝึกฝนมาได้สักระยะหนึ่ง มันคือแคปซูลสดชื่น เขายัดมันเข้าไปในปากโดยตรงและฝึกฝนต่อไป

ซืออวี๋ :“…”

ซืออวี๋ : “?”

เขาพยายามอย่างหนักเช่นนั้นเลยเหรอ?

การกินยาเช่นนี้… สุขภาพของเขาจะไม่เป็นไรเหรอ?

ควบคุมตัวเอง! พักผ่อนตามปกติไม่ดีกว่าเหรอ?

ด้วยเงินอันมหาศาล ซืออวี๋จึงไม่กินยาขยะเช่นแคปซูลสดชื่นอีกต่อไป ทว่าเขากลับกินอาหารเสริมจากธรรมชาติแทน

ใครเป็นผู้ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมนอกรีตเช่นนี้กัน?

“เขาคือซืออวี๋”

“ซืออวี๋อยู่ที่นี่”

แม้ว่าซืออวี๋จะมาอย่างเงียบเชียบ แต่ในปัจจุบัน เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในซากปรักหักพัง

ท้ายที่สุดแล้ว นอกเหน่อจากเขาก็ไม่มีนักฝึกสัตว์อสูรคนไหนเลยที่สามารถผ่านด่านที่สี่ได้

สำหรับด่านที่สาม มีอีกสองคนได้ผ่านมันในครึ่งเดือนที่ผ่านมาแล้ว

“ซืออวี๋… ในที่สุดเขาก็มาที่นี่อีกครั้ง”

ที่ไหนสักแห่งในค่าย เฉิงกงและอสูรเพลิงจันทราของเขากำลังเดินออกมา

นอกเหนือจากเขา เฉินไค แพทย์เฉียวเหลียง และคนอื่นที่เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังกระแสอาหารเสริมก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาออกมาดูซืออวี๋

ซืออวี๋หายไปครึ่งเดือน พวกเขาจึงคิดว่าซืออวี๋ยอมแพ้ในการกวาดล้างซากปรักหักพัง

“หยุด หยุด หยุด!!!”

เมื่อกลุ่มคนต้องการล้อมซืออวี๋ พี่ใหญ่ก็มาถึง

ผู้อาวุโสเหอ เขาทำให้ทุกคนตกตะลึงและเป็นคนแรกที่หัวเราะเมื่อเขามาถึงด้านข้างของซืออวี๋

“เจ้ามาแล้วเหรอ?”

“เฒ่าเฟิงบอกข้าแล้ว เจ้าต้องเตรียมตัวอีกเล็กน้อยไหม? เขาจะรีบมาที่นี่”

“ข้าจะเข้าไปก่อน” ซืออวี๋กล่าวกับผู้บัญชาการเหอ

เขาไม่ใช่คนที่ชอบการรอคอย เขาเตรียมตัวมานานมากพอแล้ว และเขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นซากปรักหักพังด่านที่หกแล้ว…

แน่นอน สิ่งที่เขาต้องการเห็นไม่ใช่บอสในด่านที่หก แต่เป็นรางวัลในด่านที่หก

“ตกลง ไปกันเถอะ!” ผู้บัญชาการเหอกล่าวเสริมว่า “ดีเลย คราวนี้เราจะผ่านด่านที่ห้า!”

“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะให้ทั้งทีมร้องเพลงเพิ้อเป็นการฉลองให้แก่เจ้า”

นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนสงสัยว่าเรื่องนี้เหมาะสมหรือไม่

ซืออวี๋ก็เงียบลงเช่นกัน

ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย

เสียงร้องเพลงของกลุ่มชายฉกรรจ์นั้นน่าฟังยังไงกัน? กองทัพนักฝึกสัตว์อสูรของเขาไม่มีทหารหญิงเลย ดังนั้นอย่าทำให้ตัวเองขายขี้หน้าเลย

“งั้นข้าจะไปก่อน”

ซืออวี๋มองไปทางรูปปั้นหินในซากปรักหักพัง ยังคงมีรูปปั้นหินที่คุ้นเคยทั้งหกตัว พวกมันสี่ตัวสว่างเล็กน้ย และอีกสองตัวสลัว

เขาไม่ลังเลอีกต่อไปและเดินตรงไปยังค่ายกลเทเลพอร์ตอย่างเด็ดเดี่ยว ทหารที่ดูแลการลงทะเบียนไม่ได้ให้ซืออวี๋ลงทะเบียนในครั้งนี้และปล่อยให้ซืออวี๋ผ่านไปโดยตรง

ในขณะนี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ซืออวี๋ พวกเขาสงสัยมากว่าซืออวี๋สามารถผ่านด่านที่ห้าของซากปรักหักพังได้หรือไม่หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน

หนึ่งปะทะร้อย นั่นคือ…

จากนั้น ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ซืออวี๋ก็หายตัวไปจากโลกภายนอกอย่างรวดเร็ว

ในซากปรักหักพัง ด่านที่ห้า

ซากปรักหักพังนี้มี ‘จุดบันทึก’ ซืออวี๋ยืนอยู่บนยอดเขาหิมะที่คุ้นเคยและเฝ้าดูอย่างเงียบสงบในขณะที่พายุหิมะพัดผ่านและสัตว์อสูรดุร้ายก่อตัวขึ้นมา

หมาป่าหิมะ หมูป่าเขี้ยวน้ำแข็ง อสูรเกราะน้ำแข็ง อสรพิษเกราะน้ำแข็ง วานรหิมะ ยักษ์หินน้ำแข็ง แมงป่องหยกน้ำแข็ง ผีเสื้อคริสตัลหิมะ ภูติน้ำแข็ง ยักษ์หินสันเขาน้ำแข็ง…

มีสัตว์อสูรดุร้ายธาตุน้ำแข็งทั้งหมดสิบประเภทจากเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติ ระดับการเติบโตของพวกเขาอยู่ที่ประมาณระดับปลุกตื่นขั้นแปดถึงขั้นสิบ และจำนวนของพวกมันก็มีถึงร้อยตัว

กล่าวตามตรง ไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันได้เลย

หากนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดสามารถทนต่อคลื่นสัตว์อสูรหนึ่งปะทะร้อยได้ เขาจะยังเป็นนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดดไหม?

ก่อนหน้านี้ ซืออวี๋และอีเลฟเว่นถูกบังคับให้จากไปหลังจากเห็นฉากนี้ แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว

แม้ว่าซืออวี๋จะไม่รู้ว่านักวางแผนที่งี่เง่าของซากปรักหักพังนี้หวังว่านักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดจะโจมตีซากปรักหักพังนี้ยังไง แต่นักวางแผนที่งี่เง่าคงไม่คาดคิดอย่างแน่นอนว่าสัตว์อสูรจะชเี่ยวชาญทักษะการปราบปรามในระดับปลุกตื่น และมันยังเป็นการปราบปรามชั้นชำนาญ!

“อีเลฟเว่น!”

อีเลฟเว่นเดินออกมาจากมิติฝึกสัตว์อสูรตามคำสั่งของซืออวี๋

มันยืนอยู่บนภูเขาหิมะและมอลงไปยังสัตว์อสูรดุร้ายด่านล่างพร้อมกับซืออวี๋ผู้ที่ไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์

อีเลฟเว่น : ( ́) อู๋!

เวลาแห่งการแก้แค้นมาถึงแล้ว!

การต่อสู้ที่ทำให้พวกเขาต้องยอมแพ้… การต่อสู้นี้จะเป็นบันไดที่นำพาพวกเขาก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง!

บูมม!

“อู๋!!!!!!!”

อีเลฟเว่นร้องคำรามออกมา และอากาศรอบตัวมันก็สั่นไหว!

ภายใต้ฝ่าเท้าของมันได้มีคลื่นกราบปรามที่มองไม่เห็นแผ่ออกมา กวาดผ่านออกไปด้านนอกยอดเขาหิมะ!!

“อู๋!!!”

เสียงคำรามของอีเลฟเว่นดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรดุร้ายทุกตัวในทันที อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกมันจะทันได้ตอบสนอง คลื่นโปร่งใสก็พัดผ่านไปราวกับพายุและโจมตีสัตว์อสูรดุร้ายทุกตัว!

บู่ซซ!!!

หลังจากเสียงระเบิดดังก้องในหูของสัตว์อสูรดุร้ายทุกตัว นั่นก็ราวกับว่าโลกตกสู่ความเงียบสงบ

จากนั้นก็เกิดฉากอันน่าตกตะลึงสุดขีด

ปัง…

เสียงของร่างที่ร่วงหล่นตามมา เสียงเหล่านี้มากมายรวมกันจนแม้กระทั่งเสียงหิมะและเสียงสายลมก็ไม่สามารถกลบพวกมันได้

ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง…

หลังจากเสียงดังนับร้อยครั้ง สัตว์อสูรดุร้ายหลายร้อยตัวในสภาพแวดล้อมของภูเขาหิมะก็ล้มลงบนพื้นและกลายเป็นธาตุน้ำแข็งซึ่งกระจายหายไป

ซืออวี๋มองไปที่ฉากตรงหน้าเขาและรู้สึกภาคภูมิใจ เขามีออร่าที่โดดเด่นมาก

แค่นั้นเหรอ?

“อู๋”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ซืออวี๋จะตื่นเต้น เสียงอันอ่อนแอของอีเลฟเว่นก็ดังมาจากด้านข้าง

ปัง

อีเลฟเว่นนั่งลงบนพื้นและลูบหัวของมันด้วยความเหนื่อยล้า

มันอดไม่ได้ที่จะเคาะหัวของมัน… มันเจ็บปวดมาก

อู๋ อู๋ อู๋ ใช้พลังจิตสูงไปเล็กน้อย มันรู้สึกว่าสัตว์อสูรดุร้ายกลุ่มนี้สังหารได้ยากยิ่งกว่าปีกแห่งนภาเสียอีก

“จำนวนนั้นมากไปอย่างแท้จริง แต่สิ่งต่างๆ กลับดียิ่งกว่าที่ข้าคาดไว้” ซืออวี๋กล่าวออกมา

ในตอนแรก เขาคิดว่าหากเขาไม่สามารถสังหารพวกมันได้ในรอบแรก เขาจะพักและจัดการพวกมันทีละตัว

แต่ในตอนนี้ จากลักษณะแล้ว ระดับการเติบโตของอีเลฟเว่นเพิ่มขึ้นสองขั้น นอกจากนี้ หลังจากผ่านการแช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์วิวัฒนาการ สภาพของมันก็ดียิ่งกว่าที่คิดไว้เสียอีก!

หนึ่งปะทะร้อย สังหารในชั่วพริบตา!

คลื่นนี้อยู่ยงคงกระพัน!

“เจ้าพักผ่อนก่อน ข้าจะลงไปดูว่ามีของอะไรไหม” ซืออวี๋ดูราวกับว่าเขาจะเดินเข้าไปในดันเจี้ยนอย่างแท้จริง

“อู๋” ภายใต้คำแนะนำของซืออวี๋ อีเลฟเว่นก็พยักหน้าทันทีและเริ่มย่อตัวลงในทันที

หดตัว หดตัว หดตัว… ในวินาทีต่อไป มันก็หดตัวลงเหลือสิบเซนติเมตร

ซืออวี๋ก้มลงและหยิบอีเลฟเว่นน้อยขึ้นมา เขาวางมันลงในกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ เผยให้เห็นเพียงร่างกายท่อนบนและหัวของอีเลฟเว่นเท่านั้น

“เจ้านอนได้สักพักหนึ่ง เราควรจะผ่านด่านนี้ได้ ไม่มีอันตรายอีกต่อไป” ซืออวี๋มองไปที่ค่ายเทเลพอร์ตที่สว่างขึ้นในระยะไกล

“อู๋!”

อีเลฟเว่นส่ายหัวของมัน นอนไม่หลับ!

ราวกับว่ามันกำลังจะบอกว่า “อย่าคิดว่าจะปิดบังรางวัลโดยไม่บอกมัน”

มันยังต้องการดูว่าสมบัติเช่นไหนที่ตกลงไปในด่านนี้

การพักผ่อนหลังจากดูสมบัตินี้ก็คงไม่สายเกินไป

“ตกลง ตกลง ตกลง…” ซืออวี๋ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำอีเลฟเว่นมาดูด้วย

อีกสักพักต่อมา

ซืออวี๋ผู้ที่ยืนอยู่ข้างค่ายกลเทเลพอร์ต มองไปที่หินไร้ตัวตนห้าก้อนที่เขาหยิบขึ้นมาจากด่านนี้และตกอยู่ในห้วงความคิดลึก

“อ่า นี่…”

เขาควรจะดีใจหรือผิดหวังล่ะ?

ไม่มีสมบัติใหม่และยังคงเป็นหินไร้ตัวตนซึ่งเป็นทรัพยากรมิติ

ด่านที่สามคือหินไร้ตัวตนหนึ่งก้อน ด่านที่สี่คือหินไร้ตัวตนสามก้อน และด่านที่ห้าคือหินไร้ตัวตนห้าก้อน…

ในขณะนี้ เขามีหินไร้ตัวตนทั้งหมดเก้าก้อน เขารู้สึกว่าไม่เป็นปัญหาที่จะมอบสิ่งเหล่านี้ให้แก่บักกี้

แน่นอน ดูเหมือนว่าหนอนไหมเขียวจะย่อยหินไร้ตัวตนลำบากเช่นกัน เขารู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ได้เหมือนกับหนอนไหมเขียว เขาควรจะบดมันเป็นผงและผสมมันในน้ำให้หนอนไหมเขียวกินดีไหม?

“อู๋…” ในขณะนี้ เมื่อเห็นว่าเป็นหินไร้ตัวตนอีกครั้ง อีเลฟเว่นก็ไม่สนใจอีกต่อไปและหลับตาลงเพื่อนอนหลับ

การหลับลึกขั้นชำนาญควบคู่ไปกับคริสตัลพลังงานและผลไม้ฟื้นฟูจากกระเป๋าของซืออวี๋ทำให้ความเร็วการฟื้นฟูพละกำลังของมันรวดเร็วอย่างมหาศาล คาดว่ามันจะฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ในอีกสักพักหนึ่ง ท้ายที่สุด ขีดจำกัดสูงสุดของพละกำลังของสัตว์อสูรในระดับปลุกตื่นนั้นไม่สูงมากนัก

เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะเข้าสู่ด่านที่หก

ในขณะเดียวกัน

ในโลกภายนอก

เมื่อซืออวี๋เข้าไปในซากปรักหักพังในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา รูปปั้นหินตัวที่ห้าก็สว่างขึ้น ทุกคนตกตะลึง

“บัดซ*?”

“พวกเขาไม่ได้บอกว่ามีสัตว์อสูรดุร้าย 100 ตัวในด่านที่ห้าเหรอ?”

“เกิดอะไรขึ้นกัน??”

ผู้คนนับไม่ถ้วนเบิกตากว้างและคิดไม่ออก

ประธานเฟิงมาถึงช้า เขาฟังการสนทนาของฝูงชนอย่างเงียบเชียบและมองไปทางรูปปั้นหินด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

คนเหล่านี้รู้อะไรกัน? นั่นคือการปราบปรามขั้นชำนาญ!!!

ภายใต้ออร่าแห่งราชา คู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่าในระดับเดียวกันเป็นเพียงขยะ!

ในตอนนี้ เขาสงสัยว่าซืออวี๋และคนอื่นได้เข้าสู่ด่านที่หกหรือไม่ ด่านสุดท้ายนี้จะเป็นอะไรกันแน่??

หลายคนคาดเดาเกี่ยวกับด่านที่หก

บางคนเดาว่ามันเป็นสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการที่แข็งแกร่ง เช่น เผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการชั้นสูงสิบตัว

บางคนเดาว่ามันเป็นสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการพร้อมกับคลื่นสัตว์อสูรดุร้าย นั่นเทียบเท่ากับการรวมด่านที่สามและด่านที่ห้าเข้าด้วยกัน

บางคนเดาว่ามันเป็นสัตว์อสูรมีการเติบโตระดับเหนือธรรมชาติ…

มีคนไร้สาระยิ่งกว่านั้นซึ่งบอกว่ามีลูกสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์คอยป้องกันด่านสุดท้าย

ไม่ว่าด้วยหนทางใด นั่นก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับนักฝึกสัตว์อสูร

และเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซืออวี๋ผู้ที่เข้าสู่ด่านที่หกก็กล่าวได้เพียงแค่ว่าความคิดของพวกเขาตื่นเขินมากเกินไป

เมื่อมีอีเลฟเว่นอยู่ข้างเขา พวกเขามองดูมังกรที่ก่อตัวขึ้นจากเกล็ดหิมะนับไม่ถ้วนอย่างเงียบงัน และตกอยู่ในห้วงความคิดลึก นี่น่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว

“บัดซ* มันคือมังกรน้ำแข็ง…”

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด