ตอนที่แล้วบทที่ 70: ความวุ่นวายบนโลกล้วนเกิดขึ้นจากคนอย่างพวกเรา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 72: หากปราศจากสถานการณ์บีบคั้น เจ้าคงมิรู้ได้ว่าบิดามารดาของเจ้ารวยเพียงใด!

บทที่ 71: สาวใช้ทั้งสองของข้า ได้โปรดให้อภัยความหยาบคายของพวกนางด้วย!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 71: สาวใช้ทั้งสองของข้า ได้โปรดให้อภัยความหยาบคายของพวกนางด้วย!

โม่หรูซวงมองดูเจ้าหญิงน้อยด้วยความประหลาดใจแล้วจึงกล่าวถามว่า “นางเป็นผู้ใดกัน?”

ศิษย์น้องของนางเป็นยอดฝีมือระดับแปด แม้ว่าเขาจะไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากในโลกวรยุทธ์ แต่เขาก็เป็นอัจฉริยะในหมู่ศิษย์ทั้งหลาย ถึงกับมีการคาดไว้ว่าเขาจะสามารถไปถึงขั้นยอดฝีมือโดยกำเนิดได้ สตรีที่อยู่ตรงหน้าพวกนางนั้นดูเด็กกว่าศิษย์น้องของนางด้วยซ้ำ ทว่าด้วยการชกอันแผ่วเบาเพียงครั้งเดียว นางกลับทำให้เขากระเด็นไป บ่งบอกได้เลยว่านางได้มาถึงระดับที่เจ็ดแล้ว โม่หรูซวงยิ่งไม่อยากจะกล้าคาดเดาถึงระดับของอีกฝ่าย หากนางเป็นยอดฝีมือต้นกำเนิดระดับ 6...

ดวงตากลมโตที่สดใสของเจ้าหญิงตัวน้อยแฝงความเจ้าเล่ห์อยู่ในนั้น ทันใดนั้น นางก็โน้มตัวไปหาหลินเป่ยฟานและก้มศีรษะลงด้วยความเขินอาย เสียงของนางนุ่มนวลและอ่อนโยนยิ่ง “ข้าเป็นเพียงคนรับใช้ของนายน้อย รับผิดชอบเรื่องการชงชาและรินน้ำชาให้กับนายน้อยเท่านั้น!”

คำพูดของสตรีนางนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจยิ่ง! กัวเส้าส้วยไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้แน่นอน สตรีโฉมงาม น่ารักและอายุน้อยผู้นี้เป็นเพียงสาวใช้ของหลินเป่ยฟานเนี่ยนะ! เด็กสาวที่มีความสามารถและทรงพลังเช่นนี้กลับเป็นเพียงสาวใช้คอยรินน้ำชา! เช่นนั้นตัวเขาควรเป็นอะไรกัน?

“นางเป็นสาวใช้ของเจ้าจริงๆ เหรอ?” กัวเส้าส้วยเอ่ยถามออกมาเพราะไม่เชื่อหูของตน

หลินเป่ยฟานลูบศีรษะของเจ้าหญิงน้อยแล้วกล่าวอย่างนอบน้อม “ใช่แล้ว! เสี่ยวยุนเป็นคนหุนหันพลันแล่นไปเล็กน้อยและอ่อนแอมาก ได้โปรดยกโทษให้นางด้วย!”

"พรู้ดดดด!"

กัวเส้าส้วยมองไปทางหลี่ซือซือต่อ

“แล้วนางผู้นี้เป็นใคร?” หลี่ซือซือก้มศีรษะลง เห็นเจ้าหญิงน้อยกำลังส่งสายตามีเลศนัยให้ ด้วยท่าทางอันมากด้วยมารยาท นางยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับโน้มตัวไปทางหลินเป่ยฟานแล้วกล่าวว่า “ข้าก็เป็นสาวใช้ของนายน้อยเช่นกัน แต่มีหน้าที่อุ่นเตียงและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้!”

โม่หรูซวงจึงถามด้วยความประหลาดใจ “แล้วท่านมีวิชายุทธ์บ้างไหม?”

หลี่ซือซือส่ายศีรษะตอบ “ไม่มี!”

"เดชะบุญ!" โม่หรูซวงและกัวเส้าส้วยแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่เจ้าหญิงน้อยพลันกล่าวออกมา “แต่พี่สาวซือซือเป็นผู้มากความสามารถ! นางเก่งทั้งด้านบทกวี จิตรกรรม ประดิษฐ์อักษรและบรรเลงบทเพลง! หากนางเข้าสอบจักรพรรดิ การจะเป็นบัณฑิตขั้นสูงก็ไม่ยากเลย!”

ทั้งสองถึงกับตกตะลึงอีกครั้ง! สาวงามผู้นี้มีความสามารถถึงขั้นเป็นบัณฑิตขั้นสูง!

ต้องกล่าวบอกก่อนว่าการสอบของจักรพรรดิมีระดับความสำเร็จสามขั้น สมาชิกบัณฑิต บัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือกและบัณฑิตขั้นสูง การเป็นบัณฑิตขั้นสูงนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก แม้นจะไม่ได้เป็นขุนนาง ก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีสถานะสูงอยู่ดี

ส่วนบัณฑิตระดับกลางหรือบัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือกก็น่าทึ่งมากเช่นกัน พวกเขาเป็นขุนนางระดับสูงในประเทศ ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากราชสำนัก และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าพวกเขา!

ผู้คนมากมายเวลาทั้งชีวิตเพื่อพยายามสอบให้ผ่านระดับบัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือก และผู้ใดที่ผ่านก็จะรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากยันชาติหน้า!

ด้วยเหตุนี้ สาวใช้ผู้นี้ไม่ใช่ว่าสุดยอดไปเลยหรือ?

ในยามนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็จับมือของหลี่ซือซือและยิ้มออกมาอย่างถ่อมตัว “ข้าขออภัยด้วยที่ซือซือไม่มีความสามารถมากพอ คงทำตัวน่าขันต่อพวกท่านทั้งสองไปเสียแล้ว!”

กัวเส้าส้วย "หา...!"

หลี่ซือซือก้มหน้าลงด้วยความละอายใจและกล่าวว่า "ข้าไร้ความสามารถนัก ความรู้ของข้าไม่ถึงหนึ่งส่วนของนายน้อยด้วยซ้ำ!"

กัวเส้าส้วย "หา...!"

เจ้าหญิงน้อยปิดปากและหัวเราะคิกคักภายในใจ

เมื่อมาถึงจุดนี้ พวกเขาทั้งสองก็มองไปทางหลินเป่ยฟานอีกครั้ง และดวงตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันที!

สวรรค์!

พวกเขามากความสามารถและเก่งกาจเกินไปแล้ว!

สาวใช้ทั้งสอง ผู้หนึ่งมีความสามารถด้านวรรณกรรมและอีกผู้หนึ่งมีความสามารถด้านวรยุทธ์ ที่เรียกว่าเก่งจนถึงขีดสุดกันแล้ว ผู้อื่นจะกล้าเทียบเคียงได้เช่นไร?

ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองยังงดงามจนแทบทำให้ตะลึง!

สายตาของพวกนางมองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาอันหลงใหล!

ชีวิตช่างไม่ยุติธรรมนัก!

กัวเส้าส้วยรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าทัดเทียมรูปลักษณ์กับอีกฝ่ายอยู่แล้ว

กระทั่งสิ่งเดียวที่เขาภูมิใจอย่างความแข็งแกร่งของเขาก็ยังถูกแซงหน้าโดยสาวใช้ของอีกฝ่าย!

รู้สึกราวกับว่าการฝึกฝนอย่างหนักหลายปีของเขาช่างไร้ประโยชน์ยิ่ง!

จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่คืออะไรกัน?

ตายซะยังจะดีกว่า!

"คุณชายหลิน ท่านช่างทำให้ข้าประทับใจมากเลยจริงๆ!” โม่หรูซวงมองไปทางหลินเป่ยฟาน และทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างหน้าของนางนั้นลึกลับและไม่อาจหยั่งรู้ได้เลย

“ไม่ต้องชมข้ามากขนาดนั้นหรอก ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาผู้หนึ่ง มาดื่มกันต่อเถิด!” หลินเป่ยฟานกล่าว

จากนั้นพวกเขาจึงดื่มไวน์อีกสองสามถ้วยและพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจจากโลกผู้ฝึกตนกัน ก่อนที่จะบอกลาหลินเป่ยฟานและเดินทางต่อไป

ทว่าก่อนออกเดินทาง โม่หรูซวงได้ขอที่อยู่ของหลินเป่ยฟาน

ระหว่างทาง กัวเส้าส้วยก็รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย “ศิษย์พี่ ท่านคงไม่ได้สนใจ หลินเป่ยฟานใช่ไหม?”

โม่หรูซวงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้นกันเล่าศิษย์น้อง?”

“ศิษย์พี่ ยามที่ท่านพูดถึงเขากลับมีความสุขมากขนาดนี้ ข้าไม่เคยเห็นท่านพูดคุยกับบุรุษมานานขนาดนี้มาก่อนเลย! อีกทั้งก่อนจากมา ท่านยังขอที่อยู่เขาอีก นั่นไม่ใช่เพื่อต้องการจะไปพบปะกับเขาในอนาคตหรอกเหรอ?”

“ท่านจะทำเช่นนั้นไปทำไม หากไม่มีจุดประสงค์เช่นนี้?” กัวเส้าส้วยรู้สึกขมขื่นยิ่งในใจ

บุรุษผู้นั้นมีสาวใช้โฉมงามและมากความสามารถสองคนอยู่แล้ว ยังไม่พออีกเหรอ?

ถ้าแม้แต่ศิษย์พี่ที่เคารพนับถือที่สุดของเขายังถูกอีกฝ่ายขโมยไป เขาคงจะเป็นบ้า!

โม่หรูซวงยิ่งรู้สึกเขินอายและก็ได้ตำหนิเขาไป “ศิษย์น้อง อย่าพูดเรื่องไร้สาระ! ข้าแค่คิดว่าเขามีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาและมีความรู้กว้างขวาง! ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีพรสวรรค์อันน่าทึ่งที่สามารถนำไปใช้กับท่านอ๋องได้ ข้าก็เลยแค่สนใจเขาเท่านั้นเอง!”

ทันทีที่นางพูดถึง “ท่านอ๋อง” กัวเส้าส้วยก็คล้ายมีแรงฮึดมากขึ้น “ศิษย์พี่ สิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องจริงสิ!” สีหน้าของโม่หรูซวงดูจริงจังมาก “ท่านอ๋องทั้งฉลาดและกล้าหาญ มีอุปนิสัยสูงส่งและทะเยอทะยานที่ปิดฉากโลกอันแสนโกลาหลนี้! ในฐานะผู้ติดตามของท่านอ๋อง เราควรต้องแบ่งเบาภาระของท่านอ๋องเป็นธรรมดา! และข้าเชื่อว่าหลินเป่ยฟานมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม หากท่านอ๋องสามารถใช้เขาได้ เขาก็จะเป็นทหารที่มากความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัย!”

กัวเส้าส้วยพยักหน้า “ที่ศิษย์พี่พูดเป็นความจริง!”

“พูดกันพอแล้ว ออกเดินทางกันต่อเถอะ! เมื่อเราไปถึงเมืองหลวงและพบวีรบุรุษแห่งรัตติกาลแล้ว เราก็จะกลับไปโดยเร็วที่สุด!”

“ขอรับศิษย์พี่! เช่นนั้นก็ไปกันเถิด!”

สายลมได้มารวมตัวในเมืองหลวงแล้ว!

เซิงหยวน จูเหรินและจินซี เป็นสามอันดับในระบบการสอบของจักรวรรดิจีน  ซึ่งใช้ในการคัดเลือกขุนนางที่จะเข้าไปทำงานภายใน

เชิงหยวน(生員) อยู่ในอันดับต่ำสุดหรือที่เรียกว่า “สมาชิกบัณฑิต” คนเหล่านี้เป็นบุคคลที่ผ่านการสอบระดับเขตท้องถิ่นและจะได้รับสิทธิพิเศษทางสังคม

จูเหริน (舉人) เป็นอันดับสอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือก” คนเหล่านี้เป็นบุคคลที่ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกในระดับมณฑลและจะได้รับสิทธิพิเศษทางสังคม

จินซี (進士) อยู่ในตำแหน่งสูงสุดหรือที่รู้จักในชื่อ "บัณฑิตขั้นสูง" คนเหล่านี้เป็นผู้ที่สอบผ่านการสอบระดับราชสำนักและมีสิทธิได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งขุนนาง

การเป็นบัณฑิตขั้นสูงถือเป็นความสำเร็จสูงสุดในระบบการสอบขุนนาง และถือเป็นเกียรติที่หาได้ยาก โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการสอบจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงโดยทางประเทศ ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งสถานะทางสังคมและเกียรติยศมากมาย

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด