บทที่ 71: สาวใช้ทั้งสองของข้า ได้โปรดให้อภัยความหยาบคายของพวกนางด้วย!
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 71: สาวใช้ทั้งสองของข้า ได้โปรดให้อภัยความหยาบคายของพวกนางด้วย!
โม่หรูซวงมองดูเจ้าหญิงน้อยด้วยความประหลาดใจแล้วจึงกล่าวถามว่า “นางเป็นผู้ใดกัน?”
ศิษย์น้องของนางเป็นยอดฝีมือระดับแปด แม้ว่าเขาจะไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากในโลกวรยุทธ์ แต่เขาก็เป็นอัจฉริยะในหมู่ศิษย์ทั้งหลาย ถึงกับมีการคาดไว้ว่าเขาจะสามารถไปถึงขั้นยอดฝีมือโดยกำเนิดได้ สตรีที่อยู่ตรงหน้าพวกนางนั้นดูเด็กกว่าศิษย์น้องของนางด้วยซ้ำ ทว่าด้วยการชกอันแผ่วเบาเพียงครั้งเดียว นางกลับทำให้เขากระเด็นไป บ่งบอกได้เลยว่านางได้มาถึงระดับที่เจ็ดแล้ว โม่หรูซวงยิ่งไม่อยากจะกล้าคาดเดาถึงระดับของอีกฝ่าย หากนางเป็นยอดฝีมือต้นกำเนิดระดับ 6...
ดวงตากลมโตที่สดใสของเจ้าหญิงตัวน้อยแฝงความเจ้าเล่ห์อยู่ในนั้น ทันใดนั้น นางก็โน้มตัวไปหาหลินเป่ยฟานและก้มศีรษะลงด้วยความเขินอาย เสียงของนางนุ่มนวลและอ่อนโยนยิ่ง “ข้าเป็นเพียงคนรับใช้ของนายน้อย รับผิดชอบเรื่องการชงชาและรินน้ำชาให้กับนายน้อยเท่านั้น!”
คำพูดของสตรีนางนี้ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจยิ่ง! กัวเส้าส้วยไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้แน่นอน สตรีโฉมงาม น่ารักและอายุน้อยผู้นี้เป็นเพียงสาวใช้ของหลินเป่ยฟานเนี่ยนะ! เด็กสาวที่มีความสามารถและทรงพลังเช่นนี้กลับเป็นเพียงสาวใช้คอยรินน้ำชา! เช่นนั้นตัวเขาควรเป็นอะไรกัน?
“นางเป็นสาวใช้ของเจ้าจริงๆ เหรอ?” กัวเส้าส้วยเอ่ยถามออกมาเพราะไม่เชื่อหูของตน
หลินเป่ยฟานลูบศีรษะของเจ้าหญิงน้อยแล้วกล่าวอย่างนอบน้อม “ใช่แล้ว! เสี่ยวยุนเป็นคนหุนหันพลันแล่นไปเล็กน้อยและอ่อนแอมาก ได้โปรดยกโทษให้นางด้วย!”
"พรู้ดดดด!"
กัวเส้าส้วยมองไปทางหลี่ซือซือต่อ
“แล้วนางผู้นี้เป็นใคร?” หลี่ซือซือก้มศีรษะลง เห็นเจ้าหญิงน้อยกำลังส่งสายตามีเลศนัยให้ ด้วยท่าทางอันมากด้วยมารยาท นางยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับโน้มตัวไปทางหลินเป่ยฟานแล้วกล่าวว่า “ข้าก็เป็นสาวใช้ของนายน้อยเช่นกัน แต่มีหน้าที่อุ่นเตียงและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้!”
โม่หรูซวงจึงถามด้วยความประหลาดใจ “แล้วท่านมีวิชายุทธ์บ้างไหม?”
หลี่ซือซือส่ายศีรษะตอบ “ไม่มี!”
"เดชะบุญ!" โม่หรูซวงและกัวเส้าส้วยแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่เจ้าหญิงน้อยพลันกล่าวออกมา “แต่พี่สาวซือซือเป็นผู้มากความสามารถ! นางเก่งทั้งด้านบทกวี จิตรกรรม ประดิษฐ์อักษรและบรรเลงบทเพลง! หากนางเข้าสอบจักรพรรดิ การจะเป็นบัณฑิตขั้นสูงก็ไม่ยากเลย!”
ทั้งสองถึงกับตกตะลึงอีกครั้ง! สาวงามผู้นี้มีความสามารถถึงขั้นเป็นบัณฑิตขั้นสูง!
ต้องกล่าวบอกก่อนว่าการสอบของจักรพรรดิมีระดับความสำเร็จสามขั้น สมาชิกบัณฑิต บัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือกและบัณฑิตขั้นสูง การเป็นบัณฑิตขั้นสูงนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก แม้นจะไม่ได้เป็นขุนนาง ก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีสถานะสูงอยู่ดี
ส่วนบัณฑิตระดับกลางหรือบัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือกก็น่าทึ่งมากเช่นกัน พวกเขาเป็นขุนนางระดับสูงในประเทศ ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากราชสำนัก และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าพวกเขา!
ผู้คนมากมายเวลาทั้งชีวิตเพื่อพยายามสอบให้ผ่านระดับบัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือก และผู้ใดที่ผ่านก็จะรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากยันชาติหน้า!
ด้วยเหตุนี้ สาวใช้ผู้นี้ไม่ใช่ว่าสุดยอดไปเลยหรือ?
ในยามนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็จับมือของหลี่ซือซือและยิ้มออกมาอย่างถ่อมตัว “ข้าขออภัยด้วยที่ซือซือไม่มีความสามารถมากพอ คงทำตัวน่าขันต่อพวกท่านทั้งสองไปเสียแล้ว!”
กัวเส้าส้วย "หา...!"
หลี่ซือซือก้มหน้าลงด้วยความละอายใจและกล่าวว่า "ข้าไร้ความสามารถนัก ความรู้ของข้าไม่ถึงหนึ่งส่วนของนายน้อยด้วยซ้ำ!"
กัวเส้าส้วย "หา...!"
เจ้าหญิงน้อยปิดปากและหัวเราะคิกคักภายในใจ
เมื่อมาถึงจุดนี้ พวกเขาทั้งสองก็มองไปทางหลินเป่ยฟานอีกครั้ง และดวงตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันที!
สวรรค์!
พวกเขามากความสามารถและเก่งกาจเกินไปแล้ว!
สาวใช้ทั้งสอง ผู้หนึ่งมีความสามารถด้านวรรณกรรมและอีกผู้หนึ่งมีความสามารถด้านวรยุทธ์ ที่เรียกว่าเก่งจนถึงขีดสุดกันแล้ว ผู้อื่นจะกล้าเทียบเคียงได้เช่นไร?
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองยังงดงามจนแทบทำให้ตะลึง!
สายตาของพวกนางมองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาอันหลงใหล!
ชีวิตช่างไม่ยุติธรรมนัก!
กัวเส้าส้วยรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าทัดเทียมรูปลักษณ์กับอีกฝ่ายอยู่แล้ว
กระทั่งสิ่งเดียวที่เขาภูมิใจอย่างความแข็งแกร่งของเขาก็ยังถูกแซงหน้าโดยสาวใช้ของอีกฝ่าย!
รู้สึกราวกับว่าการฝึกฝนอย่างหนักหลายปีของเขาช่างไร้ประโยชน์ยิ่ง!
จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่คืออะไรกัน?
ตายซะยังจะดีกว่า!
"คุณชายหลิน ท่านช่างทำให้ข้าประทับใจมากเลยจริงๆ!” โม่หรูซวงมองไปทางหลินเป่ยฟาน และทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างหน้าของนางนั้นลึกลับและไม่อาจหยั่งรู้ได้เลย
“ไม่ต้องชมข้ามากขนาดนั้นหรอก ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาผู้หนึ่ง มาดื่มกันต่อเถิด!” หลินเป่ยฟานกล่าว
จากนั้นพวกเขาจึงดื่มไวน์อีกสองสามถ้วยและพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจจากโลกผู้ฝึกตนกัน ก่อนที่จะบอกลาหลินเป่ยฟานและเดินทางต่อไป
ทว่าก่อนออกเดินทาง โม่หรูซวงได้ขอที่อยู่ของหลินเป่ยฟาน
ระหว่างทาง กัวเส้าส้วยก็รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย “ศิษย์พี่ ท่านคงไม่ได้สนใจ หลินเป่ยฟานใช่ไหม?”
โม่หรูซวงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้นกันเล่าศิษย์น้อง?”
“ศิษย์พี่ ยามที่ท่านพูดถึงเขากลับมีความสุขมากขนาดนี้ ข้าไม่เคยเห็นท่านพูดคุยกับบุรุษมานานขนาดนี้มาก่อนเลย! อีกทั้งก่อนจากมา ท่านยังขอที่อยู่เขาอีก นั่นไม่ใช่เพื่อต้องการจะไปพบปะกับเขาในอนาคตหรอกเหรอ?”
“ท่านจะทำเช่นนั้นไปทำไม หากไม่มีจุดประสงค์เช่นนี้?” กัวเส้าส้วยรู้สึกขมขื่นยิ่งในใจ
บุรุษผู้นั้นมีสาวใช้โฉมงามและมากความสามารถสองคนอยู่แล้ว ยังไม่พออีกเหรอ?
ถ้าแม้แต่ศิษย์พี่ที่เคารพนับถือที่สุดของเขายังถูกอีกฝ่ายขโมยไป เขาคงจะเป็นบ้า!
โม่หรูซวงยิ่งรู้สึกเขินอายและก็ได้ตำหนิเขาไป “ศิษย์น้อง อย่าพูดเรื่องไร้สาระ! ข้าแค่คิดว่าเขามีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาและมีความรู้กว้างขวาง! ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีพรสวรรค์อันน่าทึ่งที่สามารถนำไปใช้กับท่านอ๋องได้ ข้าก็เลยแค่สนใจเขาเท่านั้นเอง!”
ทันทีที่นางพูดถึง “ท่านอ๋อง” กัวเส้าส้วยก็คล้ายมีแรงฮึดมากขึ้น “ศิษย์พี่ สิ่งที่ท่านพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องจริงสิ!” สีหน้าของโม่หรูซวงดูจริงจังมาก “ท่านอ๋องทั้งฉลาดและกล้าหาญ มีอุปนิสัยสูงส่งและทะเยอทะยานที่ปิดฉากโลกอันแสนโกลาหลนี้! ในฐานะผู้ติดตามของท่านอ๋อง เราควรต้องแบ่งเบาภาระของท่านอ๋องเป็นธรรมดา! และข้าเชื่อว่าหลินเป่ยฟานมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม หากท่านอ๋องสามารถใช้เขาได้ เขาก็จะเป็นทหารที่มากความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัย!”
กัวเส้าส้วยพยักหน้า “ที่ศิษย์พี่พูดเป็นความจริง!”
“พูดกันพอแล้ว ออกเดินทางกันต่อเถอะ! เมื่อเราไปถึงเมืองหลวงและพบวีรบุรุษแห่งรัตติกาลแล้ว เราก็จะกลับไปโดยเร็วที่สุด!”
“ขอรับศิษย์พี่! เช่นนั้นก็ไปกันเถิด!”
สายลมได้มารวมตัวในเมืองหลวงแล้ว!
เซิงหยวน จูเหรินและจินซี เป็นสามอันดับในระบบการสอบของจักรวรรดิจีน ซึ่งใช้ในการคัดเลือกขุนนางที่จะเข้าไปทำงานภายใน
เชิงหยวน(生員) อยู่ในอันดับต่ำสุดหรือที่เรียกว่า “สมาชิกบัณฑิต” คนเหล่านี้เป็นบุคคลที่ผ่านการสอบระดับเขตท้องถิ่นและจะได้รับสิทธิพิเศษทางสังคม
จูเหริน (舉人) เป็นอันดับสอง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บัณฑิตผู้ผ่านการคัดเลือก” คนเหล่านี้เป็นบุคคลที่ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกในระดับมณฑลและจะได้รับสิทธิพิเศษทางสังคม
จินซี (進士) อยู่ในตำแหน่งสูงสุดหรือที่รู้จักในชื่อ "บัณฑิตขั้นสูง" คนเหล่านี้เป็นผู้ที่สอบผ่านการสอบระดับราชสำนักและมีสิทธิได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งขุนนาง
การเป็นบัณฑิตขั้นสูงถือเป็นความสำเร็จสูงสุดในระบบการสอบขุนนาง และถือเป็นเกียรติที่หาได้ยาก โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการสอบจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงโดยทางประเทศ ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งสถานะทางสังคมและเกียรติยศมากมาย