ตอนที่แล้วบทที่ 56 คาถาพาหะหนังมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป บทที่ 58 คุกคาม

บทที่ 57 ศาลาสมบัติพิสุทธิ์ที่กระด้างกระเดื่อง


บทที่ 57 ศาลาสมบัติพิสุทธิ์ที่กระด้างกระเดื่อง

ไม่กี่วันต่อมา

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานมองดูข้อความใหม่จากเฉินเต้าหมิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นกับฝั่งของเฉินหยวนหลง

ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งอย่างระดับปราการม่วงไม่เพียงเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

โชคดีที่เฉินหยวนหลงและคนอื่นๆ จากตระกูลเฉินไม่เป็นอะไร มิฉะนั้นตระกูลเฉินอาจจะจบลงเหมือนกับนิกายเมฆาคล้อยในปัจจุบันก็เป็นได้

ด้วยสถานการณ์ปัจจบันที่ไม่มีผู้ฝึกตนระดับปราการม่วงและระดับการก่อตั้งรากฐาน นิกายเมฆาคล้อยอันยิ่งใหญ่ก็ไม่ต่างจากการถูกกวาดล้างแล้วในขณะนี้

แต่เหตุผลที่ไม่มีใครลงมือแย่งชิงสมบัติและทรัพย์สินของนิกายเมฆาคล้อย สาเหตุหลักๆมาจากการดำเนินการของนิกายเจียงหยางยังไม่จบลง

…..

ไม่มีใครอยากเป็นคนแรกที่ทำสิ่งที่น่าละอายเช่นนี้

อย่างไรก็ตามเจียงเฉิงซวนเชื่อว่าแม้ว่านิกายเจียงหยางจะแต่งตั้งคนไปช่วยดูแลนิกายเมฆาคล้อยในอนาคต แต่นิกายเมฆาคล้อยอาจจะไม่สามารถปกป้องรากฐานของนิกายของพวกเขาได้ หากไม่มีผู้ฝึกตนระดับปราการม่วงและระดับการก่อตั้งรากฐาน

นี่คือความเป็นจริงของโลกแห่งการฝึกตนแห่งนี้

หากเจ้าไม่มีกำลังที่จะรักษามันได้ มันจะถูกแย่งชิงและถูกพรากไป

หากข่าวเกี่ยวกับอาณาเขตของนิกายเมฆาคล้อยทั้งหมดถูกแย่งชิงออกไปในวันหนึ่งเจียงเฉิงซวนก็จะไม่แปลกใจเลย

แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุดในครั้งนี้ ก็คือวิธีการของผู้ฝึกตนปีศาจระดับแก่นทองคำนั้นช่างโหดร้ายและแปลกประหลาดอย่างมาก

ไม่สงสัยเลยที่มีการกล่าวกันว่าผู้ฝึกตนปีศาจในปัจจุบันเปรียบเสมือนเนื้องอกของโลกแห่งการฝึกฝนแห่งนี้

มันจะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม

จากนั้นเจียงเฉิงซวนก็มองไปที่เฉินหรู่หยานและคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หรู่หยานมันถึงเวลาแล้ว เรามาทำพิธีให้ผู้คนในตลาดขึ้นไปที่แท่นมโนธรรมกันเถอะ”

พวกเขาควรจะทำสิ่งนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน

อย่างไรก็ตาม เจียงเฉิงซวนรู้สึกว่าก่อนที่จะทำเช่นนี้ เขาจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับรูปแบบค่ายกลป้องกันในตลาดก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกลอบโจมตีในที่ผู้ฝึกตนมารวมตัวกันทำพิธี

หนึ่งวันต่อมา

ทุกคนในตลาดหยกขาวได้รับการแจ้งเตือนจากเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานให้ไปที่จัตุรัสหยกขาวเพื่อทำการตรวจสอบ

สิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจของผู้ฝึกตนจำนวนมากในตลาดหยกขาวทันที

เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนแท่นมโนธรรม ความลับในใจพวกเขาจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดาย

นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ฝึกตนคนใดเต็มใจที่จะยอมรับมันมากนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานบอกทุกคนว่าในนามของตระกูลเฉิน การรวมตัวครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาผู้ฝึกตนปีศาจที่อาจซ่อนตัวอยู่กับพวกเขาเท่านั้น ทำให้พวกเขาทุกคนยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือเช่นกัน

ศาลาสมบัติพิสุทธิ์

นี่คือร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหยกขาว นอกเหนือจากร้านค้าหลักของตระกูลเฉินแล้ว

สินค้าที่จำหน่ายได้แก่ วัสดุต่าง ยา ยันต์ สมุนไพรทางจิตวิญญาณ และอื่นๆ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ พื้นหลังของศาลาสมบัติพิสุทธิ์นี้เชื่อมโยงกับตระกูลหงของนิกายเจียงหยางอย่างแยกไม่ออก

หากไม่จำเป็น แม้แต่ตระกูลเฉินซึ่งเป็นเจ้าของตลาดนี้จริงๆ ก็ไม่เต็มใจที่จะรุกรานพวกเขา

นั่นเป็นเพราะผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำคนสุดท้ายของนิกายเจียงหยางเป็นบรรพบุรุษของตระกูลหง และชื่อของเขาคือหงเทียนฉี และเขาถูกเรียกว่าผู้อมตะเทียนฉี

เขายังเป็นผู้นำของกลุ่มตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของนิกายเจียงหยางอีกด้วย

แม้ว่าโดยปกติแล้วเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวทางโลกมากนัก แต่เมื่อมีเรื่องที่สำคัญจริงๆ บุคคลสำคัญของนิกายเจียงหยางคนนี้ก็จะก้าวออกมาข้างหน้าอย่างแน่นอน

สิ่งนี้ยังทำให้ตระกูลหงเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสและค่อนข้างเอาแต่ใจอย่างมาก

พวกเขาไม่เพียงแต่แต่งตั้งคนของตนเองในตำแหน่งที่สำคัญในนิกายเจียงหยางและเก็บกำไรส่วนใหญ่ไว้กับตัวเองเท่านั้น แต่พวกเขายังยืนมือของพวกเขาเข้าไปในดินแดนของตระกูลและนิกายผู้ฝึกตนต่างๆ ทำให้หลายฝ่ายรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอำนาจที่มากล้นของตระกูลหง ทำให้ทุกคนทำได้เพียงกลืนความไม่พอใจและข้อร้องเรียนของตนเองลงคอไป

ในขณะนี้ ณ ศาลาสมบัติพิสุทธิ์

ชายคนหนึ่งในชุดคลุมสีเขียวที่อายุประมาณสามสิบปี แต่มีใบหน้าที่เย่อหยิ่ง กำลังมองดูยันต์หยกสื่อสารในมือของเขาด้วยสีหน้ามืดมน

คนนี้ชื่อหงเหวินเทา เขาเป็นผู้รับผิดชอบทรัพย์สินของตระกูลหงในตลาดแห่งนี้ และยังอยู่ในขั้นที่ห้าของขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน

เขากำยันต์หยกสื่อสารในมือแน่นขึ้น

เสียงดังแครก ยันต์หยกสื่อสารก็ถูกบดขยี้เป็นกองผงทันที

สมาชิกตระกูลหงชื่อหงหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างๆเขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า

“ท่านลุง เจียงเฉิงซวนและเซินรุ่ยหยานนั้นหยาบคายเกินไป พวกเขากล้าดียังไงขอให้เราไปทดสอบบนแท่นมโนธรรม ท่านคิดว่าเราควรไปไหม?”

"ไปงั้นหรือ?"

สีหน้าดูถูกเหยียดหยามปรากฏบนใบหน้าของหงเหวินเทาทันที

“พวกเขาเป็นเพียงตระกูลผู้ฝึกตนระดับปราการม่วงขนาดเล็กที่อาศัยผู้หญิงคนหนึ่งทะยานขึ้นมา ทำไมพวกเราต้องสนใจพวกเขาด้วย”

เมื่อได้ยินคำพูดของหงเหวินเทา หงหยวนก็ยิ้มอย่างยินดีและพยักหน้าซ้ำๆอย่างเห็นด้วย

“ท่านลุง ท่านพูดถูก พวกเขาเป็นเพียงตระกูลผู้ฝึกตนระดับปราการม่วงเล็กๆ แม้ว่าพวกเราจะเพิกเฉยต่อพวกเขา พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรกับพวกเราหรอก”

ณ จัตุรัสหยกขาว

บัดนี้ในจัตุรัสแห่งนี้ซึ่งสามารถรองรับผู้คนได้หลายแสนคน ก็มีแท่นมโนธรรมแห่งความชั่วดีที่สูงแปดเมตรตั้งอยู่

เจียงเฉิงซวน, เฉินหรู่หยาน, เฉินโบหง, เฉินเฟยหยานและคนอื่นๆ ที่ดูแลตลาดหยกขาวได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว

รอบๆตัวพวกเขา มีผู้ฝึกตนที่อยู่ภายในตลาดหยกขาวเดินเข้ามาทีละคน

และผู้คนนับหมื่นคนได้มารวมตัวกันอยู่ที่จัตุรัสแห่งนี้ทีละกลุ่มๆ

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานมองดูเวลาแล้วพูดกับเฉินโบหงและเฉินเฟยหยานว่า

"ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ตรวจสอบดูว่าทุกคนอยู่ที่นี่ครบแล้วหรือไม่”

เมื่อเฉินโบหง, เฉินเฟยหยานและคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็พยักหน้าทันทีและเริ่มทำการตรวจสอบทันที

หลังจากนั้นไม่นาน

การแสดงออกของเฉินโบหงและเฉินเฟยหยานบิวเบี้ยวเล็กน้อย

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของพวกเขาและถามขึ้นทันทีว่า

“เกิดอะไรขึ้น? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

เฉินโบหง, เฉินเฟยหยานและคนอื่น ๆ มองหน้ากัน

ในท้ายที่สุดเฉินโบหงพูดกับเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานว่า

“ผู้อาวุโสเจียง ผู้อาวุโสหรู่หยาน ผู้ฝึกตนทั้งหมดในตลาดหยกขาวได้มาถึงแล้ว อย่างไรก็ตามยังมีบางคนที่ยังไม่ได้มา”

เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินโบหง เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เฉินหรู่หยานถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? ใครที่ยังไม่ได้มา?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด