บทที่ 196: เคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากพุ่งฝ่าอยู่หลายครั้งสุดท้ายถังเจิ้นก็สามารถออกจากวงล้อมโดยทิ้งพวกทหารไว้เบื้องหลังได้สำเร็จ เพียงแต่ตอนนี้ยังเหลือสิ่งที่เป็นภัยอยู่อีกนั่นก็คือเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่เหลืออีก 4 ลำที่กำลังบินอยู่เหนือหัวเขานั่นเอง
หลังจากที่รีบออกจากพื้นที่นี้ได้สำเร็จแล้วก็มีแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าบอกว่าตอนนี้สามารถใช้งานปลั๊กอินเทเลพอร์ตแมปได้ตามปกติแล้ว
หลังจากตบกะโหลกทหารที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ร่วงไปหนึ่งถังเจิ้นก็รีบวิ่งต่อ เอาตรง ๆ ว่าวันนี้เขาโกรธแล้ว โกรธมากด้วย แม้ว่างานนี้จะไม่ได้เอากันถึงตายก็เถอะ แต่มันน่าโมโหชิบหาย ดังนั้นไอ้พวกนี้จึงต้องจ่ายให้เขาในราคาที่สมน้ำสมเนื้อ
ถังเจิ้นกะว่าจะใช้ปลั๊กอินเทเลพอร์ตแมปทีหลัง ตอนนี้เลยยังไม่ได้เทเลพอร์ตหนีไป
ทันทีที่หมดเวลาชุดเกราะน้ำแข็ง เกราะน้ำแข็งวาววับก็สลายกลายเป็นหมอกสีขาว ๆ และหายไปเผยตัวถังเจิ้นออกมาให้เห็น
เมื่อเห็นว่าชุดเกราะน้ำแข็งของถังเจิ้นหายไปพวกทหารที่มาเพิ่มก็เปิดฉากยิง คราวนี้พวกมันใช้กระสุนจริงโดยเล็งยิงตูดเขาเห็น ๆ
หลังจากที่พบว่ากระสุนระเบิดยาสลบเอาไม่อยู่ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็นกระสุนจริงแล้ว!
ขอแค่ถังเจิ้นได้รับบาดเจ็บพวกมันก็สามารถเข้าไปควบคุมตัวเขาได้สำเร็จในทันที
ถังเจิ้นก็ไม่ยอมโดยตุ๋ยดากเอาง่าย ๆ เขาจัดการหลบกระสุนรัว ๆ แล้วหันหน้ามาเย้ยใส่ทีหนึ่งก่อนจะกระโดดข้ามรั้วเข้าไปในลานโล่งข้างทางแล้วเทเลพอร์ตข้ามโลก
ทันทีที่เขาปรากฏตัวในหุบเขาเชิ่งหลงถังเจิ้นก็เปิดแอปสโตร์ขึ้นมาหาแอปที่ต้องการ จากนั้นก็กดดาวน์โหลดและติดตั้ง
[ระเบิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รัศมีการทำลายล้าง 1 กิโลเมตร ค่าดาวน์โหลด 10,000 เหรียญทอง]
เสร็จถังเจิ้นก็เทเลพอร์ตกลับโลกเดิมทันทีซึ่งกระบวนการดังกล่าวกินเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ
และทันทีที่เขาปรากฏตัวในโลกเดิมถังเจิ้นก็เห็นเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธบินอยู่เหนือหัวแล้ว และยังรวมไปถึงทหารอเมริกันและพันธมิตรที่รายล้อมรอบตัว เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีไอ้พวกนี้กลับสามารถเข้ามาตีวงล้อมใส่เขาได้อีกรอบซะอย่างนั้น โคตรสุดยอดฝีมือเลยจริง ๆ
ถังเจิ้นเงยหน้าไปมองเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ แบบตั้งใจให้เห็นกันชัด ๆ แล้วเปิดใช้งานระเบิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า!
เปรี้ยง!
พริบตาที่แอปทำงานปีศาจที่สามารถกลืนกินอารยธรรมประเภทเทคโนโลยีก็สำแดงเดช สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดมหึมากินพื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตรได้สาดออกไปทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่อยู่ในระยะกลายเป็นเศษขยะ และพร้อมกันนั้นเองก็ได้มีเสียงอุทานขึ้นโดยแทบจะพร้อมเพรียงกันเป็นระยะ ๆ จากทุก ๆ จุดในระยะระเบิด
ไฟฟ้าถูกตัดขาด การสื่อสารล่ม มือถือเจ๊ง และแว่นตาที่ใช้มองทะลุม่านแสงควอนตั้มเองก็ดับไปด้วยเช่นกัน ซึ่งยังรวมไปถึงรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนพื้นไปยันเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธบนท้องฟ้า ทุกอย่างล้วนดับวูบกันหมด เหมือนจู่ ๆ โลกทั้งใบก็เกิดสภาวะเดดแอร์
ตาแก่หัวหงอกเห็นถังเจิ้นเปิดใช้งานม่านแสงควอนตัมเร้นกายและหายตัวไปอีกรอบก็ถึงกับแหกปากตะคอกด้วยความโกรธทั้งหมดที่มี “ไอ่สัดเอ๊ยยยยยยย นิดเดียวววววว อีกนิดเดียวเองแท้ ๆ จะได้ตัวมันอยู่แล้ววววววว ใครก็ได้อธิบายให้กูฟังทีซิว่าไอ้ระเบิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่โคตรเบิ้มนั่นแม่งมายังไงอีก...”
ไม่รู้หรอกว่าความโกรธของตาแก่มันจะขนาดไหน แต่ความโกรธของถังเจิ้นนั้นทุกคนที่นี่ล้วนได้รู้แล้ว!
หลักฐานก็คือตอนนี้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรกลายเป็นอัมพาตไปเรียบร้อย ผู้คนนับไม่ถ้วนรีบออกจากบ้านวิ่งไปตามถนนเพื่อหาสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น และก็ได้เห็นว่ามีกลุ่มทหารอเมริกันพร้อมอาวุธครบมือทั้งยังใช้กระสุนจริงที่กำลังทำหน้าเศร้าสลดเสียใจ
ปฏิบัติการในครั้งนี้ได้ระดมกำลังพลมาเกือบพันนาย ทุกนายถึงกับติดตั้งแว่นพิเศษที่พึ่งจะพัฒนาขึ้นมาใหม่ ๆ หมาด ๆ ใช้กระสุนระเบิดยาสลบที่ใช้เทคโนโลยีการสร้างใหม่เอี่ยมอ่อง อีกทั้งยังมีอุปกรณ์รบกวนรวมไปถึงปืนรุ่นใหม่พิเศษอีก!
เอาง่าย ๆ คือหรูหราหมาเห่ามาเลย ลงทุนไปมากมายก่ายกองถึงขนาดนี้ก็จริง แต่ถ้าจับไอ้หนุ่มเอเชียนั่นได้สำเร็จล่ะก็การลงทุนครั้งนี้คือเกินคุ้มจนไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรได้อีก!
แต่ไอ้หนุ่มนั่นก็ลึกเกิ๊น มาจนถึงตอนนี้ก็ได้เห็นหมดแล้วว่าลูกเล่นมันแพรวพราวจริง ๆ ทั้งเทเลพอร์ตได้ โล่ที่เป็นม่านพลังงาน ล่องหน แล้วยังมีเวทมนตร์อีก นี่มันคือขุมสมบัติเดินได้ในร่างคนชัด ๆ
ถ้าสามารถจับตัวมาวิจัยได้ล่ะก็ต่อให้ไม่อาจขุดค้นจนเข้าถึงความสามารถด้านเวทมนตร์ได้ก็ตามแต่ก็ยังได้กำไรมหาศาลอยู่ดี!
แต่ก็นะ แผนน่ะอยู่ที่คน แต่ผลน่ะอยู่ที่ฟ้า ไอ้หมอนั่นสุดท้ายมันก็สามารถตีฝ่าวงล้อมระดับนี้หนีไปได้สำเร็จ!
แถมก่อนหนีมันยังมีทิ้งทวนจัดการทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดตั้งแต่ฟ้าจรดดินต้องดับลง แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่บินอยู่บนฟ้ายังต้องตกลงสู่พื้น
ทหารทุกนายที่เข้าร่วมปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมในครั้งนี้ต่างนึกถึงภาพเกราะน้ำแข็งสีน้ำเงินวาววับแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ ไม่มั่นใจแล้วว่าจะทำอะไรกับคนที่ใช้เวทมนตร์แบบนั้นได้
ด้านถังเจิ้นนั้นได้เดินไปตามถนนอย่างไม่เร่งรีบ ส่วนจุดหมายปลายทางก็ชัดเจนเลยคือฐานทัพที่เดิมที่คุ้นเคย
ครั้งนี้พวกมันกล้ายกขโยงมาป่วนเขาซะหนักเลย ดังนั้นพวกมันย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย
แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องไปก่อวินาศกรรมอะไรทั้งสิ้น แค่ขออะไรนิด ๆ หน่อย ๆ กลับบ้านไปเป็นค่าทำขวัญเท่านั้นเอง แบบนั้นนอกจากได้ระบายอารมณ์แล้วยังได้ประโยชน์อีกด้วย!
เนื่องจากถังเจิ้นได้มาเดินเล่นในนี้รอบหนึ่งแล้ว ดังนั้นเขาเลยคุณเคยกับโครงสร้างภายในเป็นอย่างดี การหาคลังแสงที่ยังเหลือจึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเลย ไม่ว่าข้างในจะใส่อะไรไว้เขาก็จะก้มหน้างุด ๆ ทำงานเคลื่อนย้ายอย่างขยันขันแข็งโดยไม่เสียเวลาเช็กของ
เสร็จจากโกดังหนึ่งหลังก็ไปตะลุยต่อหลังต่อไปและทำงานอย่างตั้งใจเหมือนเดิม!
ทางด้านเมืองเชิ่งหลงนั้นเหล่าชาวเมืองต่างก็กระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้แล้วก็มองท่านเจ้าเมืองที่ตอนนี้สีหน้าบอกบุญไม่รับแว้บไปแว้บมาเป็นระยะ ๆ ที่จัตุรัสเชิ่งหลง
ชาวบ้าน A ป้องปากหัวเราะ “หึ ๆ เห็นปะมึง มีไอ้หน้าโง่ทำท่านเจ้าเมืองโกรธอิกแระ!”
ชาวบ้าน B สีหน้าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “รู้ได้ไงอะ”
ชาวบ้าน A มองแรง “หา? รู้ได้ไงเนี่ยนะ ถามงิแสดงว่ามาใหม่อะดิ”
ชาวบ้าน B พยักหน้า “ก็มาใหม่ไง พึ่งเข้าร่วมโหลวเฉิงหมาด ๆ เลยนี่แหละ”
ชาวบ้าน A พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเต๊ะท่าไฮโซบ้านนอก “นี่เป็นนิสัยเก่าของท่านเจ้าเมืองน่ะซี่ เวลามีไอ้หน้าโง่มากวนบาทาท่านก็จะจัดการยกเค้าบ้านพวกมันจนเหี้ยนเต้แม้แต่ข้าวสารเม็ดเดียวก็ไม่มีเหลือไว้ดูต่างหน้า…”
หลังจากที่ชาวบ้าน A พูดจบก็ยืดคอมองรอบ ๆ ตัว เมื่อพบว่าไม่มีใครสนใจก็พูดต่อแต่ด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวังกว่าเดิมว่า “แม้แต่กางเกงลิงยังไม่เหลือเลยนา ไม่รู้เหมือนกันว่าโหลวเฉิงเมืองไหนมันมีตาแต่ไร้แววทำท่านเจ้าเมืองไม่พอใจจนโดนยกเค้าจนเกลี้ยงเมือง!
ที่สำคัญที่สุดเลยคือท่านเจ้าเมืองเอากางเกงลิงกลับมาเต็มห้องเลย ดูก็รู้ว่าไม่ว่าจะชายจะหญิงจะผู้ใหญ่หรือเด็ก กางเกงลิงของทั้งเมืองนั่นมาอยู่นี่หมดแล้ว!”
หลังจากพูดจบไอ้ A มันก็เปิดกางเกงในของตัวเอให้ไอ้ B มันดู “ดูดิ ไอ้นี่แหละกางเกงลิงที่ท่านเจ้าเมืองขนมาคราวก่อน แล้วตอนนี้ก็เป็นพวกเราที่กะลังใส่อยู่ เข้าใจที่พูดใช่มั้ย”
ไอ้ชาวบ้าน B พยักหน้าเข้าใจแล้วรีบรัดเข็มขัดตัวเองให้แน่น ในใจก็ผวามาก ๆ ที่ได้รู้ว่าท่านเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่มีนิสัยชอบขโมยกางเกงในของคนอื่น!
ระยะห่างระหว่างทั้งฝั่งนั้นค่อนข้างไกล และถังเจิ้นเองก็ยุ่งอยู่กับงานลูกหาบ ดังนั้นเขาเลยไม่ได้ยินบทสนทนาที่โคตรจัญไรของพวกมัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็เขาจะจับไอ้โง่สองตัวนี่ยัดใส่กรงขังรวมกับพวกโอเกอร์มันซะเลย!
ว่ากันว่าข่าวลือจะจบลงก็ต่อเมื่อเจอกับนักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด แต่เมื่อเชิ่งหลงตอนนี้กลับเป็นแหล่งรวมของไอ้พวกสารเลวที่ชอบข่าวลือไม่ต่างจากข้าวสามมื้อ ยิ่งเป็นเรื่องลึกลับนี่ยิ่งชอบ กลายเป็นว่าเกิดตำนานบ้า ๆ บอ ๆ มากมายที่ไอ้พวกหน้าโง่มันเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาซี้ซั้วโดยไม่ได้รู้ตัวขึ้นมาอีกเพียบซะงั้น
เกรงว่าหลังจากวันนี้ชาวเมืองเชิ่งหลงทั้งหมดจะรู้กันทั่วว่างานอดิเรกของท่านเจ้าเมืองนั้นคือเมื่อใดที่มีคนมาทำให้ไม่พอใจก็จะไปขโมยกางเกงในของคู่กรณีชนิดที่ว่ายกเค้ายกครัว!
ทว่าความเป็นจริงก็มีส่วนที่ใกล้กับข่าวลืออยู่ แต่ว่าน้อยมากเหลือเกิน นั่นคือตอนนั้นถังเจิ้นได้ขโมยตู้คอนเทนเนอร์มา ซึ่งพอดีว่าในตู้นั้นมันบรรจุลังที่อัดแน่นไปด้วยชุดชั้นในอยู่นั่นเอง หลังจากที่มู่หรงจื่อเหยียนเช็กจำนวนของเสร็จแล้วก็เอาเก็บเข้าโกดัง แล้วสุดท้ายก็เอาออกมาแจกจ่ายเป็นสวัสดิการของชาวเมือง
แม้แต่เฉียนหลงกับมู่หรงจื่อเหยียนที่ใกล้ชิดกับถังเจิ้นมากที่สุดก็ยังไม่รู้ถึงที่มาของสิ่งของเหล่านั้นเลย แล้วอย่างไอ้พวกชาวบ้าน A B มันจะไปรู้อะไรล่ะ เพราะงั้นถึงได้มีการคาดเดาว่าถังเจิ้นไปยกเค้ามาจากโหลวเฉิงแห่งอื่นนั่นเอง!
ถังเจิ้นผู้น่าสงสารก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองมี ‘ตำนาน’ ที่ไม่รู้จะสรรเสริญยังไงดีอยู่ด้วย!