นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 80
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 80
ดวงตาพายุคือจุดที่เงียบสงบท่ามกลางพายุ
มันเงียบสงบและไม่มีอะไรอยู่เลยแม้ว่าจะมีลมพายุที่รุนแรงพัดอยู่ในบริเวณรอบๆ
และมันถูกสร้างขึ้นด้านหน้าราอน
พลังการต่อสู้ของปีศาจกระหายเลือดและออร่าสีเขียวของริมเมอร์ถูกดูดออกไปโดยลมรอบๆ
แล้วจุดที่พวกเขาอยู่ก็กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีลมอย่างสมบูรณ์
และไม่ใช่แค่ลม มันสงบจนเหมือนกับที่นี่ไม่มีอากาศให้หายใจ ร่างกายของราอนหนักอึ้ง
ปีศาจกระหายเลือดยืนสับสน ราอนก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระเช่นกัน
วืด!
ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวภายในพื้นที่แห่งนี้
ดาบของริมเมอร์ ลมสีเขียวเข้มถูกรวบรวมบนดาบที่เคยว่างเปล่าของเขา
ครืน!
ริมเมอร์พุ่งตัวออกจากพื้น
ปีศาจกระหายเลือดโจมตีมั่วๆ ด้วยความตื่นตระหนก แต่ริมเมอร์ก็เข้าใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ
และฟันดาบครั้งเดียว…
เขาฟันดาบลงไปที่แขนของมัน
ฉัวะ!
แขนของมันถูกตัดออกอย่างง่ายดายและตกลงบนพื้นสีดำสนิท
แต่ว่าปีศาจกระหายเลือดเป็นนักรบในระดับเชี่ยวชาญพิเศษ การสูญเสียแขนไม่เพียงพอที่จะทำให้มันล้มลง
มันหยุดเลือดที่แขนขวาทันทีและเริ่มหนี การเคลื่อนไหวของริมเมอร์เป็นอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น
ริมเมอร์หันดาบของตัวเองไปทางปีศาจกระหายเลือด
มันพยายามหลบหนีจากดวงตาพายุ แต่พื้นที่ของดวงตาพายุจะขยับไปพร้อมกับริมเมอร์
เมื่อมันรู้ตัวว่าหนีไม่ได้ก็หยุดวิ่ง มันเปลี่ยนท่าทางแล้วรวบรวมพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปที่หมัดซ้าย
วืด!
พื้นดินโดยรอบสั่น พลังแห่งดวงดาวสีแดงปรากฏขึ้นและได้สร้างคลื่นขนาดใหญ่
ริมเมอร์จับดาบบางๆ ของเขาไว้แน่น
วูม!
พื้นที่ของดวงตาพายุขยายใหญ่ขึ้นและดาบของริมเมอร์ก็มีพลังมากขึ้น
ริมเมอร์เหวี่ยงดาบที่ล้อมรอบไปด้วยพายุออกไป
ฉับ!
ดาบตัดผ่านคลื่นพลังสีแดงของมัน
ฟรึ่บ!
ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ระเบิดออกมา
'อึก!'
ราอนปิดตาแน่นเพราะแสงที่สว่างจ้าเกินไป
'จบแล้วเหรอ?’
เมื่อเขาลืมตามองก็เห็นว่าดวงตาพายุได้หายไปและโลกได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“……”
ปีศาจกระหายเลือดและริมเมอร์กำลังจ้องหน้ากัน
"แกดูดพลังของฉันออกไปเกือบหมดแล้วก็เอาพลังลมโดยรอบไปเป็นของตัวเอง”
ปีศาจกระหายเลือดพูดอย่างโกรธแค้น
"ฉันเข้าใจว่ามันเป็นวิธีต่อสู้วิธีหนึ่ง แต่แกสร้างสนามดาบได้ยังไงกัน?”
ปีศาจกระหายเลือดไม่ใช่คนเดียวที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมัน ราอนก็แปลกใจที่เห็นริมเมอร์สร้างสนามดาบได้
'คิดว่าคนที่สร้างสนามดาบได้มีแค่สายเลือดของซีกฮาร์ทซะอีก...'
ราชาทั้งหกและปีศาจทั้งห้ามีลักษณะต่างกันอยู่แล้ว แต่ซีกฮาร์ทกลับแตกต่างจนเรียกว่าพิเศษ
พวกเขามีความสามารถในการสร้างสนามเวทมนตร์แม้ว่าจะเป็นนักดาบ การสร้างสนามดาบของซีกฮาร์ทก็เป็นที่รู้กันไปทั่ว
แต่มีเพียงสายเลือดของซีกฮาร์ทบางคนเท่านั้นที่จะได้รับการสืบทอดมัน เรียกได้ว่ามีเพียงไม่กี่คน
ด้วยเหตุนี้จึงเขาจึงแปลกใจที่ริมเมอร์สามารถใช้มันได้ ยิ่งไม่นับว่าเขาเป็นเอลฟ์อีก
"มันไม่ใช่สนามดาบจริงๆ หรอก มันแค่เป็นอะไรที่คล้ายๆ กัน”
ริมเมอร์ยิ้ม
"เพราะฉันเป็นเอลฟ์เลยรู้จักธรรมชาติดีเลยล่ะ”
"...”
ปีศาจกระหายเลือดพยักหน้าเมื่อนึกขึ้นมาได้
"เสือที่โดนถอดเขี้ยวก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำสินะ”
มันหัวเราะและมองมาที่ราอน
"น่าเสียดายจริงๆ ฉันควรจะกำจัดเขาเพราะเขาอาจส่งผลกระทบต่ออีเดนแท้ๆ"
"ฉันปล่อยให้ผู้ปกครองซีกฮาร์ทคนต่อไปพ่ายแพ้ไม่ได้หรอก”
"แน่นอนว่าเขามีคุณสมบัตินั้น แต่อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย”
เสียงปีศาจกระหายเลือดเริ่มที่จะสั่น
"ฝั่งของฉันก็มีคนแบบเขาอยู่ ฉันอยากให้พวกเขาได้สู้กัน”
"ทวีปนี้กว้างใหญ่จะตายไป"
ริมเมอร์พยักหน้า
"ฉันพ่ายแพ้แล้วล่ะ ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท”
ปีศาจกระหายเลือดหลับตา เส้นสีแดงปรากฏจากศูนย์กลางของร่างกายของมัน
ร่างกายของมันแยกออกจากกัน ร่างใหญ่ของมันล้มหงายหลัง
วืด!
หมวกของปีศาจกระหายเลือดก็ถูกแบ่งออกเป็นครึ่ง
“ฮู่ว...”
ริมเมอร์ถอนหายใจและลงไปนั่งบนพื้น
"เมื่อกี้ดูอยู่ใช่ไหม?”
เขาหันไปหาราอนและยิ้ม ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยล้ามากแต่พยายามแสดงท่าทีตามปกติ
"ครับ”
ราอนพยักหน้า
"นั่นเป็นเทคนิคพิเศษที่เธอควรเรียนรู้เอาไว้ในฐานะซีกฮาร์ท มันเรียกว่าสนามดาบ”
"สนามดาบ..."
ราอนทำเป็นว่าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน
"มันเป็นกำแพงเวทย์ที่สร้างขึ้นโดยใช้แรงกดดันและประสบการณ์ มันไม่เหมือนกับของพวกนักเวทย์หรอกนะ”
"เพราะงั้นอาจารย์เลยสนใจแต่แรงกดดัน...”
"ใช่ การฝึกฝนแรงกดดันจะช่วยให้เธอใช้มันได้”
ริมเมอร์ยิ้ม ราอนพยักหน้าอีกครั้ง
'ใช่แล้ว…'
การฝึกฝนแรงกดดันของริมเมอร์ช่วยเด็กฝึกหัดไว้ได้มาก
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถสู้กับสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้แล้วก็วิ่งหนีไปไหนไม่ได้
"เพราะจริงๆ แล้วเธอก็เป็นสมาชิกสายตรง อีกไม่นานจะได้ใช้มันแน่นอน”
"ประสบการณ์ ความสำเร็จ ออร่าและแม้กระทั่งชีวิตในอนาคต สนามดาบถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานทั้งหมดนั่น เธอจำเป็นต้องเรียนรู้และมีประสบการณ์หลายๆ เรื่อง”
เขาพูดสอนราอนและหอบหายใจไปด้วย
"พวกเธอก็ได้ดูเหมือนกันใช่มั้ย?”
* * *
* * *
ริมเมอร์หันมองไกลออกไป รูนัน,เบอร์เรน,มาร์ธา,และเด็กฝึกหัดคนอื่นๆกำลังยืนนิ่งด้วยความงุนงง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยืนมองอยู่ด้านนอกสนามดาบมาสักพัก
“ราอน!”
รูนันวิ่งมาหาเขา ตาของเธอมีหยดน้ำตาเล็กๆ
"บ้าไปแล้ว! นายยังมีชีวิตอยู่! นายยังไม่ตาย!”
มาร์ธาจับไหล่ราอนไว้แน่น
"ท่านราอน!”
“ราอน!”
"ฮึก!”
ดอเรียนและเด็กฝึกหัดวิ่งมาหาเขาพร้อมกับน้ำตา
“ราอน ซีกฮาร์ท”
เบอร์เรนถอนหายใจโล่งอก
"ฉันดีใจจริงๆ ..."
เบอร์เรนหันไปจ้องมองริมเมอร์ที่อยู่ถัดจากราอน
"แต่ว่าอาจารย์...”
“หืม?”
"ทำไมอาจารย์ถึงสร้างสนามดาบได้ล่ะครับ?”
"ก็ฉันทำได้”
"จะบอกว่าทำได้เองเหรอ?”
"อือ"
ริมเมอร์พยักหน้า
"สนามดาบของซีกฮาร์ทมีหลายรูปแบบซึ่งปกติแล้วจะใช้การสืบทอดต่อกันในสายเลือดเท่านั้น แต่ฉันไม่ได้ไปเรียนรู้มาจากใครเสียหน่อย”
เขายิ้ม
"งั้นหนูก็จะใช้สนามดาบได้ใช่ไหม?”
มาร์ธาก้าวออกมา ดวงตาของรูนันก็ระยิบระยับ
"ไม่ได้หรอก”
ริมเมอร์ส่ายหัวอย่างใจเย็น
"มีเงื่อนไขสองข้อสำหรับคนที่ไม่ใช่สายเลือดของซีกฮาร์ท”
"เงื่อนไข?”
"ข้อแรกคือประสบการณ์ เธอจะต้องมีประสบการณ์กับสนามดาบหลายๆ ครั้ง ซึ่งฉันได้พบเจอมันหลายครั้งตั้งแต่ตอนที่สู้ไปพร้อมกับท่านหัวหน้าตระกูล และข้อที่สองคือ.."
เขามองดูทุกคน
"ความสามารถของคุณสมบัติธาตุ”
"ความสามารถแบบไหนกัน?”
มาร์ธาถาม เธอสนใจในสนามดาบอย่างมาก
"ความสามารถในคุณสมบัติธาตุ พลังของคุณสมบัติธาตุนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่ไม่ใช่ซีกฮาร์ท อย่างเช่นที่ฉันสามารถใช้สนามดาบผ่านพลังลมของฉันได้”
“อืม…”
"แต่ฉันไม่แนะนำให้ทำแบบนั้นนะ"
ริมเมอร์ส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้า
"ทั้งสายรองและขุนนางของซีกฮาร์ทก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีกฮาร์ทเหมือนกัน ตราบใดที่ทำผลงานได้โดดเด่นก็อาจจะได้รับสืบทอดมัน แต่คงจะต้องเสียสละอะไรบางอย่างไปเพื่อให้ได้มันมา”
"เสียสละงั้นเหรอ?”
“……”
ริมเมอร์ไม่ตอบ
"พวกเธอยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ไม่เหมือนฉันที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะสร้างสนามดาบ พวกเธอสามารถแข็งแกร่งได้ด้วยพลังของตัวเอง”
เขาใช้ลมช่วยเพื่อให้ทุกคนสามารถได้ยินเขา
"ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังละกัน ส่วนตอนนี้..."
ริมเมอร์เอาขวดน้ำออกจากแขนเสื้อและยื่นมาทางราอน
"มันจะรู้สึกเจ็บหน่อยนะ อดทนไว้”
ริมเมอร์เทน้ำในขวดลงบนแขนที่หักรวมถึงเอวและขาที่บาดเจ็บของเขา
“……”
มันเจ็บปวดมากแต่ราอนไม่ได้ร้องออกมา มันไม่ได้เจ็บปวดเท่าตอนที่เขาต่อสู้กับปีศาจกระหายเลือด
"ไม่เจ็บเหรอ?”
"เจ็บครับ”
"แต่เธอไม่ได้ร้องนี่”
"...ก็มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น”
"หึ”
ริมเมอร์หัวเราะ
"เสร็จแล้วล่ะ ไปกันเถอะ”
"เดี๋ยวก่อนครับ!”
เบอร์เรนยกมือขึ้น
"ผมมีคำถามครับ”
"หืม? เราค่อยคุยกันทีหลังได้ไหมเพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วน่ะ..."
ริมเมอร์กลืนน้ำลายและลองคาดเดาสิ่งที่เขากำลังจะถาม
"ไม่ครับ ผมอยากรู้ตอนนี้ อาจารย์ไปอยู่ที่ไหนถึงมาได้ช้าขนาดนี้กัน? เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ตามเรามาตั้งแต่แรกแต่ไม่เห็นออกมาช่วยตอนที่พวกเรากำลังจะแพ้เลย ตอนนั้นชาวบ้านก็กำลังตกอยู่ในอันต..."
“เฮ้ย! นั่นอะไรน่ะ?”
ริมเมอร์ชี้ไปทางด้านหลังของเบอร์เรน
"เฮือก!”
"ไม่เห็นมีอะไรเลย..."
เด็กฝึกหัดรีบหันกลับมาแต่ริมเมอร์ก็ไม่อยู่แล้ว
"หนีไปอีกแล้ว?”
ดวงตาของเบอร์เรนเบิกกว้าง ริมเมอร์หนีไปในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาเผลอหันหลัง
"ถามจริงเหอะ! ทำไมเขาถึงมาช้า! เราเกือบตายจริงๆ แล้วนะ!”
เขารู้สึกขอบคุณที่ริมเมอร์มาช่วยพวกเขาแต่มันก็เป็นเวลาที่น่าหวาดเสียวเกินไป เขาควรจะปรากฎตัวเร็วกว่านี้เพราะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของพวกเขารวมถึงชาวบ้าน
"มีใครตายหรือเปล่า?”
ราอนเดินมาที่เบอร์เรน
"โชคดีที่ไม่มีใครตาย แต่ฉันน่าจะกระชากคอเสื้ออาจารย์นั่นไว้ก่อน”
"ไม่เป็นไรหรอก”
ริมเมอร์ก็คงมีวิธีคิดของตัวเอง
"แต่..."
"มาทำความสะอาดกันเถอะ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ...”
เสื้อผ้าของราอนเต็มไปด้วยเลือด
"นายโอเคจริงๆ นะ?”
"ราอนโอเคหรือเปล่า?”
เบอร์เรนและรูนันถามขึ้นพร้อมกัน
"ฉันไม่เป็นไร"
ราอนพยักหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ราอนกำลังฟื้นฟูร่างกายและวงจรมานาของตัวเองโดยใช้วงแหวนไฟ
ยาของริมเมอร์ก็ช่วยเขาได้มากเช่นกัน
“ฉันขอโทษ”
เบอร์เรนก้มหัวให้ราอน มือของเขาสั่น
"เพราะการติดสินใจที่เชื่องช้าของฉันเกือบทำให้ทุกคนโดนฆ่า ฉันไม่คิดว่าฉันดีพอที่จะเป็นผู้นำอีกแล้ว”
"ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอกน่า นายแค่ต้องตระหนักถึงปัญหาและก้าวข้ามมันไปให้ได้ในครั้งต่อๆ ไป”
“อืม…”
"หรือจะยอมแพ้ไปเลยก็แล้วแต่นะ”
"ไม่ได้! ฉันจะเป็นผู้นำอีกครั้ง ฉันจะพัฒนาการตัดสินใจและความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อที่จะไม่แพ้ในสถานการณ์ใดๆ! ฉันขอสัญญากับนายเลย!”
"ดีมาก”
ราอนโบกมือ
'ฉันคงจะต่อยหน้าเขาไปแล้วถ้าเขาพูดขอโทษเรื่องนั้น’
ดูเหมือนเบอร์เรนจะรู้สึกผิดที่วิ่งหนีไปกับคนอื่นแทนที่จะอยู่ต่อสู้กับเขา
แต่เพราะเขายังเป็นเด็ก เขายังสามารถเติบโตได้อีกมาก
"รูนันก็ด้วย เธอควรจะหนีไปกับคนอื่นๆ นะ ไม่ใช่วิ่งไปหามันแบบนั้...”
"แต่ฉันไม่อยากไป...”
รูนันส่ายหัวพร้อมกับทำใบหน้าบูดบึ้งผิดปกติ
"ถ้าเธอเจอกับศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะ..."
"ไม่อยากทำ”
"มันอันตราย”
"ไม่อยากทำ”
"ไม่ๆ ฟังฉันก่อนรูนัน”
"ฉันไม่อยากฟัง ไม่ว่ายังไงฉันก็จะช่วยนาย”
เธอยกมือขึ้นปิดหูและส่ายหัวไปมา
"ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้น และจะแข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้เคียงข้างนายได้!”
“เฮ้อ…”
ราอนแอบยิ้มเบาๆ หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นแบบแปลกๆ เขารู้สึกถึงความจริงใจในคำพูดของเธอที่บอกว่าเธอจะแข็งแกร่งเพื่อช่วยเขา
ภารกิจในครั้งนี้ยากลำบากมาก เขาบาดเจ็บหนักแต่เขาก็มีความสุขที่ได้เข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น
“……”
ราอนมองไปที่มาร์ธา เธอกำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่ละสายตา
"เรื่องมันจบแล้วล่ะ เรากลับกันเถอะ”
ราอนโบกมือให้เด็กฝึกหัดที่ยังคงยืนตะลึง
เขาสังเกตเห็นผู้คนจำนวนมากวิ่งลงมาจากบนภูเขา พวกเขาเป็นกำลังเสริมของซีกฮาร์ทที่เครนเรียกมา
เขารู้สึกผ่อนคลายเพราะในที่สุดทุกอย่างก็จบลงจริงๆ
[คุณชนะเดิมพันกับ'ราธ']
[รางวัลจะถูกแจกจ่าย]
เมื่อเขาคิดจะพักผ่อน หน้าต่างสีฟ้าก็ปรากฏขึ้น
“หือ?”
????