นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 79
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 79
ริมเมอร์ออกเดินทางช้ากว่าแต่ก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านได้ก่อนเด็กฝึกหัด
เขารับรู้ได้ทันทีว่ามีพวกสุนัขล่าเนื้อของอีเดนอยู่ที่ภูเขาเซบู
เขาได้แต่ครุ่นคิดว่าเขาควรจัดการพวกมันหรือแค่ดูเด็กๆ ทำภารกิจของพวกเขาอย่างเดียว
'ฉันควรจะไว้ใจราอนไหมนะ?’
เขาจะลงมือฆ่าพวกมันทันทีถ้าหากราอนไม่ได้สังเกตเห็นพวกมัน
พวกมันเป็นคนบ้าที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อเป้าหมายของกลุ่มตัวเอง
แต่ราอนก็เป็นเด็กที่ยอมเสี่ยงกับทุกอย่าง
เขารู้สึกว่าราอนและเด็กฝึกหัดคนอื่นๆ จะสามารถผ่านบททดสอบเพิ่มเติมอันนี้ไปได้
'ฉันควรจะดูไปก่อน’
การที่อาจารย์จะออกนอกลู่นอกทางบ้างก็ทำให้เด็กๆ เติบโตได้เร็วขึ้น
ริมเมอร์มองตามเด็กๆ ที่เดินเข้าไปในหมู่บ้านโดยไม่ปิดการรับรู้ของตัวเอง
และปีศาจตาแดงของอีเดนก็มองตามพวกเขาอยู่เช่นกัน
'พวกมันไม่น่าสังเกตเห็นเขา’
ปีศาจตาแดงกำลังสังเกตเด็กๆ จากระยะไกล
เด็กๆ คงไม่มีทางสังเกตเห็นพวกมันได้
แต่ว่า...
ราอนยกหน้าที่ออกคำสั่งให้กับเบอร์เรนราวกับว่าเขารู้อะไรบางอย่าง
'เด็กคนนั้น...'
เขาประหลาดใจมากกว่าเดิม
การรับรู้โดยใช้ออร่าของราอนนั้นอยู่ในขั้นที่ยอดเยี่ยมจนเรียกได้ว่าเป็นขั้นสุดยอดเลย
'ผังหกเหลี่ยม’
ศิลปะการต่อสู้, ออร่า, พละกำลัง, พลังใจ และการรับรู้ ราอนมีพรสวรรค์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับนักดาบ
ริมเมอร์คลายความตื่นเต้นของตัวเองและเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของอีเดน
อีเดนก็ไม่ได้โจมตีเด็กฝึกหัด พวกมันโยนสัตว์ประหลาดออกมาเพื่อให้เด็กๆ ทำภารกิจได้สำเร็จและรีบกลับไป
'พวกมันกำลังซ่อนบางอย่างไว้อยู่’
พวกมันไม่ได้กลัวว่าอาจารย์แบบเขา แต่พวกมันดูเหมือนจะมองหาอะไรบางอย่างในบริเวณนี้อยู่
แล้วพวกมันก็กลัวกำลังเสริมของซีกฮาร์ท
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องค้นหาพื้นที่อย่างละเอียดหลังจากที่เด็กๆ ออกไปแล้ว
ราอนไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมาแม้จะรู้ว่ามีคนมอง พวกเขาฆ่าสัตว์ประหลาดทัั้งหมดแล้วออกจากหมู่บ้านไป
“อืม…”
เขายอมถอยสินะ
นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่แย่
เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดเมื่อได้เห็นว่าศัตรูมีความแข็งแกร่งที่แตกต่างจากตัวเอง
แต่ราอนก็ทำให้เขาตกใจ
ทันทีที่ปีศาจตาแดงปล่อยพวกเขาไป ราอนก็เปิดเผยความจริงกับทุกคนและขอกำลังเสริมทันที
และเขายังรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามคือพวกอีเดน
ริมเมอร์ประหลาดใจที่ได้รู้แบบนั้น
ราอนพิจารณาสิ่งต่างๆ แล้วสรุปได้ทันทีว่าพวกมันคืออีเดน ราอนเป็นเด็กที่ชาญฉลาดมาก
ราอนตัดสินใจที่จะแอบซ่อนและปล่อยให้เด็กคนอื่นๆ ออกไปต่อสู้
เด็กๆ คนอื่นวิ่งเข้าไปเพื่อช่วยชีวิตชาวบ้าน
พวกเขาต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องหมู่บ้าน
แต่ว่า...
ไม่มีใครที่ทำให้ริมเมอร์สนใจได้ ยกเว้น... ราอน
เขาไม่เปิดเผยตัวเองจนกระทั่งการต่อสู้ใกล้จะจบ
เขาดูไม่เหมือนนักดาบ เขาดูเหมือนราชาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์แล้วมองลงมาที่ทุกคน
'ลักษณะของราชา’
ราอนมีลักษณะของคนที่จะปกครองผู้อื่นมากกว่านักดาบที่ทำตามคำสั่ง
การต่อสู้ของพวกเขาได้รับการช่วยเหลือโดยมาร์ธา ซึ่งราอนเป็นคนสั่งเธอ
แต่สถานการณ์ก็เริมเลวร้ายมากขึ้นเมื่อปีศาจนักรบปรากฏตัวออกมา
ไม่มีใครสามารถทนต่อการโจมตีของมันได้
นั่นเป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้อยู่แล้ว
ปีศาจนักรบเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากและอยู่ในระดับเชี่ยวชาญ
ริมเมอร์ขยับเข้าไปใกล้พวกเขามากขึ้นเผื่อว่าเขาจำเป็นต้องออกไปช่วย
'เขายังไม่ออกมาอีกเหรอ?’
เบอร์เรน รูนันและมาร์ธากำลังจะตายอยู่แล้ว แต่ราอนก็ไม่ออกมาช่วย
'งั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ’
เมื่อริมเมอร์ตัดสินใจจะออกไปช่วยพวกเขา ราอนก็เคลื่อนไหวเสียก่อน
เขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงันและลอบโจมตีปีศาจนักรบจากทางด้านหลังของมัน
'หึ...'
ริมเมอร์ยิ้ม เขาไม่สามารถฆ่ามันได้ในทีเดียว แต่แขนของปีศาจนักรบก็ขาดไปข้างหนึ่ง
ปีศาจนักรบได้เปรียบกว่าราอนในเรื่องของพลังการต่อสู้ แต่หลังจากต่อสู้ไม่นานราอนก็ใช้ดาบฆ่ามันได้
'ฮ่าๆๆๆ!’
ริมเมอร์หัวเราะออกมา เขาเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ นั่นแหละ ราอนซีกฮาร์ตมีคุณสมบัติที่สามารถเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นผู้ปกครองสูงสุดของทวีปแห่งนี้ในเวลาเดียวกันได้
เขาจะต้องดูแลราอนให้เติบโตไปอย่างดีที่สุด
'เขาเป็นคนที่คาดการณ์ไม่ได้เลย’
ริมเมอร์หัวเราะและลุกขึ้นยืน ถึงเวลาทำงานของเขาแล้ว
หลังจากปีศาจนักรบตาย ริมเมอร์ก็ตามจัดการปีศาจตาแดงที่หนีไปทั้งหมด เพื่อไม่ให้ข่าวระจายออกไป
เขาตรวจสอบอย่างละเอียดในหมู่บ้านและภูเขาเซบูเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอันตรายใดๆ หลงเหลืออยู่อีก
ราอนตื่นขึ้นมาหลังจากที่หมดสติไป และเขาก็ได้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เขาอาจจะใช้ดาบออร่าได้แล้ว
'เขาน่าจะสังเกตเห็นฉันแล้วด้วย’
ริมเมอร์ตามดูเขาอยู่ห่างกว่าเดิมเมื่อเขารู้สึกว่าราอนอาจสังเกตเห็นเขา
'ฉันควรจะกลับได้แล้ว’
ในเมื่อไม่มีอันตรายอีกต่อไปและกำลังเสริมน่าจะมาถึงในตอนเช้า เขาก็ควรจะกลับไปก่อน
จริงๆ แล้วเขาก็แค่อยากรีบไปโม้เรื่องของราอนให้เกล็นฟังนั่นแหละ
'งั้นก็...'
ริมเมอร์เดินทางกลับไปที่ตระกูลหลังจากตรวจสอบเด็กๆ อีกครั้ง ในระหว่างทางที่เขากำลังวิ่งกลับไปที่ซีกฮาร์ท ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากทางหมู่บ้าน
'นั่นมัน...'
มันเป็นพลังที่เขาเคยเจอมาก่อน ความเข้มพลังระดับนั้นคือพลังของผู้ที่ไปถึงระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
* * *
* * *
'เวรเอ๊ย!’
ริมเมอร์รีบวิ่งกลับไปที่หมู่บ้าน มันเป็นความเร็วมหาศาลแต่เขารู้สึกว่าเขาช้าเกินไป
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกหลายครั้ง
และในที่สุดเขาก็มาถึงกลุ่มของรูนัน เบอร์เรนและมาร์ธา
พวกเขากำลังต่อสู้กับยักษ์เขียวสองตัวอย่างยากลำบาก
ฉับ!
ริมเมอร์ใช้ดาบตัดตัวของยักษ์เขียวสองตัวในคราวเดียว
ริมเมอร์ถามถึงราอนก่อนที่พวกเขาจะหลุบตามองพื้น
รูนันใช้สายตาของเธอชี้ไปที่หมู่บ้าน
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์วูบไหว
ริมเมอร์ขบฟันและรีบวิ่งไปในหมู่บ้าน
เขาฆ่าสัตว์ประหลาดหลายตัวที่ขวางทางจนหมดแล้วตรงดิ่งไปที่ตรงกลางหมู่บ้าน
และเขาก็เจอกับเรื่องน่าตกใจ
ราอนสามารถทนต่อปีศาจกระหายเลือดของอีเดนมาได้จนถึงตอนนี้
เขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากดาบแม้ว่าแขนซ้ายของเขาจะหักและห้อยอยู่ ลำตัวด้านข้างของเขาบุบและเขาก็กำลังเดินลากขาไปทางปีศาจกระหายเลือด
เขามองราอนอย่างประทับใจและชื่นชม
ในตอนนั้นริมเมอร์ก็ได้ตัดสินใจ
เขาจะติดตามเด็กคนนั้น ไม่สิ—ราชาองค์ต่อไป-ในตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา
วูม!
ดาบแห่งความภักดีของเขาป้องกันหมัดของปีศาจกระหายเลือด
"มาช้านะครับ”
ราอนยิ้มราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าริมเมอร์จะมา
"ขอโทษด้วยนะ ฉันหลับเพลินไปหน่อย”
ริมเมอร์ตอบอย่างสบายๆ
"ที่เหลือฉันจัดการเอง”
ริมเมอร์ผลักกำปั้นของปีศาจกระหายเลือดออกไป
วูม!
"ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท!”
"ไม่เจอกันนานนะ ไอ้โล้น”
ริมเมอร์ยิ้มแม้ว่าปีศาจกระหายเลือดจะปล่อยพลังอันรุนแรงอกมา เขาโบกมือให้มันราวกับว่าเป็นเพื่อนกัน
"แกมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
"ฉันปล่อยให้ไอ้โล้นแบบแกมารังแกเด็กๆ ที่น่ารักของฉันไม่ได้หรอก”
"ซีกฮาร์ทตกต่ำถึงขั้นส่งแกมาร่วมภารกิจด้วยงั้นเหรอ!”
ปีศาจกระหายเลือดปล่อยหมัดที่มีพลังแห่งดวงดาวออกมาทั้งซ้ายและขวา พลังแห่งดวงดาวพุ่งมาที่ริมเมอร์
"ย้าก!”
ดาบออร่าสีเขียวของริมเมอร์เฉือนขึ้นแนวทแยงมุม พลังแห่งดวงดาวถูกปัดไปทางขวา
"ดูเหมือนพลังของแกจะแปลกๆ ไปนะ งั้นข่าวลือที่ว่าแกเสียศูนย์พลังงานไปแล้วก็คงเป็นเรื่องจริง”
"นั่นไม่จริงซะหน่อย แกควรเปลี่ยนแหล่งข่าวได้แล้วนะ”
"ฉันไม่เห็นความสมดุลของตัวแกเลย”
ปีศาจกระหายเลือดยิ้ม
"ทำยังดีล่ะ? เขาคงช่วยแกได้ไม่เท่าไหร่หรอก”
มันหันมาหัวเราะราอน
"คอยดูละกัน!”
ดาบของริมเมอร์ตวัดไปที่ไหล่ของปีศาจกระหายเลือด
ซู่ววว!
แผลที่ไหล่ของมันกลับไปเป็นสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
"ดาบของแกเคยแข็งแกร่งกว่านี้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วล่ะ”
ปีศาจกระหายเลือดพุ่งผ่านกำแพงลมของริมเมอร์
"แกก็แค่คนพิการ ดาบของแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!”
มันปล่อยหมัดมาทางริมเมอร์
แคร้ง!
ริมเมอร์ตวัดดาบ ริมเมอร์เรียกใช้ออร่าลมของเขาออกมาเป็นเกราะป้องกัน แต่มันก็ทนต่อพลังแห่งดวงดาวได้ไม่นานนัก
แคร๊ก!
หมัดของมันทำให้เกราะของริมเมอร์แตกออก
แต่ริมเมอร์ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขาใช้เกราะนั่นเป็นเหยื่อล่อแล้วย้ายมาแทงดาบเข้าที่ลำตัวด้านซ้ายของปีศาจกระหายเลือด
ตู้ม!
การโจมตีที่หนักแน่นของริมเมอร์มุ่งเป้าไปที่หัวใจของปีศาจกระหายเลือด
"ได้แค่นี้แหละ!”
ปีศาจกระหายเลือดร้องและหยุดดาบของริมเมอร์ที่แทงเข้าไปถึงซี่โครง
"ฉันแข็งแกร่งขึ้นแต่แกอ่อนแอกว่าเดิม แค่นั้นก็ทำให้รู้ผลลัพธ์แล้ว!”
“เฮอะ!”
ริมเมอร์เดาะลิ้นและดึงดาบออกมา ไม่อย่างนั้นดาบของเขาจะหักซะก่อน
"ฮ่าๆๆๆ!”
ปีศาจกระหายเลือดเหวี่ยงหมัด การโจมตีของมันหนักแน่นมากขึ้น
"ตรงไปตรงมาดีนี่”
ริมเมอร์ได้แต่หลบการโจมตีของมันแล้วรอจังหวะโจมตีอีกครั้ง
'นั่นมัน...'
ราอนมองไปที่การเคลื่อนไหวของริมเมอร์
'เขาเคลื่อนไหวอย่างกับลม’
ริมเมอร์เคลื่อนไหวอย่างเบาๆ อย่างกับกลีบดอกไม้ที่ลอยตามสายลม
เขาเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบในการต่อสู้ครั้งนี้
แม้แต่การโจมตีของเขาก็สมบูรณ์แบบ
ถ้าริมเมอร์ไม่ได้สูญเสียศูนย์พลังงาน การต่อสู้ก็คงจะจบไปนานแล้ว
'แต่ว่า...'
ดูเหมือนริมเมอร์จะยังมีวิธีโจมตีอยู่อีกมากมาย เขาต่อสู้อยู่ไกลๆ ราวกับอยากแสดงท่าทางพวกนั้นให้ราอนเห็น
'จริงเหรอเนี่ย?’
ดวงตาของราอนเบิกกว้าง เขาเข้าใจความตั้งใจของริมเมอร์แล้ว
'เขาอยากให้ฉันดู’
เขากำลังสอนบทเรียนการต่อสู้ให้ราอนอยู่ เขาคงจะเสียสติไปแล้ว
"แค่นี้ก็จับฉันไม่ได้งั้นเหรอ? แน่ใจนะว่าหมวกนั่นไม่ได้พังไปแล้ว”
"หุบปาก!”
ปีศาจกระหายเลือดเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เมื่อพลังงานมหาศาลถูกปล่อยออกมา ริมเมอร์ก็กระโดดถอยหลัง
ตู้ม!
การโจมตีของมันพังในหมู่บ้านและพื้นดินโดยรอบ พลังของมันทำให้มันแข็งแกร่งไม่เหมือนมนุษย์
"สู้กันให้สมกับเป็นดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ทหน่อยสิ”
ปีศาจกระหายเลือดไล่ตามริมเมอร์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ขวับ!
ริมเมอร์ค่อยๆ ลดความเร็วลง
"เฮอะ งั้นก็ได้”
ริมเมอร์หยุดวิ่งแล้วหันไปกันการโจมตีของมัน เขายังหันมายิ้มให้ราอน
"งั้นก็ขอจบบทเรียนของวันนี้แค่นี้นะ”
"แก!"”
"ดูดีๆ นะราอน”
ราอนมองตาค้าง
"นี่คือวิธีต่อสู้ของซีกฮาร์ท”
ริมเมอร์ยกดาบขึ้นและใช้อีกมือชี้ลงที่พื้น
"สร้างสนามดาบ”
"ดวงตาพายุ”
เสียงของริมเมอร์ดังก้อง และบรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที