ตอนที่ 585 หลอมอาวุธชั้นยอด
ตอนที่ 585 หลอมอาวุธชั้นยอด
มันเป็นเรื่องที่ทราบกันดีว่าการพยายามหลอมรวมวัตถุดิบที่ไม่เข้ากันเข้าด้วยกันเป็นกระบวนการที่อันตราย และสิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังทำอยู่นี้คือการหลอมรวมร่างของสัตว์ประหลาดจากเผ่ามารเข้ากับดาบบลัดบิวเทียสจากสำนักเงาสังหาร และค้อนรวมศูนย์ของช่างเทวะนิรนาม ซึ่งมันมีโอกาสสูงที่ภายในค้อนนั้นน่าจะบรรจุกฎต้องห้ามของดินแดนทางฝั่งเผ่าเทพเอาไว้
“เลิกคิดมากแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่าหลังจากหลอมรวมของพวกนี้เข้าด้วยกันแล้ว มันจะออกมามีหน้าตาเป็นยังไง?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่าว่าแต่นายเลยฉันก็กำลังตั้งตารออยู่เหมือนกันว่ามันจะออกมาเป็นยังไง แม้ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่มานานแต่ฉันก็ไม่เคยพยายามรวมวัตถุดิบบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้เข้าด้วยกันมาก่อน อาวุธที่ออกมาหลังจากนี้จะต้องเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากแน่ ๆ” โอโร่กล่าว
เซี่ยเฟยเคลื่อนตัวไปอยู่ตรงบริเวณสวิตช์ด้านหลังของค้อนรวมศูนย์ตามคำแนะนำของโอโร่ โดยพื้นที่บริเวณนั้นมีกำแพงโปร่งแสงอยู่เหนือศีรษะของเขา ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้ว่ามันมีเอาไว้เพื่ออะไรกันแน่
“จำเอาไว้ให้ดี ๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องห้ามตกใจ กำแพงโปร่งใสที่อยู่เหนือศีรษะของนายเป็นกลไกที่จะคอยเอาไว้ปกป้องร่างของนายอยู่แล้ว เมื่อนายใส่วัตถุดิบเข้าไปทางช่องทางนั้นแล้วกดสวิตช์ปุ่มสีเขียว กระบวนการทุกอย่างจะเริ่มต้นในทันที”
“เมื่อนายได้รับอาวุธเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่มสีแดง หลังจากนั้นมิติทั้งหมดจะเริ่มพังทลายและนายก็จะถูกส่งตัวกลับไปยังคุกใต้ดิน” โอโร่กล่าวอธิบาย
“ช่องว่างมิติแห่งนี้จะพังทลายลงงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ช่องว่างมิตินี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อค้อนรวมศูนย์โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อค้อนรวมศูนย์ถูกใช้งานแล้วมิติแห่งนี้จะพังทลายมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” โอโร่กล่าวก่อนที่จะมองช่องว่างมิติลึกลับขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
“ถ้าไม่ใช่เพราะการโจมตีแปลก ๆ ของนาย เราก็คงไม่มีโอกาสได้เจอค้อนรวมศูนย์ที่อยู่ที่นี่ ครั้งนี้ฉันมีโอกาสได้เปิดหูเปิดตาเพราะว่าฉันได้ติดตามนายมาเลย ฉันขอบอกเอาไว้ตรงนี้ก่อนเลยนะว่าถึงแม้ฉันจะรู้จักค้อนรวมศูนย์ แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นมันถูกเปิดใช้งานมาก่อน”
คำอธิบายของโอโร่เริ่มทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหม่า เพราะถ้าหากว่าแม้แต่จอมมารที่ใช้ชีวิตอยู่มานานก็ยังไม่เคยเห็นการทำงานของค้อนรวมศูนย์ มันก็หมายความว่าของชิ้นนี้น่าจะเป็นของที่หาได้ยากมาก ๆ แม้แต่ในเผ่าเทพก็ตาม
“ฉันขอย้ำอีกครั้ง กดปุ่มสีเขียวเพื่อเริ่มต้นกระบวนการและกดปุ่มสีแดงหลังจากที่นายได้รับอาวุธ ถ้าหากว่านายกดปุ่มสีแดงเร็วเกินไป นายก็จะถูกส่งตัวกลับคุกใต้ดินก่อนที่นายจะได้รับอาวุธจากกระบวนการหลอมรวม”
“นอกจากนี้ความผันผวนจากการเปิดใช้งานค้อนรวมศูนย์ยังรุนแรงมาก เพราะมันจะใช้พื้นที่มิติทั้งหมดเป็นพลังงานในการเปิดใช้งาน ถ้าฉันเดาไม่ผิดพลังงานที่เกิดขึ้นในกระบวนการสมควรจะมีปริมาณมากกว่า 10,000 คริสตัลเหลือง ดังนั้นไม่ว่ามันจะยากสักแค่ไหนแต่นายก็ห้ามออกไปจากตรงนี้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นร่างของนายก็จะถูกฉีกกระชากจากความผันผวนของพลังงานอันรุนแรง” โอโร่กล่าวเตือน
คำเตือนนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง และเขาก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการได้เลยว่าพลังงานปริมาณเทียบเท่า 10,000 คริสตัลเหลือง มันจะเป็นพลังงานปริมาณมากมายมหาศาลมากแค่ไหน
เซี่ยเฟยพยายามระงับความตื่นเต้นภายในใจแล้วเก็บโลงน้ำแข็งของโอโร่เอาไว้ในแหวนมิติ แต่ไม่ได้ปิดการทำงานของตัวแหวนลงเพื่อให้จอมมารตนนี้มีโอกาสเห็นกระบวนการในระหว่างที่ค้อนรวมศูนย์ถูกเปิดใช้งาน
ก่อนเริ่มกระบวนการหลอมรวมเซี่ยเฟยพยายามเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อย พร้อมกับเปิดใช้งานชุดเกราะโลหะเหลวและเก็บขนอุยเข้าไปไว้ในหน้าอก จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ตั้งสมาธิอันแน่วแน่และใช้นิ้วกดลงไปบนปุ่มสีเขียว
ตี๊ด!
ค้อนขนาดยักษ์เปล่งแสงสีเขียวออกมาอย่างฉับพลัน และพื้นที่ใต้ค้อนขนาดใหญ่นั้นก็ได้มีบลัดบิวเทียสและไข่ของราชาแมงมุมน้ำแข็งถูกวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
แสงสีเขียวรอบ ๆ ค้อนทวีความสว่างไสวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เซี่ยเฟยแทบจะมองอะไรไม่เห็น ซึ่งหลังจากเขาได้ยืนรอคอยอยู่นานกว่า 10 นาทีค้อนขนาดยักษ์อันนี้ก็บินตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
ขวับ!
การได้เห็นค้อนขนาดใหญ่บินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าอดที่จะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ เพราะถ้าหากว่าค้อนขนาดใหญ่นี้ทุบลงไปบนพื้นจริง ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คงไม่ต่างไปจากการที่มันมีอุกกาบาตพุ่งชนโลก
หลังจากบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือพื้นดินนับ 10 กิโลเมตร มันก็หยุดค้างบนท้องฟ้าชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็เร่งความเร็วพุ่งลงมายังด้านล่าง
เสียงหวีดหวิวจากสายลมในระหว่างที่ตัวค้อนพุ่งลงมารุนแรงจนทำให้แก้วหูของเซี่ยเฟยรู้สึกปวดร้าว และทันใดนั้นทั่วทั้งท้องฟ้าก็มีเมฆหมอกปกคลุมพร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าคำรามอย่างรุนแรง
ตูม!
ตัวค้อนพุ่งเข้ากระทบลงกับพื้นโดยตรงราวกับว่ามันถูกกุมไว้ภายในมือของยักษ์ล่องหน และเหวี่ยงมันไปกระแทกเข้าใส่วัตถุดิบที่ถูกเตรียมเอาไว้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่าชายหนุ่มจะซ่อนตัวภายในจุดปลอดภัยเอาไว้เป็นอย่างดี แต่มันก็ยังมีพายุอันรุนแรงพยายามที่จะพัดร่างของเขาออกไป เขาจึงใช้มือทั้งสองข้างจับราวเอาไว้แน่น เพราะด้วยแรงตกกระทบอันรุนแรงนี้มันก็พร้อมที่จะทำให้ร่างของเขาแหลกสลายภายใต้คลื่นกระแทกได้ทุกเมื่อ
ในระหว่างที่ค้อนรวมศูนย์กำลังจะตกกระทบเข้าใส่วัตถุดิบ จู่ ๆ ไข่ของราชาแมงมุมน้ำแข็งก็เริ่มสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรงคล้ายกับว่าทารกด้านในพยายามจะดิ้นรนออกมา
“สัตว์ประหลาดตัวนี้พยายามจะฟักตัวออกมาหลังจากสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยมองไปที่ไข่ใบสีชมพูด้วยความประหลาดใจ
หากสัตว์ประหลาดภายในไข่ฟักตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันและกระโดดหนีออกไปก่อนที่ค้อนรวมศูนย์จะตกลงมา ความพยายามทั้งหมดของชายหนุ่มย่อมสูญสลายหายไปอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดโอโร่ก็ได้อธิบายเขาเอาไว้แล้วว่าหากปราศจากเครื่องสังเวยที่มีคุณภาพ ค้อนรวมศูนย์ก็ไม่สามารถที่จะสร้างอาวุธชั้นยอดขึ้นมาได้
ในมุมหนึ่งเซี่ยเฟยก็กลัวว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นจะกระโดดหนีไปและทำลายแผนการทุกอย่างที่เขาได้เตรียมมา แต่ในอีกมุมหนึ่งเขาก็อยากจะเห็นว่าสัตว์ประหลาดที่ถือกำเนิดขึ้นมาระหว่างมู่ฉิวโป๋ใช้กฎแห่งการหลอมรวม มันจะมีหน้าตาเป็นยังไงและมันจะทรงพลังมากแค่ไหนกันแน่
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอยู่นั้น ในที่สุดเปลือกไข่สีชมพูก็เริ่มปริแตกออก
สัตว์ประหลาดตัวน้อยมุดเปลือกไข่ออกมาบางส่วนเผยให้เห็นศีรษะของมันที่กำลังจ้องมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่น่าหวาดกลัว และถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวของมันจะยังเล็กมาก แต่เซี่ยเฟยกลับรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาของยมทูต
อิ้ว!
ทันใดนั้นเองขนอุยก็ส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาอย่างฉับพลัน เพราะแววตาของสัตว์ประหลาดตัวนั้นทำให้เซี่ยเฟยเสียสติไปชั่วขณะ เจ้าตัวน้อยจึงส่งเสียงร้องเพื่อดึงสติของชายหนุ่มกลับมา
แม้ว่าสัตว์ประหลาดที่เพิ่งฟักออกมาจากไข่จะทรงพลังมาก แต่เสียงร้องคำรามของขนอุยก็ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัว และในที่สุดมันก็หดหัวเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในเปลือกไข่อีกครั้ง
ในวินาทีที่ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามพร้อม ๆ กับสัตว์ประหลาดตัวนั้นมุดตัวลงไปซ่อนในเปลือกไข่ด้วยความหวาดระแวง ค้อนรวมศูนย์ขนาดยักษ์ก็พุ่งลงไปตกกระทบยังวัตถุดิบที่ถูกเตรียมเอาไว้
ตูม!
คลื่นกระแทกอันรุนแรงกระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งมันก็ทำให้ร่างของชายหนุ่มถูกพัดลอยขึ้นไปบนอากาศ
ก่อนที่ลมพายุรุนแรงจะหายไป เปลวไฟที่โหมกระหน่ำก็ลุกโชนไปทั่วทั้งบริเวณ
เซี่ยเฟยยังคงพยายามจับราวในพื้นที่จุดปลอดภัยเอาไว้แน่น โดยมีชุดเกราะโลหะเหลวปกป้องร่างกายเอาไว้ และสถานการณ์ในตอนนี้มันก็น่ากลัวมากจนทำให้แม้แต่สัตว์อสูรที่เย่อหยิ่งอย่างขนอุยก็ยังขดตัวเป็นก้อนกลมด้วยความหวาดกลัว
พื้นที่มิติในช่องว่างมิตินี้เริ่มบิดเบี้ยวขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งแม่น้ำและภูเขาต่างก็เริ่มแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และกำลังไหลเข้าไปภายในค้อนรวมศูนย์ราวกับสายน้ำ
นี่คือพลังของค้อนรวมศูนย์ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับหลุมดำดูดซับพลังงานจากมิติเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง เพื่อฝังพลังของกฎเข้าไปในอาวุธที่ถูกเลือกไว้
ทันใดนั้นกลุ่มควันสีดำก็ลอยขึ้นมาจากใต้ค้อนและถึงแม้ว่ามิติทั้งมิติจะถูกพลังจากค้อนดูดเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่กลุ่มควันสีดำพวกนี้กลับลอยในอากาศได้อย่างอิสระ คล้ายกับว่ามันไม่ได้รับผลกระทบจากค้อนรวมศูนย์เลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เซี่ยเฟยนายเตรียมอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า?” โอโร่กล่าวถามด้วยความสงสัย
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เผยสีหน้าออกมาอย่างตกใจทันที เพราะเขาลืมไปว่าเขาเคยเปลี่ยนบลัดบิวเทียสมาครั้งหนึ่งแล้วด้วยการใช้กฎแห่งความโกลาหล
แต่เดิมบลัดบิวเทียสสามารถดูดซับเลือดของมนุษย์ได้เท่านั้น แต่เซี่ยเฟยได้ทำการบังคับเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของมันให้สามารถดูดซับเลือดของสิ่งมีชีวิตได้ทุกชนิด
บางทีควันสีดำที่กำลังล่องลอยในอากาศอย่างอิสระอาจจะเป็นกฎแห่งความโกลาหล เพราะท้ายที่สุดกฎ ๆ นี้ก็เป็นกฎที่ขัดแย้งกับทุกหลักการและเหตุผลอยู่แล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ค้อนรวมศูนย์จะไม่สามารถดูดควันที่เกิดจากกฎแห่งความโกลาหลเข้าไปได้
อย่างไรก็ตามหากว่ากฎแห่งความโกลาหลได้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการหลอมรวมอาวุธจนก่อให้เกิดข้อผิดพลาด เซี่ยเฟยก็คงจะไม่สามารถทำอะไรได้จริง ๆ เพราะท้ายที่สุดมันก็เป็นตัวของเขาเองที่ลืมไปว่าบลัดบิวเทียสเป็นอาวุธที่เคยถูกแปลงคุณสมบัติไปด้วยกฎแห่งความโกลาหลแล้วครั้งหนึ่ง
การปรากฏตัวของกฎแห่งความโกลาหลทำให้สถานการณ์ทวีความวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะพื้นที่ด้านนอกให้ความรู้สึกคล้ายกับวันสิ้นโลกที่มีพายุฝนฟ้าคะนองฟ้าร้องฟ้าแลบรวมถึงสึนามิพัดกระหน่ำอยู่ทั่วทุกที่
เซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องใช้พละกำลังมากกว่าเดิมในการพยายามยึดราวจับเอาไว้ เพราะถ้าหากว่าร่างกายของเขาได้หลุดเข้าไปในพื้นที่อันวุ่ยวายด้านนอกจริง ๆ เขาก็คงจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปอย่างแน่นอน
นิ้วของชายหนุ่มบีบราวจับเอาไว้แน่นจนทำให้ราวจับเริ่มที่จะสูญเสียรูปทรงของมันไป และถ้าหากว่าราวจับนี้เกิดหักในระหว่างกระบวนการขึ้นมา สิ่งที่รอคอยเซี่ยเฟยอยู่ย่อมเป็นหายนะอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ในกรณีของคนธรรมดาสถานการณ์นี้ย่อมเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตอย่างแน่นอน แต่เซี่ยเฟยคือกรณีที่แตกต่างออกไป เพราะเขายังมีอาวุธมายาหงส์ครามผู้ซึ่งเป็นวัชพืชที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาล
ใบหญ้าสีฟ้าครามขนาดใหญ่เคลื่อนที่ออกไปมัดตอม่อกับร่างของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแน่นหนา และถึงแม้ว่ามันจะมีพายุพัดผ่านเข้ามาอย่างโหมกระหน่ำ แต่มันก็จะไม่มีวันยอมแพ้กับหน้าที่ของมันอย่างเด็ดขาด
การหลอมรวมอาวุธในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าที่โอโร่ได้คาดคิดเอาไว้มาก ซึ่งมันก็เป็นเพราะว่ามันมีกฎแห่งความโกลาหลแทรกเข้าไปในกระบวนการทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างวุ่นวายกว่าที่ควรจะเป็น และในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตากระบวนการนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วถึง 2 ชั่วโมง
ลูกของราชาแมงมุมน้ำแข็ง, ค้อนรวมศูนย์ของช่างเทวะ, บลัดบิวเทียสจากสำนักเงาสังหาร, พลังงานจากช่องว่างมิติอันซ่อนเร้นและกฎแห่งความโกลาหล เมื่อส่วนผสมทั้งห้าที่แตกต่างกันถูกบังคับให้ต้องหลอมรวมเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ตามมาจึงไม่ต่างไปจากหายนะ
อาวุธที่จะถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากหายนะแบบนี้ มันจะเป็นอาวุธที่มีความน่ากลัวขนาดไหนกันแน่?
ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปอีกเพียงแค่ไม่นาน ในที่สุดความวุ่นวายทั้งหมดก็จบลง
ระหว่างนั้นมันก็มีอาวุธชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นภายในช่องด้านหน้า ชายหนุ่มจึงยื่นแขนออกไปคว้าอาวุธชิ้นนั้นไว้ด้วยความสนใจและอยากจะทดสอบพลังของมันในตอนนั้นเลย
***************
บลัดบิวเทียสจะกลายเป็นดาบอะไรอีกละเนี่ย?!