ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 243 - แสดงความแข็งแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 245 - คอนสแตนติน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 244 - รับภารกิจ


หลังจากสูดลมหายใจลึก ๆ เข้าปอด เดวิดก็สลัดความรู้สึกด้านลบออกไปจนหมด เขาเพิ่งอยู่ในสถาบันแห่งนี้ได้แค่ไม่กี่เดือน ไม่น่าแปลกที่จะยังเพิ่งมีความแข็งแกร่งอยู่เพียงเท่านี้ เดวิดมั่นใจว่าถ้ามีเวลาให้อย่างเพียงพอ วันหนึ่งเขาจะสามารถก้าวข้ามผ่านคนเหล่านั้นไปได้อย่างแน่นอน

เมื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้ เดวิดก็เริ่มสาวเท้าเข้าไปด้านในของหอภารกิจอย่างไม่ลังเล

หลังประตูทางเข้าเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีผู้คนเดินไปมาพลุกพล่านวุ่นวาย เพียงแค่แวบเดียวที่เขาผ่านเข้ามา เดวิดก็เห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกดึงภารกิจออกจากกระดานโฮโลแกรมที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วห้องโถง และเดินไปลงทะเบียนรับภารกิจที่โต๊ะลงทะเบียน มันตั้งเรียงรายอยู่ที่มุมด้านหนึ่งของห้องโถงอย่างเป็นระเบียบ

ภารกิจที่สถาบันจัดเอาไว้ให้ มีการแบ่งระดับชั้นเอาไว้อย่างชัดเจน ภารกิจระดับต่ำ ภารกิจระดับกลาง ภารกิจระดับสูง และภารกิจระดับสูงสุด

โดยในแต่ระดับจะสามารถแบ่งแยกอีกได้เป็น ธรรมดา ยาก และพิเศษ

เดวิดกวาดตาดูภารกิจระดับต่ำแบบธรรมดา พบว่ารางวัลตอบแทนนั้นไม่ยั่วยวนใจเลยแม้แต่น้อย ส่วนใหญ่แล้วจะมีผลตอบแทนให้อยู่ที่ 500-700 คะแนนจีโนเท่านั้น ส่วนภารกิจระดับต่ำแบบยากนั้นมีรางวัลสูงขึ้นมาเล็กน้อย มันอยู่ที่ประมาณ 700-1,000 คะแนนจีโน

แน่นอนว่าภารกิจระดับต่ำขั้นพิเศษจะมีผลตอบแทนสูงกว่า แต่มันก็อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 คะแนนจีโนเท่านั้น ภารกิจระดับต่ำพวกนี้ไม่เป็นที่ดึงดูดใจเขาเลย ถ้าวัดจากคะแนนจีโนที่จะได้รับหลังจากการทำภารกิจสำเร็จ

แต่! นักเรียนใหม่ต้องเลือกภารกิจระดับต่ำในการปฏิบัติภารกิจครั้งแรก ไม่มีข้อยกเว้น!

นั่นทำให้เดวิดตั้งเป้าหมายอยู่ที่ภารกิจระดับต่ำแบบพิเศษที่มีผลตอบแทนสูงสุดในตอนนี้เท่านั้น เขาตรวจสอบหาภารกิจที่สามารถต่อยอดได้ มันจะช่วยประหยัดเวลาไม่น้อย ถ้ามีภารกิจที่สามารถทำได้ต่อเนื่องในบริเวณใกล้ ๆ กัน

และเขาก็พบกับสิ่งที่ต้องการ มันเป็นภารกิจล่าค่าหัวที่ระบุเงื่อนไขเอาไว้ง่าย ๆ ว่า อย่างน้อย ๆ ต้องล่าสมาชิกของแกงค์เหยี่ยวดำให้ได้ 1 คน นำป้ายประจำตัวของเหยื่อและรูปถ่ายที่แสดงสภาพการเสียชีวิตกลับมายืนยัน แต่นี้ก็ถือว่าเป็นการสำเร็จ 1 ภารกิจแล้ว มันมีรางวัลตอบแทน 1,200 คะแนนจีโน

ข้อดีของมัน? เดวิดไม่จำเป็นต้องหยุดการล่าเอาไว้แค่คนเดียว เขาสามารถจัดการทั้งแกงค์ให้หมดในทีเดียวได้เลย และนั่นมันหมายถึงรางวัลที่จะได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

ที่ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่เห็นภารกิจแบบนี้ เดวิดคิดว่าอย่างน้อย ๆ เป้าหมายน่าจะเป็นเฟสเซอร์ 1 ยีนที่ผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย แม้แต่หัวหน้าแกงค์ก็ยังเป็นเพียงเฟสเซอร์ 1 ยีนที่ผสานใช้พลังได้เพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ตามข้อมูลล่าสุดที่ทางสถาบันได้รับมา

น่าแปลกใจ แต่ไม่ถึงขั้นเกินความคาดหมาย ผู้ฝึกฝนในโลกภายนอกต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดและพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน ทรัพยากรที่สามารถใช้ได้ไม่พร้อมสรรพเหมือนกับคนที่อยู่ในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เลย เฟสเซอร์แต่ละคนจะพัฒนาความแข็งแกร่งได้ไม่รวดเร็วมากนัก และจุดด้อยอีกอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไปก็คือ ยีนที่พวกเขาใช้ยกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นเฟสเซอร์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นยีนธรรดา ๆ ที่ไม่แข็งแกร่งหรือหายากมากนัก รวมถึงระดับของทักษะการต่อสู้ที่ฝึกฝนก็ต่ำกว่าที่ควร นี่เป็นสาเหตุที่ทางสถาบันวางใจให้นักเรียนใหม่ใช้พวกเขาเป็นเป้าหมายของภารกิจ

เดวิดเลือกหยิบภารกิจนี้อย่างไม่ลังเล มันตอบโจทย์ได้ครบทุกอย่างตามที่ต้องการ และเขาเลือกโต๊ะลงทะเบียนที่กำลังว่างอยู่ทำให้การรับภารกิจครั้งนี้เป็นทางการในเวลาไม่นานมากนัก

ถ้าจะให้กล่าวกันตามความสัตย์ ในตอนแรกที่เดวิดเดินทางมาที่หอภารกิจแห่งนี้ เขาตั้งใจเพียงแค่จะมาตรวจสอบข้อมูลก่อนเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะรับทำภารกิจตั้งแต่วันนี้เลย การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นอย่าฉับพลัน การรับภารกิจเป็นสิ่งที่นักเรียนใหม่ถูกบังคับให้ทำ มันมีบทลงโทษที่ยังไม่รู้ความรุนแรงกำกับอยู่ เมื่อพบกับภารกิจที่เหมาะสม เดวิดก็ไม่คิดที่จะผัดวันประกันพรุ่งอีก

การเรียน? การออกไปทำภารกิจจะไม่ถือว่าเป็นการขาดเรียน มันไม่มีผลต่อการประเมินใด ๆ ทั้งสิ้น

หลังจากที่เดินออกมาจากหอภารกิจ เดวิดเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เริ่มทำการใส่รายละเอียดของภารกิจที่เพิ่งรับมาเข้าสู่ระบบ และสั่งให้เฮเซลตรวจเช็คสถานที่เป้าหมาย วิธีการเดินทางอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าวิธีที่เขาจะสามารถเดินทางไปยังเมือง ‘ซีดอร์ม’ ได้สะดวกที่สุดคือเรือเหาะ และลำที่จะออกเดินทางเร็วที่สุดคือ 10.10 น. เดวิดขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะจ่าย 200 คะแนนจีโนเพื่อจองที่นั่งเอาไว้ทันที

เขาเหลือเวลาอีกประมาณ 30 นาทีก่อนที่เรือเหาะลำนี้จะออกเดินทาง

“อืม? เวลาน่าจะพอสำหรับกลับไปจัดข้าวของพอดี แต่คงต้องรีบหน่อยแล้ว” เดวิดพึมพำ ก่อนจะเดินหลบมุมไปที่ว่างเพื่อเปิดการใช้งานของชุดสกายวอคเกอร์ส่งตัวเองให้ลอยขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

...................

เดวิดลดพลังขับเคลื่อนของชุดสกายวอคเกอร์ให้เหลือเบาที่สุด และลดระดับของตัวเองให้ร่อนลงแตะพื้นอย่างนุ่มนวล เขามาถึงที่หน้าทางเข้าของลานจอดเรือเหาะขนาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า ทำให้เดวิดรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เรือเหาะขนาดมหึมาจอดเรียงรายอยู่เกือบ 100 ลำ ยังไม่รวมกับสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวาย มีเรือเหาะพุ่งลงมาจอดและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อออกเดินทางอย่างไม่ขาดสาย

เรือเหาะขนาดใหญ่! มันมีขนาดใหญ่สมชื่อจริง ๆ ใหญ่กว่ายานรบที่พาพวกเขาออกไปทำกิจกรรมครั้งที่ผ่านมาเสียอีก นี่น่าจะเป็นเรือเหาะสาธารณะสำหรับการเดินทางระยะไกลโดยเฉพาะ รูปลักษณ์ของพวกมันดูเข้มแข็งดุร้าย ผนังทำมาจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน มันสะท้อนแสงอาทิตย์ออกมาเป็นประกายแวววาวเลยทีเดียว

เดวิดตัดใจจากภาพอันอลังการที่อยู่ตรงหน้าก่อน เขาเหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้นแล้ว หลังจากที่เหลือบมองลูกศรโฮโลแกรมนำทาง เดวิดก็เริ่มก้าวยาว ๆ ไปตามทิศที่มันชี้บอกเอาไว้ทันที

นี่เป็นคุณสมบัติใหม่ของโปรแกรมนำทางในระบบช่วยเหลือส่วนตัวของเขา ก่อนหน้านี้มันจะใช้เพียงแรงดึงแม่เหล็กเป็นตัวบอกทิศทางเท่านั้น แต่หลังจากที่เดวิดยอมจ่ายเพื่ออัพเกรดมันขึ้นไปตามคำขอของเฮเซล ลูกศรนำทางนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลือ? คงต้องไปถามเฮเซลเอาเองว่าเธอเก่งขึ้นแค่ไหน?

เดวิดใช้เวลาไม่นานนักในการเดินทางมาถึงเรือเหาะที่ตัวเองจองที่นั่งเอาไว้ ประตูห้องโดยสารนั้นเปิดกว้างรออยู่แล้ว ผู้โดยสายที่ร่วมเดินทางไปกับเขากำลังทยอยเดินขึ้นเครื่อง เดวิดรีบก้าวตามขึ้นไปอย่างไม่รอช้า มันไม่มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่เพื่อให้คำแนะนำอะไรเลย เขาได้แต่แอบมองคนด้านหน้าเพื่อทำตามอย่างเท่านั้น และหลังจากที่ยื่นป้ายประจำตัวให้หัวอ่านข้างประตูสแกน ไฟสีเขียวที่บ่งบอกว่าเดวิดไม่ได้ขึ้นเรือเหาะผิดลำก็สว่างขึ้น มันทำให้เขาระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก รีบเดินเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อหาที่นั่งของตัวเองทันที

.......

พื้นที่โล่งกว้างนอกเมืองซีดอร์ม

เรือเหาะโดยสารที่พาเดวิดเดินทางมาร่อนลงจอดบนพื้นดินอย่างมั่นคง ประตูห้องโดยสารเปิดออก และผู้โดยสารทยอยกันเดินออกมาอย่างไม่เร่งรีบนัก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับการเดินทางแบบนี้ไม่น้อย

แต่ไม่ใช่กับเดวิดเลย สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ถ้าให้นับจากตั้งแต่ฟื้นตื่นขึ้นมาบนโลกใบนี้ นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ออกมานอกเขตสถาบันจริง ๆ จะได้พบกับเหล่าผู้คนภายนอกตัวเป็น ๆ อ้อ! ไม่นับพวกมือสังหารกับตาแก่บ้านั่นนะ อันนั้นไม่นับ!!

ไม่ได้มีแค่เดวิดคนเดียวเท่านั้นที่เดินทางมายังเมืองนี้ หลังจากที่เขาสงบจิตสงบใจของตัวเองได้บ้างแล้ว สายตาก็เริ่มสอดส่ายมองไปที่กลุ่มคนเพื่อเก็บข้อมูล การรู้เขารู้เราเอาไว้ก่อนไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร เดวิดมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รับภารกิจของเมืองนี้มา

12 คน! ถ้าไม่นับตัวเอง ยังมีคนที่ลงจากเรือเหาะมาพร้อมกับเขาอีก 12 คน ถ้าดูจากท่าทางแล้ว ทั้งหมดน่าจะเดินทางมาทำภารกิจที่นี่อย่างแน่นอน กลิ่นอายที่พวกเขาเปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง

ที่เตะตาและทำให้เดวิดสนใจได้มากที่สุด ก็คงจะไม่พ้นกลุ่มที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คนกลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรวมตัวกันมาเพื่อปฏิบัติภารกิจ สมาชิกทั้งหมดมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ชายร่างผอมที่มีผมสีน้ำทะเลที่กำลังสนทนาอยู่กับเพื่อร่วมทีมอย่างออกรสคนนั้น เขาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ที่ลงมาจากเรือเหาะในคราวนี้แล้ว

‘ไม่น่าจะใช่นักเรียนรุ่นเดียวกับฉันแน่? อย่างน้อย ๆ น่าจะเป็นปี 2! ให้ตายสิ หวังว่าภารกิจที่เขาเลือกมาจะไม่เกี่ยวข้องกับของฉันนะ’ เดวิดพึมพำอยู่ในใจ ก่อนที่จะถอนสายตากลับมาอย่างไม่ใส่ใจมากนัก ถ้ารวมตัวกันมามากขนาดนี้ คงไม่ได้แค่มาทำภารกิจระดับต่ำแน่ โอกาสน้อยมากที่เส้นทางของพวกเขาจะตัดกัน

ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้สึกได้ว่าเดวิดกำลังมองอยู่ เขาหันมาพยักหน้าน้อย ๆ ให้เป็นการทักทาย ก่อนที่จะหันกลับไปร่วมวงสนทนาต่อ ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นมิตรหรือศัตรูออกมาอย่างชัดเจนอะไรเลย

เดวิดไม่ได้พยักหน้าทักทายกลับไปเสียด้วยซ้ำ เขาเลือกที่จะก้มหน้าลงตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของตัวเองมากกว่า ก่อนที่จะส่ายหน้าออกมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย จุดลงจอดนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักก็จริง แต่เส้นทางที่ใกล้ที่สุดนั้นต้องผ่านป่า ‘แบล็คดอร์ม’ ไป มันเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในเขตรอบ ๆ บริเวณของเมืองซีดอร์มนี่แล้ว แม้แต่เฟสเซอร์ก็ยังไม่ค่อยกล้าเดินทางผ่านด้วยตัวคนเดียวมากนัก ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันอาจจะทำให้เสียชีวิตได้เลย

แต่เขาไม่ต้องการเสียเวลาอ้อมไป เดวิดคิดเพียงครู่เดียวก็เริ่มออกวิ่งตามทิศทางการชี้ของลูกศรตรงเข้าไปในป่า หลังจากผ่านกิจกรรมการล่าและเอาตัวรอดมาได้ เขาไม่กลัวที่จะต้องเดินทางผ่านป่าทึบอีก แต่ด้วยความที่ยังไม่รู้สถานการณ์ของป่าแห่งนี้ เดวิดไม่กล้าที่จะใช้ชุดสกายวอคเกอร์เหาะข้ามไปโดยตรง เขาเลือกที่จะเดินทางภาคพื้นดินมากกว่า

....

“ไรเดอร์! นายไม่คิดว่านายกเทศมนตรีทำเรื่องเล็กแบบนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เหรอ? คดีไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ทำไมต้องให้พวกเราเข้าป่าแบล็คดอร์มมาตามไล่ล่าผู้ร้ายคนเดียวด้วย?” ชายผิวสีเข้มที่มีผมสีเงินกล่าวถามขึ้นมาอย่างลอย ๆ น้ำเสียงนั้นแสดงความไม่ชอบใจออกมาอย่างชัดเจน

“อย่าแกล้งทำเป็นโง่ไปเลย ‘เฟรเดอริก’ ต่อให้เป็นคดีเล็กแค่ไหน ฆาตรกรก็ต้องถูกจับตัวกลับไปลงโทษอยู่ดี นายไม่รู้หรือยังไงว่าท่านนายกเทศมนตรีเกลียดอะไรที่สุด?” เสียงตอบกลับมาจากชายที่ชื่อ ‘ไรเดอร์’

“อะไรล่ะ? บอกฉันที?”

“สถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้! เขาเกลียดความวุ่นวายที่ควบคุมไม่ได้ ต่อให้เป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้ามันเป็นฝีมือของพวกแกงค์นอกกฎหมาย เขาต้องการจัดการให้เด็ดขาด ไม่ปล่อยให้มันลุกลามมากขึ้น”

เสียงใส ๆ ของหญิงสาวผิวสีแทนหน้าตาสวยงามกล่าวเสริมขึ้นมา “แล้วนายไม่รู้หรือยังไง? ท่านผู้แทน ‘เกรกอรี’ ออกปากมาแล้วว่าจะมีรางวัลค่าหัวให้ถึง 5,000 เหรียญดาว รางวัลขนาดนี้นายยังจะกลัวอะไรกะอีแค่เข้าป่า หา!!”

“เงิน! เงิน! เงิน! เธอก็รู้จักอยู่แค่นี้เท่านั้นแหละ ‘บริทนี่ย์’” เฟรเดอริกคำรามสวนออกมา ก่อนจะกล่าวต่อ

“เอาล่ะ! ยอมรับก็ได้ว่าฉันประหม่าไปหน่อย แต่ป่านี่ก็อันตรายจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ ต่อให้เป็นเฟสเซอร์อย่างพวกเราก็เถอะ”

มีมือข้างหนึ่งยืนมาตบบ่าเขาเบา ๆ ชายอีกคนหนึ่งในกลุ่มกำลังจะเอ่ยปากเพื่อกล่าวอะไรออกมาบ้าง แต่กลายเป็นว่าดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน มือถูกดึงกลับไปกุมที่คอของตัวเองก่อนจะล้มลง

มันมีรอยกระสุนปรากฏอยู่บนนั้น นี่คือการซุ่มโจมตีที่เงียบกริบจริง ๆ

“ชิบ! ระวังตัวด้วย มันเอาเราแล้ว” ไรเดอร์ตะโกนเสียงดังออกมาอย่างตื่นตระหนก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด